ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ยูคาลิปตัสมีประโยชน์อย่างไร?

ยูคาลิปตัสมีประโยชน์อย่างไร?

ยูคาลิปตัส​มี​ประโยชน์​อย่าง​ไร?

โดย​ผู้​เขียน ตื่นเถิด! ใน​ออสเตรเลีย

ต้น​ไม้​นี้​บาง​ชนิด​สูง​ใหญ่​มาก—สูง​กว่า 90 เมตร—ติด​อันดับ​โลก​ใน​จำพวก​ต้น​ไม้​ที่​สูง​มาก ๆ. บาง​ชนิด​เตี้ย​และ​บิด​ตัว​ทอด​ต่ำ​ลง​มา​จน​แทบ​จะ​ติด​พื้น​ดิน​ที่​แห้ง​ผาก. ใบ​ของ​ต้น​ไม้​พวก​นี้​เป็น​ผล​งาน​การ​ออก​แบบ​ที่​น่า​พิศวง และ​ดอก​ของ​มัน​ก็​ก่อ​ความ​ยินดี​แก่​ผู้​ที่​ได้​พบ​เห็น. คุณ​เอง​คง​เคย​ใช้​บาง​ส่วน​ของ​ต้น​ไม้​นี้ ไม่​ทาง​ใด​ก็​ทาง​หนึ่ง.

ยูคาลิปตัส​บาง​ชนิด​มี​ชื่อ​ที่​ฟัง​มี​ระดับ เช่น อัลไพน์ แอช และ​แทสเมเนียน โอ๊ก แต่​ยูคาลิปตัส​ส่วน​ใหญ่​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ทั่ว​ไป (ใน​ภาษา​อังกฤษ) ใน​นาม กัม ทรี (ต้น​ยาง). อย่าง​ไร​ก็​ตาม อัน​ที่​จริง​ยาง​ไม้​เป็น​สาร​ที่​ละลาย​น้ำ​ได้​ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​คาร์โบไฮเดรต และ​ไม่​มี​ยูคาลิปตัส​ชนิด​ไหน​ที่​ให้​สาร​แบบ​นี้. ดัง​นั้น กัม ทรี จึง​เป็น​ชื่อ​ที่​ตั้ง​ผิด. นับ​ว่า​ถูก​ต้อง​กว่า​ที่​จะ​จัด​ต้น​ไม้​พวก​นี้​ไว้​ใน​ไม้​สกุล​ยูคาลิปตัส และ​มี​สมาชิก​ใน​วงศ์​เดียว​กัน​นี้​มาก​กว่า 600 ชนิด​ซึ่ง​เป็น​พันธุ์​ไม้​พื้นเมือง​ของ​ออสเตรเลีย.

ยูคาลิปตัส​เติบโต​ได้​ดี​ใน​ภูมิ​อากาศ​เขต​ร้อน​แถบ​นอร์ทเทิร์น​แทร์ริทอรี​ของ​ออสเตรเลีย รวม​ทั้ง​บริเวณ​ที่​ราบ​อัน​แห้ง​แล้ง​ใน​เขต​ชนบท​ทุรกันดาร. แต่​ต้น​ไม้​ชนิด​นี้​ยัง​เติบโต​ได้​ดี​ด้วย​ใน​เกาะ​แทสเมเนีย​ตอน​ใต้​ซึ่ง​มี​ลม​หนาว​จาก​ทวีป​แอนตาร์กติก และ​ใน​สภาพ​ภูมิ​ประเทศ​ที่​เป็น​เทือก​เขา​ติด​ชายฝั่ง​ทะเล​ซึ่ง​มี​หมอก​ปก​คลุม. ต้น​ไม้​นี้​มี​อยู่​ทั่ว​ทุก​หน​แห่ง​จน​นัก​สำรวจ​และ​นัก​สัตววิทยา​คน​หนึ่ง​แห่ง​ศตวรรษ​ที่ 19 โอด​ครวญ​ว่า “คง​ไม่​มี​ทาง​ที่​เรา​จะ​หนี​ให้​พ้น​กัม ทรี พวก​นี้​ซึ่ง​ดู​ราว​กับ​ไม่​มี​ที่​สิ้น​สุด: ไม่​ว่า​จะ​เดิน​ไป​กี่​กิโลเมตร ก็​ไม่​มี​ใบ​ไม้​ชนิด​อื่น​ให้​เห็น​แม้​แต่​น้อย.”

นับ​ตั้ง​แต่​ที่​ชาว​ยุโรป​หลั่งไหล​เข้า​มา​ตั้ง​รกราก​ใน​ออสเตรเลีย​เมื่อ​ศตวรรษ​ที่ 19 ยูคาลิปตัส​ได้​ถูก​ทำลาย​ไป​อย่าง​มาก. ต้น​ไม้​พวก​นี้​ใน​พื้น​ที่​ประมาณ 300,000 ตาราง​กิโลเมตร​ถูก​ถอน​ทิ้ง เพราะ​ถูก​มอง​ว่า​กีด​ขวาง​ความ​ก้าว​หน้า. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใช่​ว่า​ทุก​คน​จะ​มอง​ไม่​เห็น​คุณประโยชน์​ของ​ทรัพยากร​อัน​มี​ค่า​นี้. ระหว่าง​ศตวรรษ​ที่ 19 ต้น​ไม้​ใน​วงศ์​ยูคาลิปตัส​ได้​เริ่ม​พิชิต​ใจ​คน​ทั่ว​โลก.

จักรพรรดิ​และ​ด็อกเตอร์

ใน​ทศวรรษ 1880 จักรพรรดิ​เมเนลิก​ที่ 2 แห่ง​อะบิสซิเนีย ซึ่ง​ก็​คือ​ประเทศ​เอธิโอเปีย​ใน​ปัจจุบัน ต้องการ​ต้น​ไม้​ที่​ให้​ร่ม​เงา​และ​เนื้อ​ไม้​ซึ่ง​ใช้​เป็น​ฟืน​ได้​สำหรับ​กรุง​แอดดิส อาบาบา ราชธานี​แห่ง​ใหม่​ซึ่ง​แห้ง​แล้ง​มาก. ไม่​มี​ต้น​ไม้​พื้นเมือง​ชนิด​ใด​ใน​แอฟริกา​ที่​เหมาะ​สำหรับ​พื้น​ที่​นี้​ซึ่ง​ถูก​ทำลาย​จน​หมด​สภาพ. ผู้​ชำนาญ​การ​ของ​จักรพรรดิ​จึง​มอง​หา​ต้น​ไม้​จาก​ที่​อื่น​ซึ่ง​เติบโต​ได้​ดี​ภาย​ใต้​แสง​แดด​ที่​แผด​กล้า​อย่าง​น้อย​ก็​พอ ๆ กับ​แดด​ใน​เอธิโอเปีย. “แอดดิส อาบาบา” มี​ความ​หมาย​ว่า “ดอกไม้​ใหม่” และ​ชื่อ​นี้​อาจ​ตั้ง​เพื่อ​เป็น​เกียรติ​แก่​ยูคาลิปตัส ต้น​ไม้​นำ​เข้า​ที่​มี​ประโยชน์​มาก​ซึ่ง​ได้​กลาย​เป็น​ต้น​ไม้​ที่​มี​บทบาท​สำคัญ​ต่อ​เศรษฐกิจ​ของ​เอธิโอเปีย.

อีก​บุคคล​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​ส่วน​ใน​การ​ย้าย​ถิ่น​ฐาน​ของ​ยูคาลิปตัส​ใน​สมัย​ปัจจุบัน​ได้​แก่​ดร. เอดมุนดู นาวาร์รู เดอ อังดราดี. ด้วย​ความ​ตั้งใจ​แน่วแน่​ที่​จะ​ฟื้นฟู​ป่า​ของ​บราซิล​ซึ่ง​กำลัง​ลด​ลง​อย่าง​ฮวบฮาบ ใน​ปี 1910 เขา​ได้​เริ่ม​นำ​ยูคาลิปตัส​จาก​ออสเตรเลีย​เข้า​มา​ปลูก. เขา​ดู​แล​รับผิดชอบ​การ​ปลูก​ยูคาลิปตัส 38 ล้าน​ต้น. ปัจจุบัน มี​ยูคาลิปตัส​มาก​กว่า​สอง​พัน​ล้าน​ต้น​ที่​ปลูก​ใน​บราซิล.

ด้วย​เหตุ​นั้น นอก​เหนือ​จาก​ป่า​ดิบ​ที่​มี​อยู่​แล้ว บราซิล​ยัง​อ้าง​ว่า​มี​ต้น​ยูคาลิปตัส​มาก​ที่​สุด​หาก​ไม่​นับ​ออสเตรเลีย. ผล​ประโยชน์​ที่​มี​ต่อ​เศรษฐกิจ​ของ​บราซิล​นั้น​มี​มาก​อย่าง​ยิ่ง​จน​ทำ​ให้ ดร. นาวาร์รู​ได้​รับ​เหรียญ​ประกาศ​เกียรติ​คุณ​พิเศษ​ใน​ฐานะ​บุคคล​ดี​เด่น​ที่​ทำ​ประโยชน์​แก่​สังคม จาก​การ​ที่​เขา​ริเริ่ม​นำ​ทรัพยากร​อัน​มี​ค่า​นี้​เข้า​มา​ปลูก​ใน​ประเทศ.

ต้น​ไม้​แห่ง​ชีวิต

ยูคาลิปตัส​บาง​ชนิด เช่น ยูคาลิปตัส​พันธุ์​เตี้ย ใช้​ประโยชน์​มาก​ที่​สุด​จาก​ดิน​ที่​แห้ง​จน​แตก​ระแหง​ด้วย​การ​เก็บ​น้ำ​ปริมาณ​มาก​ไว้​ที่​ราก​ของ​มัน. ชน​เผ่า​พื้นเมือง​ออสเตรเลีย​และ​นัก​สำรวจ​ยุค​แรก​รอด​ชีวิต​ใน​ชนบท​ทุรกันดาร​โดย​อาศัย ‘ขวด​น้ำ’ ใต้​ดิน​นี้​เอง. ราก​ส่วน​ที่​อยู่​ใกล้​ผิว​ดิน​ถูก​ขุด​ขึ้น​มา​และ​หัก​เป็น​ท่อน​สั้น ๆ. เมื่อ​เป่า​ลม​เข้า​ไป​ใน​ท่อน​นี้ น้ำ​เลี้ยง​สี​น้ำตาล​อ่อน ๆ ก็​จะ​หยด​ออก​มา. แม้​ว่า​ไม่​ใช่​น้ำ​ที่​น่า​ดื่ม​เท่า​ใด​นัก แต่​ราก​ที่​ยาว​เก้า​เมตร​สามารถ​ให้​ของ​เหลว​ที่​ช่วย​ชีวิต​นี้​ได้​ประมาณ 1.5 ลิตร.

สมาชิก​อื่น​ใน​วงศ์​ยูคาลิปตัส​เติบโต​ได้​ดี​ใน​ที่​ลุ่ม​ชื้น​แฉะ และ​ดูด​น้ำ​จาก​ดิน​ที่​เปียก​ชุ่ม​ได้​ดี​มาก. ชาว​อิตาเลียน​ใช้​ประโยชน์​จาก​ความ​สามารถ​พิเศษ​นี้​โดย​ปลูก​ยูคาลิปตัส​ชนิด​นี้​เพื่อ​ช่วย​ดูด​น้ำ​จาก​ที่​ลุ่ม​ชื้น​แฉะ​ปอนตีเน​ซึ่ง​เมื่อ​ก่อน​มี​ยุง​ชุม. ปัจจุบัน พื้น​ที่​แห่ง​นี้​เปลี่ยน​แปลง​ไป​จน​กลาย​เป็น​ที่​ดิน​อัน​มี​ค่า​ทาง​การ​เกษตร.

ประเทศ​ต่าง ๆ มาก​กว่า 50 ประเทศ​ทั่ว​ทวีป​แอฟริกา, อเมริกา, เอเชีย, และ​ยุโรป​ต่าง​ก็​ยอม​รับ​คุณค่า​ของ​ยูคาลิปตัส​ใน​ด้าน​การ​ค้า​และ​ความ​งาม. ช่าง​ทำ​เฟอร์นิเจอร์​ยกย่อง​ไม้​ยูคาลิปตัส​ซึ่ง​มี​สี​แดง​เข้ม​สด​และ​สี​อำพัน​ว่า​เป็น​ไม้​ที่​มี​ค่า​มาก. แหล่ง​ข้อมูล​หนึ่ง​บอก​ว่า “ไม้​ยูคาลิปตัส​เป็น​ไม้​ที่​หนัก​ที่​สุด, แข็ง​ที่​สุด, และ​ทนทาน​ที่​สุด​เท่า​ที่​เคย​รู้​จัก​กัน. คุณภาพ​ของ​ไม้ ประกอบ​กับ​อัตรา​การ​เติบโต​ที่​รวด​เร็ว . . . ทำ​ให้​ต้น​ไม้​สกุล​นี้​เป็น​แหล่ง​ของ​ไม้​เนื้อ​แข็ง​ที่​มี​ค่า​ที่​สุด​ใน​โลก.”

ไม้​ที่​กัน​น้ำ​ได้​ของ​ยูคาลิปตัส​บาง​พันธุ์​ใช้​ใน​การ​สร้าง​เรือ, ท่า​เทียบ​เรือ​เดิน​สมุทร, เสา​โทรศัพท์, รั้ว, และ​แผ่น​ทาง​เท้า. นอก​จาก​นั้น ดอก​อัน​สวย​งาม​ของ​พันธุ์​ที่​ชื่อ​เยลโลว์ บอกซ์ และ​ไอออน บาร์ก มี​น้ำ​หวาน​ซึ่ง​ผึ้ง​จะ​เปลี่ยน​ให้​เป็น​น้ำ​ผึ้ง​ที่​มี​รสชาติ​อร่อย​เป็น​พิเศษ. ใน​ช่วง​ไม่​กี่​ปี​มา​นี้ มี​การ​ส่ง​ออก​ไม้​ยูคาลิปตัส​ชิ้น​เล็ก ๆ จาก​ออสเตรเลีย 4.5 ล้าน​ตัน ทำ​ราย​ได้​ให้​ปี​ละ 250 ล้าน​ดอลลาร์.

คีโน, น้ำมัน, และ​แทนนิน

สาร​สี​แดง​เข้ม​คล้าย​ยาง​ไม้​ที่​เรียก​ว่า คีโน จะ​ไหล​เยิ้ม​ออก​มา​จาก​เปลือก​และ​เนื้อ​ไม้​ของ​ยูคาลิปตัส. คีโน​บาง​ชนิด​ใช้​ใน​การ​ป้องกัน​เนื้อ​ไม้​จาก​เพรียง. นอก​จาก​นี้ คีโน​ยัง​ใช้​เป็น​ยา​ห้าม​เลือด​ได้​ด้วย. เปลือก​ของ​ยูคาลิปตัส​ชนิด​อื่น​มี​สาร​แทนนิน​ซึ่ง​ใช้​สำหรับ​ฟอก​หนัง​และ​ย้อม​เส้นใย.

ใบ​ของ​มัน​เป็น​ผล​งาน​การ​ออก​แบบ​ที่​น่า​พิศวง​และ​เป็น​ที่​เก็บ​น้ำมัน​อัน​มี​ค่า. ใบ​จะ​ลู่​ลง ดู​ราว​กับ​นิ้ว​มือ​ที่​อ่อน​ปวกเปียก โดย​ปลาย​ใบ​จะ​ชี้​ไป​ที่​โคน​ต้น. การ​ออก​แบบ​เช่น​นี้​ช่วย​ให้​ใบ​ทำ​หน้า​ที่​คล้าย​กับ​กรวย​ขนาด​ใหญ่. ความ​ชื้น​อัน​มี​ค่า​จับ​ตัว​อยู่​บน​ผิว​ใบ แล้ว​ก็​หยด​เป็น​น้ำ​จาก​ปลาย​ใบ​ที่​เหนียว​และ​แข็ง​ลง​ไป​สู่​ระบบ​ราก​ที่​รอ​อยู่.

น้ำมัน​ยูคาลิปตัส​ซึ่ง​มี​กลิ่น​หอม​แรง​และ​ทำ​ให้​กระปรี้กระเปร่า​ถูก​สกัด​จาก​ใบ​ด้วย​วิธี​อบ​ไอ​น้ำ​และ​กลั่น. มี​การ​นำ​น้ำมัน​นี้​ไป​ใช้​อย่าง​กว้างขวาง เช่น ใน​น้ำหอม, สบู่, ยา, ลูก​กวาด, และ​ผลิตภัณฑ์​ทำ​ความ​สะอาด. โดย​ธรรมชาติ​แล้ว น้ำมัน​ของ​ยูคาลิปตัส​จะ​ระเหย​จาก​ใบ​และ​ทำ​ให้​อากาศ​เต็ม​ไป​ด้วย​ละออง​น้ำมัน​ขนาด​จิ๋ว​ซึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​การ​หักเห​ของ​แสง ยัง​ผล​ให้​ป่า​ยูคาลิปตัส​เป็น​สี​น้ำเงิน​ซึ่ง​เป็น​สี​สัน​ที่​โดด​เด่น​ไม่​เหมือน​ป่า​อื่น​ใด. เทือก​เขา​บลู​เมาน์เทน (ภูเขา​สี​น้ำเงิน) ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​ตรง​สุด​เขต​แดน​ด้าน​ตะวัน​ตก​ของ​กรุง​ซิดนีย์ ถูก​เรียก​ขาน​ด้วย​ชื่อ​ที่​ไม่​ธรรมดา​เช่น​นั้น​เนื่อง​ด้วย​ปรากฏการณ์​นี้​เอง.

ที่​อยู่​ของ​นัก​กิน​ผู้​พิถีพิถัน

สัตว์​ที่​มี​ชื่อเสียง​ที่​สุด​ซึ่ง​อาศัย​ใน​ป่า​ยูคาลิปตัส​ได้​แก่​สัตว์​ที่​น่า​รัก​ตัว​กลม ๆ มี​ขน​ปุกปุย​ซึ่ง​เรียก​กัน​ว่า โคอาลา. สัตว์​กิน​พืช​ที่​ช่าง​เลือก​ชนิด​นี้​ชอบ​กิน​แต่​ส่วน​ปลาย​ใบ​ยูคาลิปตัส 12 พันธุ์​หรือ​มาก​กว่า​นั้น​เล็ก​น้อย. การ​เลือก​กิน​อาหาร​เฉพาะ​อย่าง​เช่น​นี้​คง​ก่อ​ผล​เสียหาย​ร้ายแรง​ถึง​ตาย​สำหรับ​สัตว์​ส่วน​ใหญ่ แต่​ไม่​ใช่​โคอาลา. เพราะ​เหตุ​ใด?

ที่​เป็น​อย่าง​นี้​เพราะ​ระบบ​ย่อย​อาหาร​ของ​โคอาลา​ที่​ออก​แบบ​ไว้​เป็น​พิเศษ ซึ่ง​รวม​ถึง​ไส้​ติ่ง​ที่​ยาว​หนึ่ง​ถึง​สอง​เมตร. เมื่อ​เทียบ​กัน ไส้​ติ่ง​ของ​มนุษย์​ยาว​เพียง 8 ถึง 15 เซนติเมตร. ไส้​ติ่ง​ที่​ยาว​เป็น​พิเศษ​ของ​โคอาลา​ทำ​ให้​สัตว์​ตัว​น้อย ๆ นี้​สามารถ​สกัด​เอา​โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, และ​ไขมัน​ทั้ง​หมด​ที่​มัน​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ จาก​อาหาร​พิเศษ​ที่​มัน​กิน.

สัตว์​พื้นเมือง​ของ​ออสเตรเลีย​ที่​รู้​จัก​กัน​น้อย​กว่า ซึ่ง​เลือก​กิน​เฉพาะ​ใบ​ยูคาลิปตัส​เช่น​เดียว​กับ​โคอาลา ได้​แก่​โอพอสซัม​ชนิด​ที่​มี​ขนาด​ใหญ่​ที่​สุด​ซึ่ง​กระโจน​ร่อน​ได้. สัตว์​ที่​มี​กระเป๋า​หน้า​ท้อง​ไว้​เลี้ยง​ลูก​และ​มี​ขน​ปุกปุย​ชนิด​นี้​มี​ขนาด​พอ ๆ กับ​แมว​บ้าน. มัน​มี​หาง​ซึ่ง​มี​ขน​หยาบ​หนา​เป็น​ปึก​ยาว​ประมาณ 40 เซนติเมตร​และ​มี​แผ่น​หนัง​ที่​ยืด​ออก​ได้​เชื่อม​ระหว่าง​อุ้ง​เท้า​หน้า​กับ​อุ้ง​เท้า​หลัง. โดย​ใช้​ปีก​ที่​เป็น​แผ่น​หนัง​ดัง​กล่าว โอพอสซัม​จะ​กระโจน​จาก​กิ่ง​ไม้​กิ่ง​หนึ่ง ร่อน​ไป​ได้​ไกล​ถึง 100 เมตร หัก​เลี้ยว 90 องศา​กลาง​อากาศ แล้ว​ก็​คว้า​จับ​กิ่ง​ไม้​ถัด​ไป​ไว้​ได้​อย่าง​ปลอด​ภัย.

ไฟ​ป่า​และ​การ​ฟื้น​ตัว

ไฟ​ป่า​เป็น​ภัย​ที่​คุกคาม​ป่า​ยูคาลิปตัส. ถึง​กระนั้น ต้น​ไม้​ชนิด​นี้​ถูก​ออก​แบบ​ไว้​ให้​รอด​จาก​ไฟ​ป่า​ได้. เป็น​เช่น​นั้น​อย่าง​ไร?

ตาม​ลำ​ต้น​และ​กิ่ง​ของ​ยูคาลิปตัส​มี​ตา​ใบ​ซ่อน​อยู่ โดย​ฝัง​ตัว​ใต้​ชั้น​เปลือก​ไม้. เมื่อ​ยูคาลิปตัส​ถูก​ไฟ​ป่า​เผา​เปลือก​และ​ใบ​ไป​หมด ตา​เหล่า​นี้​ก็​จะ​แตก​ใบ. ตา​ที่​แตก​ใบ​อ่อน​เหล่า​นี้​จะ​คลุม​ลำ​ต้น​ที่​ดำ​เป็น​ตอ​ตะโก​เหมือน​สวม​ด้วย​เสื้อ​คลุม. ผล​คือ ต้น​หลัก​สามารถ​รอด​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป. นอก​จาก​นั้น เมล็ด​ของ​ต้น​ไม้​ชนิด​นี้​ซึ่ง​พัก​ตัว​อยู่​ที่​พื้น​ดิน​มัก​ฉวย​โอกาส​นี้​งอก​ขึ้น ทำ​ให้​เกิด​มี​ต้น​ใหม่​เติบโต​ขึ้น​มา.

ต้น​ไม้​ที่​น่า​ขอบคุณ

คุณ​เคย​บรรเทา​อาการ​เจ็บ​คอ​ด้วย​ยา​ที่​สกัด​จาก​ยูคาลิปตัส หรือ​ลิ้ม​รส​ลูก​อม​รส​น้ำ​ผึ้ง​ที่​ได้​จาก​ดอก​ต้น​ยูคาลิปตัส​ไหม? คุณ​เคย​โดยสาร​ไป​กับ​เรือ​ที่​ต่อ​โดย​ใช้​ไม้​ยูคาลิปตัส หรือ​อยู่​ใน​บ้าน​ที่​สร้าง​ขึ้น​และ​ใช้​ฟืน​จาก​ไม้​ยูคาลิปตัส​ไหม? เป็น​ไป​ได้​มาก​ที​เดียว​ว่า​คุณ​เคย​ได้​รับ​ประโยชน์​บาง​อย่าง​จาก​ต้น​ไม้​ที่​น่า​ทึ่ง​นี้. ดัง​นั้น คราว​ต่อ​ไป​ที่​คุณ​เห็น​เจ้า​โคอาลา​ขน​ปุกปุย—หรือ​ชม​จาก​ภาพ​ถ่าย—ขอ​ให้​นึก​ถึง​การ​ออก​แบบ​อัน​น่า​อัศจรรย์​ของ​ต้น​ยูคาลิปตัส​ซึ่ง​เป็น​ที่​อยู่​ของ​มัน.

จริง​ที​เดียว ยูคาลิปตัส​เป็น​ต้น​ไม้​สารพัด​ประโยชน์​และ​ทนทาน​ซึ่ง​สามารถ​นำ​มา​ใช้​ประโยชน์​ได้​มาก.

[ภาพ​หน้า 16, 17]

ต้น​ยูคาลิปตัส​ติด​อันดับ​โลก​ใน​จำพวก​ต้น​ไม้​ที่​สูง​มาก ๆ

[ภาพ​หน้า 17]

ผึ้ง​ใช้​น้ำ​หวาน​ของ​ยูคาลิปตัส​ใน​การ​ผลิต​น้ำ​ผึ้ง​รส​เยี่ยม

[ภาพ​หน้า 18]

ไม้​ยูคาลิปตัส “เป็น​ไม้​ที่​หนัก​ที่​สุด, แข็ง​ที่​สุด, และ​ทนทาน​ที่​สุด​เท่า​ที่​เคย​รู้​จัก​กัน”

[ภาพ​หน้า 18]

โคอาลา (รูป​ซ้าย) และ​โอพอสซัม​ขนาด​ใหญ่​ซึ่ง​กระโจน​ร่อน​ได้ (รูป​บน) กิน​ใบ​ยูคาลิปตัส​เป็น​อาหาร

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© Alan Root/Okapia/PR

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 16]

Geoff Law/The Wilderness Society

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 17]

Courtesy of the Mount Annan Botanic Gardens