บาบิโลนใหญ่คืออะไร?

เล่น

บาบิโลนใหญ่คืออะไร?

คำตอบจากคัมภีร์ไบเบิล

หนังสือวิวรณ์พูดถึง “ผู้หญิงคนหนึ่ง” ที่เป็น “โสเภณีคนสำคัญ” และมี “ชื่อลึกลับเขียนว่า ‘บาบิโลนใหญ่’” (วิวรณ์ 17:1, 3, 5) ผู้หญิงคนนี้คือศาสนาเท็จทั้งหมดในโลกที่ “เอาความจริงของพระเจ้าไปแลกกับความเท็จ” a (โรม 1:25) แม้ศาสนาเหล่านี้จะมีอะไร ๆ หลายอย่างที่ต่างกัน แต่โดยวิธีใดวิธีหนึ่งศาสนาเหล่านี้ทำให้ผู้คนไม่ได้นมัสการพระยะโฮวา พระเจ้าเที่ยงแท้—เฉลยธรรมบัญญัติ 4:35

กุญแจที่ไขปริศนาเกี่ยวกับบาบิโลนใหญ่

บาบิโลนใหญ่เป็นสัญลักษณ์ เนื่องจากหนังสือวิวรณ์ใช้คำที่เป็น “สัญลักษณ์” จึงมีเหตุผลที่จะลงความเห็นว่าบาบิโลนใหญ่เป็นสัญลักษณ์ ไม่ใช่ผู้หญิงจริง ๆ (วิวรณ์ 1:1) นอกจากนี้ บาบิโลนใหญ่ยัง “นั่งบนน้ำมากมาย” ซึ่งหมายถึง “ชนชาติ ประชาชน ประเทศ และภาษาต่าง ๆ” (วิวรณ์ 17:1, 15) ผู้หญิงที่เป็นคนจริง ๆ นั่งบนน้ำแบบนั้นไม่ได้
บาบิโลนใหญ่เป็นองค์กรที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก บาบิโลนใหญ่ถูกเรียกว่า “เมืองใหญ่ซึ่งมีอำนาจปกครองพวกกษัตริย์ของโลก” (วิวรณ์ 17:18) บาบิโลนใหญ่จึงมีอาณาเขตและอิทธิพลครอบคลุมไปทั่วโลก
บาบิโลนใหญ่เป็นองค์กรศาสนา ไม่ใช่องค์กรการเมืองหรือการค้า เมืองบาบิโลนโบราณให้ความสำคัญกับเรื่องศาสนามากและขึ้นชื่อในเรื่องการใช้ “คาถาวิชาอาคม” (อิสยาห์ 47:1, 12, 13; เยเรมีย์ 50:1, 2, 38) ที่จริง คนในเมืองนั้นทำสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาเท็จซึ่งต่อต้านพระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้ (ปฐมกาล 10:8, 9; 11:2-4, 8) ส่วนคนที่ปกครองบาบิโลนก็ยกย่องตัวเองแทนที่จะยกย่องพระยะโฮวา และยังทำสิ่งที่ลบหลู่การนมัสการพระองค์ (อิสยาห์ 14:4, 13, 14; ดาเนียล 5:2-4, 23) บาบิโลนใหญ่ยังขึ้นชื่อเรื่อง “การเล่นไสยศาสตร์” นี่แสดงให้เห็นว่าบาบิโลนใหญ่เป็นองค์กรศาสนา—วิวรณ์ 18:23

บาบิโลนใหญ่ไม่มีทางเป็นองค์กรการเมืองได้ เพราะ “กษัตริย์ของโลก” ร้องไห้เสียใจที่เธอถูกทำลาย (วิวรณ์ 17:1, 2; 18:9) และบาบิโลนใหญ่ก็ไม่ใช่องค์กรที่มีอิทธิพลทางการค้าด้วย เพราะคัมภีร์ไบเบิลแยกให้เห็นว่าเมืองนี้กับ “พวกพ่อค้าในโลก” เป็นคนละส่วนกัน—วิวรณ์ 18:11, 15
Photograph taken by courtesy of the British Museum

ศิลาจารึกของกษัตริย์นะโบไนดัสของบาบิโลนที่มีสัญลักษณ์ของเทพเจ้าสามองค์ คือ ซิน อิชทาร์ และชามาช

บาบิโลนใหญ่เป็นสัญลักษณ์ที่เหมาะกับศาสนาเท็จ ศาสนาเท็จไม่ได้สอนผู้คนให้ใกล้ชิดพระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้ แต่กลับนำผู้คนไปนมัสการพระอื่น ซึ่งคัมภีร์ไบเบิลเรียกการกระทำแบบนี้ว่าเป็นการ “ไม่ซื่อสัตย์” ต่อพระเจ้า (เลวีนิติ 20:6; อพยพ 34:15, 16) ศาสนาเท็จหลายศาสนายังคงสอนเรื่องแบบเดียวกับในสมัยบาบิโลนโบราณ เช่น ตรีเอกานุภาพ วิญญาณอมตะ และการใช้รูปเคารพในการนมัสการ ศาสนาเหล่านี้ยังเอาสิ่งที่ผู้คนชื่นชอบมาผสมผสานกับการนมัสการของพวกเขา คัมภีร์ไบเบิลเรียกการไม่ซื่อสัตย์แบบนี้ว่าเป็นการเล่นชู้ทางศาสนา—ยากอบ 4:4

การโอ้อวดความมั่งคั่งร่ำรวยของศาสนาเท็จตรงกับภาพของบาบิโลนใหญ่ในคัมภีร์ไบเบิล ซึ่ง “สวมผ้าสีม่วงกับผ้าสีแดงเข้ม” และ “ประดับตัวด้วยทองคำ เพชรพลอย และไข่มุก” (วิวรณ์ 17:4) บาบิโลนใหญ่เป็นแหล่งที่มาของ “สิ่งน่ารังเกียจบนโลก” หรือคำสอนและการกระทำที่ไม่ได้ให้เกียรติพระเจ้า (วิวรณ์ 17:5) สมาชิกของศาสนาเท็จก็คือ “ชนชาติ ประชาชน ประเทศ และภาษาต่าง ๆ” ที่สนับสนุนบาบิโลนใหญ่—วิวรณ์ 17:15

บาบิโลนใหญ่ต้องรับผิดชอบต่อการตายของ “คนที่ถูกฆ่าบนโลก” (วิวรณ์ 18:24) ตลอดประวัติศาสตร์ ศาสนาเท็จไม่ได้เป็นแค่ต้นเหตุของสงครามและกระตุ้นให้มีการก่อการร้ายเท่านั้น แต่ยังไม่ได้สอนผู้คนให้รู้ความจริงเกี่ยวกับพระยะโฮวาพระเจ้าที่เป็นความรักด้วย (1 ยอห์น 4:8) นี่ทำให้มีคนจำนวนมากต้องล้มตาย

พระเจ้าคิดยังไงกับบาบิโลนใหญ่?

ในสายตาของพระเจ้า “บาปของเมืองนี้กองสูงขึ้นไปถึงสวรรค์แล้ว” (วิวรณ์ 18:4, 5) พระเจ้าโกรธศาสนาเท็จเหล่านี้เพราะพวกเขาให้ข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับพระองค์ และทำไม่ดีกับคนของพวกเขา

จะเกิดอะไรขึ้นกับบาบิโลนใหญ่?

คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า บาบิโลนใหญ่จะถูก “พระเจ้าตัดสินลงโทษ” (วิวรณ์ 18:20) และยังบอกล่วงหน้าโดยใช้คำพูดเชิงสัญลักษณ์ว่า พระเจ้าจะทำลายศาสนาเท็จทั้งหมด (วิวรณ์ 18:8) พระองค์จะกระตุ้นสัตว์ร้ายสีแดงเข้มซึ่งหมายถึงองค์กรการเมืองให้โจมตีและทำลายศาสนาเท็จให้สิ้นซาก (วิวรณ์ 17:16, 17) “บาบิโลนเมืองใหญ่จะถูกเหวี่ยงลงอย่างรวดเร็วแบบนี้แหละ และจะไม่มีใครได้เห็นเมืองนี้อีกเลย” (วิวรณ์ 18:21) คนที่อยากทำให้พระเจ้าพอใจต้อง “ออกมาจากพวกเขาและแยกอยู่ต่างหาก” จากศาสนาเท็จ—2 โครินธ์ 6:14-17

a ดูบทความ “ฉันจะพบศาสนาแท้ได้อย่างไร?”