ฉันจะใส่เสื้อผ้าแบบไหน?
หนุ่มสาวถามว่า
ฉันจะใส่เสื้อผ้าแบบไหน?
เฮเทอร์กำลังเดินออกประตู และพ่อแม่ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง.
“ลูกจะใส่ชุดนั้นหรือ?” พ่อเธอโพล่งออกมาทันที.
“ทำไมหรือคะ?” เฮเทอร์ตอบด้วยความแปลกใจ. “หนูแค่จะไปเดินห้างกับเพื่อน ๆ เท่านั้น.”
“แต่ไม่ใช่ชุดนั้น!” แม่ของเธอบอก.
เฮเทอร์โอดครวญว่า “แต่แม่ก็ ใคร ๆ เขาใส่กันทั้งนั้น . . . และอีกอย่างหนึ่ง มันบอกให้รู้ตัวตนของหนูนะ!”
พ่อของเธอโต้กลับว่า “แต่ไม่ว่ามันจะบอกอะไรเราก็ไม่ชอบ! กลับขึ้นไปเปลี่ยนชุดใหม่เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นลูกจะออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!”
ความขัดแย้งในเรื่องเสื้อผ้าไม่ใช่เรื่องใหม่. พ่อแม่ของคุณอาจเคยขัดแย้งกับพ่อแม่ของท่านมาแล้วตอนอายุเท่าคุณ. และในสมัยนั้น พ่อแม่ก็คงรู้สึกเหมือนคุณในตอนนี้แหละ! แต่มาตอนนี้พวกท่านเปลี่ยนไปเสียแล้ว และประเด็นเรื่องเสื้อผ้าที่คุณจะสวมใส่ก็อาจก่อให้เกิดการขัดแย้งกันเป็นครั้งคราว.
คุณบอกว่า ใส่สบายดี.
ท่านบอกว่า ดูไม่เรียบร้อย.
คุณบอกว่า ดูน่ารักจังเลย!
ท่านบอกว่า ยั่วยวนเกินไป.
คุณบอกว่า ลดเหลือครึ่งราคาเอง.
ท่านบอกว่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น . . . มันเหลืออยู่ครึ่งเดียวนี่!
มีวิธียุติความขัดแย้งนี้ไหม? มีสิ! เมแกนซึ่งปัจจุบันอายุ 23 ปีรู้เคล็ดลับ. เธอกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องเถียงกัน. แต่ละฝ่ายสามารถเห็นพ้องกันได้.” เห็นพ้องกัน หรือ? นี่หมายความว่าคุณต้องแต่งตัวเหมือนคนอายุ 40 ปีอย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่อย่างนั้น! การเห็นพ้องกันหมายถึงการที่คุณกับพ่อแม่หารือกันถึงความเห็นที่แตกต่าง แล้วช่วยกันคิดหาทางออกที่พวกท่านกับคุณ ต่างก็พอใจ. มีผลดีอะไรในเรื่องนี้?
1. คุณจะดูดีที่สุด แม้แต่ในสายตาของเพื่อน.
2. พ่อแม่จะตำหนิคุณน้อยลงในเรื่องเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่.
3. หลังจากเห็นว่าคุณแสดงความรับผิดชอบอย่างดีในเรื่องนี้ พ่อแม่อาจให้คุณมีอิสระมากขึ้น.
เอาละ ให้เราเริ่มต้น. ให้คิดถึงชุดที่คุณอยากได้มากซึ่งเห็นในอินเทอร์เน็ตหรือในร้าน. สิ่งแรกที่ต้องทำคือ . . .
คิดถึงหลักการในคัมภีร์ไบเบิล
น่าแปลก คัมภีร์ไบเบิลแทบไม่ได้พูดถึงเรื่องเสื้อผ้า. ที่จริง ข้อเตือนใจทุกข้อจากพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงมีน้อยมากจนคุณสามารถอ่านออกเสียงได้ภายในไม่กี่นาที! แต่ในช่วงไม่กี่นาทีนั้น คุณก็จะพบคำแนะนำที่มีคุณค่าและหนักแน่น. ตัวอย่างเช่น:
▪ คัมภีร์ไบเบิลแนะนำผู้หญิงให้แต่งกาย “สุภาพ และมีสติ.” *—1 ติโมเธียว 2:9, 10
คำว่า “สุภาพ” อาจทำให้คุณกังวล. คุณอาจสงสัยว่า ‘ฉันต้องแต่งตัวเชย ๆ อย่างนั้นหรือ?’ ไม่ใช่! ในบริบทนี้ ความสุภาพหมายถึงว่าเสื้อผ้าของคุณจะแสดงถึงความนับถือตัวเองและการคำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่น. (2 โครินท์ 6:3) เสื้อผ้าหลากหลายรูปแบบตรงกับคุณลักษณะดังกล่าว. แดนเนียลวัย 23 ปีกล่าวว่า “อาจไม่ง่ายเสียทีเดียว แต่คุณก็สามารถ แต่งตัวทันสมัยได้โดยไม่ต้องใส่ชุดตามแฟชั่นมากไป.”
▪ คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าในเรื่องการแต่งกาย คุณควรเน้นที่ “ตัวตนที่อยู่ในใจ.”—1 เปโตร 3:4
การแต่งกายไม่สุภาพอาจทำให้คนอื่นหันมามองชั่วขณะ แต่ในระยะยาวความงามภายในของคุณจะได้รับความนับถือจากผู้ใหญ่และคนรุ่นเดียวกัน. คนรุ่นเดียวกันหรือ? ใช่แล้ว แม้แต่พวกเขาเอง อาจจะเห็นการแต่งกายแบบสุดโต่งเป็นเรื่องโง่เขลาก็ได้. บริททานีวัย 16 ปีกล่าวว่า “น่าเกลียดจริง ๆ ที่เห็นผู้หญิงให้ท่าผู้ชายด้วยเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่!” เคย์ก็เห็นด้วย. เมื่อพรรณนาถึงคนหนึ่งที่เคยเป็นเพื่อนกับเธอ เธอกล่าวว่า “ไม่ว่าเธอจะใส่ชุดอะไร ดูเหมือนว่ามีข้อความติดไว้ทุกจุด ‘มองฉันหน่อยสิ.’ เธอ
อยากให้หนุ่ม ๆ สนใจ และเธอจึงใส่เสื้อผ้าที่เด่นสะดุดตาที่สุดเท่าที่จะหาได้.”ข้อแนะด้านแฟชั่น: อย่าใส่เสื้อผ้าที่เร้าความรู้สึกทางเพศ. เสื้อผ้าแบบนั้นทำให้คุณดูเหมือนเป็นคนสิ้นหวังและคิดถึงแต่ตัวเอง. และอาจทำให้คุณถูกลวนลามหรือร้ายยิ่งกว่านั้นด้วยซ้ำ. ในทางกลับกัน การแต่งกายที่สุภาพเติมความงามให้คุณและเน้นคุณลักษณะที่ดีของคุณ.
ฟังความเห็นของพ่อแม่
การเอาชุดวาบหวิวใส่เป้แล้วไปเปลี่ยนที่โรงเรียนไม่ใช่ การกระทำที่ถูกต้อง. คุณจะได้ความไว้วางใจจากพ่อแม่มากขึ้นถ้าคุณซื่อสัตย์และตรงไปตรงมากับท่าน แม้แต่ในเรื่องที่คุณคิดว่าท่านไม่มีวันจับได้. ที่จริง คงดีกว่าที่คุณจะถามความเห็นของท่านเมื่อคุณคิดจะซื้อเสื้อผ้าสักชุดหนึ่ง.—สุภาษิต 15:22
แต่ทำไมคุณน่าจะทำอย่างนั้น? เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ไม่ใช่หรือที่จะห้ามคุณใส่ชุดตามสมัยนิยม? ไม่ใช่. จริงอยู่ คุณและพ่อแม่อาจมองต่างมุมกัน. แต่บางครั้งนั่นก็เป็นประโยชน์ต่อคุณ. นาตาลีนวัย 17 ปีกล่าวว่า “ฉันขอบคุณคำแนะนำของพ่อแม่ เพราะฉันไม่ต้องการเดินออกนอกบ้านในชุดที่ทำให้ฉันอับอายหรือถูกคนอื่นนินทาเนื่องจากเสื้อผ้าและการแต่งกาย.”
นอกจากนั้น จงยอมรับความจริงว่าตราบใดที่คุณยังต้องพึ่งพ่อแม่ คุณก็อยู่ในอำนาจของท่าน. (โกโลซาย 3:20) กระนั้น เมื่อคุณเข้าใจทัศนะของท่าน และท่านเข้าใจทัศนะของคุณ คุณก็อาจประหลาดใจว่าคุณสามารถเห็นพ้องกันได้บ่อยเพียงใด. ผลก็คือ ความขัดแย้งในเรื่องเสื้อผ้าก็อาจยุติลง!
ข้อแนะด้านแฟชั่น: เมื่อลองสวมชุด อย่ามองเพียงแต่สิ่งที่เห็นในกระจกเท่านั้น. ชุดที่ดูสุภาพอาจดูไม่สุภาพเมื่อคุณนั่งหรือก้มลงหยิบอะไรบางอย่าง. ถ้าเป็นไปได้ ขอความเห็นจากพ่อแม่หรือเพื่อนที่มีวุฒิภาวะ.
ถ้าต้องการอ่านบทความชุด “หนุ่มสาวถามว่า” เพิ่มเติม ให้ดาวน์โหลดตื่นเถิด! ฉบับอื่น ๆ จากเว็บไซต์ www.dan124.com
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 23 แม้ว่าคำแนะนำเช่นนั้นจากคัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงผู้หญิงโดยตรง แต่หลักการนี้ก็ใช้ได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง. ดูกรอบ “แล้วพวกหนุ่ม ๆ ล่ะ?”
ข้อชวนคิด
คิดถึงชุดที่คุณอยากซื้อ แล้วถามตัวเองว่า:
▪ ชุดนั้นบอกอะไรเกี่ยวกับตัวฉัน?
▪ ชุดนั้นอาจทำให้คนอื่นแสดงปฏิกิริยาเช่นไร?
▪ ฉันอยากให้คนอื่นมีปฏิกิริยาเช่นนั้นหรืออยากให้มีผลเช่นนั้นจริง ๆ ไหม?
[กรอบ/ภาพหน้า 19]
แบบสอบถามความเห็นเรื่องการเลือกเสื้อผ้า
คำแนะนำ: ถ่ายสำเนาหน้านี้. ให้พ่อแม่กรอกแบบสอบถามในช่องด้านขวา ส่วนคุณกรอกแบบสอบถามช่องด้านซ้าย. แล้วแลกกระดาษกัน จากนั้นพูดคุยกันเกี่ยวกับคำตอบของคุณ. มีอะไรที่คาดไม่ถึงไหม? แต่ละคนเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับทัศนะของอีกฝ่ายหนึ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน?
ส่วนของคุณ
คิดถึงเสื้อผ้าชุดหนึ่งที่คุณต้องการจะใส่หรือซื้อ.
▪ ทำไมคุณชอบชุดนี้? ใส่ตัวเลขตามลำดับที่คุณคิดว่าสำคัญ.
․․ ยี่ห้อ
․․ ดึงดูดใจเพศตรงข้าม
․․ เพื่อนยอมรับ
․․ ใส่สบาย
․․ ราคา
․․ อื่น ๆ ․․
▪ พอเห็นชุดนี้พ่อแม่คงจะรู้สึกอย่างไร?
▫ “อย่าซื้อเด็ดขาด!”
▫ “จะเหมาะหรือ?”
▫ “ไม่มีปัญหา.”
▪ อะไรน่าจะเป็นเหตุผลที่ท่านไม่ชอบ?
▫ “ล่อตาล่อใจมากไป”
▫ “ดูรุ่มร่าม”
▫ “ติดตามแฟชั่นเกินไป”
▫ “มันทำให้เราที่เป็นพ่อแม่เสียหน้า”
▫ “แพงเกินไป”
▫ อื่น ๆ ․․
เรามาหารือกันเรื่องนี้ได้ไหม?
▪ ฉันคิดว่าทัศนะของพ่อแม่จะเป็นประโยชน์อย่างไร?
․․․․
▪ มีอะไรที่ทำได้เพื่อจะดัดแปลงเสื้อผ้าชุดนี้ให้เป็นที่ยอมรับ?
․․․․
ส่วนของพ่อแม่
คิดถึงเสื้อผ้าชุดหนึ่งที่ลูกวัยรุ่นของคุณต้องการจะใส่หรือซื้อ.
▪ คุณคิดว่า ทำไมลูกของคุณชอบชุดนี้? ใส่ตัวเลขตามลำดับที่คุณคิดว่าเป็นปัจจัยสำคัญของลูกในการเลือกซื้อเสื้อผ้า.
․․ ยี่ห้อ
․․ ดึงดูดใจเพศตรงข้าม
․․ เพื่อนยอมรับ
․․ ใส่สบาย
․․ ราคา
․․ อื่น ๆ ․․
▪ พอเห็นชุดนี้ฉันรู้สึกอย่างไร?
▫ “อย่าซื้อเด็ดขาด!”
▫ “จะเหมาะหรือ?”
▫ “ไม่มีปัญหา.”
▪ อะไรเป็นเหตุผลที่ฉันไม่ชอบ?
▫ “ล่อตาล่อใจมากไป”
▫ “ดูรุ่มร่าม”
▫ “ติดตามแฟชั่นเกินไป”
▫ “มันทำให้เราที่เป็นพ่อแม่เสียหน้า”
▫ “แพงเกินไป”
▫ อื่น ๆ ․․
เรามาหารือกันเรื่องนี้ได้ไหม?
▪ ที่เราไม่ยอมให้ลูกใส่ชุดนี้เป็นเพียงเพราะรสนิยมส่วนตัวของเราเช่นนั้นไหม?
▫ ใช่ ▫ อาจจะเป็นไปได้ ▫ ไม่ใช่
▪ มีอะไรที่ทำได้เพื่อจะดัดแปลงเสื้อผ้าชุดนี้ให้เป็นที่ยอมรับ?
․․․․
ซื้อหรือไม่ซื้อ?
․․․․
[กรอบ/ภาพหน้า 20]
สิ่งที่คนรุ่นเดียวกับคุณพูด
“การแต่งตัวตามแฟชั่นบ้างก็ไม่ผิด ตราบใดที่ไม่ขัดกับหลักการของคัมภีร์ไบเบิล. เสื้อผ้ามีหลากหลายแบบที่คุณจะหาซื้อได้ซึ่งดูดี และไม่เป็นเหตุให้คนอื่นไม่พอใจ.”—เดอร์ริก
“ตอนที่ฉันเป็นวัยรุ่น ฉันอยากเป็นตัวของตัวเอง. ฉันไม่ชอบให้ใครมาบอกฉันว่าต้องใส่ชุดไหน. แต่ในเวลาต่อมา ฉันตระหนักว่า ฉันไม่ได้รับความนับถืออย่างที่ฉันอยากได้—จนกระทั่งฉันเริ่มรับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่และของผู้ใหญ่.”—เมแกน
“เมื่อฉันเห็นเด็กสาว ๆ ใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยสัดส่วน ฉันไม่อยากนับถือเขา. ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อฉันเห็นคนที่ใส่เสื้อผ้าสวยแต่เรียบร้อย ฉันคิดในใจว่า ‘ฉันอยากให้คนอื่นมองฉันอย่างนี้แหละ.’ ”—นาตาลีน
[กรอบ/ภาพหน้า 21]
แล้วพวกหนุ่ม ๆ ล่ะ?
หลักการของคัมภีร์ไบเบิลที่ได้พูดในบทความนี้ใช้ได้กับหนุ่ม ๆ ด้วย. จงแต่งตัวอย่างสุภาพ. และให้ตัวตนที่อยู่ในใจปรากฏออกมา. เมื่อจะซื้อเสื้อหรือกางเกงสักตัวหนึ่ง ถามตัวเองว่า ‘ชุดนั้นจะบอกอะไรเกี่ยวกับตัวผม? นั่นเป็นตัวตนของผมจริง ๆ ไหม?’ จงจำไว้ว่า เสื้อผ้าเป็นการแสดงออกรูปแบบหนึ่ง. ให้แน่ใจว่า เสื้อผ้าของคุณสะท้อนความเชื่อมั่นของคุณ!
[กรอบหน้า 21]
ถึงพ่อแม่ทั้งหลาย
ขอนึกถึงเหตุการณ์ที่กล่าวในตอนต้นของบทความ และนึกภาพว่าเฮเทอร์เป็นลูกสาวของคุณ. คุณเห็นเธอใส่ชุดที่เปิดเผยสัดส่วนมาก. คุณบอกเธอทันทีว่า “กลับขึ้นไปเปลี่ยนชุดใหม่เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นลูกจะออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!” การพูดอย่างนั้นอาจได้ผล. ว่าไปแล้ว ลูกสาวของคุณไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมทำตาม. แต่คุณจะสอนลูกอย่างไรไม่เพียงแต่ให้เปลี่ยนชุด แต่ให้เปลี่ยนแนวคิดด้วย?
▪ ประการแรก จำไว้ว่าผลของการแต่งกายไม่สุภาพคงต้องเป็นเรื่องใหญ่สำหรับลูกวัยรุ่นพอ ๆ กับคุณหรือมากกว่าด้วยซ้ำ. ที่จริงแล้วลูกวัยรุ่นเองก็ไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนไม่รู้เดียงสาหรือเชื้อเชิญให้คนอื่นสนใจทั้ง ๆ ที่เขาไม่ต้องการ. ค่อย ๆ อธิบายด้วยความอดทนว่าการแต่งกายอย่างไม่สุภาพแท้จริงแล้วไม่ได้ช่วยให้เขาดูดีเลย. * บอกทางเลือกอื่นให้เขา.
▪ ประการที่สอง “ให้คนทั้งปวงเห็นว่าท่านทั้งหลายเป็นคนมีเหตุผล.” (ฟิลิปปอย 4:5) ถามตัวเองว่า ‘เสื้อผ้าชุดนี้ขัดกับหลักการของคัมภีร์ไบเบิลไหม หรือเป็นเพียงเรื่องของรสนิยมส่วนตัว?’ (2 โครินท์ 1:24) หากเป็นเรื่องของรสนิยม คุณจะยอมได้ไหม?
▪ ประการที่สาม อย่าเพียงแต่บอกลูกวัยรุ่นว่าอะไรไม่ เป็นที่ยอมรับ. จงช่วยลูกหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมด้วย. การทำอย่างนั้นคุ้มค่าเวลาและความพยายามของคุณแน่ ๆ.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 107 ลูกวัยรุ่นของคุณคงจะกังวลกับรูปร่างของเขามาก ดังนั้น จงระวังอย่าบอกเป็นนัยว่ารูปร่างของเขามีข้อบกพร่อง.