สถิติประชากร, คัมภีร์ไบเบิล, และอนาคต
สถิติประชากร, คัมภีร์ไบเบิล, และอนาคต
โดยผู้เขียนตื่นเถิด! ในสวีเดน
ครอบครัวมนุษย์ได้เพิ่มจาก 1,650 ล้านคนเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 เป็น 6,000 ล้านคนอย่างแทบไม่น่าเชื่อในตอนสิ้นศตวรรษ. ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอัตราที่น่าทึ่งแบบนี้ไหม? สหัสวรรษนี้จะเห็นจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไหม? ผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้ปลุกปล้ำกับปัญหาอันซับซ้อนเช่นนั้นถูกเรียกว่านักประชากรศาสตร์ สาขาวิชาที่พวกเขาศึกษาเรียกว่าประชากรศาสตร์.
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 นิยามคำประชากรศาสตร์ว่าเป็น “การศึกษาสถิติเกี่ยวกับประชากรด้านอัตราการเกิด, การตาย, การย้ายถิ่น, และการอยู่กระจายในที่ต่าง ๆ รวมทั้งผลกระทบที่มีต่อสภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจ.” พวกผู้เชี่ยวชาญศึกษาปัจจัยสามประการซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรอย่างเห็นได้ชัด นั่นคืออัตราการเจริญพันธุ์ (จำนวนเด็กที่เกิด); อัตราการตาย (จำนวนคนที่ตาย); และอัตราการย้ายถิ่น (จำนวนคนที่ย้ายจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่ง).
ประชากรศาสตร์เชิงประวัติศาสตร์เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการเพิ่มและการขึ้นลงของจำนวนประชากรในอดีต. นักประชากรศาสตร์เชิงประวัติศาสตร์จะเรียนรู้ให้ได้มากที่สุดในเรื่องอารยธรรมโบราณโดยการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนในบันทึก, ซากปรักหักพัง, โครงกระดูก, และวัตถุอื่น ๆ ที่มนุษย์ทำขึ้น. การศึกษาประชากรศาสตร์เชิงประวัติศาสตร์นั้นส่วนหนึ่งอาศัยการกะประมาณและส่วน
หนึ่งอาศัยวิทยาศาสตร์. หนังสือสมุดแผนที่แสดงประวัติศาสตร์ประชากรโลก (ภาษาอังกฤษ) ยอมรับว่า “สมมุติฐานของนักประชากรศาสตร์เชิงประวัติศาสตร์ไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีการที่ก้าวหน้าในปัจจุบันและจึงเป็นไปไม่ได้ที่สมมุติฐานเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือในความรู้สึกของนักสถิติ.” แต่กระนั้น สมมุติฐานด้านประชากรศาสตร์เป็นเรื่องที่นักศึกษาพระคัมภีร์ให้ความสนใจ. ที่จริง สมมุติฐานเหล่านี้มักจะสอดคล้องลงรอยกับเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล.การเพิ่มประชากรภายหลังน้ำท่วมโลก
คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่ามีแปดคนเท่านั้นที่รอดชีวิตในคราวน้ำท่วมโลกสมัยโนฮา. นักประชากรศาสตร์บางคนคาดเดาว่า ประมาณ 1,400 ปีต่อมา ประชากรบนแผ่นดินโลกอาจมีถึง 50 ล้านคน. การเพิ่มจาก 8 คนเป็น 50 ล้านคนในระยะเวลา 1,400 ปีเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรือ?
ประการแรก ตัวเลข 50 ล้านนี้เป็นเพียงการกะประมาณ. อย่างไรก็ตาม นับว่าน่าสนใจที่จะสังเกตถ้อยคำที่กล่าวในคัมภีร์ไบเบิลที่เยเนซิศ 9:1 ดังนี้: “พระเจ้าได้ทรงอวยพระพรให้โนฮาและบุตรทั้งหลายของท่านตรัสว่า, ‘จงบังเกิดพงศ์พันธุ์ให้ทวีมากทั่วแผ่นดิน.’” แล้วเราอ่านที่บท 10 และบท 11 เกี่ยวกับ 70 ครอบครัวที่สืบเชื้อสายจากบุตรชายสามคนของโนฮา ได้แก่ เซม, ฮาม, และยาเฟ็ธ. เมื่ออ่านต่อไป เราจะเห็นลำดับวงศ์วานของบุคคลต่าง ๆ ตั้งแต่เซมถึงอับราฮาม ซึ่งต่างก็ “มีบุตรชายหญิงหลายคน.” นั่นอาจเป็นช่วงที่มีอัตราการเจริญพันธุ์สูง สอดคล้องกับพระบัญชาของพระเจ้าที่ให้บังเกิดลูกหลาน “มากทั่วแผ่นดิน.”
แล้วอัตราการตายล่ะ? พระธรรมเยเนซิศบทเดียวกันพรรณนาถึงช่วงชีวิตอันยาวนานมากของมนุษย์ระหว่างช่วงเวลาสองสามร้อยปีแรกภายหลังน้ำท่วมโลก. * เมื่อมีอัตราการเกิดสูงประกอบกับอัตราการตายต่ำ ผลก็คือจำนวนประชากรได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.
ชาวอิสราเอลอาศัยอยู่ชั่วคราวในอียิปต์
นักวิจัยบางคนรู้สึกแคลงใจกับบันทึกในคัมภีร์ไบเบิลที่กล่าวถึงการเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็วท่ามกลางพวกอิสราเอลในระหว่างที่พวกเขาอาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า นอกจากบรรดาภรรยาของบุตรยาโคบ “นับคนทั้งปวงในวงศ์ของยาโคบที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศอายฆุบโตได้เจ็ดสิบคน.” (เยเนซิศ 46:24, 25) กระนั้น เมื่อชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์อีก 215 ปีต่อมา เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ “นับแต่ผู้ชายประมาณได้หกแสนคน, เด็กมิได้นับ.” (เอ็กโซโด 12:37) เมื่อเรานับทั้งพวกผู้หญิงและลูกเล็กเด็กแดง ก็อาจมีชาวอิสราเอลมากถึงสามล้านคนทีเดียว! การทวีจำนวนดังกล่าวเป็นไปได้ไหม?
ที่จะตอบคำถามนั้น ให้เราสังเกตอย่างถี่ถ้วนว่าคัมภีร์ไบเบิลกล่าวเช่นไรเกี่ยวกับการเพิ่มประชากรของชาวอิสราเอลในอียิปต์: “ฝ่ายเชื้อสายอิสราเอลมีบุตรหลานมากและเพิ่มจำนวนขึ้นมาก พวกเขาทวีมากขึ้นและมีกำลังมากทีเดียวแพร่หลายไปจนเต็มเมืองนั้น.” การเพิ่มประชากรชาวอิสราเอลในสมัยนั้นเป็นกรณียกเว้น.—เอ็กโซโด 1:7, ฉบับแปลใหม่
น่าสนใจ มีการเพิ่มประชากรในลักษณะคล้ายกันในประเทศต่าง ๆ สมัยปัจจุบัน อาทิ ประเทศเคนยาในช่วงทศวรรษ 1980. แต่สิ่งที่ทำให้การเพิ่มประชากรของชาวอิสราเอลเป็นกรณียกเว้นก็คือช่วงการเพิ่มทวีนั้นกินเวลายาวนาน.
คัมภีร์ไบเบิลเองให้เหตุผลอีกประการหนึ่งสำหรับการเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็วของชาวอิสราเอล. ตอนที่ชาวอิสราเอลอยู่ในประเทศอียิปต์นั้นไม่มีการขาดแคลนอาหาร. ปรากฏชัดว่า เมื่อเกิดการอดอยากขาดแคลน ผู้คนจำนวนมากล้มตายทั้งที่ยังหนุ่มแน่น. ผลคือมีเด็กเกิดน้อยลงในช่วงนั้น. อย่างไรก็ตาม คัมภีร์ไบเบิลบ่งชี้ว่าชาวอิสราเอลมีอาหารกินอย่างอุดมบริบูรณ์. เมื่อครอบครัวของโยเซฟมาถึงอียิปต์ ฟาโรห์รับสั่งแก่โยเซฟดังนี้: “จงเลือกแผ่นดินอันดีที่สุดให้บิดาและพี่น้องของท่านอาศัยอยู่: คือให้เขาอาศัยอยู่ในเมืองโฆเซ็น.” เยเนซิศ 47:6) แม้ภายหลังชาวอิสราเอลได้กลายเป็นทาสชาวอียิปต์ ดูเหมือนว่าพวกเขายังมีอาหารเพียงพอ. ที่จริง หลังจากได้รับการช่วยให้พ้นจากสภาพทาสแล้ว พวกอิสราเอลยังคิดถึงขนมปัง, ปลา, แตงกวา, แตงโม, ต้นหอม, หัวหอม, กระเทียม, และหม้อเนื้อที่พวกเขาเคยกินขณะที่เป็นทาส.—เอ็กโซโด 16:3; อาฤธโม 11:5.
(ระหว่างศตวรรษแรกแห่งสากลศักราช
ประชากรศาสตร์ยังช่วยให้เข้าใจพระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีกกระจ่างขึ้นอีกด้วย. ยกตัวอย่าง เมื่อเราอ่านพระบัญชาของพระเยซูที่สั่งให้สาวกของพระองค์ “ออกไปสั่งสอนชนทุกประเทศให้เป็นสาวก” เราอาจสงสัยก็ได้ว่า ‘เขตงานมอบหมายที่ให้ออกไปประกาศนั้นกว้างไกลแค่ไหน?’ (มัดธาย 28:19) มีประชาชนจำนวนเท่าไรที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิโรมันสมัยศตวรรษแรก? บางคนกะประมาณว่ามีประชากรราว ๆ 50 ล้านถึง 60 ล้านคน. ถ้าเป็นจริงอย่างนั้น คริสเตียนผู้เผยแพร่รุ่นแรก ๆ คงต้องทำงานหนักทีเดียว!
เมื่ออ่านพระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีก เราทราบว่าอัครสาวกเปโตรได้เดินทางไปยังเมืองบาบิโลนแดนไกลเพื่อประกาศข่าวดีที่นั่น. (1 เปโตร 5:13) ทำไมท่านเลือกบาบิโลน? คำอธิบายในสารานุกรมบริแทนนิกาฉบับใหม่ ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ศูนย์กลางสำคัญของประชากรยิวที่อยู่นอกดินแดนปาเลสไตน์ก็คือในประเทศซีเรีย, เอเชียไมเนอร์, บาบิโลเนีย, และอียิปต์ กะประมาณว่าศูนย์กลางแต่ละแห่งมีชาวยิวไม่น้อยกว่า 1,000,000 คน.” เนื่องจากเปโตรได้รับมอบหมายให้ประกาศแก่พวกยิวโดยเฉพาะ ดังนั้น จึงมีเหตุผลที่ท่านเดินทางไปยังชุมชนที่นับถือศาสนายูดาย ซึ่งก็คือที่เมืองบาบิโลน. (ฆะลาเตีย 2:9) และในเมื่อที่นั่นมีประชากรชาวยิวมากมาย เขตงานของท่านคงไม่หมดง่าย ๆ!
อนาคตจะเป็นอย่างไร?
ดังที่เราได้เห็น นักประชากรศาสตร์สนใจรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มนุษย์. พวกเขาพูดอะไรบ้างเกี่ยวกับอนาคต? คำถามสำคัญ ๆ ถูกยกขึ้นมา. ประชากรจะเพิ่มอย่างรวดเร็วในช่วงสหัสวรรษนี้ไหม? ไม่มีใครรู้แน่นอน. เนื่องจากมีการสังเกตว่าหลายประเทศมีอัตราการเกิดลดลง นักวิจัยบางคนจึงคาดการณ์ว่าประชากรโลกจะอยู่ในระดับคงที่.
แต่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทุกคนเห็นด้วย. หนังสือประชากรในปัจจุบัน (ภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า “ปัจจุบัน มีการแบ่งประเทศต่าง ๆ เป็นสองกลุ่มโดยดูจากการเพิ่มจำนวนประชากรคือ ประเทศที่มีอัตราการเจริญพันธุ์อยู่ที่บุตรสองคนหรือต่ำกว่านั้นต่อคู่สมรสหนึ่งคู่ และประเทศที่มีอัตราการเจริญพันธุ์สูงกว่านั้น. ‘กลุ่มประเทศที่มีบุตรสองคนหรือน้อยกว่านั้น’ ได้แก่ประเทศในแถบยุโรป, สหรัฐ, แคนาดา, ญี่ปุ่น และอีกสองสามประเทศที่เปลี่ยนเป็นประเทศอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว . . . ในทางกลับกัน ‘กลุ่มประเทศที่มีประชากรเพิ่มอย่างรวดเร็ว’ ส่วนใหญ่ได้แก่ประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกา, เอเชีย, และลาตินอเมริกา ซึ่งอัตราการเจริญพันธุ์สูงกว่าบุตรสองคนต่อคู่สมรสหนึ่งคู่. มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกอาศัยอยู่ในประเทศเหล่านี้ ซึ่งเฉลี่ยแล้วผู้หญิงคนหนึ่งให้กำเนิดบุตรสี่คน.”
ดังนั้น ขณะที่การเพิ่มประชากรในบางประเทศลดน้อยลง แต่บางประเทศกลับมีประชากรเพิ่มขึ้นหรือคงที่. หนังสือประชากรในปัจจุบัน สรุปเรื่องความคาดหวังในอนาคตดังนี้: “สำหรับประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ การเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็วยังไม่จบสิ้น. ตลอดทั่วโลก ‘การเพิ่มจำนวนประชากรอย่างรวดเร็ว’ จะยุติได้จริง ไม่ใช่แค่ในจินตนาการ ขึ้นอยู่กับว่าประเทศต่าง ๆ จะตั้งใจทุ่มทุนให้แก่โครงการที่ทำขึ้นเพื่อลดอัตราการตายของทารก, ให้ความรู้แก่สตรี, และจัดให้มีการวางแผนครอบครัวได้รวดเร็วและมากน้อยเพียงใด.”
แผ่นดินโลกจะมีผู้คนอาศัยอยู่เพิ่มขึ้นจากหกพันล้านคนอย่างในปัจจุบันนี้มากไหม? กาลเวลาจะบอกเรา. แต่พวกเราทราบว่าพระประสงค์ของพระเจ้าคือให้มีมนุษย์อยู่ทั่วแผ่นดินหรือเต็มแผ่นดินโลก ไม่ใช่ล้นโลก. (เยเนซิศ 1:28) และเรามีเหตุผลที่มั่นใจได้ทุกประการว่าภายใต้ราชอาณาจักรของพระเจ้า เรื่องนี้จะสำเร็จแน่นอน.—ยะซายา 55:10, 11.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 9 ต่อมา ช่วงชีวิตมนุษย์ลดลงเหลือ 70 หรือ 80 ปี ดังโมเซกล่าวไว้ประมาณปี 1,500 ก่อนสากลศักราช.—บทเพลงสรรเสริญ 90:10.
[ภาพหน้า 12]
พวกที่รอดชีวิตในคราวน้ำท่วมโลกเริ่มขยายเป็นประชากรโลก ซึ่งเวลานี้เกินหกพันล้านคนแล้ว
[ภาพหน้า 13]
ภายในเวลา 215 ปี ชาวอิสราเอลจำนวนน้อยในประเทศอียิปต์ได้เพิ่มมากขึ้นถึง 3 ล้านคน