“สันติสุขของพระเจ้า . . . เกินความเข้าใจทุกอย่าง”
“สันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจทุกอย่างจะปกป้องหัวใจและความคิดของพวกคุณไว้”—ฟป. 4:7
1, 2. เกิดอะไรขึ้นกับเปาโลและสิลาสในเมืองฟีลิปปี? (ดูภาพแรก)
ลองคิดถึงฉากเหตุการณ์นี้ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน เปาโลและสิลาสมิชชันนารีทั้งสองอยู่ในคุกชั้นในสุดที่มืดมิดในเมืองฟีลิปปี พวกเขาแทบจะขยับไม่ได้เพราะถูกใส่ขื่อที่เท้าและรู้สึกเจ็บปวดมากเพราะถูกเฆี่ยนที่หลังอย่างทารุณ (กจ. 16:23, 24) ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน อยู่ดี ๆ ฝูงชนก็จับเปาโลกับสิลาสและลากตัวไปที่ตลาด ที่นั่น ทั้งสองถูกสอบสวนและถูกตัดสินอย่างรวดเร็ว ถูกกระชากเสื้อออกแล้วถูกเฆี่ยนด้วยไม้ (กจ. 16:16-22) ไม่ยุติธรรมเลยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เปาโลเป็นพลเมืองโรมัน จริง ๆ แล้วเขาควรได้รับการสอบสวนตามขั้นตอนที่ถูกต้อง *
2 ตอนอยู่ในคุก เปาโลอาจคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นและคิดถึงผู้คนที่อยู่ในเมืองฟีลิปปี คนในเมืองฟีลิปปีไม่มีแม้แต่ที่ประชุมของชาวยิวซึ่งต่างจากกจ. 16:13, 14) ผู้คนที่อยู่ในฟีลิปปีภูมิใจมากที่ได้เป็นพลเมืองโรมัน (กจ. 16:21) นี่อาจเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่คิดว่าชาวยิวอย่างเปาโลกับสิลาสจะเป็นพลเมืองโรมันด้วย เราไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไร แต่เรารู้ว่าคนที่นั่นจับทั้งสองคนเข้าคุกอย่างไม่ยุติธรรม
เมืองอื่น ๆ ที่เปาโลเคยไปเยี่ยม นี่อาจเป็นเพราะที่ฟีลิปปีมีผู้ชายชาวยิวไม่ถึง 10 คน พวกเขาเลยไม่สามารถมีที่ประชุมของชาวยิวได้ ทำให้ชาวยิวที่นั่นต้องออกไปนมัสการพระเจ้าข้างนอกประตูเมืองใกล้ ๆ แม่น้ำ (3. (ก) เปาโลอาจรู้สึกอย่างไรตอนที่ถูกจับเข้าคุก? และทำไมเขาอาจรู้สึกอย่างนั้น? (ข) ถึงเปาโลจะติดคุก แต่เขาก็ยังมีความคิดแบบไหน?
3 อีกเรื่องหนึ่งที่เปาโลอาจคิดถึงด้วยก็คือเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ทำให้เขามาที่ฟีลิปปี ไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น เปาโลอยู่อีกฝั่งหนึ่งของทะเลอีเจียนในเอเชียไมเนอร์ ตอนอยู่ที่นั่น พลังบริสุทธิ์ของพระเจ้าพยายามหยุดเขาหลายครั้งไม่ให้ประกาศ ดูเหมือนว่าพลังนั้นพยายามให้เขาไปที่อื่นแทน (กจ. 16:6, 7) ที่ไหนล่ะ? ตอนอยู่ที่เมืองโตรอัสเปาโลเห็นนิมิต เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งบอกว่า “ขอมาช่วยพวกเราที่แคว้นมาซิโดเนียด้วยเถอะ” พระยะโฮวาบอกอย่างชัดเจนว่าอยากให้เปาโลไปไหน เปาโลจึงเดินทางไปที่มาซิโดเนียทันที (อ่านกิจการ 16:8-10) แต่หลังจากไปถึงมาซิโดเนียได้ไม่นานเปาโลก็ติดคุก ทำไมพระยะโฮวายอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเขา? และเขาต้องอยู่ในคุกนานแค่ไหน? ถึงแม้เปาโลอาจสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ แต่เขาก็ยังมีความเชื่อที่เข้มแข็งและมีความสุขอยู่ได้ เปาโลกับสิลาส “อธิษฐานและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า” (กจ. 16:25) สันติสุขของพระเจ้าทำให้หัวใจกับความคิดของพวกเขาสงบ
4, 5. (ก) เราอาจตกอยู่ในสถานการณ์คล้าย ๆ กับเปาโลอย่างไร? (ข) สถานการณ์ของเปาโลเปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึงอย่างไร?
4 คุณเคยรู้สึกแบบเดียวกับเปาโลไหม? อาจมีบางครั้งที่คุณขอให้พระเจ้าช่วยตัดสินใจ และคุณก็รู้สึกว่าคุณทำตามการชี้นำของพลังบริสุทธิ์แล้ว แต่หลังจากนั้นกลับมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย หรือทำให้คุณต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิต (ปญจ. 9:11) คุณอาจสงสัยว่าทำไมพระยะโฮวายอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าคุณรู้สึกอย่างนั้น อะไรจะช่วยคุณให้อดทนและวางใจพระยะโฮวาอย่างเต็มที่ต่อ ๆ ไป? เราจะได้คำตอบเมื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับเปาโลและสิลาส
5 ตอนที่เปาโลกับสิลาสกำลังร้องเพลง มีหลายอย่างที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น ตอนแรก เกิดแผ่นดินไหวใหญ่รุนแรงจนทำให้ประตูทุกบานของคุกเปิดออก จากนั้น โซ่กับขื่อของนักโทษทุกคนก็หลุด เปาโลพยายามห้ามไม่ให้ผู้คุมฆ่าตัวตาย ผู้คุมกับทุกคนในครอบครัวของเขาเลยรับบัพติศมา พอรุ่งเช้า พวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองใช้คนให้มาปล่อยเปาโลกับสิลาสออกจากคุก แต่พอพวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรู้ว่าเปาโลกับสิลาสเป็นพลเมืองโรมัน พวกเขาก็รู้ว่าได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่จึงมาปล่อยเปาโลกับสิลาสด้วยตัวเอง แต่ก่อนจะออกจากเมือง เปาโลกับสิลาสบอกพวกเจ้าหน้าที่ว่าพวกเขาจะต้องไปร่ำลาลิเดียพี่น้องใหม่ก่อน แล้วเขาสองคนก็เลยใช้โอกาสนั้นให้กำลังใจพี่น้องคนอื่น ๆ ในฟีลิปปีด้วย (กจ. 16:26-40) เหตุการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็วจริง ๆ!
“เกินความเข้าใจทุกอย่าง”
6. เราจะคุยเรื่องอะไรกันในบทความนี้?
6 เราเรียนอะไรได้จากเหตุการณ์เหล่านี้? พระยะโฮวาสามารถทำสิ่งที่เกินความคาดหมาย ดังนั้น เราไม่ต้องฟีลิปปี 4:6, 7 (อ่าน) จากนั้น เราจะดูเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิลบางเรื่องที่พระยะโฮวาทำสิ่งที่เกินความคาดหมาย และเราจะคุยกันว่า “สันติสุขของพระเจ้า” จะช่วยเราอย่างไรให้อดทนกับปัญหาต่าง ๆ และวางใจพระยะโฮวาอย่างเต็มที่
กังวลเมื่อเจอปัญหาต่าง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเปาโลทำให้เขาเองรู้สึกประทับใจไม่รู้ลืม เราเห็นได้จากจดหมายที่เปาโลเขียนถึงพี่น้องในเมืองฟีลิปปีเกี่ยวกับความกังวลและสันติสุขของพระเจ้า ในบทความนี้ เราจะคุยกันเกี่ยวกับคำพูดของเปาโลที่7. เปาโลสอนอะไรในจดหมายที่เขาเขียนถึงพี่น้องในฟีลิปปี? และเราได้เรียนอะไรจากเรื่องนี้?
7 ตอนที่พวกพี่น้องในฟีลิปปีอ่านจดหมายของเปาโล พวกเขาอาจคิดถึงอะไรบ้าง? พวกเขาส่วนใหญ่อาจจำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเปาโลและสิลาสได้ และจำได้ว่าพระยะโฮวาช่วยสองคนนั้นในแบบที่ไม่คาดคิดอย่างไร เปาโลสอนอะไรในจดหมายฉบับนั้น? เขาสอนว่า ‘ไม่ต้องกังวล ให้อธิษฐาน แล้วพวกคุณจะได้รับ “สันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจทุกอย่าง”’ คำพูดนี้หมายถึงอะไร? คัมภีร์ไบเบิลบางฉบับแปลประโยคนี้ว่า “เกินที่เราเคยคิดเคยฝัน” หรือ “เหนือกว่าแผนการทั้งหมดของมนุษย์” ดังนั้น เปาโลกำลังบอกว่า “สันติสุขของพระเจ้า” ยอดเยี่ยมเกินกว่าที่เราจะคิดหรือจินตนาการได้ บางครั้งเราอาจไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร แต่พระยะโฮวารู้ และพระองค์สามารถทำสิ่งที่เกินความคาดหมายของเรา—อ่าน 2 เปโตร 2:9
8, 9. (ก) ถึงแม้เปาโลต้องทนกับความไม่ยุติธรรมในฟีลิปปี แต่มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นั้น? (ข) ทำไมพี่น้องในฟีลิปปีถึงเชื่อมั่นในสิ่งที่เปาโลเขียนในจดหมายได้?
8 เมื่อพี่น้องในฟีลิปปีคิดถึงช่วง 10 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเปาโลและสิลาสในตอนนั้น จดหมายที่เปาโลเขียนคงต้องให้กำลังใจพวกเขาแน่ ๆ ถึงแม้พระยะโฮวายอมให้เปาโลกับสิลาสต้องทนกับความไม่ยุติธรรม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นส่งผลให้มีการ “ปกป้องข่าวดีและพยายามทำให้การประกาศข่าวดีเป็นที่ยอมรับตามกฎหมาย” (ฟป. 1:7) พวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในฟีลิปปีคงไม่กล้าต่อต้านพี่น้องในประชาคมคริสเตียนที่ตั้งขึ้นใหม่ที่นั่น นอกจากนั้น อาจเป็นเพราะเปาโลได้บอกว่าเขาเป็นพลเมืองโรมัน ลูกาซึ่งร่วมเดินทางมาด้วยจึงอาจได้อยู่ในเมืองฟีลิปปีต่อไปหลังจากเปาโลกับสิลาสไปแล้ว และเขาสามารถให้ความช่วยเหลือพี่น้องใหม่ ๆ ในฟีลิปปีได้
9 ตอนที่พวกพี่น้องในฟีลิปปีอ่านจดหมายของเปาโล พวกเขารู้ดีว่าข้อความในจดหมายนั้นเปาโลไม่ได้แค่คิดเอาเองแล้วก็เขียนขึ้นมา แต่เขาเขียนจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เขาได้เจอกับการทดสอบที่หนักหนาสาหัส แม้แต่ตอนที่เขาเขียนจดหมายถึงพี่น้องในฟีลิปปี เขาก็กำลังถูกกักบริเวณในบ้านของเขาในกรุงโรม ซึ่งตอนนั้นเขาก็ยังแสดงว่ามี “สันติสุขของพระเจ้า”—ฟป. 1:12-14; 4:7, 11, 22
“อย่ากังวลอะไรเลย”
10, 11. เราต้องทำอะไรตอนที่เรากังวลกับปัญหา? และเราคาดหมายได้ว่าพระยะโฮวาจะทำอะไรเพื่อช่วยเรา?
10 อะไรจะช่วยเราไม่ให้ “กังวล” แต่มี “สันติสุขของพระเจ้า”? จดหมายที่เปาโลเขียนถึงพี่น้องในฟีลิปปีแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่จะแก้ความกังวลได้ก็คือการอธิษฐาน ดังนั้น เมื่อไรที่เรากังวล เราต้องอธิษฐานบอกเรื่องที่เรากังวลกับพระเจ้า (อ่าน 1 เปโตร 5:6, 7) ตอนที่คุณอธิษฐานถึงพระยะโฮวา ขอให้มั่นใจอย่างเต็มที่ว่าพระองค์เป็นห่วงคุณ ให้อธิษฐานขอบคุณเสมอสำหรับสิ่งดีต่าง ๆ ที่พระองค์ให้กับคุณ และอย่าลืมว่าพระองค์สามารถ “ทำทุกสิ่งได้มากกว่าที่เราจะขอหรือนึกออกได้”—อฟ. 3:20
1 คร. 10:13) นี่ไม่ได้หมายความว่าเราจะแค่นั่งเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรและรอให้พระยะโฮวาแก้ไขสถานการณ์หรือจัดการปัญหาให้เรา เราต้องทำสิ่งที่สอดคล้องกับคำอธิษฐานของเรา (รม. 12:11) สิ่งที่เราทำจะพิสูจน์ว่าเราอยากให้พระยะโฮวาช่วยเราจริง ๆ และถ้าเราทำทุกอย่างที่เราทำได้ พระองค์ก็จะมีเหตุผลที่จะอวยพรเราได้ เราต้องไม่ลืมว่าพระยะโฮวาสามารถทำมากกว่าที่เราขอหรือคาดหมายให้พระองค์ทำ บางครั้ง พระองค์อาจทำสิ่งที่เราไม่คิดไม่ฝันเลยก็ได้ ตอนนี้ให้เรามาดูบางตัวอย่างที่จะช่วยเราให้มั่นใจมากขึ้นว่าพระยะโฮวาสามารถทำสิ่งที่เกินความคาดหมายของเรา
11 เหมือนกับเปาโลและสิลาส เราอาจแปลกใจและตื่นเต้นเมื่อได้เห็นว่าพระยะโฮวาทำอะไรเพื่อช่วยเรา มันอาจไม่ใช่อะไรที่หวือหวาแต่เราคาดหมายได้ว่าจะเป็นสิ่งที่ตรงกับความจำเป็นของเราเสมอ (ตัวอย่างที่พระยะโฮวาทำสิ่งที่เกินความคาดหมาย
12. (ก) กษัตริย์เฮเซคียาห์ทำอะไรตอนที่กษัตริย์เซนนาเคอริบมาข่มขู่เขา? (ข) เราได้เรียนอะไรจากวิธีที่พระยะโฮวาจัดการกับปัญหานี้?
12 ในคัมภีร์ไบเบิลมีตัวอย่างมากมายที่พระยะโฮวาทำสิ่งที่เกินความคาดหมาย ตัวอย่างเช่น ตอนที่เฮเซคียาห์เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ เซนนาเคอริบกษัตริย์อัสซีเรียบุกเข้ามาโจมตียูดาห์และยึดเมืองต่าง ๆ ไว้ ตอนนั้นเหลือแค่กรุงเยรูซาเล็มที่ยังไม่โดนยึด (2 พก. 18:1-3, 13) หลังจากนั้น เซนนาเคอริบก็เข้ามาโจมตีกรุงเยรูซาเล็ม แล้วกษัตริย์เฮเซคียาห์ทำอย่างไร? สิ่งแรกที่เขาทำคืออธิษฐานขอให้พระยะโฮวาช่วย และขอคำแนะนำจากอิสยาห์ที่เป็นผู้พยากรณ์ของพระองค์ (2 พก. 19:5, 15-20) จากนั้น เฮเซคียาห์แสดงความมีเหตุผลโดยยอมจ่ายค่าปรับตามที่เซนนาเคอริบสั่ง (2 พก. 18:14, 15) นอกจากนั้น เฮเซคียาห์ยังได้เตรียมพร้อมในกรณีที่กรุงเยรูซาเล็มถูกล้อมเป็นเวลานาน (2 พศ. 32:2-4) เรื่องนี้ลงเอยอย่างไร? พระยะโฮวาส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาทำลายทหาร 185,000 คนของเซนนาเคอริบภายในคืนเดียว แม้แต่เฮเซคียาห์ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น—2 พก. 19:35
13. (ก) เราได้บทเรียนอะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับโยเซฟ? (ข) มีเรื่องไม่คาดคิดอะไรเกิดขึ้นกับซาราห์?
13 ให้เรามาดูอีกตัวอย่างหนึ่งด้วยกัน ลองคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับชายหนุ่มที่ชื่อโยเซฟ ตอนเขานั่งอยู่ในคุกที่อียิปต์ เขาคงไม่คิดเลยว่าต่อมาเขาจะได้เป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในอียิปต์ หรือตอนนั้นเขาก็คงไม่คิดด้วยว่าพระยะโฮวาจะใช้เขาเพื่อช่วยครอบครัวจากการกันดารอาหารที่เกิดขึ้น (ปฐก. 40:15, เชิงอรรถ; 41:39-43; 50:20) ไม่สงสัยเลยว่าสิ่งที่พระยะโฮวาทำนั้นเกินความคาดหมายของโยเซฟจริง ๆ นอกจากนั้น ลองคิดถึงซาราห์ย่าทวดของโยเซฟดูสิ ซาราห์ที่ตอนนั้นแก่มากแล้วจะคิดไหมว่าพระยะโฮวาจะให้เธอมีลูกเองไม่ใช่แค่รับลูก ของสาวใช้มาเลี้ยง? การที่ซาราห์มีอิสอัคเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนจริง ๆ—ปฐก. 21:1-3, 6, 7
14. เราสามารถมั่นใจอะไรได้ในพระยะโฮวา?
14 เราไม่คาดหมายว่าพระยะโฮวาจะทำการอัศจรรย์ให้ปัญหาทุกอย่างของเราหมดไปก่อนที่จะถึงโลกใหม่ และเราก็ไม่เรียกร้องให้พระยะโฮวาทำสิ่งที่อัศจรรย์ในชีวิตของเรา แต่เรารู้ว่าพระยะโฮวาได้ช่วยผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ในอดีตในวิธีที่น่าทึ่ง และพระองค์เป็นพระเจ้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง (อ่านอิสยาห์ 43:10-13) นี่ทำให้เราเชื่อมั่นในพระองค์ เรามั่นใจว่าพระองค์จะให้พลังที่จำเป็นกับเราเพื่อให้เราทำตามความต้องการของพระองค์ (2 คร. 4:7-9) เราได้เรียนอะไรจากตัวอย่างของเฮเซคียาห์ โยเซฟ และซาราห์? ถ้าเรารักษาความซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา พระองค์สามารถช่วยเราถึงแม้เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่มีทางออก
ถ้าเรารักษาความซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา พระองค์สามารถช่วยเราถึงแม้เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่มีทางออก
15. อะไรจะช่วยเราให้มี “สันติสุขของพระเจ้า” ทั้ง ๆ ที่มีปัญหา? ขอให้อธิบาย
15 เราจะมี “สันติสุขของพระเจ้า” ได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่มีปัญหา? เราต้องรักษาความสัมพันธ์ที่เรามีกับพระเจ้าให้ดีเสมอ เราสามารถมีความสัมพันธ์ที่ดีแบบนี้ได้ก็เพราะค่าไถ่ของพระเยซูคริสต์ ค่าไถ่เป็นหนึ่งในผลงานที่น่าทึ่งของพระยะโฮวา เพราะโดยทางค่าไถ่พระองค์สามารถให้อภัยบาปเรา ค่าไถ่ทำให้เราสะอาดในสายตาพระเจ้า เราจึงรู้สึกสบายใจเพราะพระเจ้ายอมรับเราและเราจะใกล้ชิดกับพระองค์ได้—ยน. 14:6; ยก. 4:8; 1 ปต. 3:21
สันติสุขของพระเจ้าจะปกป้องหัวใจและความคิดของเรา
16. ถ้าเรามี “สันติสุขของพระเจ้า” ผลจะเป็นอย่างไร? ขอยกตัวอย่าง
16 ถ้าเรามี “สันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจทุกอย่าง” ผลจะเป็นอย่างไร? คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าสันติสุขนั้นจะ “ปกป้องหัวใจและความคิดของเรา” (ฟป. 4:7) ในภาษาเดิม คำว่า “ปกป้อง” เป็นคำที่ใช้ทางการทหารเมื่อพูดถึงกองทหารที่ปกป้องเมือง ที่เมืองฟีลิปปีก็มีกองทหารแบบนั้นด้วย การรู้เรื่องนี้ทำให้ผู้คนในเมืองนั้นสามารถนอนหลับสบายในตอนกลางคืน คล้ายกัน ถ้าเรามี “สันติสุขของพระเจ้า” เราก็ไม่ต้องกังวลอะไร หัวใจและความคิดของเราก็จะสงบ เรารู้ว่าพระยะโฮวาเป็นห่วงเราและอยากให้เรามีชีวิตที่ดีและมีความสุข (1 ปต. 5:10) และนี่จะช่วยให้เราไม่ท้อแท้ กังวล หรือเครียดมากเกินไป
17. อะไรจะช่วยเราให้วางใจพระยะโฮวาในช่วงความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่?
17 อีกไม่นานมนุษย์ทุกคนจะต้องเจอกับความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ (มธ. 24:21, 22) เราไม่รู้ว่าเราแต่ละคนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่เราก็ไม่ต้องกังวลเกินไป ถึงแม้เราไม่รู้ว่าพระยะโฮวาจะทำอะไร แต่เรารู้ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแบบไหน เรารู้ว่าพระองค์เคยทำอะไรมาแล้วบ้างเพื่อผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ในอดีต เราได้เห็นแล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพระยะโฮวาจะทำให้สิ่งที่พระองค์ตั้งใจไว้เกิดขึ้นจริงเสมอ และพระองค์อาจจะทำอย่างนั้นในแบบที่เราไม่คาดคิด ดังนั้น ทุกครั้งที่พระยะโฮวาทำอะไรบางอย่างเพื่อเรา เราก็จะได้เห็นวิธีใหม่ ๆ ที่ “สันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจทุกอย่าง” ช่วยเรา