ทำไมฉันถึงโตเร็วอย่างนี้?
หนุ่มสาวถามว่า . . .
ทำไมฉันถึงโตเร็วอย่างนี้?
“ตอนที่ฉันอยู่ชั้นประถมปีที่หก ฉันสูงกว่าเพื่อน. มันทำให้ฉันรู้สึกเคอะเขิน. ฉันมีเพื่อนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง และฉันเคยคิด อิจฉาเธอ.”—แอนนี
“เนื่องจากหน้าตาฉันดูราวกับคนวัยสิบเจ็ดหรือสิบแปด หลายคนรวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ของฉันจึงคาดว่าฉันน่าจะทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ มากกว่านี้.”—ธันยา อายุ 12 ปี.
วัยแรกรุ่น—เป็นประสบการณ์ที่พวกเราส่วนใหญ่ซึ่งผ่านมาแล้วไม่อยากจดจำ. มันทั้งน่าพิศวงและน่ากลัว. ระหว่างวัยแรกรุ่นร่างกายของคุณจะผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว, น่าตื่นเต้นเร้าใจ, และในบางครั้งทำให้ขวยเขิน. ความรู้สึกใหม่ ๆ, พลังผลักดัน, และความปรารถนาต่าง ๆ จะจู่โจ่มเข้ามา. คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ได้รับการปลอบใจจากข้อเท็จจริงที่ว่าคนในรุ่นเดียวกับพวกเขาก็เผชิญเหมือน ๆ กัน. อย่างไรก็ตาม สำหรับหนุ่มสาวบางคนวัยแรกรุ่นดูเหมือนมาเร็วเกินไป. พวกเขาพบว่าตนเองโตขึ้น, สูงขึ้น, มีการพัฒนามากขึ้น, ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อน ๆ และนักเรียนชั้นเดียวกัน.
หากสิ่งนี้เกิดกับคุณเข้าแล้ว คุณอาจได้รับการปลอบโยนก็ได้ที่ทราบว่าการโตเร็วไม่ใช่สิ่งผิดปกติ. นาฬิกาชีวภาพของแต่ละคนมีจังหวะการเดินเป็นของตนเอง และดูเหมือนของคุณเดินเร็วกว่าของเพื่อน ๆ ไปหน่อยเดียวเท่านั้น. คิดดูซิ การเปลี่ยนแปลงช่วงวัยแรกรุ่นในเด็กผู้ชายอาจเริ่มปรากฏเมื่ออายุแค่สิบขวบ และในเด็กผู้หญิง เมื่ออายุแค่แปดขวบเท่านั้น. อีกไม่นานเพื่อน ๆ ของคุณก็คงจะเริ่มประสบการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน. แต่ในระหว่างนี้คุณอาจต้องรับมือกับปัญหาบางประการ.
สิ่งที่น่ายินดีและน่าปวดร้าวของการเป็นคนสูง
เด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งบอกกับ ตื่นเถิด! ว่า “ดิฉันชอบที่เป็นเด็กสูงที่สุดในชั้นเรียน. คุณมักจะได้รับความนับถือจากผู้คน.” การศึกษาด้านนี้ชี้ว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กผู้ชายที่เติบโตเร็วจะมีข้อได้เปรียบอย่างเด่นชัดเหนือคนรุ่นเดียวกันที่เติบโตช้ากว่า. หนังสือ การพัฒนาในวัยหนุ่มสาว (ภาษาอังกฤษ) โดย บาบาร่าและฟิลิป นิวแมน กล่าวว่า “เด็กผู้ชายที่เติบโตเร็วจะสูงกว่าและแข็งแรงกว่าคนวัยเดียวกัน . . . เด็กผู้ชายที่สูงและแข็งแรงกว่ามักจะได้รับหน้าที่รับผิดชอบ ได้รับการมองว่าเป็นผู้นำของคนรุ่นเดียวกัน และได้รับการปฏิบัติราวกับพวกเขามีความอาวุโสกว่าทั้งทางสติปัญญาและร่างกาย.”
อย่างไรก็ตาม การเป็นคนที่สูงเร็วเกินไปก็มีข้อเสียเปรียบเช่นกัน. ประการหนึ่ง คุณอาจตกเป็นเหยื่อของการล้อเลียนที่ทารุณไม่รู้จบจากเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนของคุณ. เด็กสาวคนหนึ่งบอกกับ ตื่นเถิด! ว่า “ดิฉันเคยเป็นเด็กที่สูงที่สุดในชั้นเรียน. พวกเขาเรียกดิฉันว่า ‘ยายขายาว.’” เด็กหนุ่มที่ชื่อดเวนรำลึกว่า “เพื่อน ๆ จะตั้งชื่อให้ผมว่า ‘เจ้า *
นกกระยาง.’ บางครั้งพวกเขาจะถามว่า ‘อากาศข้างบนเป็นอย่างไรบ้าง?’”ช่วงที่ยากลำบากเป็นพิเศษเห็นจะได้แก่ช่วงที่แขนขาอันยาวเก้งก้างของคุณไม่ยอมทำงานประสานกัน. (เทียบเอเฟโซ 4:16.) คริสตินรำลึกถึงสมัยที่เธอเป็นวัยรุ่นว่า “ดิฉันมีรูปร่างสูงชะลูด, ผอม, และงุ่มง่าม.” ดเวนเสริมว่า “ผมเล่นกีฬาแย่มาก. ดูเหมือนว่าสมองส่งคำสั่งออกไปและแขนขาของผมจะรับคำสั่งนั้นหลังจากหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป! ผมสง่างามราวกับยีราฟเล่นสเกตล้อยังไงยังงั้น.” กระนั้นก็ตาม ขอให้มั่นใจเถิดว่าช่วงที่งุ่มง่ามนี้เป็นเรื่องธรรมดา. มันจะผ่านไปกับกาลเวลา. เช่นเดียวกันคุณอาจพบว่า “การฝึกหัดกายนั้นให้ประโยชน์” เมื่อกระทำในระดับที่พอเหมาะ. (1ติโมเธียว 4:8 ล.ม.) ยิ่งคุณใช้ร่างกายมากเท่าใดคุณก็จะพบว่าร่างกายของคุณทำงานประสานกันมากเท่านั้น.
จะว่าอย่างไรกับการตั้งฉายา และการสบประมาทต่าง ๆ นานา? อาจเป็นการยั่วยุให้คุณแก้เผ็ดโดยโต้กลับอย่างเจ็บแสบ แต่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “อย่าตอบถ้อยคนโฉดในเรื่องโฉดเขลาของเขา เกรงว่าเจ้าจะกลายเป็นอย่างเขา.” (สุภาษิต 26:4) นอกจากนั้น ในที่สุด ‘การทำชั่วตอบแทนชั่ว’ มีแต่จะทำให้สถานการณ์ที่ไม่ดีกลับแย่ลงไปอีกเท่านั้น. (โรม 12:17) คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่ามี “วารหัวเราะ.” (ท่านผู้ประกาศ 3:4 ฉบับแปลใหม่) การมีอารมณ์ขันจะช่วยคุณได้มากในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ทำให้อับอายขายหน้า. *
‘พวกเขาคิดว่าฉันแก่กว่า’
บางครั้งปัญหาไม่ได้อยู่ที่คนวัยเดียวกันแต่อยู่ที่ผู้ใหญ่ซึ่งคิดว่าคุณอายุมากกว่าอายุจริงที่คุณเป็นอยู่. ดเวนจำได้ว่า “ผมมักจะถูกเลือกจากกลุ่มเด็กด้วยกันให้เป็นผู้นำ. ครั้งหนึ่งผมยืนอยู่ใกล้เด็กกลุ่มหนึ่ง และพวกเขาก็เริ่มโยนสิ่งของต่าง ๆ ลงจากสะพาน. แล้วตำรวจก็แห่กันมาและตะคอกใส่ผมเพราะผมเป็นคนที่สูงที่สุด. ทั้ง ๆ ที่ผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น.”
กระนั้นก็ดี ในบางครั้งคุณอาจรู้สึกพอใจที่คุณได้รับการปฏิบัติเยี่ยงผู้ใหญ่คนหนึ่ง. ปัญหาคือ การเติบโตทางด้านร่างกายอาจมาเร็วกว่าการเติบโตทางจิตใจและอารมณ์. แม้คุณจะดูเป็นผู้ใหญ่ ความคิดและการหาเหตุผลของคุณอาจจะยังไม่เป็นอย่างผู้ใหญ่ แต่เหมือนคนในวัยเดียวกับคุณ. (เทียบ 1โกรินโธ 13:11.) ดังนั้น เมื่อผู้คนเรียกร้องให้คุณทำงานเยี่ยงผู้ใหญ่ คุณก็อาจลำบากใจในการทำตามที่เขาคาดหมาย.
คุณอาจจำเป็นต้องบอกเพื่อน ๆ หรือสมาชิกครอบครัวอย่างนุ่มนวลเป็นครั้งคราวว่าคุณตัวใหญ่ก็จริงแต่อายุยังน้อย. สุภาษิต 15:22 (ล.ม.) กล่าวว่า “แผนการล้มเหลวเมื่อไม่มีการพูดคุยกันเป็นความลับเฉพาะ.” ดังนั้น หากคุณรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณกำลังเรียกร้องจากคุณมากเกินไป จงบอกท่านด้วยความอ่อนสุภาพ. นิตยสารสำหรับคนหนุ่มสาวฉบับหนึ่งเสนอแนะว่าคุณอาจพูดทำนองนี้: “ลูกรู้ว่าลูกดู ตัวโตเป็นผู้ใหญ่ จึงเป็นการง่ายที่จะคาดหมายว่าลูกน่าจะทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่กว่านี้. แต่ในส่วนลึก ลูกก็ยังอยู่ในวัยที่แท้จริงของตัวเอง และในบางครั้งมันเป็นเรื่องลำบากสำหรับลูกที่จะทำและเป็นให้ได้ดั่งใจคุณพ่อคุณแม่ในทุกเรื่อง.”
อย่าคิดผิดที่จะสร้างภาพลวงตาให้ดูประหนึ่งว่าคุณมีอายุมากกว่าที่เป็นจริงโดยแสดงท่าว่ามีประสบการณ์ในชีวิตมากมาย หรือโดยการแต่งกายและการไว้ทรงผมที่ไม่เหมาะกับวัยของคุณ. คิดดูซิ มีเยาวชนบางคนที่เติบโตเร็วถึงกับเลิกคบกับเพื่อน ๆ ที่ดูอ่อนกว่าในวัยเดียวกันและพยายามที่จะทำตัวให้เข้ากับกลุ่มที่มีอายุมากกว่า! แต่ใครก็ตามที่พยายามปิดบังความเป็นจริงของเรื่องนี้อาจต้องประสบกับความอับอายขายหน้า. (เทียบบทเพลงสรรเสริญ 26:4.) ในที่สุดคนอื่น ๆ ก็จะรู้ทันการเสแสร้งของคุณ. ด้วยเหตุนี้คัมภีร์ไบเบิลจึงกล่าวอย่างฉลาดสุขุมว่า “ปัญญาย่อมอาศัยอยู่กับผู้ถ่อมลง.” (สุภาษิต 11:2; มีคา 6:8) คนที่ถ่อมใจย่อมรู้ขีดความสามารถของตนเอง.
การก่อกวนทางเพศ
การประพฤติตนด้วยความสงบเสงี่ยมอาจเป็นเครื่องป้องกันได้เช่นกันจากปัญหาหนึ่งซึ่งเด็กสาว ๆ ที่โตเร็วโดยเฉพาะมักต้องเผชิญ นั่นก็คือการก่อกวนทางเพศ. ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วอย่างน่าประหลาด รูปร่างของเด็กผู้เพลงไพเราะ 8:8,10.) อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กสาวบางคน การมีหน้าอกและสะโพกที่ขยายออกเหมือนของผู้ใหญ่อาจเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกเคอะเขิน.
หญิงสามารถเปลี่ยนไปเป็นรูปร่างของหญิงสาวที่ชวนมอง. (เทียบนักเขียนชื่อ รูธ เบล ให้ข้อสังเกตว่า “โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่กำลังโตจะตกเป็นเป้าอย่างง่ายดายต่อปฏิกิริยาของพวกผู้ชาย” เด็กผู้หญิงวัย 12 ปีชื่อเดนนิสอธิบายว่า “ตั้งแต่หนูเริ่มมีรูปร่างดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผู้คนมักจะจ้องที่ตัวหนูเวลาหนูออกไปข้างนอก.” (รูปร่างเปลี่ยนไปชีวิตจึงเปลี่ยนตาม, ภาษาอังกฤษ) เพื่อนร่วมชั้นเรียนทั้งชายและหญิงที่อยากรู้อยากเห็นอาจถึงกับพยายามจับต้องตัวคุณอย่างไม่บังควร. จึงไม่น่าแปลกใจ หนังสือ การเจริญเติบโตของคนหนุ่มสาว (ภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า “หญิงสาวที่โตเร็วอาจห่อไหล่ ใส่เสื้อกีฬาตัวใหญ่ ๆ หรือกลายเป็นคนขี้อายและสันโดษเพื่อเลี่ยงไม่ให้คนรุ่นเดียวกันสังเกตเห็นรูปร่างที่เปลี่ยนไปของพวกเธอ.”
ในขณะที่คุณไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องปิดซ่อนตัวเองใต้เสื้อผ้าหนาหลายชั้น แต่ก็เป็นการดีที่คุณจะหลีกเลี่ยงเสื้อผ้า และทรงผมที่ยั่วยุ หรือที่เรียกร้องความสนใจสู่ตัวคุณอย่างไม่เหมาะสม. ทั้งนี้สอดคล้องกับคำแนะนำของคัมภีร์ไบเบิลที่ให้แต่งกาย “ด้วยเสื้อผ้าที่จัดเรียบร้อยด้วยความสงบเสงี่ยมและสุขภาพจิตดี.”—1ติโมเธียว 2:9, ล.ม.
มีขั้นตอนอื่น ๆ อีกที่เป็นประโยชน์ซึ่งคุณอาจนำไปปฏิบัติได้. ย้อนหลังไปในสมัยแห่งคัมภีร์ไบเบิล นางรูธเผชิญกับความเป็นไปได้ที่ถูกก่อกวนทางเพศเมื่อเธอออกไปทำงานในทุ่งนาของโบอัศ. ด้วยความกรุณาโบอัศได้ ‘สั่งพวกคนหนุ่มห้ามไม่ให้ถูกต้องนาง.’ ถึงกระนั้น โบอัศได้เตือนเธอว่า “อย่าไปเก็บรวงข้าวที่นาอื่น . . . แต่อยู่ใกล้ ๆ กับทาสีของเราเถิด.” (ประวัตินางรูธ 2:8,9) ในทำนองคล้ายกัน เด็กสาวบางคนก็อยู่ใกล้ชิดกับเพื่อนหญิงคริสเตียนที่เข้าโรงเรียนเดียวกัน. พวกเขาหลีกเลี่ยงการเดินตามลำพังในที่ซึ่งรู้กันว่าอันตราย.
ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ไม่มี ใครมีสิทธิที่จะก่อกวนคุณทางเพศ—ไม่ว่าทางร่างกาย หรือทางคำพูด. หากคุณประสบปัญหาในเรื่องนี้จงคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของคุณ หรือกับผู้ใหญ่ที่คุณไว้ใจ. พวกเขาอาจมีคำแนะนำบางอย่าง หรืออาจยื่นมือเข้าช่วยในทางใดทางหนึ่ง.
แม้จะอยู่ภายใต้สภาพการณ์ที่ดีที่สุดแล้วก็ตาม วัยแรกรุ่นนับเป็นช่วงที่ยากลำบากช่วงหนึ่งของชีวิต. การมีรูปร่างโตกว่า—หรือเล็กกว่า—เพื่อนในวัยเดียวกันยิ่งทำให้ยุ่งยากเข้าไปอีก. แม้คุณจะพยายามเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ เพียงไรก็ตาม คงไม่มีอะไรที่คุณจะทำได้มากนักเกี่ยวกับการเติบโตทางร่างกาย. แต่คุณสามารถทำได้มากในการเติบโต ฝ่ายวิญญาณ. และหากคุณทำเช่นนั้น เช่นเดียวกับซามูเอลในสมัยแห่งคัมภีร์ไบเบิล คุณก็จะ “วัฒนาขึ้น . . . มีความชอบต่อพระยะโฮวา และต่อมนุษย์ด้วย.”—1ซามูเอล 2:26.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 9 บางชื่อได้รับการเปลี่ยน.
^ วรรค 11 สำหรับข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่ใช้จัดการกับการล้อเลียนจะพบได้ในบทที่ 19 ของหนังสือ ปัญหาที่คนหนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ใช้การได้ [ภาษาอังกฤษ] จัดพิมพ์โดยสมาคมว็อชเทาเวอร์ไบเบิลแอนด์แทรกแห่งนิวยอร์ก.
[รูปภาพหน้า 25]
บ่อยครั้งเยาวชนที่มีรูปร่างสูง มักจะตกเป็นเป้าของการกระเซ้าเย้าแหย่อย่างทารุณ