ฉันจะหลีกเลี่ยงอันตรายจากแชตรูมได้อย่างไร?
หนุ่มสาวถามว่า . . .
ฉันจะหลีกเลี่ยงอันตรายจากแชตรูมได้อย่างไร?
“ตามปกติแล้ว ผมจะเข้าไปคุยในแชตรูมวันละสามสี่ชั่วโมง. บางครั้ง ผมคุยรวดเดียวหกหรือเจ็ดชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ.”—โฮเซ. *
แชตรูมก็เหมือนกับสถานที่อื่น ๆ ที่เป็นแหล่งรวมคนแปลกหน้า นั่นคือมีอันตรายหลายอย่างที่คุณต้องระวัง. เพื่อเป็นตัวอย่าง หากคุณต้องเข้าไปในเมืองใหญ่เมืองหนึ่ง คงมีเหตุผลที่คุณจะพยายามรู้ให้ได้ว่าพื้นที่ใดเป็นเขตอันตรายและไม่ไปพื้นที่นั้นเพื่อคุณจะได้รับอันตรายน้อยที่สุด.
ความจริงข้อนี้ก็ใช้ได้เช่นกันหากคุณต้องเข้าไปในแชตรูม. วารสารตื่นเถิด! ฉบับวันที่ 8 ตุลาคมได้พิจารณาอันตรายที่แฝงอยู่ในแชตรูมไปแล้วสองอย่าง อันตรายที่ว่าก็คือ คุณอาจกำลังติดต่อกับนักล่าเหยื่อทางเพศและคุณอาจถูกล่อใจให้เป็นคนหลอกลวง. มีอันตรายอื่น ๆ อีกที่สมควรจะพิจารณา. แต่ก่อนอื่น แชตรูมมีการจัดทำอย่างไร?
จัดทำตามวัตถุประสงค์
ตามปกติแล้วมีการจัดทำแชตรูมตามหัวเรื่องที่คนกลุ่มหนึ่ง ๆ สนใจ. บางแชตรูมอาจทำขึ้นเพื่อคนที่สนใจกีฬาหรืองานอดิเรกบางอย่างเป็นพิเศษ. ส่วนแชตรูมอื่น ๆ อาจทำขึ้นเพื่อให้สนทนากันเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์. นอกจากนี้ยังมีแชตรูมอื่น ๆ ที่อาจทำขึ้นเพื่อคนที่อ้างตัวว่าเป็นสมาชิกของศาสนาหนึ่งโดยเฉพาะ.
หากคุณเป็นพยานพระยะโฮวา ความอยากรู้อยากเห็นอาจทำให้คุณอยากเข้าไปในแชตรูมที่อ้างว่าเป็นห้องสนทนาที่พยานฯ หนุ่มสาวทั่วโลกจะเข้าไปหาเพื่อนใหม่ได้. การหาเพื่อนท่ามกลางหนุ่มสาวที่มีความเชื่อเช่นเดียวกับคุณเป็นเป้าหมายที่ดี. อย่างไรก็ตาม แชตรูมเช่นนี้มีอันตรายแฝงเร้นสำหรับคริสเตียน. อันตรายแบบใด?
นำไปสู่ความเสื่อมทางศีลธรรม
เด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อเทเลอร์กล่าวว่า “ผมเข้าไปในแชตรูมและสนทนากับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งผมคิดว่าทุกคนเป็นพยานพระยะโฮวา. เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง บางคนในกลุ่มนี้เริ่มพูดจาดูถูกความเชื่อของพวกเรา. ไม่นานก็เห็นได้ชัดว่า พวกเขาเป็นพวกออกหากอย่างแน่นอน.” คนเช่นนี้พยายามอย่างมุ่งมั่นที่จะบ่อนทำลายค่านิยมทางศีลธรรมของคนที่พวกเขาอ้างว่าเป็นเพื่อนร่วมความเชื่อ.
พระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าเตือนว่า บางคนที่ติดตามพระองค์จะหันมาโจมตีเพื่อนของตนเอง. (มัดธาย 24:48-51; กิจการ 20:29, 30) อัครสาวกเปาโลเรียกคนเช่นนี้ที่อยู่ในสมัยของท่านว่าพี่น้องเทียมเท็จ และกล่าวว่าพวกเขา “ลอบแทรกเข้ามา” เพื่อก่อความเสียหายแก่คนที่อยู่ในประชาคมคริสเตียน. (ฆะลาเตีย 2:4) ยูดาผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า พวกเขา “เล็ดลอดเข้ามา” โดยมีเป้าหมายที่จะ “เอาพระกรุณาอันไม่พึงได้รับของพระเจ้าของเราไปใช้เป็นข้อแก้ตัวสำหรับความประพฤติหละหลวม.” (ยูดา 4, ล.ม.) ยูดายังพรรณนาด้วยว่าคนเช่นนั้นเป็น “หินที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำ.”—ยูดา 12, ล.ม.
โปรดสังเกตว่าทั้งเปาโลและยูดาต่างก็ชี้ว่า พวกออกหากมักใช้วิธีการที่ซ่อนเร้นไม่เปิดเผย. ผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลเหล่านี้สังเกตว่า พวกออกหากจะ “ลอบแทรกเข้ามา” หรือ “เล็ดลอดเข้ามา” โดยมีจุดประสงค์จะทำให้คนในประชาคมคริสเตียนมีศีลธรรมที่เสื่อมลง. ทุกวันนี้ คนที่เสื่อมทรามเช่นนั้นมักจะถือว่า แชตรูมเป็นที่ซ่อนตัวที่เหมาะที่สุดที่จะใช้ความพยายามอันมีเล่ห์เหลี่ยมของตน. เช่นเดียวกับหินที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำ คริสเตียนปลอมเหล่านี้ก็ซ่อนเจตนาที่แท้จริงไว้ภายใต้ความห่วงใยจอมปลอมที่มีต่อพยานฯ หนุ่มสาว. แต่เป้าหมายของพวกเขาก็คือ ต้องการจะทำให้ความเชื่อของคนที่ไม่ระวังตัวได้รับความเสียหายเหมือนเรืออับปาง.—1 ติโมเธียว 1:19, 20.
วารสารนี้และสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ที่พยานพระยะโฮวาผลิตขึ้นได้ให้คำเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าเกี่ยวกับอันตรายของเรื่องนี้โดยเฉพาะ. * ด้วยเหตุนี้ หากคุณสนทนากับใครก็ตามในแชตรูมที่อ้างว่าจัดทำขึ้นเพื่อพยานพระยะโฮวา หากเขาไม่ได้เป็นผู้ออกหาก เขาก็เป็นคนที่ไม่นับถือคำแนะนำดังกล่าว. คุณอยากเป็นเพื่อนกับคนที่ไม่เห็นคุณค่าคำชี้นำที่อาศัยคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลักจริง ๆ หรือ?—สุภาษิต 3:5, 6; 15:5.
บ่วงแร้วของการแยกตัวอยู่ตามลำพัง
อีกแง่มุมหนึ่งที่คุณต้องพิจารณาให้ดีก็คือ เวลามากมายที่ใช้ในแชตรูม. โฮเซที่กล่าวถึงตอน
ต้นบทความเล่าว่า “บางครั้ง ผมมัวแต่สนทนาในแชตรูมจนลืมกินข้าว.”คุณอาจจะไม่ได้ขลุกอยู่กับแชตรูมเหมือนกับโฮเซ. แต่การใช้เวลาพูดคุยผ่านอินเทอร์เน็ตอาจทำให้คุณต้องซื้อเวลาจากกิจกรรมอื่น ๆ. กิจกรรมที่มักจะได้รับผลเสียเป็นอันดับแรกอาจไม่ใช่การบ้านหรืองานบ้านที่คุณต้องทำ. สิ่งแรกที่ได้รับผลเสียอาจเป็นการติดต่อสื่อความกับคนในครอบครัวของคุณ. เอเดรียนซึ่งอยู่ในสเปนกล่าวว่า “ผมลุกจากโต๊ะอาหารทันทีหลังจากรับประทานเสร็จและรีบไปคุยกับเพื่อน ๆ ในอินเทอร์เน็ต. ผมเริ่มติดแชตรูมมากจนแทบไม่ได้พูดคุยกับคนในครอบครัว.”
หากคุณกำลังใช้เวลาอันมีค่าไปกับการสนทนาในแชตรูม คุณก็อาจปลีกตัวจากคนที่มีความสำคัญต่อคุณมากที่สุด. คัมภีร์ไบเบิลให้คำเตือนที่สำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้: “คนที่ปลีกตัวออกไปจากผู้อื่นจงใจจะทำตามตนเอง, และค้านคติแห่งปัญญาอันถูกต้องทั้งหลาย.” (สุภาษิต 18:1) คนแปลกหน้าที่คุณพบในแชตรูมหลายประเภท คงไม่ได้สนับสนุนคุณให้ดำเนินชีวิตตามหลักการแห่งสติปัญญาที่ใช้ได้จริงซึ่งพบในคัมภีร์ไบเบิล. เป็นไปได้ทีเดียวว่า พวกเขาจะชวนคุณให้แสวงหาผลประโยชน์อันเห็นแก่ตัวและพยายามล่อลวงคุณให้ละเมิดมาตรฐานทางศีลธรรมของคริสเตียน.
ที่จริง สิ่งล่อใจอย่างหนึ่งของแชตรูมคือ แชตรูมอาจทำให้คุณรู้สึกว่าการพูดคุยกับผู้คนผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้นง่ายกว่าการพูดคุยกับคนในครอบครัว. คนที่คุณคบหาในแชตรูมอาจดูเหมือนกระตือรือร้นที่จะฟังความคิดเห็นของคุณในเรื่องต่าง ๆ และอาจเปิดเผยความรู้สึกของเขาออกมาด้วย. ในอีกด้านหนึ่ง คนในครอบครัวของคุณอาจดูเหมือนมีธุระยุ่งเกินกว่าจะสนใจฟังเรื่องที่คุณกังวล และพวกเขาอาจไม่ค่อยกล้าพูดถึงความรู้สึกของพวกเขา.
อย่างไรก็ตาม ให้ถามตัวคุณเองว่า ‘คนที่ฉันคบหาทางอินเทอร์เน็ตรู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วฉันเป็นใคร? พวกเขาสนใจสวัสดิภาพในระยะยาวของฉันจริง ๆ ไหม?’ สมาชิกในครอบครัวของคุณเป็นห่วงความรู้สึกและสุขภาพฝ่ายวิญญาณของคุณมากกว่าใคร. หากบิดามารดาของคุณพยายามดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของคัมภีร์ไบเบิล พวกท่านย่อมสนใจที่จะพูดคุยกับคุณอย่างแน่นอน. (เอเฟโซ 6:4) หากคุณแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกออกมาด้วยความนับถือ พวกท่านอาจทำให้คุณประหลาดใจก็ได้ เมื่อท่านตอบสนองด้วยความกรุณาในแบบที่คุณคาดไม่ถึง.—ลูกา 11:11-13.
การหลีกเลี่ยงอันตราย
คุณอาจมีเหตุจำเป็นที่ต้องเข้าไปในแชตรูม เช่น เป็นส่วนหนึ่งของการบ้านที่ต้องทำ. * หากเป็นเช่นนั้น คุณก็มั่นใจได้ว่าแชตรูมจะไม่เป็นบ่วงแร้วสำหรับคุณ หากติดตามคำแนะนำง่าย ๆ ดังต่อไปนี้.
ประการแรก อย่าใช้อินเทอร์เน็ตในห้องส่วนตัวของคุณ. การทำเช่นนั้นเปรียบได้กับการเดินเตร็ดเตร่เข้าไปในถนนมืด ๆ ในเมืองที่ไม่รู้จัก ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณได้รับอันตราย. แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ให้ตั้งคอมพิวเตอร์ในบริเวณที่คนอื่นในบ้านจะเห็นหน้าจอได้ง่าย ๆ.
ประการที่สอง สนับสนุนให้มีการสื่อความที่ดีกับบิดามารดาของคุณโดยบอกให้พวกท่านทราบว่าคุณกำลังค้นหาอะไร และอธิบายว่าเหตุใดคุณต้องเข้าไปในแชตรูมบางประเภท. นอกจากนี้ จงจำกัดเวลาว่าคุณจะใช้คอมพิวเตอร์นานเท่าใด และทำตามนั้นอย่างเคร่งครัด.
ประการที่สาม ติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ป้องกันไม่ให้คุณถูกรบกวนด้วยการคุกคามทางเพศในอินเทอร์เน็ตโดยการกรองข้อความที่ส่งเข้ามา. ขณะที่ใช้อินเทอร์เน็ต หากมีคนชักชวนคุณให้มีเพศสัมพันธ์ จงบอกบิดามารดาหรือครูให้ทราบทันที. ในบางประเทศ ผู้ใหญ่ที่รู้ว่าคุณเป็นเยาวชนแต่ยังส่งข้อความมาชักชวนคุณให้มีเพศสัมพันธ์กับเขาหรือส่งภาพลามกมาให้นั้นถือเป็นความผิดทางอาญา. ควรแจ้งตำรวจ.
นอกจากนี้ อย่าให้ชื่อ, ที่อยู่, ชื่อโรงเรียน, หรือหมายเลขโทรศัพท์แก่คนที่คุณติดต่อในแชตรูม. และอย่ายอมไปพบกับคนที่คุณคุยด้วยทางอินเทอร์เน็ตหากเขาชวนคุณ!
แม้จะมีการบันทึกไว้เมื่อหลายพันปีมาแล้ว แต่ถ้อยคำของกษัตริย์ซะโลโมผู้ชาญฉลาดก็ยังคงใช้ได้จริงเมื่อนึกถึงอันตรายต่าง ๆ ที่เกิดจากแชตรูม นั่นคือ “คนฉลาดมองเห็นภัยแล้วหนีไปซ่อนตัว; แต่คนโง่เดินเซ่อไปและก็เป็นอันตราย.”—สุภาษิต 22:3.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 3 บางชื่อเป็นนามสมมุติ.
^ วรรค 21 โปรดดูตื่นเถิด! ฉบับ 22 มกราคม 2000 หน้า 19-21 (ภาษาอังกฤษ).
[ภาพหน้า 24]
นับเป็นเรื่องสุขุมที่จะบอกให้บิดามารดาของคุณทราบว่าคุณกำลังค้นหาอะไร