บทความศึกษา 5
“พระคริสต์เป็นผู้นำของผู้ชายทุกคน”
“พระคริสต์เป็นผู้นำของผู้ชายทุกคน”—1 คร. 11:3
เพลง 12 พระยะโฮวา พระเจ้าองค์ยิ่งใหญ่
ใจความสำคัญ *
1. อะไรอาจมีผลกับวิธีที่ผู้ชายทำกับภรรยาและลูกของเขา?
ถ้าพูดถึงคำว่า “ใช้อำนาจ” เช่น การใช้อำนาจของคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว คุณคิดถึงอะไร? ผู้ชายบางคนทำไม่ดีกับภรรยาและลูก ๆ เพราะพวกเขาโตมากับครอบครัว ธรรมเนียม หรือวัฒนธรรมแบบนั้น ยานีต้าพี่น้องหญิงที่อยู่ในยุโรปบอกว่า “คนแถวนี้ถูกฝังหัวว่าผู้หญิงต่ำกว่าผู้ชาย พวกเขามองว่าผู้หญิงเป็นแค่คนใช้” พี่น้องลุคที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาบอกว่า “พ่อบางคนสอนลูกชายของตัวเองว่าคำพูดของผู้หญิงไม่สำคัญ ไม่ต้องไปสนใจอะไรที่พวกผู้หญิงพูดหรอก” แต่พระยะโฮวาไม่อยากให้ผู้ชายใช้อำนาจของพวกเขาแบบนั้น (เทียบกับมาระโก 7:13) ถ้าอย่างนั้น ผู้ชายจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีได้ยังไง?
2. หัวหน้าครอบครัวต้องรู้อะไร? และทำไม?
2 เพื่อผู้ชายจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี อย่างแรกเขาต้องรู้ว่าพระยะโฮวาอยากให้เขาทำอะไร เขาต้องรู้ด้วยว่าทำไมพระยะโฮวาถึงให้อำนาจกับบางคน และเขาจะเลียนแบบตัวอย่างของพระยะโฮวาและพระเยซูได้ยังไง ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ? เพราะเขาเป็นหัวหน้าครอบครัว พระยะโฮวาเลยให้อำนาจกับเขา และพระองค์คาดหมายให้เขาใช้อำนาจอย่างถูกต้อง—ลก. 12:48ข
การเป็นผู้นำหมายถึงอะไร?
3. เราได้เรียนอะไรเกี่ยวกับการเป็นผู้นำจาก 1 โครินธ์ 11:3?
3 อ่าน 1 โครินธ์ 11:3 ข้อคัมภีร์ข้อนี้อธิบายวิธีที่พระยะโฮวาจัดระเบียบครอบครัวของพระองค์ที่อยู่ในสวรรค์และบนโลก การเป็นผู้นำเกี่ยวข้องกับ 2 อย่างที่สำคัญคือ การใช้อำนาจและความรับผิดชอบ พระยะโฮวาเป็น “ผู้นำ” และมีอำนาจสูงสุด ถึงอย่างนั้นพระองค์ก็ให้อำนาจกับ ลูก ๆ ของพระองค์ทั้งทูตสวรรค์และมนุษย์ แต่พวกเขาก็ต้องรับผิดชอบต่อพระองค์ด้วย (รม. 14:10; อฟ. 3:14, 15) พระยะโฮวาให้พระเยซูมีอำนาจเหนือประชาคม แต่ท่านก็ต้องรับผิดชอบต่อพระยะโฮวาในสิ่งที่ท่านทำกับเรา (1 คร. 15:27) พระยะโฮวาก็ให้สามีมีอำนาจเหนือภรรยาและลูก ๆ ด้วย แต่เขาก็ต้องรับผิดชอบต่อพระยะโฮวาและพระเยซูในสิ่งที่เขาทำกับภรรยาและลูก ๆ—1 ปต. 3:7
4. พระยะโฮวาและพระเยซูมีอำนาจที่จะทำอะไร?
4 พระยะโฮวาเป็นหัวหน้าครอบครัวของพระองค์ พระองค์จึงมีอำนาจที่จะตั้งกฎและมีสิทธิ์เรียกร้องให้ลูก ๆ ของพระองค์ทำตามกฎที่พระองค์ตั้งไว้ (อสย. 33:22) และพระเยซูเป็นผู้นำของประชาคมคริสเตียน ท่านเลยมีสิทธิ์ที่จะตั้งกฎและเรียกร้องให้คริสเตียนทำตามนั้นด้วย—กท. 6:2; คส. 1:18-20
5. หัวหน้าครอบครัวมีอำนาจอะไร? และเขามีอำนาจแค่ไหน?
5 ตัวอย่างของพระยะโฮวาและพระเยซูทำให้เห็นว่าหัวหน้าครอบครัวมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเรื่องในครอบครัวของเขา (รม. 7:2; อฟ. 6:4) แต่อำนาจที่เขามีก็มีขีดจำกัด เช่น กฎที่เขาตั้งต้องมาจากหลักการในคัมภีร์ไบเบิล (สภษ. 3:5, 6) และหัวหน้าครอบครัวไม่มีอำนาจที่จะตั้งกฎให้คนที่ไม่ได้อยู่ในครอบครัวของเขา (รม. 14:4) นอกจากนั้น เมื่อลูก ๆ ของเขาโตขึ้นและออกจากบ้านไปแล้ว ถึงลูก ๆ จะยังนับถือพ่อของพวกเขาอยู่ แต่พ่อไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวของพวกเขาอีกต่อไป—มธ. 19:5
ทำไมพระยะโฮวาถึงให้อำนาจบางคนเป็นผู้นำ?
6. ทำไมพระยะโฮวาถึงให้อำนาจบางคนเป็นผู้นำ?
6 พระยะโฮวาให้อำนาจบางคนเป็นผู้นำเพราะพระองค์รักครอบครัวของพระองค์ นี่เป็นของขวัญที่พระยะโฮวาให้เรา การมีผู้นำทำให้ครอบครัวของพระองค์เป็นระเบียบและมีสันติสุข (1 คร. 14:33, 40) ถ้าไม่มีการบอกชัดเจนเรื่องตำแหน่งผู้นำ ครอบครัวของพระองค์ก็จะวุ่นวายและไม่มีความสุข เช่น เราจะไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย หรือใครจะเป็นตัวหลักในการทำตามการตัดสินใจนั้น
7. จากเอเฟซัส 5:25, 28 พระยะโฮวาอยากให้ผู้ชายทำยังไงกับภรรยาของเขา?
7 ถ้าการที่ผู้ชายใช้อำนาจในครอบครัวเป็นเรื่องที่ดี แล้วทำไมผู้หญิงหลายคนถึงรู้สึกว่าโดนกดขี่และถูกควบคุม? ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะผู้ชายหลายคนทำตามธรรมเนียมที่เขาคุ้นเคยและไม่ได้สนใจมาตรฐานของพระเจ้า บางคนก็ทำร้ายภรรยาเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดี ตัวอย่างเช่น สามีบางคนข่มเหงภรรยาเพื่อจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญและมั่นใจมากขึ้น หรือเพื่อทำให้คนอื่นเห็นว่าเขาเป็น “ลูกผู้ชาย” เขาคิดว่าถึงเขาบังคับให้ภรรยารักเขาไม่ได้แต่เขาทำให้เธอกลัวได้ แล้วเขาอาจจะใช้ความกลัวนั้นเพื่อควบคุมภรรยา * ความคิดและการกระทำแบบนี้ไม่ได้ให้เกียรติและความนับถือกับผู้หญิงอย่างที่พวกเธอควรจะได้รับ และมันเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่พระยะโฮวาต้องการ—อ่านเอเฟซัส 5:25, 28
ผู้ชายจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีได้ยังไง?
8. ผู้ชายจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีได้ยังไง?
8 ผู้ชายจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีได้โดยเลียนแบบวิธีที่พระยะโฮวาและพระเยซูใช้อำนาจ ให้เรามาดูคุณลักษณะ 2 อย่างของพระยะโฮวาและพระเยซู และดู
ว่าหัวหน้าครอบครัวจะแสดงคุณลักษณะ 2 อย่างนี้กับภรรยาและลูก ๆ ได้ยังไง9. พระยะโฮวาแสดงความถ่อมยังไง?
9 ความถ่อม ถึงจะไม่มีใครฉลาดมากกว่าพระยะโฮวาแต่พระองค์ก็ฟังผู้รับใช้ของพระองค์ (ปฐก. 18:23, 24, 32) และพระองค์ยังให้คนที่อยู่ใต้อำนาจของพระองค์เสนอความคิดเห็นด้วย (1 พก. 22:19-22) และถึงพระยะโฮวาจะสมบูรณ์แบบ แต่พระองค์ก็ไม่คาดหมายความสมบูรณ์แบบจากเรา พระองค์ยังช่วยคนไม่สมบูรณ์แบบให้รับใช้และทำงานมอบหมายได้อย่างสำเร็จด้วย (สด. 113:6, 7) คัมภีร์ไบเบิลถึงขนาดเรียกพระยะโฮวาว่า “ผู้ช่วย” (สด. 27:9; ฮบ. 13:6) กษัตริย์ดาวิดรู้ดีว่าเขาจะทำงานที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จไม่ได้เลยถ้าพระยะโฮวาไม่ถ่อมและไม่ช่วยเหลือเขา—2 ซม. 22:36
10. พระเยซูแสดงความถ่อมยังไง?
10 ให้มาดูตัวอย่างของพระเยซู ถึงพระเยซูจะเป็นนายและอาจารย์ของพวกสาวก แต่ท่านก็ล้างเท้าให้พวกเขา ทำไมพระยะโฮวาให้เขียนเรื่องนี้ไว้ในคัมภีร์ไบเบิล? เหตุผลหนึ่งก็คือเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับพวกเราทุกคนซึ่งรวมถึงคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวด้วย พระเยซูเองบอกว่า “ผมทำเป็นตัวอย่างให้ดูแล้ว พวกคุณก็ควรทำตาม” (ยน. 13:12-17) ถึงพระเยซูจะมีอำนาจมาก แต่ท่านก็ไม่เคยคาดหมายให้ใครมารับใช้ท่าน แต่กลับเป็นท่านเองต่างหากที่รับใช้คนอื่น—มธ. 20:28
11. หัวหน้าครอบครัวจะเลียนแบบความถ่อมของพระยะโฮวาและพระเยซูได้ยังไง?
11 บทเรียนสำหรับเรา หัวหน้าครอบครัวสามารถแสดงความถ่อมได้ในหลาย ๆ วิธี ตัวอย่างเช่น เขาจะไม่คาดหมายจากภรรยากับลูก ๆ มากกว่าที่พวกเขาทำได้และไม่คาดหมายว่าพวกเขาจะไม่ทำผิดพลาดเลย เขาจะฟังความคิดเห็นของคนในครอบครัวถึงแม้ว่าภรรยากับลูก ๆ จะคิดไม่เหมือนกับเขาก็ตาม มาร์ลี่ที่อยู่ในอเมริกาบอกว่า “บางทีฉันกับสามีก็คิดไม่เหมือนกัน แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเขาเห็นค่าและให้เกียรติฉัน เพราะเขาคอยถามว่าฉันคิดยังไง แล้วพอฉันบอก เขาก็เอาเรื่องนั้นกลับไปคิดก่อนที่จะตัดสินใจ” นอกจากนั้น สามีที่ถ่อมจะเต็มใจทำงานบ้านถึงแม้ว่าคนแถวบ้านจะมองว่างานพวกนี้เป็นงานของผู้หญิง แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน ทำไม? พี่น้องหญิงคนหนึ่งที่ชื่อเรเชลบอกว่า “ที่บ้านเกิดของฉัน ถ้าสามีช่วยภรรยาล้างจานหรือ
ถูบ้าน ญาติ ๆ กับคนแถวนั้นก็จะสงสัยว่าเขาเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า พวกเขาจะคิดว่าผู้ชายคนนี้กลัวเมีย” ถ้าคนแถวบ้านคุณก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ให้จำไว้ว่าขนาดพระเยซูก็ยังล้างเท้าให้พวกสาวกของท่านทั้ง ๆ ที่คนส่วนใหญ่มองว่างานแบบนี้เป็นงานของทาส หัวหน้าครอบครัวที่ดีไม่ได้เป็นห่วงว่าเขาจะดูดีไหม แต่เขาจะห่วงว่าภรรยากับลูกรู้สึกดีและมีความสุขไหม แล้วหัวหน้าครอบครัวที่ดีต้องมีคุณลักษณะอะไรอีกนอกจากความถ่อม?12. หัวหน้าครอบครัวเรียนอะไรได้จากพระยะโฮวาและพระเยซู?
12 ความรัก พระยะโฮวาทำทุกอย่างด้วยความรัก (1 ยน. 4:7, 8) พระยะโฮวาดูแลความเชื่อของเราและช่วยให้เราสนิทกับพระองค์โดยทางคัมภีร์ไบเบิลและองค์การของพระองค์ พระยะโฮวาเอาใจใส่ความรู้สึกของเราโดยทำให้เรารู้ว่าพระองค์รักเรามาก และพระยะโฮวาดูแลเราด้านร่างกายโดย “ให้เรามีทุกสิ่งมากมายที่ทำให้เรามีความสุข” (1 ทธ. 6:17) ตอนที่เราทำผิด พระองค์ก็อบรมสั่งสอนเราแต่พระองค์ไม่ได้เลิกรักเรา พระยะโฮวารักเรามากถึงขนาดที่ให้พระเยซูมาเป็นค่าไถ่เพื่อเรา และพระเยซูก็รักเรามากด้วยเพราะท่านยอมสละชีวิตของท่านเพื่อเรา (ยน. 3:16; 15:13) ไม่มีอะไรจะมาขัดขวางความรักที่พระยะโฮวาและพระเยซูมีให้กับคนที่ภักดี—ยน. 13:1; รม. 8:35, 38, 39
13. ทำไมถึงสำคัญที่หัวหน้าครอบครัวจะแสดงความรักกับภรรยาและลูก ๆ? (ดูกรอบ “ ผู้ชายที่เพิ่งแต่งงานต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ภรรยานับถือเขา?” ด้วย)
13 บทเรียนสำหรับเรา หัวหน้าครอบครัวควรทำทุกอย่างด้วยความรักเหมือนกัน ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ? อัครสาวกยอห์นบอกว่า “คนที่ไม่รักพี่น้อง [หรือครอบครัว] ที่เขามองเห็นจะรักพระเจ้าที่เขามองไม่เห็นได้อย่างไร?” (1 ยน. 4:11, 20) ผู้ชายที่รักครอบครัวและอยากจะเลียนแบบพระยะโฮวากับพระเยซูจะดูแลครอบครัวของเขาด้านความเชื่อ ด้านความรู้สึก และด้านร่างกาย (1 ทธ. 5:8) นอกจากนั้น เขาจะแนะนำและอบรมสั่งสอนลูก ๆ และเขาจะพยายามตัดสินใจ ในแบบที่ให้เกียรติพระยะโฮวาและเป็นประโยชน์กับครอบครัวของเขา ตอนนี้ให้เรามาดูว่าหัวหน้าครอบครัวจะเลียนแบบพระยะโฮวาและพระเยซูในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ได้ยังไง
หัวหน้าครอบครัวควรทำอะไร?
14. หัวหน้าครอบครัวจะดูแลความเชื่อของคนในครอบครัวยังไง?
14 ดูแลความเชื่อของคนในครอบครัวและช่วยพวกเขาให้สนิทกับพระยะโฮวา พระเยซูเลียนแบบพระยะโฮวาโดยดูแลสาวกของท่านให้มีความเชื่อเข้มแข็งอยู่เสมอ (มธ. 5:3, 6; มก. 6:34) เหมือนกัน สิ่งที่หัวหน้าครอบครัวต้องให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือการช่วยให้คนในครอบครัวสนิทกับพระยะโฮวา (ฉธบ. 6:6-9) เขาจะทำอย่างนั้นได้โดยทำให้แน่ใจว่าทั้งตัวเขากับคนในครอบครัวอ่านและศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำ ไปประชุม ไปประกาศข่าวดี และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระยะโฮวาเสมอ
15. อะไรเป็นวิธีหนึ่งที่หัวหน้าครอบครัวจะดูแลเอาใจใส่ความรู้สึกของคนในครอบครัว?
15 ดูแลเอาใจใส่ความรู้สึกของคนในครอบครัว พระยะโฮวาบอกว่ารักพระเยซูต่อหน้าคนอื่น (มธ. 3:17) พระเยซูก็พูดและทำให้พวกสาวกเห็นบ่อย ๆ ว่าท่านรักพวกเขา และพวกเขาก็บอกว่าพวกเขารักท่านเหมือนกัน (ยน. 15:9, 12, 13; 21:16) คล้ายกัน หัวหน้าครอบครัวควรทำให้เห็นว่าเขารักภรรยาและลูก ๆ เช่น เขาจะอ่านและศึกษาคัมภีร์ไบเบิลด้วยกันกับครอบครัว นอกจากนั้นเขาควรบอกรักและบอกว่าภรรยากับลูก ๆ มีค่ามากแค่ไหนสำหรับเขา และตอนที่เหมาะ เขาก็น่าจะชมพวกเขาต่อหน้าคนอื่นด้วย—สภษ. 31:28, 29
16. หัวหน้าครอบครัวต้องทำอะไรอีก? แต่เขาควรระวังเรื่องอะไร?
16 ดูแลคนในครอบครัวด้านร่างกาย พระยะโฮวาดูแลชาวอิสราเอลให้มีสิ่งจำเป็นแม้แต่ตอนที่พวกเขากำลังโดนลงโทษเพราะไม่เชื่อฟัง (ฉธบ. 2:7; 29:5) พระองค์ก็ดูแลให้เรามีสิ่งจำเป็นในทุกวันนี้เหมือนกัน (มธ. 6:31-33; 7:11) คล้ายกัน พระเยซูเลี้ยงอาหารคนที่ติดตามท่านและดูแลสุขภาพของพวกเขาด้วย (มธ. 4:24; 14:17-20) ถ้าหัวหน้าครอบครัวอยากทำให้พระยะโฮวาพอใจ เขาต้องดูแลให้ครอบครัวมีสิ่งจำเป็นในชีวิต แต่มีบางอย่างที่เขาต้องระวังด้วย เขาจะไม่ทำงานหนักจนไม่ได้เอาใจใส่ความเชื่อและความรู้สึกของคนในครอบครัว
17. พระยะโฮวากับพระเยซูแนะนำและอบรมสั่งสอนเรายังไง?
17 แนะนำและอบรมสั่งสอน พระยะโฮวาแนะนำและอบรมสั่งสอนเราเพราะพระองค์อยากช่วยเหลือเรา (ฮบ. 12:7-9) เหมือนกับพระยะโฮวา พระเยซูก็แนะนำและอบรมสั่งสอนคนที่อยู่ใต้อำนาจของท่านด้วยความรัก (ยน. 15:14, 15) ท่านให้คำแนะนำ อย่างตรงไปตรงมาแต่ก็อ่อนโยนด้วย (มธ. 20:24-28) ท่านเข้าใจว่าเราเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบและทำผิดพลาดบ่อย ๆ—มธ. 26:41
18. หัวหน้าครอบครัวที่ดีจะคิดอะไรอยู่เสมอ?
18 หัวหน้าครอบครัวที่เลียนแบบพระยะโฮวาและพระเยซูจะคิดเสมอว่าคนในครอบครัวของเขาไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ ดังนั้น เขาจะไม่ “เกรี้ยวกราด” กับภรรยาหรือลูก ๆ ของเขาตอนที่พวกเขาทำผิดพลาด (คส. 3:19) แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เขาจะทำตามหลักการที่กาลาเทีย 6:1 และพยายามช่วยพวกเขา “ด้วยความอ่อนโยน” โดยที่คิดว่าตัวเขาเองก็ไม่สมบูรณ์แบบเหมือนกัน และเขารู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดที่เขาจะสอนได้ก็คือโดยการวางตัวอย่างที่ดีเหมือนกับที่พระเยซูทำ—1 ปต. 2:21
19-20. หัวหน้าครอบครัวจะเลียนแบบพระยะโฮวาและพระเยซูได้ยังไงเมื่อต้องตัดสินใจ?
19 ตัดสินใจอย่างไม่เห็นแก่ตัว พระยะโฮวาตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของคนอื่น ตัวอย่างเช่น พระองค์ตัดสินใจสร้างชีวิตอื่นขึ้นมา ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของพระองค์เอง แต่เพื่อเราจะได้มีความสุขกับการมีชีวิตด้วย นอกจากนั้น ไม่มีใครบังคับพระยะโฮวาให้ส่งลูกชายของพระองค์มาตายเพื่อเรา แต่พระองค์ก็เต็มใจทำแบบนั้นเพราะพระองค์อยากช่วยเรา พระเยซูก็ตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของคนอื่นเหมือนกัน เช่น ท่านเลือกที่จะสอนฝูงชนแทนที่จะพักให้ตัวเองหายเหนื่อย—รม. 15:3; มก. 6:31-34
20 หัวหน้าครอบครัวที่ดีรู้ว่าสิ่งหนึ่งที่ยากที่สุดที่เขาต้องทำก็คือการตัดสินใจเรื่องที่มีผลกับครอบครัวของเขา เขารู้ว่านี่เป็นหน้าที่รับผิดชอบที่สำคัญ เขาจะพยายามไม่ตัดสินใจในแบบที่ไม่มีเหตุผลหรือใช้อารมณ์ของตัวเอง แต่เขาจะยอมให้พระยะโฮวาสอนว่าเขาควรตัดสินใจยังไง * (สภษ. 2:6, 7) เมื่อเขาทำอย่างนี้ เขาก็จะตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของคนอื่น ไม่ใช่เพื่อตัวเอง—ฟป. 2:4
21. เราจะคุยกันเรื่องอะไรในบทความถัดไป?
21 พระยะโฮวามอบหมายงานที่ไม่ง่ายให้กับหัวหน้าครอบครัว พระองค์อยากให้เขาทำงานมอบหมายนี้อย่างดี และเขาต้องรับผิดชอบต่อพระองค์ในเรื่องนี้ แต่ถ้าคนที่เป็นสามีพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเลียนแบบตัวอย่างของพระยะโฮวาและพระเยซู เขาจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี และถ้าภรรยาของเขาทำตามหน้าที่ของเธอในครอบครัว ชีวิตคู่ของพวกเขาก็จะมีความสุข ภรรยาควรมองอำนาจของสามีที่เป็นหัวหน้าครอบครัวของเธอยังไง? และเธออาจต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง? บทความถัดไปจะตอบคำถามเหล่านี้
เพลง 16 สรรเสริญพระยะโฮวาสำหรับลูกชายที่พระองค์แต่งตั้ง
^ วรรค 5 เมื่อผู้ชายแต่งงาน เขาก็กลายเป็นผู้นำครอบครัวหรือหัวหน้าครอบครัว ในบทความนี้เราจะมาดูว่าการเป็นผู้นำหมายถึงอะไร และพระยะโฮวาให้อำนาจอะไรกับบางคน แล้วทำไมพระองค์ถึงทำแบบนั้น นอกจากนั้น เราจะดูด้วยว่าผู้ชายเรียนอะไรได้จากตัวอย่างของพระยะโฮวาและพระเยซู บทความถัดไปเราจะมาดูว่าสามีและภรรยาเรียนอะไรได้จากตัวอย่างของพระเยซูและคนอื่น ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล และบทความสุดท้ายของบทความชุดนี้ เราจะดูว่าผู้ชายจะใช้อำนาจของเขาในประชาคมยังไง
^ วรรค 7 บางครั้งหนัง ละคร หรือแม้แต่หนังสือการ์ตูนทำให้ผู้คนรู้สึกว่าการที่สามีทำร้ายภรรยาหรือแม้แต่ทำร้ายร่างกายเธอเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายคนคิดว่าไม่ใช่เรื่องผิดที่ผู้ชายจะทำแบบนั้น
^ วรรค 20 เพื่อจะรู้มากขึ้นว่าจะตัดสินใจอย่างดีได้ยังไง ดูบทความ “จงตัดสินใจอย่างที่ทำให้พระเจ้าได้รับการสรรเสริญ” หอสังเกตการณ์ 15 เมษายน 2011 หน้า 13-17