คุณรู้จักพระยะโฮวาจริง ๆ เหมือนโนอาห์ ดาเนียล และโยบไหม?
“คนชั่วไม่สามารถเข้าใจเรื่องความยุติธรรม แต่คนที่ขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาจะเข้าใจทุกอย่าง”—สุภาษิต 28:5
1-3. (ก) อะไรจะช่วยเราให้รักษาความซื่อสัตย์ในสมัยสุดท้ายนี้? (ข) เราจะเรียนอะไรในบทความนี้?
ทุกวันนี้ เรากำลังเข้ามาใกล้จุดจบของสมัยสุดท้าย เราเห็นคนชั่วเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขา “งอกงามเหมือนวัชพืช” (สดุดี 92:7) ดังนั้น เราไม่แปลกใจเลยที่หลายคนไม่ยอมรับมาตรฐานของพระเจ้า เปาโลบอกคริสเตียนว่า “ให้เป็นเหมือนเด็กในเรื่องความชั่ว” แต่ “ให้คิดแบบคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว” คือมีความเข้าใจเต็มที่ (1 โครินธ์ 14:20) เราจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?
2 ข้อคัมภีร์หลักของบทความนี้บอกว่า “คนที่ขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาจะเข้าใจทุกอย่าง” (สุภาษิต 28:5) นี่หมายความว่าเขาสามารถเข้าใจทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อจะเป็นคนที่พระยะโฮวาพอใจได้ และสุภาษิต 2:7, 9 สอนเราว่าพระยะโฮวาให้สติปัญญากับคนที่ทำสิ่งที่ถูกต้อง แล้วเขาก็จะ “เข้าใจความถูกต้องชอบธรรม ความเที่ยงธรรม และความยุติธรรม และจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าความดีคืออะไร”
3 โนอาห์ ดาเนียล และโยบมีสติปัญญาจากพระเจ้า (เอเสเคียล 14:14) ผู้รับใช้ของพระเจ้าในทุกวันนี้ก็มีสติปัญญาจากพระเจ้าเหมือนกัน แล้วคุณล่ะ? คุณมีสติ ปัญญาจากพระเจ้าไหม? เพื่อที่คุณจะ “เข้าใจทุกอย่าง” ที่ต้องทำเพื่อให้พระยะโฮวาพอใจ คุณต้องรู้จักพระองค์จริง ๆ ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า (1) โนอาห์ ดาเนียล และโยบมารู้จักพระยะโฮวาได้อย่างไร (2) การรู้จักพระองค์ช่วยพวกเขาอย่างไร และ (3) เราจะมีความเชื่อเหมือนพวกเขาได้อย่างไร
โนอาห์ใช้ชีวิตอย่างที่พระเจ้าพอใจในโลกที่ชั่วช้า
4. โนอาห์รู้จักพระยะโฮวาได้อย่างไร? และการรู้จักพระเจ้าจริง ๆ ช่วยเขาอย่างไร?
4 โนอาห์รู้จักพระยะโฮวาได้อย่างไร? ตั้งแต่สมัยที่อาดัมกับเอวามีลูก ผู้คนเรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาได้จาก 3 วิธีคือ (1) จากสิ่งต่าง ๆ ที่พระองค์สร้าง (2) จากผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์คนอื่น ๆ ของพระองค์ และ (3) จากการที่เขาได้เห็นว่าการเชื่อฟังพระเจ้ามีประโยชน์กับตัวเขาอย่างไร (อิสยาห์ 48:18) เมื่อโนอาห์สังเกตสิ่งที่พระเจ้าสร้าง โนอาห์เห็นหลักฐานว่าพระองค์มีอยู่จริงและได้เรียนรู้ว่าพระองค์มีคุณลักษณะอะไรบ้าง นี่ทำให้โนอาห์เข้าใจว่าพระยะโฮวามีพลังอำนาจมากและเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวเท่านั้น (โรม 1:20) ดังนั้น โนอาห์ไม่ได้แค่เชื่อในพระเจ้า แต่เขามีความเชื่อที่มั่นคงในพระองค์ด้วย
5. โนอาห์เรียนเกี่ยวกับความประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ได้อย่างไร?
5 คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ความเชื่อจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้ยินข่าวดี” ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่เราได้ยินจากคนอื่นช่วยเราให้มีความเชื่อได้ (โรม 10:17) โนอาห์คงต้องได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระยะโฮวาจากญาติ ๆ เช่น จากลาเมคพ่อของเขาที่เชื่อในพระเจ้าและเกิดตอนที่อาดัมยังมีชีวิตอยู่ (ดูภาพแรก) นอกจากนั้น โนอาห์ยังอาจได้เรียนจากเมธูเสลาห์ปู่ของเขา รวมทั้งยาเรดพ่อของปู่ทวดซึ่งตายตอนที่โนอาห์อายุ 366 ปี * (ลูกา 3:36, 37) คนเหล่านี้กับภรรยาคงได้สอนโนอาห์ว่าพระยะโฮวาสร้างมนุษย์ พระองค์อยากให้พวกเขามีลูกหลานจนเต็มโลกและรับใช้พระองค์ พวกเขาคงสอนด้วยว่าอาดัมกับเอวาไม่เชื่อฟังพระเจ้า และตัวโนอาห์เองได้เห็นผลเสียจากการตัดสินใจผิด ๆ ของอาดัมและเอวา (ปฐมกาล 1:28; 3:16-19, 24) โนอาห์รักสิ่งที่เขาเรียน และนั่นกระตุ้นเขาให้รับใช้พระยะโฮวา—ปฐมกาล 6:9
6, 7. ความหวังเรื่องอะไรช่วยโนอาห์ให้มีความเชื่อเข้มแข็งขึ้น?
6 ความหวังช่วยให้มีความเชื่อเข้มแข็งขึ้น ชื่อ “โนอาห์” อาจแปลว่า “การพักผ่อน” หรือ “การปลอบโยน” ชื่อนี้เกี่ยวข้องกับความหวัง ลองนึกดูว่าโนอาห์จะรู้สึกอย่างไรตอนที่รู้เรื่องนี้ นี่คงทำให้เขามีความเชื่อมากขึ้นแน่ ๆ (ปฐมกาล 5:29, เชิงอรรถ) พระยะโฮวาดลใจลาเมคให้พูดถึงโนอาห์ลูกชายของเขาว่า “ลูกคนนี้จะช่วยลดงานหนัก และช่วยให้ความเหนื่อยยากซึ่งเกิดจากแผ่นดินที่ถูกพระยะโฮวาสาปแช่งนั้นลดลง” ดังนั้น โนอาห์มีความหวังว่าพระเจ้าจะทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น โนอาห์มีความเชื่อเหมือนกับอาเบลและเอโนค เขาเชื่อว่า “ลูกหลาน” ที่พระเจ้าสัญญาจะบดขยี้หัวของงู—ปฐมกาล 3:15
7 โนอาห์ไม่ได้เข้าใจคำพยากรณ์ในปฐมกาล 3:15 ทั้งหมด แต่เขารู้ว่าคำพยากรณ์นี้ให้ความหวังเกี่ยวกับอนาคต เอโนคก็เคยประกาศเรื่องคล้าย ๆ กัน เขาบอกว่าพระยะโฮวาจะทำลายโลกชั่ว (ยูดา 14, 15) ข่าวสารที่เอโนคประกาศคงทำให้โนอาห์มีความหวังและมีความเชื่อเข้มแข็งขึ้นแน่นอน เรื่องที่เอโนคประกาศจะเกิดขึ้นจริงทั้งหมดในอาร์มาเกดโดน
8. การที่โนอาห์รู้จักพระเจ้าจริง ๆ ปกป้องเขาอย่างไร?
8 การรู้จักพระเจ้าจริง ๆ ช่วยโนอาห์อย่างไร? โนอาห์ได้เรียนรู้เรื่องพระเจ้า เขาจึงมีความเชื่อและมีสติปัญญาจากพระองค์ สิ่งนี้ปกป้องเขาจากสิ่งที่ไม่ดีหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันช่วยไม่ให้เขาทำสิ่งที่จะทำให้พระยะโฮวาเสียใจ ตัวอย่างเช่น โนอาห์อยากเป็นเพื่อนกับพระเจ้า เขาปฐมกาล 6:1-4, 9) นอกจากนั้น โนอาห์รู้ด้วยว่าพระยะโฮวาอยากให้มนุษย์มีลูกหลานจนเต็มโลก (ปฐมกาล 1:27, 28) พอเขาเห็นพวกปีศาจมีภรรยาและมีลูกด้วยกัน เขารู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ผิด และยิ่งเขาเห็นลูกของพวกนั้นตัวโตและแข็งแรงผิดมนุษย์มนา เขาก็ยิ่งมั่นใจว่ามันไม่ถูก ในที่สุด พระยะโฮวาบอกโนอาห์ว่าพระองค์จะทำให้น้ำท่วมโลกเพื่อทำลายคนชั่วพวกนี้ให้หมด โนอาห์เชื่อคำเตือนของพระองค์ เขาจึงสร้างเรือและทำให้เขากับครอบครัวรอดชีวิต—ฮีบรู 11:7
จึงไม่เป็นเพื่อนกับคนที่ไม่เชื่อและไม่สนใจพระองค์ คนพวกนั้นชื่นชมพวกปีศาจที่แข็งแกร่งและมีพลังอำนาจเหนือมนุษย์ พวกเขาอาจพยายามนมัสการพวกมันด้วยซ้ำ แต่โนอาห์ไม่เหมือนคนพวกนั้น พวกปีศาจที่ลงมาอยู่ในโลกหลอกเขาไม่ได้ (9, 10. เราจะมีความเชื่อเหมือนโนอาห์ได้อย่างไร?
9 เราจะมีความเชื่อเหมือนโนอาห์ได้อย่างไร? เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะศึกษาคัมภีร์ไบเบิลอย่างละเอียด รักสิ่งที่เราได้เรียน และเอาสิ่งที่เราเรียนไปใช้เมื่อต้องเลือกหรือตัดสินใจ (1 เปโตร 1:13-15) เมื่อทำอย่างนั้นความเชื่อและสติปัญญาจากพระเจ้าจะปกป้องเราจากเล่ห์เหลี่ยมของซาตานและอิทธิพลของโลกนี้ (2 โครินธ์ 2:11) หลายคนในโลกรักความรุนแรง ชอบทำผิดศีลธรรมทางเพศ และทำตามความต้องการผิด ๆ (1 ยอห์น 2:15, 16) นอกจากนั้น พวกเขาไม่สนใจความจริงที่ว่าโลกชั่วนี้ใกล้ถึงจุดจบอยู่แล้ว ถ้าความเชื่อของเราไม่เข้มแข็ง เราก็อาจเริ่มคิดอย่างนั้นก็ได้ อย่าลืมว่าเมื่อพระเยซูเปรียบเทียบสมัยของเรากับสมัยโนอาห์ ท่านไม่ได้พูดถึงความรุนแรงหรือการผิดศีลธรรมทางเพศแต่พูดถึงอันตรายของการสนใจอย่างอื่นจนไม่สนใจรับใช้พระเจ้า—อ่านมัทธิว 24:36-39
10 ขอถามตัวเองว่า ‘การใช้ชีวิตของฉันแสดงให้เห็นไหมว่าฉันรู้จักพระเจ้าจริง ๆ? ความเชื่อกระตุ้นฉันให้ทำสิ่งที่ถูกต้องตามมาตรฐานของพระเจ้าและประกาศกับคนอื่น ๆ ด้วยไหม?’ คำตอบของคุณจะช่วยให้รู้ว่าคุณ “ใช้ชีวิตอย่างที่พระเจ้าเที่ยงแท้พอใจ” เหมือนโนอาห์หรือเปล่า
ดาเนียลมีสติปัญญาจากพระเจ้าตอนที่อยู่ในบาบิโลน
11. (ก) ความรักที่ดาเนียลมีให้พระยะโฮวาตั้งแต่เด็กบอกอะไรเราเกี่ยวกับพ่อแม่ของเขา? (ข) คุณลักษณะอะไรของดาเนียลที่คุณอยากเลียนแบบ?
11 ดาเนียลรู้จักพระยะโฮวาได้อย่างไร? พ่อแม่ของดาเนียลคงต้องสอนเขาให้รักพระยะโฮวาและรักคำสอนของพระองค์ ดาเนียลทำอย่างนั้นตลอดชีวิตของเขา แม้แต่ตอนที่เขาอายุมากแล้ว เขาก็ยังศึกษาค้นคว้าพระคัมภีร์อย่างละเอียด (ดาเนียล 9:1, 2) ดาเนียลรู้จักพระยะโฮวาอย่างดี และรู้เกี่ยวกับทุกสิ่งที่พระองค์ทำเพื่อชาวอิสราเอล เราเห็นเรื่องนี้ได้ในคำอธิษฐานจากใจของดาเนียลในดาเนียล 9:3-19 ที่แสดงถึงความถ่อมตัวของเขา ขอคุณอ่านคำอธิษฐานนี้ คิดใคร่ครวญอย่างดี และถามตัวเองว่า ‘คำอธิษฐานนี้สอนอะไรฉันเกี่ยวกับดาเนียล?’
12-14. (ก) ดาเนียลแสดงให้เห็นอย่างไรว่าเขามีสติปัญญาจากพระเจ้า? (ข) พระยะโฮวาอวยพรดาเนียลอย่างไรที่เขากล้าหาญและภักดี?
12 การรู้จักพระเจ้าจริง ๆ ช่วยดาเนียลอย่างไร? ไม่ง่ายเลยสำหรับชาวยิวที่ซื่อสัตย์จะรับใช้พระยะโฮวาตอนอยู่ในบาบิโลนซึ่งเป็นชาติที่ไม่ได้นับถือพระองค์ ตัวอย่างเช่น พระยะโฮวาสั่งชาวยิวว่า “ให้พวกเจ้าอยู่อย่างสงบสุขในเมืองที่เราให้พวกเจ้าไปเป็นเชลยอยู่นั้น” (เยเรมีย์ 29:7) แต่พระองค์ก็ยังสั่งพวกเขาให้นมัสการพระองค์ผู้เดียวอย่างสุดหัวใจด้วย (อพยพ 34:14) ดาเนียลเชื่อฟังคำสั่งทั้ง 2 อย่างนี้ได้อย่างไร? สติปัญญาจากพระเจ้าช่วยดาเนียลให้รู้ว่าเขาต้องเชื่อฟังพระยะโฮวามากกว่าผู้นำที่เป็นมนุษย์ หลายร้อยปีต่อมา พระเยซูก็สอนหลักการเดียวกันนี้—ลูกา 20:25
13 ขอคิดถึงสิ่งที่ดาเนียลทำตอนที่มีกฎหมายห้ามไม่ให้ดาเนียล 6:7-10) ดาเนียลอาจหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า ‘มันก็แค่ 30 วันเองไม่เป็นไรหรอก’ แต่เขาไม่ยอมให้กฎหมายของมนุษย์สำคัญกว่าการนมัสการพระเจ้า หรือดาเนียลอาจอธิษฐานถึงพระเจ้าในที่ลับหูลับตาคนก็ได้ แต่เขารู้ว่าหลายคนเคยเห็นเขาอธิษฐานทุกวัน ดังนั้น ถึงจะอันตรายมาก แต่ดาเนียลก็ยังอธิษฐานต่อไปในที่ที่คนอื่นเห็นได้ เพราะเขาไม่อยากให้ใครคิดว่าเขาเลิกรับใช้พระเจ้าแล้ว
ใครอธิษฐานถึงพระเจ้าหรือมนุษย์คนอื่นนอกจากกษัตริย์เป็นเวลา 30 วัน (อ่าน14 พระยะโฮวาอวยพรดาเนียลที่เขาตัดสินใจอย่างกล้าหาญและภักดี พระองค์ทำการอัศจรรย์โดยช่วยชีวิตเขาจากสิงโต เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนทั่วจักรวรรดิมีเดีย-เปอร์เซียได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาด้วย—ดาเนียล 6:25-27
15. เราจะมีความเชื่อเหมือนดาเนียลได้อย่างไร?
15 เราจะมีความเชื่อเหมือนดาเนียลได้อย่างไร? เพื่อจะมีความเชื่อเข้มแข็ง การอ่านคัมภีร์ไบเบิลเฉย ๆ ยังไม่พอ เราต้องเข้าใจสิ่งที่เราอ่านด้วย (มัทธิว 13:23) เราอยากรู้ว่าพระยะโฮวาคิดและรู้สึกอย่างไรต่อเรื่องต่าง ๆ ดังนั้น เราต้องคิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งในสิ่งที่อ่าน และเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะอธิษฐานบ่อย ๆ โดยเฉพาะตอนที่เรามีปัญหา ถ้าเราอธิษฐานขอสติปัญญาและความเข้มแข็งจากพระยะโฮวา เราเชื่อและมั่นใจได้ว่าพระองค์จะเต็มใจให้เราอย่างใจกว้าง—ยากอบ 1:5
โยบใช้หลักการของพระเจ้าทั้งตอนที่สบายและลำบาก
16, 17. โยบรู้จักพระยะโฮวาได้อย่างไร?
16 โยบรู้จักพระยะโฮวาได้อย่างไร? โยบไม่ใช่ชาวอิสราเอล แต่อับราฮัม อิสอัค และยาโคบเป็นญาติห่าง ๆ ของเขา และพระยะโฮวาสอนพวกเขาเกี่ยวกับพระองค์และความประสงค์ของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ เราไม่รู้ว่าโยบรู้ความจริงที่มีค่าเหล่านี้ได้อย่างไร แต่เรารู้ว่าเขาต้องรู้หลายเรื่องแน่ ๆ (โยบ 23:12) เขาบอกกับพระยะโฮวาว่า “ผมเคยได้ยินเรื่องของพระองค์แล้ว” (โยบ 42:5) และพระยะโฮวาเองก็บอกว่าโยบพูดความจริงเกี่ยวกับพระองค์ให้คนอื่นฟัง—โยบ 42:7, 8
17 โยบยังรู้จักคุณลักษณะต่าง ๆ ของพระยะโฮวาโดยดูจากสิ่งที่พระองค์สร้าง (โยบ 12:7-9, 13) ทั้งพระยะโฮวาและเอลีฮูใช้สิ่งที่พระองค์สร้างเพื่อสอนโยบว่ามนุษย์ต่ำต้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับพระองค์ (โยบ 37:14; 38:1-4) คำพูดของพระยะโฮวาเข้าถึงหัวใจโยบ เขาถ่อมตัวและยอมรับกับพระองค์ว่า “ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพระองค์ทำได้ ทุกอย่างและทุกสิ่งที่พระองค์คิดไว้จะต้องสำเร็จ” เขาบอกอีกว่า ‘ผมขอนั่งสำนึกผิดอยู่บนดินและในกองขี้เถ้า’—โยบ 42:2, 6
18, 19. โยบแสดงให้เห็นอย่างไรว่าเขารู้จักพระยะโฮวาจริง ๆ?
18 การรู้จักพระเจ้าจริง ๆ ช่วยโยบอย่างไร? โยบเข้าใจหลักการของพระเจ้าอย่างดี เขารู้จักพระยะโฮวาจริง ๆ และสิ่งนี้กระตุ้นเขาให้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น โยบรู้ว่าเขาไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่ารักพระเจ้าถ้าเขาทำไม่ดีกับคนอื่น (โยบ 6:14) เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เขาปฏิบัติกับคนอื่นเหมือนกับเป็นคนในครอบครัวไม่ว่าคน ๆ นั้นจะรวยหรือจน โยบบอกว่า “ผู้ที่สร้างผมในท้องแม่ก็สร้างพวกเขาด้วยไม่ใช่หรือ?” (โยบ 31:13-22) แม้แต่ตอนที่โยบรวยและมีอำนาจมาก เขาไม่ได้กลายเป็นคนหยิ่งและมองว่าคนอื่นไม่สำคัญ โยบไม่เหมือนกับคนรวยและคนที่มีอำนาจในทุกวันนี้เลย
19 โยบไม่อยากให้ทรัพย์สมบัติหรืออะไรก็ตามสำคัญกว่าพระยะโฮวา เขารู้ว่าถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะไม่นับถือ “พระเจ้าเที่ยงแท้ในสวรรค์” (อ่านโยบ 31:24-28) โยบมองว่าการแต่งงานเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกมัดสามีกับภรรยาไว้ด้วยกัน เขาถึงกับทำสัญญากับตัวเองว่าเขาจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นอย่างไม่เหมาะสม (โยบ 31:1) นี่เป็นเรื่องที่น่าประทับใจจริง ๆ เพราะโยบมีชีวิตอยู่ในช่วงที่พระยะโฮวายอมให้ผู้ชายมีภรรยามากกว่า 1 คน ดังนั้น ถ้าโยบจะมีภรรยาอีกคนก็คงไม่ผิดอะไร แต่เขารู้ว่าในตอนแรกที่พระเจ้าให้มีการแต่งงาน พระองค์ให้มีแค่สามีและภรรยาคนเดียว โยบเลยเลือกที่จะทำตามแบบนั้น * (ปฐมกาล 2:18, 24) ประมาณ 1,600 ปีต่อมา พระเยซูก็สอนหลักการเดียวกันว่า การแต่งงานและเพศสัมพันธ์มีไว้สำหรับสามีและภรรยาคนเดียวเท่านั้น—มัทธิว 5:28; 19:4, 5
20. การรู้จักพระยะโฮวาและมาตรฐานของพระองค์จริง ๆ ช่วยเราอย่างไรให้เลือกเพื่อนและความบันเทิงที่ดี?
20 เราจะมีความเชื่อเหมือนโยบได้อย่างไร? อีกครั้งหนึ่งที่เราเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราต้องรู้จักพระยะโฮวาจริง ๆ และเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้ในทุกแง่มุมของชีวิต ตัวอย่างเช่น คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าพระยะโฮวา “เกลียดคนที่ชอบความรุนแรง” และบอกว่าเราไม่ควรใช้เวลาอยู่กับ “คนที่หลอกลวง” (อ่านสดุดี 11:5; 26:4) ตอนนี้ลองถามตัวเองว่า ‘ข้อคัมภีร์ 2 ข้อนี้บอกอะไรฉันเกี่ยวกับสิ่งที่พระยะโฮวาคิด? เรื่องนี้ควรมีผลอย่างไรกับวิธีที่ฉันมองว่าอะไรสำคัญในชีวิต? และมีผลอย่างไรกับการใช้อินเทอร์เน็ต การเลือกเพื่อน และการเลือกความบันเทิงของฉัน?’ คำตอบของคุณจะทำให้เห็นว่าคุณรู้จักพระยะโฮวาดีแค่ไหน เราไม่อยากได้รับอิทธิพลที่ไม่ดีจากโลกชั่วนี้ ดังนั้น เราต้อง “ฝึกใช้ความคิด” เพื่อแยกให้ออกว่าอะไรถูกอะไรผิดและอะไรฉลาดอะไรโง่—ฮีบรู 5:14; เอเฟซัส 5:15
21. อะไรจะช่วยเราให้ “เข้าใจทุกอย่าง” ที่ต้องทำเพื่อให้พระยะโฮวาพอใจ?
21 เพราะโนอาห์ ดาเนียล และโยบพยายามทำทุกอย่างเพื่อจะรู้จักพระยะโฮวาจริง ๆ พระองค์จึงช่วยพวกเขาให้ “เข้าใจทุกอย่าง” ที่จำเป็นเพื่อจะเป็นคนที่พระองค์พอใจได้ ตัวอย่างของพวกเขาทำให้เห็นว่าการทำตามการชี้นำของพระองค์ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ (สดุดี 1:1-3) ดังนั้น ขอถามตัวเองว่า ‘ฉันรู้จักพระยะโฮวาจริง ๆ เหมือนโนอาห์ ดาเนียล และโยบไหม?’ ที่จริง ในทุกวันนี้เราสามารถรู้จักพระยะโฮวาได้มากกว่าผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ 3 คนนี้อีก เพราะพระองค์บอกเกี่ยวกับตัวพระองค์เองมากขึ้น (สุภาษิต 4:18) ดังนั้น คุณต้องศึกษาค้นคว้าคัมภีร์ไบเบิลอย่างละเอียด คิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง และอธิษฐานขอพลังบริสุทธิ์ ถ้าคุณทำอย่างนั้น โลกชั่วก็จะไม่สามารถทำอะไรคุณได้ แต่คุณจะทำสิ่งต่าง ๆ โดยใช้สติปัญญาจากพระเจ้าและสนิทกับพ่อบนสวรรค์มากขึ้น—สุภาษิต 2:4-7
^ วรรค 5 เอโนคปู่ทวดของโนอาห์ก็ “ใช้ชีวิตอย่างที่พระเจ้าเที่ยงแท้พอใจอยู่เสมอ” เขาตายก่อนโนอาห์เกิด 69 ปี—ปฐมกาล 5:23, 24
^ วรรค 19 โนอาห์ก็เหมือนกัน เขามีภรรยาคนเดียว ทั้ง ๆ ที่หลังจากอาดัมกับเอวาไม่เชื่อฟังพระเจ้าได้ไม่นาน มนุษย์ก็เริ่มมีภรรยามากกว่า 1 คนแล้ว—ปฐมกาล 4:19