ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

พระเจ้าและพระคริสต์ทรงมีทัศนะเช่นไรต่อผู้หญิง?

พระเจ้าและพระคริสต์ทรงมีทัศนะเช่นไรต่อผู้หญิง?

พระเจ้า​และ​พระ​คริสต์​ทรง​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​ผู้​หญิง?

เรา​จะ​เข้าใจ​ภาพ​โดย​รวม​เกี่ยว​กับ​ทัศนะ​ที่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​มี​ต่อ​ผู้​หญิง​ได้​อย่าง​ไร? วิธี​หนึ่ง​คือ​ตรวจ​สอบ​ทัศนะ​และ​แนว​ทาง​ปฏิบัติ​ของ​พระ​เยซู ซึ่ง​เป็น “ภาพ​สะท้อน​ของ​พระเจ้า​ผู้​ไม่​ประจักษ์​แก่​ตา” และ​เป็น​ผู้​ที่​สะท้อน​ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ. (โกโลซาย 1:15) วิธี​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​ต่อ​พวก​ผู้​หญิง​ใน​สมัย​ของ​พระองค์​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​เยซู​ทรง​ให้​เกียรติ​ผู้​หญิง และ​แสดง​ว่า​พระองค์​ทั้ง​สอง​ไม่​เห็น​ชอบ​อย่าง​แน่นอน​กับ​การ​กดขี่​ผู้​หญิง ซึ่ง​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​มาก​ใน​หลาย​ดินแดน​ใน​ทุก​วัน​นี้.

เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ขอ​พิจารณา​เหตุ​การณ์​ตอน​หนึ่ง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​สนทนา​กับ​หญิง​ชาว​ซะมาเรีย​ที่​บ่อ​น้ำ. บันทึก​ใน​กิตติคุณ​ของ​โยฮัน​กล่าว​ว่า “หญิง​ชาว​ซะมาเรีย​คน​หนึ่ง​มา​ตัก​น้ำ” และ “พระ​เยซู​ตรัส​กับ​นาง​ว่า ‘ขอ​น้ำ​ให้​เรา​ดื่ม​หน่อย.’ ” พระ​เยซู​ทรง​เต็ม​ใจ​พูด​คุย​กับ​หญิง​ชาว​ซะมาเรีย​ใน​ที่​สาธารณะ แม้​ว่า​ชาว​ยิว​ส่วน​ใหญ่​ไม่​คบ​ค้า​สมาคม​กับ​ชาว​ซะมาเรีย. สารานุกรม ดิ อินเตอร์เนชันแนล สแตนดาร์ด ไบเบิล กล่าว​ว่า สำหรับ​ชาว​ยิว​แล้ว “การ​สนทนา​กับ​ผู้​หญิง​ใน​ที่​สาธารณะ​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​อัปยศ​อย่าง​ยิ่ง.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​หญิง​อย่าง​ให้​เกียรติ และ​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​พวก​เธอ และ​พระองค์​ไม่​มี​อคติ​เรื่อง​เชื้อชาติ​หรือ​อคติ​ต่อ​เพศ​หญิง. ตรง​กัน​ข้าม หญิง​ชาว​ซะมาเรีย​คน​นี้​แหละ​ที่​พระ​เยซู​ได้​ตรัส​อย่าง​ชัดเจน​เป็น​ครั้ง​แรก​ว่า​พระองค์​เป็น​มาซีฮา.—โยฮัน 4:7-9, 25, 26.

อีก​โอกาส​หนึ่ง มี​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​เข้า​มา​หา​พระ​เยซู นาง​ทน​ทุกข์​มา​เป็น​เวลา 12 ปี​เนื่อง​จาก​ความ​อับอาย​และ​การ​เป็น​โรค​โลหิต​ตก​ที่​ทำ​ให้​อ่อน​เปลี้ย. เมื่อ​นาง​แตะ​ต้อง​พระองค์ นาง​ก็​หาย​จาก​โรค​นั้น​ทันที. “พระ​เยซู​ทรง​หัน​มา​เห็น​นาง​จึง​ตรัส​ว่า ‘ลูก​เอ๋ย จง​มี​กำลังใจ​เถิด ความ​เชื่อ​ของ​เจ้า​ทำ​ให้​เจ้า​หาย​โรค.’ ” (มัดธาย 9:22) ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​โมเซ ผู้​หญิง​ที่​อยู่​ใน​สภาพ​เช่น​นี้​ไม่​ควร​เข้า​มา​อยู่​ใน​หมู่​ฝูง​ชน อย่า​ว่า​แต่​การ​ไป​แตะ​ต้อง​ผู้​อื่น​เลย. อย่าง​ไร​ก็​ตาม พระ​เยซู​ไม่​ได้​ตำหนิ​นาง. แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น พระองค์​ทรง​ปลอบโยน​นาง​ด้วย​ความ​เมตตา และ​ทรง​เรียก​นาง​ว่า “ลูก​เอ๋ย.” ถ้อย​คำ​เช่น​นั้น​คง​ต้อง​ทำ​ให้​นาง​รู้สึก​โล่ง​ใจ​สัก​เพียง​ไร! และ​พระ​เยซู​คง​มี​ความ​สุข​เพียง​ไร​ที่​ได้​รักษา​เธอ​ให้​หาย!

หลัง​จาก​พระ​เยซู​ถูก​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์ ที​แรก​พระองค์​ทรง​ปรากฏ​แก่​มาเรีย​มักดาลา และ​สาวก​อีก​คน​หนึ่ง​ของ​พระองค์​ก่อน ซึ่ง​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ถึง​ผู้​นั้น​ว่า​เป็น “มาเรีย​อีก​คน​หนึ่ง.” พระ​เยซู​จะ​ปรากฏ​แก่​เปโตร, โยฮัน หรือ​สาวก​คน​อื่น ๆ ที่​เป็น​ผู้​ชาย​ก่อน​ก็​ได้. แต่​แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น พระองค์​ทรง​ให้​เกียรติ​พวก​ผู้​หญิง โดย​ให้⁠พวก​เธอ​เป็น​พยาน​กลุ่ม​แรก​ที่​ได้​เห็น​พระองค์​ฟื้น​คืน​พระ​ชนม์. ทูตสวรรค์​องค์​หนึ่ง​ได้​สั่ง​ให้​พวก​เธอ​ไป​แจ้ง​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ที่​เป็น​ผู้​ชาย​ถึง​เหตุ​การณ์​ที่​น่า​พิศวง​นี้. พระ​เยซู​ตรัส​กับ​ผู้​หญิง​เหล่า​นั้น​ว่า “จง​ไป​บอก​พี่​น้อง​ของ​เรา.” (มัดธาย 28:1, 5-10) แน่นอน​ว่า พระ​เยซู​ไม่​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​อคติ​ใด ๆ ซึ่ง​มัก​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​สำหรับ​ชาว​ยิว​ใน​สมัย​นั้น​ที่​มอง​ว่า​ผู้​หญิง​ไม่​สามารถ​เป็น​พยาน​ใน​ศาล​ได้.

ดัง​นั้น แทน​ที่​จะ​มี​อคติ​ต่อ​ผู้​หญิง​หรือ​ยอม​รับ​ทัศนะ​ที่​ว่า​ผู้​ชาย​เหนือ​กว่า​ผู้​หญิง​ใน​ทาง​หนึ่ง​ทาง​ใด พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ว่า​พระองค์​ให้​เกียรติ​ผู้​หญิง​และ​เห็น​คุณค่า​ของ​พวก​ผู้​หญิง. ความ​รุนแรง​ต่อ​ผู้​หญิง​ตรง​กัน​ข้าม​อย่าง​สิ้นเชิง​กับ​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​สอน เรา​สามารถ​แน่​ใจ​ได้​ว่า ทัศนะ​ของ​พระองค์​เป็น​ภาพ​สะท้อน​ที่​สมบูรณ์​แบบ​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​ทรง​มอง​ดู​เรื่อง​ต่าง ๆ.

ผู้​หญิง​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​ของ​พระเจ้า

“ใน​สมัย​โบราณ ไม่​มี​ประเทศ​ใด​ใน​แถบ​เมดิเตอร์เรเนียน​หรือ​ตะวัน​ออก​ใกล้​ที่​ผู้​หญิง​จะ​ได้​รับ​เสรีภาพ​อย่าง​ที่​มี​อยู่​ใน​สังคม​ตะวัน​ตก​ใน​สมัย​ปัจจุบัน. รูป​แบบ​ที่​พบ​เห็น​กัน​อยู่​ทั่ว​ไป​คือ ผู้​หญิง​อยู่​ใต้​อำนาจ​ผู้​ชาย ราว​กับ​ทาส​ที่​อยู่​ใต้​อำนาจ​ผู้​เป็น​นาย และ​คน​ที่​อายุ​อ่อน​กว่า​อยู่​ใต้​อำนาจ​ผู้​ที่​อายุ​มาก​กว่า. . . . ถือ​กัน​ว่า​เด็ก​ผู้​ชาย​มี​ค่า​มาก​กว่า​เด็ก​ผู้​หญิง และ​บาง​ครั้ง​ทารก​เพศ​หญิง​ถูก​ทิ้ง​ให้​ตาย​ไป.” พจนานุกรม​คัมภีร์​ไบเบิล​เล่ม​หนึ่ง​พรรณนา​ถึง​ทัศนะ​ที่​แพร่​หลาย​ซึ่ง​มี​ต่อ​ผู้​หญิง​ใน​สมัย​โบราณ​ไว้​เช่น​นั้น. ใน​หลาย​กรณี พวก​เธอ​แทบ​จะ​ถูก​จัด​ไว้​ใน​ระดับ​เดียว​กับ​ทาส.

คัมภีร์​ไบเบิล​ถูก​เขียน​ขึ้น​ใน​สมัย​ที่​ขนบธรรมเนียม​ต่าง ๆ ได้​สะท้อน​ให้​เห็น​ทัศนะ​ดัง​กล่าว. อย่าง​ไร​ก็​ตาม กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ดัง​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ผู้​หญิง​ได้​รับ​ความ​นับถือ​อย่าง​มาก ซึ่ง​ต่าง​กัน​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด​กับ​ทัศนะ​ของ​หลาย ๆ วัฒนธรรม​ใน​ยุค​โบราณ.

ความ​ห่วงใย​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​เรื่อง​สวัสดิภาพ​ของ​ผู้​หญิง​นั้น​เห็น​ได้​ชัดเจน​ใน​หลาย ๆ ตัว​อย่าง ซึ่ง​พระองค์​ทรง​ดำเนิน​การ​เพื่อ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​พวก​ผู้​หญิง​ที่​เป็น​ผู้​นมัสการ​พระองค์. พระองค์​เข้า​แทรกแซง​เหตุ​การณ์​ทั้ง​สอง​ครั้ง​เพื่อ​ช่วย​ซารา​ภรรยา​ที่​มี​รูป​โฉม​งดงาม​ของ​อับราฮาม​ไม่​ให้​ถูก​ล่วง​เกิน. (เยเนซิศ 12:14-20; 20:1-7) พระเจ้า​แสดง​ความ​โปรดปราน​ต่อ​เลอา​ภรรยา​ที่​ยาโคบ​รัก​น้อย​กว่า โดย ‘บันดาล​ให้​นาง​มี​ครรภ์’ เพื่อ​นาง​จะ​ได้​ให้​กำเนิด​บุตร​ชาย. (เยเนซิศ 29:31, 32) เมื่อ​นาง​ผดุง​ครรภ์​ชาว​อิสราเอล​สอง​คน​ที่​เกรง​กลัว​พระเจ้า​ได้​ยอม​เสี่ยง​ชีวิต​เพื่อ​ช่วย​เด็ก​ผู้​ชาย​ชาว​ฮีบรู​ใน​อียิปต์​ไม่​ให้​ถูก​ฆ่า​ตาย​ตั้ง​แต่​แรก​เกิด พระ​ยะโฮวา​ทรง​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​โดย “บันดาล​ให้​แพทย์​ผดุง​ครรภ์​เหล่า​นั้น​มี​ครอบครัว​มั่งคั่ง.” (เอ็กโซโด 1:17, 20, 21) นอก​จาก​นี้ พระองค์​ยัง​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​ของ​นาง​ฮันนา. (1 ซามูเอล 1:10, 20) และ​เมื่อ​หญิง​ม่าย​ซึ่ง​สามี​ที่​เป็น​ผู้​พยากรณ์​ได้​เสีย​ชีวิต​ไป นาง​ต้อง​เผชิญ​หน้า​กับ​เจ้าหนี้​ที่​กำลัง​จะ​มา​เอา​ลูก​ของ​นาง​ไป​เป็น​ทาส​เพื่อ​ใช้​หนี้ พระ​ยะโฮวา​ก็​ไม่​ทอดทิ้ง​นาง​ให้​ตก​ระกำ​ลำบาก. ด้วย​ความ​รัก พระเจ้า​ทรง​ให้​ฤทธิ์​อำนาจ​แก่​ผู้​พยากรณ์​อะลีซา​เพื่อ​ทำ​ให้​มี​น้ำมัน​มาก​พอ​ที่​นาง​จะ​นำ​ไป​ชำระ​หนี้​ได้ และ​ยัง​มี​น้ำมัน​เหลือ​พอ​ที่​จะ​ใช้​ใน​ครอบครัว​ของ​นาง​ด้วย. ด้วย​เหตุ​นี้ นาง​จึง​ดู​แล​ครอบครัว​ให้​อยู่​รอด​และ​รักษา​ศักดิ์ศรี​ของ​นาง​ไว้​ได้.—เอ็กโซโด 22:22, 23; 2 กษัตริย์ 4:1-7.

พวก​ผู้​พยากรณ์​ประณาม​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​เรื่อง​การ​แสวง​ประโยชน์​จาก​ผู้​หญิง​และ​การ​ใช้​ความ​รุนแรง​กับ​พวก​เธอ. ผู้​พยากรณ์​ยิระมะยา​กล่าว​แก่​ชาว​อิสราเอล​ใน​นาม​ของ​พระ​ยะโฮวา​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​จง​ประพฤติ​เป็น​ความ​สัตย์​แล​ชอบธรรม, แล​ช่วย​ผู้​ที่​ต้อง​เสีย​เปล่า​ให้​ออก​จาก​มือ​ของ​ผู้​ข่ม​ขี่, แล​อย่า​ทำ​การ​ผิด, อย่า​ทำ​ร้าย​แก่​ผู้​ต่าง​ประเทศ, แก่​คน​กำพร้า, แล​แก่​หญิง​ม่าย.” (ยิระมะยา 22:2, 3) หลัง​จาก​นั้น คน​มั่งมี​และ​ผู้​มี​อำนาจ​ก็​ถูก​ประณาม​เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ได้​ขับ​ไล่​พวก​ผู้​หญิง​ออก​จาก​บ้าน​เรือน​ของ​ตน​และ​ปฏิบัติ​ต่อ​ลูก ๆ ของ​เธอ​อย่าง​ไร้​ความ​ปรานี. (มีคา 2:9) พระเจ้า​แห่ง​ความ​ยุติธรรม​ทรง​มอง​เห็น​และ​ตำหนิ​ว่า​การ​ทำ​ให้​ผู้​หญิง​และ​ลูก ๆ ของ​เธอ​ต้อง​ทน​ทุกข์​ทรมาน​เช่น​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​ชั่ว​ช้า​มาก.

“สตรี​ที่​เป็น​แม่​เรือน​ดี”

ผู้​เขียน​พระ​ธรรม​สุภาษิต​ใน​สมัย​โบราณ​ได้​แสดง​ให้​เห็น​ทัศนะ​ที่​เหมาะ​สม​เกี่ยว​กับ​ภรรยา​ที่​เป็น​แม่​เรือน​ดี. เนื่อง​จาก​คำ​พรรณนา​ที่​สวย​งาม​ใน​เรื่อง​บทบาท​และ​สถานะ​ของ​ภรรยา​ถูก​รวม​เข้า​ไว้​ใน​พระ​คำ​ของ​พระ​ยะโฮวา เรา​จึง​แน่​ใจ​ได้​ว่า​พระองค์​ทรง​เห็น​ชอบ​กับ​เรื่อง​นี้. แทน​ที่​ผู้​หญิง​จะ​ถูก​กดขี่​หรือ​ถูก​มอง​ว่า​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​ด้อย​กว่า เธอ​กลับ​ได้​รับ​การ​ยกย่อง, ได้​รับ​ความ​นับถือ และ​ได้​รับ​ความ​ไว้​วางใจ.

“สตรี​ที่​เป็น​แม่​เรือน​ดี” ตาม​สุภาษิต​บท 31 คือ​ผู้​ที่​ทำ​งาน​อย่าง​แข็งขัน​และ​มี​ความ​อุตสาหะ. นาง​มี​ความ​มุ​มานะ​ที่​จะ​ทำ​งาน​ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ และ​ทำ​การ​ค้า​ขาย​รวม​ทั้ง​ทำ​การ​ซื้อ​ขาย​ที่​ดิน​ด้วย. นาง​ดู​ที่​นา​และ​ดำเนิน​การ​เพื่อ​ซื้อ​เอา​ไว้. นาง​ทำ​เครื่อง​นุ่ง​ห่ม​ขาย​และ​ทำ​ผ้า​คาด​เอว​ส่ง​พ่อค้า. นาง​ทำ​งาน​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง. นอก​จาก​นี้ นาง​ยัง​พูด​จา​เฉลียวฉลาด​และ​ความ​กรุณา​รักใคร่​ของ​นาง​ก็​เป็น​ที่​หยั่ง​รู้​ค่า​อย่าง​ยิ่ง. ผล​คือ นาง​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​อย่าง​มาก​จาก​สามี, จาก​ลูก ๆ, และ​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​คือ​จาก​พระ​ยะโฮวา.

ผู้​หญิง​หา​ใช่​ผู้​ที่​จะ​ต้อง​ถูก​กดขี่​โดย​พวก​ผู้​ชาย​ที่​คอย​แสวง​ประโยชน์​จาก​พวก​เธอ, ปฏิบัติ​ต่อ​พวก​เธอ​อย่าง​โหด​ร้าย, หรือ​ข่มเหง​รังแก​พวก​เธอ​ไม่​ว่า​จะ​ด้วย​วิธี​ใด​ก็​ตาม. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น ผู้​หญิง​ที่​สมรส​แล้ว​ควร​จะ​เป็น​คน​ที่​มี​ความ​สุข​และ​สามารถ​เป็น ‘คู่​เคียง​ที่​เหมาะ’ กับ​สามี​ของ​เธอ.—เยเนซิศ 2:18.

ให้​เกียรติ​พวก​เธอ

เมื่อ​เขียน​ถึง​สามี​คริสเตียน​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​พวก​เขา​ควร​ปฏิบัติ​ต่อ​ภรรยา​ของ​ตน เปโตร ผู้​เขียน​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ได้​กระตุ้น​เตือน​สามี​ให้​เลียน​แบบ​ทัศนะ​ของ​พระ​ยะโฮวา⁠และ​พระ​เยซู. เปโตร​เขียน​ว่า ‘ท่าน​ทั้ง​หลาย​ที่​เป็น​สามี จง​ให้​เกียรติ​นาง​ต่อ ๆ ไป.’ (1 เปโตร 3:7) การ​ให้​เกียรติ บุค⁠คล​หนึ่ง⁠บอก​เป็น​นัย ๆ ว่า คน​เรา​เห็น​คุณค่า​และ​นับถือ​คน​นั้น​อย่าง​ยิ่ง. ด้วย​เหตุ​นี้ ผู้​ชาย​ที่​ให้​เกียรติ​ภรรยา​ของ​ตน​จึง​ไม่​ดูถูก​เธอ, เหยียด​หยาม​เธอ, หรือ​ปฏิบัติ​ต่อ​เธอ​อย่าง​โหด​ร้าย​ทารุณ. แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น เขา​แสดง​ออก​โดย​ทาง​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ​ทั้ง​ใน​ที่​สาธารณะ​และ​ใน​ที่​ส่วน​ตัว​ว่า เขา​รัก​และ​ทะนุถนอม​เธอ.

การ​ให้​เกียรติ​ภรรยา​ของ​ตน​ย่อม​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข​ใน​ชีวิต​สมรส​อย่าง​แน่นอน. ขอ​พิจารณา​ตัว​อย่าง​ของ​คาร์ลอส​กับ​เซซีเลีย. บาง​ช่วง​ใน​ชีวิต​สมรส พวก​เขา​รู้สึก​ว่า​ตน​มัก​จะ​โต้​เถียง​กัน​ด้วย​เรื่อง​นั้น​เรื่อง​นี้​อยู่​บ่อย ๆ แต่​ก็​ไม่​เคย​ได้​ข้อ​สรุป​เลย. บาง​ครั้ง พวก​เขา​ต่าง​คน​ต่าง​เงียบ​ไม่​ยอม​พูด​จา​กัน. เขา​ทั้ง​สอง​ไม่​รู้​ว่า​จะ​แก้​ปัญหา​นั้น​อย่าง​ไร. เขา​ก้าวร้าว ส่วน​เธอ​ก็​เรียก​ร้อง​และ​เย่อหยิ่ง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เมื่อ​ทั้ง​คู่​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล และ​นำ​หลักการ​ที่​ได้​เรียน​ไป​ใช้ สิ่ง​ต่าง ๆ ก็​เริ่ม​ดี​ขึ้น. เซซีเลีย​กล่าว​ว่า “ดิฉัน​ตระหนัก​ว่า คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู​และ​ตัว​อย่าง​ที่​พระองค์​ทรง​วาง​ไว้​ได้​เปลี่ยน​แปลง​บุคลิกภาพ​ของ​ดิฉัน และ​ของ​สามี​ดิฉัน​ด้วย. เนื่อง​จาก​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​นี้​เอง ดิฉัน​จึง​กลาย​เป็น​คน​ที่​มี​ความ​ถ่อม​ใจ​และ​เข้าใจ​คน​อื่น​มาก​ขึ้น. ดิฉัน​เรียน​ที่​จะ​แสวง​หา​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​การ​อธิษฐาน เช่น​เดียว​กับ​ที่​พระ​เยซู​ทำ. คาร์ลอส​ก็​เรียน​ที่​จะ​เป็น​คน​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา​มาก​ขึ้น​และ​พยายาม​ควบคุม​ตัว​เอง​ได้​ดี​ขึ้น เพื่อ​ให้​เกียรติ​ภรรยา​ของ​เขา​ดัง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ประสงค์.”

ชีวิต​สมรส​ของ​พวก​เขา​ใช่​ว่า​จะ​สมบูรณ์​แบบ แต่​ก็​ฟันฝ่า​มา​ได้​ตลอด​ระยะ​เวลา​หลาย​ปี. เมื่อ​ไม่​กี่​ปี​มา​นี้ พวก​เขา​ประสบ​ปัญหา​อย่าง​หนัก คาร์ลอส​ตก​งาน​และ​ต้อง​ได้​รับ​การ​ผ่าตัด​เนื่อง​จาก​เป็น​มะเร็ง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ปัญหา​ที่​หนัก​หน่วง​เหล่า​นี้​ไม่​ได้​ทำ​ให้​สาย​สัมพันธ์​ใน​ชีวิต​สมรส​ของ​พวก​เขา​คลอนแคลน แต่​กลับ​แข็ง​แกร่ง​ขึ้น​ด้วย​ซ้ำ.

ตั้ง​แต่​ที่​มนุษยชาติ​ได้​ทำ​บาป​และ​กลาย​เป็น​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์ ผู้​หญิง​ใน​หลาย​วัฒนธรรม​ก็​ได้​รับ​การ​ปฏิบัติ​อย่าง​ที่​เป็น​การ​หลู่​เกียรติ​พวก​เธอ. พวก​เธอ​ถูก​ทำ​ร้าย​ทาง​ร่าง​กาย, ทาง​จิตใจ, และ​ทาง​เพศ. แต่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ทรง​ประสงค์​ที่​จะ​ให้​พวก​เธอ​ได้​รับ​การ​ปฏิบัติ​เช่น​นั้น. บันทึก​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​ว่า ไม่​ว่า​แง่​คิด​ทาง​วัฒนธรรม​ที่​แพร่​หลาย​อยู่​นี้​จะ​เป็น​เช่น​ไร​ก็​ตาม ผู้​หญิง​ทุก​คน​ควร​ได้​รับ​การ​ปฏิบัติ​อย่าง​ที่​มี​เกียรติ​และ​ได้​รับ​ความ​นับถือ. พระเจ้า​ทรง​ถือ​ว่า​นั่น​เป็น​สิ่ง​ที่​พวก​เธอ​สม​ควร​ได้​รับ.

[ภาพ​หน้า 4, 5]

หญิง​ชาว​ซะมาเรีย

[ภาพ​หน้า 4, 5]

ผู้​หญิง​ที่​เจ็บ​ป่วย

[ภาพ​หน้า 4, 5]

มาเรีย​มักดาลา

[ภาพ​หน้า 6]

พระ​ยะโฮวา​ทรง​ปก​ป้อง​คุ้มครอง​ซารา​สอง​ครั้ง

[ภาพ​หน้า 7]

ชีวิต​สมรส​ของ​คาร์ลอส​กับ​เซซีเลีย​ที่​เคย​ร้าว​ฉาน

[ภาพ​หน้า 7]

คาร์ลอส​กับ​เซซีเลีย​ใน​ปัจจุบัน