เด็กและวัยรุ่น คุณมองที่เป้าหมายของคริสเตียนเสมอไหม?
“ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ให้ฝากเรื่องนั้นไว้กับพระยะโฮวา แล้วแผนการของคุณจะสำเร็จ”—สุภาษิต 16:3
1-3. (ก) วัยรุ่นทุกคนต้องเจอเรื่องท้าทายอะไร? และอาจเปรียบเทียบได้กับอะไร? (ดูภาพแรก) (ข) อะไรจะช่วยให้วัยรุ่นคริสเตียนรับมือกับข้อท้าทายนั้นได้?
ลองนึกภาพว่าคุณวางแผนจะเข้าร่วมงานสำคัญในจังหวัดหนึ่งที่อยู่ไกลมากและต้องขึ้นรถทัวร์ไป พอไปถึงสถานีรถ คุณรู้สึกสับสนเพราะมีคนเยอะมากและมีรถหลายสาย แต่ดีที่คุณรู้ว่าจะไปที่ไหนและต้องนั่งรถสายอะไร คุณไม่ยอมขึ้นรถสายอื่นเพราะคุณรู้ว่ามันจะพาไปผิดทาง
2 ชีวิตก็เหมือนการเดินทาง และคุณที่เป็นวัยรุ่นก็เป็นเหมือนคนที่อยู่ในสถานีรถ ชีวิตคุณมีเรื่องเยอะแยะมากมายที่ต้องตัดสินใจเลือกจนบางครั้งมันทำให้รู้สึกสับสน แต่ถ้าคุณรู้แน่ ๆ ว่าอยากจะทำอะไรในอนาคต มันก็ง่ายที่จะตัดสินใจอย่างถูกต้อง แล้วชีวิตคุณควรไปทางไหนล่ะ?
3 บทความนี้จะตอบคำถามนี้และจะสนับสนุนคุณให้ใช้ทั้งชีวิตเพื่อทำให้พระยะโฮวาพอใจ ซึ่งหมายถึงการทำตามคำแนะนำของพระองค์เสมอไม่ว่าจะตัดสินใจเรื่องอะไรในชีวิต เช่น คุณจะเรียนอะไร จะทำงานอะไร จะแต่งงานหรือมีลูกไหม และยังหมายถึงการทำตามเป้าหมายต่าง ๆ ของคริสเตียนที่จะช่วยให้คุณสุภาษิต 16:3
สนิทกับพระยะโฮวามากขึ้น ถ้าคุณให้ความสำคัญกับการรับใช้พระยะโฮวาเสมอ คุณมั่นใจได้ว่าพระองค์จะอวยพรคุณและช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ—อ่านทำไมต้องตั้งเป้าหมายของคริสเตียน?
4. เราจะคุยเรื่องอะไรบ้างในบทความนี้?
4 การตั้งเป้าหมายของคริสเตียนมันดีอย่างไร? เราจะดู 3 เหตุผลด้วยกัน เหตุผลแรกและเหตุผลที่สองจะช่วยให้คุณเห็นว่าการพยายามไปให้ถึงเป้าหมายของคริสเตียนจะทำให้คุณสนิทกับพระยะโฮวามากขึ้น ส่วนเหตุผลที่สามจะช่วยให้เห็นว่าทำไมการตั้งเป้าหมายตั้งแต่อายุน้อย ๆ ถึงดี
5. อะไรคือเหตุผลสำคัญที่สุดที่ควรตั้งเป้าหมายของคริสเตียน?
5 เหตุผลสำคัญที่สุดที่ควรตั้งเป้าหมายของคริสเตียนก็คือ เพื่อขอบคุณที่พระยะโฮวารักและทำสิ่งต่าง ๆ มากมายหลายอย่างเพื่อเรา ผู้เขียนหนังสือสดุดีคนหนึ่งบอกว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าองค์สูงสุด เป็นเรื่องดีที่จะขอบคุณพระองค์ . . . พระยะโฮวา พระองค์ทำให้ผมยินดีเพราะสิ่งที่พระองค์ทำ ผมโห่ร้องดีใจเพราะการงานของพระองค์” (สดุดี 92:1, 4) ลองนึกดูว่าคุณเป็นหนี้พระยะโฮวาขนาดไหน พระองค์ให้ชีวิตคุณ ให้คุณได้รู้จักพระองค์และเจอความจริง ให้คัมภีร์ไบเบิลกับคุณ ให้พี่น้องในประชาคม แถมยังให้ความหวังที่ยอดเยี่ยมเรื่องการมีชีวิตตลอดไปในโลกที่เป็นสวนอุทยาน ถ้าคุณตั้งเป้าหมายของคริสเตียน คุณก็ทำให้พระยะโฮวาเห็นว่าคุณเห็นค่าสิ่งต่าง ๆ นี้ซึ่งจะทำให้คุณสนิทกับพระองค์มากขึ้น
6. (ก) การตั้งเป้าหมายของคริสเตียนช่วยให้คุณสนิทกับพระยะโฮวามากขึ้นได้อย่างไร? (ข) ถึงคุณยังเด็ก คุณสามารถตั้งเป้าหมายอะไรได้บ้าง?
6 เหตุผลที่ 2 ที่ควรตั้งเป้าหมายของคริสเตียนคือ เมื่อคุณพยายามทำตามเป้าหมาย คุณก็กำลังทำดีเพื่อพระยะโฮวาซึ่งจะทำให้คุณสนิทกับพระองค์มากขึ้น อัครสาวกเปาโลสัญญาว่า “พระเจ้าไม่ทำสิ่งที่ชั่ว พระองค์จึงไม่มีวันลืมงานที่พวกคุณทำและความรักที่พวกคุณมีต่อชื่อของพระองค์” (ฮีบรู 6:10) ที่จริง คุณไม่เด็กเกินไปหรอกที่จะตั้งเป้าหมาย ลองดูตัวอย่างวัยรุ่นบางคนสิ เช่น คริสตินตอนที่อายุแค่ 10 ขวบก็ตั้งเป้าหมายที่จะอ่านเรื่องราวชีวิตจริงของพยานฯ ที่ซื่อสัตย์เป็นประจำ โทบี้ตอนที่อายุ 12 ตั้งเป้าหมายที่จะอ่านคัมภีร์ไบเบิลให้ได้ทั้งเล่มก่อนจะรับบัพติศมา ส่วนแม็กซิมรับบัพติศมาตอนอายุ 11 และโนเอมีน้องสาวของเขารับบัพติศมาตอนอายุ 10 ขวบ ทั้งคู่ตั้งเป้าหมายจะเข้าเบเธล และเพื่อจะมีเป้าหมายนี้ในใจตลอด พวกเขาเลยติดใบสมัครเข้าเบเธลไว้ที่ผนังห้อง แล้วคุณล่ะ? คุณคิดถึงเป้าหมายอะไรบ้าง? ลองพยายามไปให้ถึงเป้าหมายนั้นดูสิ—อ่านฟีลิปปี 1:10, 11
7, 8. (ก) การตั้งเป้าหมายช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอย่างไร? (ข) ทำไมวัยรุ่นคนหนึ่งตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย?
7 แล้วอะไรคือเหตุผลที่ 3 ที่ว่าทำไมคุณควรตั้งเป้าหมายตั้งแต่อายุน้อย ๆ? ตอนเป็นวัยรุ่น คุณมีหลายเรื่องที่ต้องตัดสินใจ เช่น จะเรียนอะไรหรือจะทำงานอะไรและก็ยังมีเรื่องอื่นอีกหลายอย่าง การตัดสินใจเรื่องพวกนี้เป็นเหมือนการอยู่ที่สี่แยก ถ้าคุณรู้ว่าจะไปที่ไหน คุณก็ตัดสินใจได้ง่าย ๆ ว่าจะไปทางไหน เหมือนกันถ้าคุณรู้ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณจะตัดสินใจอย่างฉลาดได้ง่ายกว่า สุภาษิต 21:5 บอกว่า “แผนการของคนขยันจะสำเร็จแน่” ยิ่งคุณตั้งเป้าหมายได้เร็วเท่าไรคุณก็จะประสบความสำเร็จได้เร็วเท่านั้น พี่น้องหญิงที่ชื่อดาเมริสเจอเรื่องนี้ตอนที่เธอต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งตอนเป็นวัยรุ่น
8 ตอนที่ดาเมริสจบชั้นมัธยมปลาย เธอได้เกรดเฉลี่ยสูงมากจนทำให้เธอมีโอกาสได้ทุนเรียนฟรีในคณะกฎหมายของมหาวิทยาลัย แต่เธอเลือกที่จะทำงานพาร์ทไทม์ในธนาคาร ทำไมเธอเลือกอย่างนั้น? เธอเล่าว่า
“ฉันตั้งใจตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วว่าโตขึ้นจะเป็นไพโอเนียร์ ฉันเลยต้องทำงานแบบพาร์ทไทม์ ถ้าฉันเรียนจบกฎหมายที่มหาวิทยาลัย ฉันก็อาจหาเงินได้เยอะ แต่มันก็จะทำให้ฉันหางานแบบพาร์ทไทม์ยากด้วย” ดาเมริสเป็นไพโอเนียร์มา 20 ปีแล้ว เธอรู้สึกไหมว่าเธอได้ตั้งเป้าหมายที่ดีและตัดสินใจถูกต้องตั้งแต่เป็นวัยรุ่น? ใช่แล้ว ตอนนี้เธอก็ยังทำงานในธนาคารอยู่และได้เจอทนายความหลายคน และถ้าเธอเรียนกฎหมายเธอคงจะทำงานแบบพวกเขา แต่ทนายความพวกนั้นทำงานแบบไม่มีความสุขเลย การที่เธอเลือกเป็นไพโอเนียร์ทำให้เธอมีความสุขมากตลอดหลายปีและทำให้เธอไม่ต้องเครียดและไม่มีความสุขเหมือนพวกเขา9. ทำไมเด็ก ๆ และวัยรุ่นสมควรได้รับคำชมเชย?
9 เด็ก ๆ และวัยรุ่นหลายแสนคนทั่วโลกกำลังทำดีมากและสมควรได้รับคำชมเชย พวกเขาให้ความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระยะโฮวาและเป้าหมายของคริสเตียนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต พวกเขามีความสุขมากและในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เรียนรู้ที่จะทำตามคำแนะนำของพระยะโฮวาทุกเรื่อง ซึ่งรวมถึงเรื่องการเรียน การทำงาน และครอบครัว กษัตริย์โซโลมอนบอกว่า “ขอให้วางใจพระยะโฮวาสุดหัวใจ” และยังบอกอีกว่า “คิดถึงพระองค์เสมอไม่ว่าจะทำอะไร แล้วพระองค์จะทำให้ชีวิตราบรื่น” (สุภาษิต 3:5, 6) เด็ก ๆ และวัยรุ่น พระยะโฮวารักคุณมาก! คุณมีค่าจริง ๆ สำหรับพระองค์ พระองค์จะปกป้อง ชี้นำ และอวยพรคุณแน่นอน
เตรียมตัวดี ๆ เพื่อจะพูดกับคนอื่นเรื่องพระยะโฮวา
10. (ก) ทำไมงานประกาศเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา? (ข) อะไรจะช่วยให้คุณประกาศเก่งขึ้น?
10 เมื่อคุณตั้งใจที่จะใช้ทั้งชีวิตเพื่อทำให้พระยะโฮวาพอใจ คุณก็อยากจะบอกคนอื่นเรื่องพระองค์ พระเยซูคริสต์บอกว่า “ก่อนที่จุดจบจะมาถึง จะต้องมีการประกาศข่าวดีกับคนทุกชาติก่อน” (มาระโก 13:10) ดังนั้น งานประกาศเป็นงานเร่งด่วนจริง ๆ และต้องเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา คุณจะตั้งเป้าหมายประกาศให้บ่อยขึ้นได้ไหม? คุณจะเป็นไพโอเนียร์ได้ไหม? แต่คุณจะทำอย่างไรถ้าไม่ค่อยชอบประกาศกับคนอื่นล่ะ? และอะไรจะช่วยให้คุณประกาศเก่งขึ้น? มี 2 อย่างที่ช่วยคุณเรื่องนี้ได้คือ (1) เตรียมตัวดี ๆ และ (2) อย่ายอมแพ้ พยายามบอกคนอื่นเรื่องพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป ถ้าทำ 2 อย่างนี้แล้ว คุณอาจแปลกใจก็ได้ว่าคุณชอบงานประกาศมากขนาดไหน
11, 12. (ก) คุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเตรียมตัวพูดกับคนอื่นเรื่องพระยะโฮวา? (ข) พี่น้องวัยรุ่นคนหนึ่งมีโอกาสพูดเรื่องพระยะโฮวาที่โรงเรียนอย่างไร?
11 คุณอาจเริ่มเตรียมตัวโดยคิดถึงคำตอบสำหรับคำถามบางข้อที่เพื่อนนักเรียนอาจถาม เช่น “ทำไมถึงเชื่อว่ามีพระเจ้าล่ะ?” มีหลายบทความในเว็บไซต์ jw.org ที่ช่วยให้คุณสามารถตอบคำถามนั้นได้ เช่น ไปที่ คำสอนของคัมภีร์ไบเบิล > วัยรุ่น คุณจะเจอใบฝึกความคิดที่มีชื่อว่า “ทำไมถึงเชื่อว่ามีพระเจ้า?” ลองเขียนในใบฝึกความคิดนี้เพื่อเตรียมคำตอบของคุณเอง คุณจะเจอข้อคัมภีร์ 3 ข้อที่คุณจะใช้ได้ คือ ฮีบรู 3:4 โรม 1:20 และสดุดี 139:14 นอกจากนั้น ยังมีใบฝึกความคิดอื่น ๆ อีกที่คุณสามารถใช้เพื่อเตรียมคำตอบสำหรับคำถามต่าง ๆ—อ่าน 1 เปโตร 3:15
12 คุณอาจบอกเพื่อนนักเรียนว่าพวกเขาสามารถเข้าไปดูที่เว็บไซต์ jw.org ได้ด้วยตัวเอง ลูก้าก็เคยทำแบบนั้น ครั้งหนึ่งตอนที่เขาเรียนเรื่องศาสนาต่าง ๆ เขาสังเกตว่าในหนังสือเรียนพูดถึงพยานพระยะโฮวาผิด ๆ ถึงลูก้าจะกลัว แต่เขาก็ขออนุญาตครูว่า เขาอยากอธิบายให้เพื่อน ๆ ทั้งชั้นฟังว่าทำไมข้อมูลเกี่ยวกับพยานฯ ในหนังสือเอาชนะคนเกเรโดยไม่ใช้กำลัง เป็นการบ้าน คุณคงนึกออกว่าลูก้าจะมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้พูดคุยเรื่องพระยะโฮวาที่โรงเรียน
เรียนถึงผิด ครูอนุญาตให้ลูก้าอธิบายความเชื่อของเขา และเขายังมีโอกาสเปิดเว็บไซต์ให้เพื่อนนักเรียนดูด้วย แถมครูยังบอกให้นักเรียนคนอื่น ๆ ไปดูวีดีโอ13. ทำไมเราไม่ควรยอมแพ้เมื่อเจอปัญหา?
13 เมื่อคุณเจอปัญหา อย่ายอมแพ้ แต่ให้พยายามทำตามเป้าหมายของคุณต่อไป (2 ทิโมธี 4:2) คาทารีน่าก็ทำแบบนั้น ตอนอายุ 17 เธอตั้งเป้าหมายที่จะประกาศกับเพื่อนร่วมงานทุกคน แต่มีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งชอบพูดจาดูถูกเธอ ถึงอย่างนั้น คาทารีน่าก็ไม่ลืมเป้าหมายของตัวเอง ความประพฤติที่ดีของเธอทำให้เพื่อนร่วมงานอีกคนที่ชื่อฮันส์รู้สึกประทับใจ เขาเลยเริ่มอ่านหนังสือของเรา ศึกษาคัมภีร์ไบเบิล และรับบัพติศมา คาทารีน่าไม่รู้เรื่องนี้เลยเพราะเธอย้ายไปอยู่ที่อื่น พอ 13 ปีผ่านไปเธอก็ได้เจอเรื่องที่ทำให้เซอร์ไพรส์มาก ๆ วันหนึ่งตอนที่ไปประชุมกับครอบครัว มีผู้บรรยายจากที่อื่นมาบรรยายสาธารณะ เขาก็คือฮันส์นั่นเอง! เธอดีใจจริง ๆ ที่ไม่ได้ทิ้งเป้าหมายที่จะประกาศกับเพื่อนร่วมงาน
อย่าลืมเป้าหมายของคุณ
14, 15. (ก) คุณควรจำอะไรไว้เสมอตอนที่มีคนอื่นมากดดันให้คุณทำตามพวกเขา? (ข) คุณต้องทำอะไรเพื่อจะรับมือกับแรงกดดันจากเพื่อน ๆ ได้?
14 จนถึงตอนนี้ บทความนี้คงช่วยให้คุณตัดสินใจใช้ทั้งชีวิตเพื่อทำให้พระยะโฮวาพอใจและตั้งเป้าหมายของคริสเตียน แต่วัยรุ่นหลายคนที่อายุเท่าคุณก็แค่อยากใช้ชีวิตสนุก ๆ และพวกเขาอาจชวนคุณให้ทำเหมือนกัน แต่ไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องแสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณยึดมั่นกับสิ่งที่คุณเลือกมากแค่ไหน อย่าให้คนอื่นทำให้คุณลืมเป้าหมายนี้ ลองคิดถึงตัวอย่างที่พูดถึงตอนต้นของบทความอีกครั้ง ถ้าคุณอยู่ที่สถานีรถ คุณจะขึ้นรถคันหนึ่งแค่เพราะเห็นว่าคนที่อยู่บนนั้นกำลังทำอะไรสนุก ๆ กันโดยที่คุณไม่ได้ดูว่ารถคันนั้นจะไปที่ไหนอย่างนั้นไหม? คุณคงไม่ทำอย่างนั้นแน่ ๆ!
15 ดังนั้น คุณต้องทำอะไรเพื่อจะรับมือกับแรงกดดันสุภาษิต 22:3) ให้คิดถึงผลที่เจ็บปวดถ้าคุณทำผิด (กาลาเทีย 6:7) และคุณต้องถ่อมใจยอมรับว่าคุณต้องการคำแนะนำที่ดี คุณต้องฟังคำแนะนำของพ่อแม่และพี่น้องที่มีประสบการณ์ในประชาคม—อ่าน 1 เปโตร 5:5, 6
จากเพื่อน ๆ ได้? อย่าไปอยู่ในสถานการณ์ที่คุณอาจทนแรงกดดันหรือการล่อใจไม่ไหว (16. ประสบการณ์ของคริสตอฟแสดงให้เห็นอย่างไรว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องถ่อม?
16 ความถ่อมช่วยให้คนเรายอมรับคำแนะนำ ให้เรามาดูตัวอย่างของคริสตอฟ หลังจากที่เขารับบัพติศมาไม่นาน เขาก็เริ่มไปออกกำลังกายเป็นประจำที่ฟิตเนสแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีวัยรุ่นหลายคนชวนเขาเข้าเป็นสมาชิกทีมกีฬา คริสตอฟเลยปรึกษาเรื่องนี้กับผู้ดูแลคนหนึ่ง ผู้ดูแลบอกเขาให้คิดดี ๆ ว่ามีอันตรายอะไรบ้าง เช่น มันจะทำให้เรามีนิสัยชอบการแข่งขันไหม แต่คริสตอฟก็ยังตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกทีมกีฬา พอผ่านไปไม่นาน เขารู้สึกว่ากีฬานั้นมีแต่ความรุนแรงและถึงกับอันตรายด้วย เขาเลยไปคุยกับพวกผู้ดูแลอีกครั้ง ผู้ดูแลเปิดคำแนะนำจากคัมภีร์ไบเบิลให้เขาดู คริสตอฟบอกว่า “พระยะโฮวาส่งคนที่ให้คำปรึกษาที่ดีมาให้ผม แล้วผมก็เชื่อฟังพระองค์ ถึงจะช้าไปหน่อย” แล้วคุณล่ะ คุณถ่อมพอที่จะยอมรับคำแนะนำไหม?
17, 18. (ก) ทุกวันนี้พระยะโฮวาอยากให้วัยรุ่นได้รับอะไร? (ข) คุณต้องทำอะไรเพื่อจะไม่ต้องเสียใจทีหลังตอนที่เป็นผู้ใหญ่? ขอเล่าประสบการณ์
17 คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “หนุ่มสาวทั้งหลาย ตอนที่คุณอายุยังน้อย ขอให้มีความสุขกับช่วงที่คุณยังหนุ่มยังสาว” (ปัญญาจารย์ 11:9) พระยะโฮวาอยากให้คุณเป็นวัยรุ่นที่มีความสุข ในบทความนี้คุณได้เรียนรู้ว่าวิธีหนึ่งที่จะมีความสุขคือ คุณต้องมองที่เป้าหมายของคริสเตียนเสมอและทำตามคำแนะนำของพระยะโฮวาไม่ว่าคุณจะวางแผนทำอะไรหรือตัดสินใจเรื่องอะไร ยิ่งคุณทำแบบนี้เร็วเท่าไร คุณจะได้เจอเร็วเท่านั้นว่าพระยะโฮวาชี้นำคุณอย่างไร ปกป้องคุณอย่างไร และอวยพรคุณอย่างไร ขอให้คิดถึงคำแนะนำดี ๆ ทุกอย่างที่พระองค์ให้คุณในคัมภีร์ไบเบิลและขอให้คุณเอาคำแนะนำเหล่านั้นไปใช้ “ขอให้คิดถึงผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ตอนที่คุณยังเป็นหนุ่มเป็นสาว”—ปัญญาจารย์ 12:1
18 ไม่มีใครเป็นวัยรุ่นได้ตลอด ช่วงวัยรุ่นเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนจะโตเป็นผู้ใหญ่ น่าเสียดายที่หลายคนมาเสียใจทีหลังเพราะตั้งเป้าหมายผิดหรือไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเลยตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าคุณตั้งเป้าหมายของคริสเตียนและมองที่เป้าหมายนั้นเสมอ พอคุณโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่คุณจะมีความสุขกับสิ่งที่คุณเลือก เมอร์ยาน่าก็เป็นอย่างนั้น ตอนเป็นวัยรุ่นเธอเล่นกีฬาเก่งมากจนถึงกับถูกเชิญให้ไปแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว แต่เธอกลับเลือกที่จะรับใช้พระยะโฮวาเต็มเวลา ถึงจะผ่านไป 30 ปีแล้วเธอก็ยังรับใช้เต็มเวลาอยู่ และตอนนี้เธอแต่งงานแล้วและรับใช้เต็มเวลากับสามีด้วย เธอบอกว่าคนที่อยากมีชื่อเสียง อยากให้ใคร ๆ มานับถือ อยากมีอำนาจ และอยากรวย ไม่มีทางมีความสุขจริง ๆ เธอยังบอกด้วยว่าเป้าหมายที่ดีที่สุดคือการรับใช้พระเจ้าและช่วยผู้คนให้รู้จักพระองค์
19. ทำไมถึงดีที่คุณจะตั้งเป้าหมายของคริสเตียนและมองที่เป้าหมายนั้นเสมอตั้งแต่ยังเด็ก ๆ?
19 พวกคุณที่เป็นเด็กและวัยรุ่นสมควรได้รับคำชมจริง ๆ เพราะถึงคุณจะเจอปัญหาหลายอย่าง แต่คุณก็ยังตั้งใจใช้ทั้งชีวิตเพื่อรับใช้พระยะโฮวา คุณตั้งเป้าหมายของคริสเตียน และมองว่างานประกาศเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ไม่แค่นั้น คุณยังไม่ยอมให้โลกนี้ทำให้คุณลืมเป้าหมาย คุณมั่นใจได้ว่าความพยายามของคุณจะไม่เสียแรงเปล่า คุณมีพี่น้องที่รักและคอยสนับสนุนคุณอยู่ ดังนั้น “ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ให้ฝากเรื่องนั้นไว้กับพระยะโฮวา แล้วแผนการของคุณจะสำเร็จ”