ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

จงเอาใจใส่คำกล่าวเชิงพยากรณ์ของพระเจ้า

จงเอาใจใส่คำกล่าวเชิงพยากรณ์ของพระเจ้า

จง​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า

“เรา​มี​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ที่​แน่นอน​ยิ่ง​ขึ้น; และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​กำลัง​ทำ​ดี​ใน​การ​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​นั้น.”—2 เปโตร 1:19, ล.ม.

1, 2. คุณ​อาจ​บอก​ได้​ถึง​ตัว​อย่าง​อะไร​เกี่ยว​กับ​มาซีฮา​ปลอม?

เป็น​เวลา​หลาย​ศตวรรษ​ที่​บรรดา​มาซีฮา​ปลอม​ได้​พยายาม​ทำนาย​อนาคต. ใน​ศตวรรษ​ที่​ห้า​แห่ง​สากล​ศักราช ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เรียก​ตัว​เอง​ว่า​โมเซ​ยืน​ยัน​กับ​ชาว​ยิว​บน​เกาะ​ครีต​ว่า​เขา​คือ​พระ​มาซีฮา และ​จะ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​พ้น​จาก​การ​ถูก​กดขี่. ใน​วัน​ที่​กำหนด​ไว้​ว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​อิสรภาพ พวก​เขา​ติด​ตาม​ชาย​ผู้​นี้​ขึ้น​ไป​ยัง​ที่​สูง​แห่ง​หนึ่ง​ติด​กับ​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน. ชาย​ผู้​นี้​กล่าว​ว่า​พวก​เขา​เพียง​แค่​กระโจน​ลง​ไป​ใน​ทะเล แล้ว​ทะเล​ก็​จะ​แยก​ออก​จาก​กัน​ต่อ​หน้า​พวก​เขา. หลาย​คน​ที่​กระโจน​ลง​ไป​จม​น้ำ​ตาย และ​มาซีฮา​ปลอม​คน​นี้​ก็​หลบ​หนี​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย.

2 ใน​ศตวรรษ​ที่ 12 “มาซีฮา” ผู้​หนึ่ง​ปรากฏ​ตัว​ขึ้น​ที่​ประเทศ​เยเมน. กาหลิบ​ซึ่ง​เป็น​ผู้​มี​อำนาจ​ปกครอง​ถาม​เขา​ถึง​หมาย​สำคัญ​ที่​พิสูจน์​ว่า​เขา​เป็น​พระ​มาซีฮา. “มาซีฮา” ผู้​นี้​เสนอ​ให้​กาหลิบ​สั่ง​ตัด​ศีรษะ​เขา. เขา​พยากรณ์​ว่า​เขา​จะ​ถูก​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​อย่าง​รวด​เร็ว​ซึ่ง​จะ​เป็น​หมาย​สำคัญ. กาหลิบ​ตก​ลง​ตาม​แผนการ​นี้—และ​นั่น​คือ​จุด​จบ​ของ “มาซีฮา” ผู้​นี้.

3. ใคร​คือ​พระ​มาซีฮา​แท้ และ​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์​พิสูจน์​ถึง​อะไร?

3 มาซีฮา​ปลอม​เหล่า​นี้​และ​คำ​พยากรณ์​ของ​พวก​เขา​ล้มเหลว​อย่าง​สิ้นเชิง แต่​การ​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า​ไม่​เคย​ทำ​ให้​ผิด​หวัง. พระ​เยซู​คริสต์​พระ​มาซีฮา​แท้​ทรง​เป็น​ความ​สำเร็จ​สม​จริง​ที่​มี​ชีวิต​ของ​คำ​พยากรณ์​หลาย​ข้อ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. ตัว​อย่าง​เช่น โดย​ยก​ข้อ​ความ​จาก​คำ​พยากรณ์​ของ​ยะซายา ผู้​เขียน​พระ​ธรรม​กิตติคุณ​มัดธาย​เขียน​ว่า “เขต​แดน​ซะบูโลน​และ​เขต​แดน​นัฟธาลี, จด​ทะเล, ฟาก​แม่น้ำ​ยาระเดน​ข้าง​โน้น, คือ​ฆาลิลาย​ซึ่ง​เป็น​ที่​อาศัย​ของ​คน​ต่าง​ประเทศ คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​นั่ง​อยู่​ใน​ความ​มืด​ได้​เห็น​ความ​สว่าง​อัน​ใหญ่, และ​ผู้​ที่​อยู่​ใน​เงา​แห่ง​ความ​ตาย​ก็​มี​ความ​สว่าง​ส่อง​มา​ถึง​เขา​แล้ว. ตั้ง​แต่​นั้น​มา​พระ​เยซู​ได้​ทรง​ตั้ง​ต้น​เทศนา​กล่าว​ว่า, จง​กลับ​ใจ​เสีย​ใหม่, เพราะ​ว่า​แผ่นดิน​สวรรค์​มา​ใกล้​แล้ว.” (มัดธาย 4:15-17; ยะซายา 9:1, 2) พระ​เยซู​ทรง​เป็น “ความ​สว่าง​อัน​ใหญ่” ดัง​กล่าว และ​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์​พิสูจน์​ว่า​พระองค์​ทรง​เป็น​ผู้​พยากรณ์​ที่​โมเซ​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า. คน​ที่​ไม่​ยอม​ฟัง​พระ​เยซู​จะ​ถูก​ทำลาย.—พระ​บัญญัติ 18:18, 19; กิจการ 3:22, 23.

4. พระ​เยซู​ทรง​ทำ​ให้​สำเร็จ​อย่าง​ไร​ตาม​ยะซายา 53:12?

4 พระ​เยซู​ทรง​ทำ​ให้​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ที่​ยะซายา 53:12 สำเร็จ​ด้วย ที่​ว่า “ผู้​นั้น​ได้​ยอม​สละ​เลือด​จน​กระทั่ง​หยด​สุด​ท้าย, และ​ถูก​นับ​เข้า​อยู่​ใน​จำพวก​ผู้​ล่วง​ละเมิด, ใน​ขณะ​ที่​เขา​แบก​ความ​ผิด​บาป​ของ​คน​ทั้ง​หลาย​และ​ได้​เสนอ​ความ​แทน​คน​ล่วง​ละเมิด​เหล่า​นั้น.” โดย​ตระหนัก​ว่า​ไม่​ช้า​พระองค์​จะ​ประทาน​ชีวิต​มนุษย์​ของ​พระองค์​เป็น​ค่า​ไถ่ พระ​เยซู​ทรง​เสริม​ความ​เชื่อ​ของ​เหล่า​สาวก. (มาระโก 10:45) พระองค์​ทรง​ทำ​เช่น​นั้น​ด้วย​วิธี​อัน​โดด​เด่น​โดย​การ​จำแลง​พระ​กาย.

การ​จำแลง​พระ​กาย​เสริม​สร้าง​ความ​เชื่อ

5. โดย​ใช้​คำ​พูด​ของ​คุณ​เอง คุณ​จะ​พรรณนา​อย่าง​ไร​ถึง​การ​จำแลง​พระ​กาย?

5 การ​จำแลง​พระ​กาย​เป็น​เหตุ​การณ์​เชิง​พยากรณ์. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “บุตร​มนุษย์​จะ​เสด็จ​มา​ด้วย​รัศมี​แห่ง​พระ​บิดา​พร้อม​กับ​พวก​ทูต . . . เรา​กล่าว​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ตาม​จริง​ว่า, ใน​พวก​ท่าน​ที่​ยืน​อยู่​ที่​นี่ มี​บาง​คน​ซึ่ง​ยัง​จะ​ไม่​ชิม​ความ​ตาย​กว่า​จะ​ได้​เห็น​บุตร​มนุษย์​มา​ใน​แผ่นดิน​ของ​ท่าน.” (มัดธาย 16:27, 28) อัครสาวก​บาง​คน​เห็น​พระ​เยซู​เสด็จ​มา​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์​จริง ๆ ไหม? มัดธาย 17:1-7 กล่าว​ว่า “ครั้น​ล่วง​ไป​ได้​หก​วัน​แล้ว, พระ​เยซู​ทรง​พา​เปโตร, ยาโกโบ, และ​โยฮัน​น้อง​ของ​ยาโกโบ ขึ้น​ภูเขา​สูง​แต่​ลำพัง. แล้ว​รูป​กาย​ของ​พระองค์​ก็​เปลี่ยน​ไป​ต่อ​หน้า​เขา​เหล่า​นั้น.” ช่าง​เป็น​เหตุ​การณ์​ที่​น่า​ตื่นเต้น​อะไร​เช่น​นั้น! “พระ​พักตร์​ของ​พระองค์​ก็​ผ่อง​ใส​เหมือน​แสง​อาทิตย์, ฉลองพระองค์​ก็​ขาว​ดุจ​แสง​สว่าง. แล้ว​โมเซ​และ​เอลียา​ก็​ปรากฏ​แก่​พวก​สาวก​เหล่า​นั้น มา​เฝ้า​สนทนา​กับ​พระองค์.” นอก​จาก​นั้น “บังเกิด​มี​เมฆ​สุก​ใส​มา​คลุม​เขา​ไว้” และ​พวก​เขา​ได้​ยิน​พระ​สุรเสียง​ของ​พระเจ้า​เอง​ตรัส​ว่า “ ‘ท่าน​นี้​เป็น​บุตร​ที่​รัก​ของ​เรา เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​นี้​มาก จง​เชื่อ​ฟัง​ท่าน​เถิด.’ ฝ่าย​พวก​สาวก​เมื่อ​ได้​ยิน​ก็​ซบ​หน้า​กราบ​ลง​กลัว​ยิ่ง​นัก. พระ​เยซู​จึง​เสด็จ​มา​ถูก​ต้อง​เขา​แล้ว​ตรัส​ว่า, ‘จง​ลุก​ขึ้น​เถิด อย่า​กลัว​เลย.’ ”

6. (ก) เพราะ​เหตุ​ใด​พระ​เยซู​ทรง​เรียก​การ​จำแลง​พระ​กาย​ว่า​นิมิต? (ข) การ​จำแลง​พระ​กาย​แสดง​ภาพ​ล่วง​หน้า​ถึง​อะไร?

6 เหตุ​การณ์​อัน​น่า​เกรง​ขาม​นี้​คง​เกิด​ขึ้น ณ สันเขา​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ภูเขา​เฮระโมน ซึ่ง​พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก​สาม​คน​ค้าง​คืน​ที่​นั่น. การ​จำแลง​พระ​กาย​ดู​เหมือน​ว่า​เกิด​ขึ้น​ตอน​กลางคืน ซึ่ง​ทำ​ให้​เหตุ​การณ์​นี้​เด่น​ชัด​เป็น​พิเศษ. เหตุ​ผล​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​พระ​เยซู​ทรง​เรียก​เหตุ​การณ์​นี้​ว่า​นิมิต​คือ โมเซ​และ​เอลียา​ซึ่ง​เสีย​ชีวิต​ไป​นาน​แล้ว​ไม่​ได้​อยู่​ที่​นั่น​จริง ๆ. มี​เพียง​พระ​คริสต์​เท่า​นั้น​ที่​ทรง​อยู่​ที่​นั่น​จริง ๆ. (มัดธาย 17:8, 9, ล.ม.) การ​แสดง​อัน​ลาน​ตา​เช่น​นั้น​ทำ​ให้​เปโตร, ยาโกโบ, และ​โยฮัน​มอง​เห็น​ภาพ​ล่วง​หน้า​ที่​น่า​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ​ถึง​การ​ประทับ​ด้วย​สง่า​ราศี​ของ​พระ​เยซู​ใน​อำนาจ​แห่ง​ราชอาณาจักร. โมเซ​และ​เอลียา​เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​ผู้​ถูก​เจิม​ซึ่ง​เป็น​รัชทายาท​ร่วม​กับ​พระ​เยซู และ​นิมิต​นี้​เสริม​หลักฐาน​ให้​หนักแน่น​ยิ่ง​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​และ​ฐานะ​กษัตริย์​ของ​พระองค์​ใน​อนาคต.

7. เรา​ทราบ​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เปโตร​มี​ความ​ทรง​จำ​อัน​แจ่ม​ชัด​ถึง​การ​จำแลง​พระ​กาย?

7 การ​จำแลง​พระ​กาย​ช่วย​เสริม​ความ​เชื่อ​ของ​อัครสาวก​สาม​คน​ที่​จะ​มี​บทบาท​เป็น​ผู้​นำ​หน้า​ใน​ประชาคม​คริสเตียน. พระ​พักตร์​อัน​ผ่อง​ใส​เจิดจ้า​ของ​พระ​คริสต์, ฉลองพระองค์​อัน​วาว​วับ, และ​พระ​สุรเสียง​ของ​พระเจ้า​เอง​ที่​ประกาศ​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เป็น​พระ​บุตร​ที่​รัก​ซึ่ง​พวก​เขา​ควร​เชื่อ​ฟัง—ทั้ง​หมด​นี้​ทำ​ให้​บรรลุ​จุด​ประสงค์​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ​ที่​สุด. แต่​อัครสาวก​ต้อง​ไม่​เล่า​เรื่อง​นิมิต​นี้​ให้​ใคร​ฟัง​จน​กว่า​พระ​เยซู​จะ​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว. ประมาณ 32 ปี​ต่อ​มา นิมิต​นี้​ยัง​คง​แจ่ม​ชัด​อยู่​ใน​ความ​คิด​ของ​เปโตร. โดย​ชี้​ถึง​นิมิต​นี้​และ​ความหมาย ท่าน​เขียน​ว่า “เปล่า มิ​ใช่​โดย​การ​ติด​ตาม​นิยาย​ที่​เขา​แต่ง​ขึ้น​ด้วย​ความ​ฉลาด​แกม​โกง​นั้น​หรอก​ที่​เรา​ทำ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้​จัก​อำนาจ​และ​การ​ประทับ​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา แต่​โดย​การ​ที่​เรา​ได้​เป็น​ประจักษ์​พยาน​เกี่ยว​กับ​ความ​เลอเลิศ​ของ​พระองค์. เพราะ​พระองค์​ทรง​ได้​รับ​เกียรติยศ​และ​สง่า​ราศี​จาก​พระเจ้า พระ​บิดา คราว​เมื่อ​คำ​ตรัส​เช่น​คำ​เหล่า​นี้​มา​ถึง​พระองค์​โดย​สง่า​ราศีอัน​เลอเลิศ​ว่า ‘ผู้​นี้​เป็น​บุตร​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ของ​เรา ผู้​ซึ่ง​เรา​เอง​ได้​รับรอง​ไว้.’ ถูก​แล้ว เรา​ได้​ยิน​คำ​ตรัส​เหล่า​นี้​จาก​สวรรค์​ขณะ​ที่​เรา​ได้​อยู่​กับ​พระองค์​ใน​ภูเขา​บริสุทธิ์.”—2 เปโตร 1:16-18, ล.ม.

8. (ก) การ​ประกาศ​ของ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​พระ​บุตร​ของ​พระองค์​เพ่ง​ความ​สนใจ​ไป​ที่​อะไร? (ข) เมฆ​ที่​ปรากฏ​ใน​การ​จำแลง​พระ​กาย​บ่ง​ชี้​ถึง​อะไร?

8 ส่วน​สำคัญ​ที่​สุด​คือ​การ​ประกาศ​ของ​พระเจ้า​ที่​ว่า “ท่าน​นี้​เป็น​บุตร​ที่​รัก​ของ​เรา เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​นี้​มาก จง​เชื่อ​ฟัง​ท่าน​เถิด.” คำ​ตรัส​นี้​เพ่ง​ความ​สนใจ​ไป​ที่​พระ​เยซู​ใน​ฐานะ​กษัตริย์​ผู้​ครอง​บัลลังก์​ของ​พระเจ้า ซึ่ง​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ทั้ง​ปวง​ต้อง​เชื่อ​ฟัง. เมฆ​ที่​บดบัง​ชี้​ว่า​ความ​สำเร็จ​สม​จริง​ของ​นิมิต​นี้​จะ​ไม่​ปรากฏ​แก่​ตา. ความ​สำเร็จ​สม​จริง​นั้น​จะ​เป็น​ที่​เข้าใจ​เฉพาะ​แต่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​ตา​แห่ง​ความ​เข้าใจ​ซึ่ง​ยอม​รับ “หมาย​สำคัญ” แห่ง​การ​ประทับ​ที่​ไม่​ปรากฏ​แก่​ตา​ของ​พระ​เยซู​ใน​อำนาจ​แห่ง​ราชอาณาจักร. (มัดธาย 24:3) ที่​จริง การ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​มี​รับสั่ง​ไม่​ให้​บอก​นิมิต​นั้น​แก่​ใคร​จน​กว่า​พระองค์​จะ​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว​แสดง​ว่า การ​ที่​พระองค์​จะ​ได้​รับ​การ​ยก​ชู​และ​ได้​รับ​สง่า​ราศี​จะ​เกิด​ขึ้น​หลัง​จาก​การ​คืน​พระ​ชนม์.

9. เหตุ​ใด​การ​จำแลง​พระ​กาย​น่า​จะ​เสริม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา?

9 หลัง​จาก​กล่าว​ถึง​การ​จำแลง​พระ​กาย เปโตร​กล่าว​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น เรา​มี​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ที่​แน่นอน​ยิ่ง​ขึ้น; และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​กำลัง​ทำ​ดี​ใน​การ​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​นั้น​เสมือน​ตะเกียง​ส่อง​สว่าง​ใน​ที่​มืด ใน​หัวใจ​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย จน​กระทั่ง​รุ่ง​อรุณ​และ​ดาว​ประกายพรึก​ขึ้น​มา. เพราะ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทราบ​ข้อ​นี้​ก่อน คือ​ว่า ไม่​มี​คำ​พยากรณ์​ใน​พระ​คัมภีร์​ที่​เกิด​จาก​การ​แปล​ความหมาย​ตาม​อำเภอใจ​แต่​อย่าง​ใด. เพราะ​ไม่​มี​คราว​ใด​ที่​มี​การ​นำ​คำ​พยากรณ์​ออก​มา​ตาม​น้ำใจ​ของ​มนุษย์ แต่​มนุษย์​ได้​กล่าว​มา​จาก​พระเจ้า ตาม​ที่​เขา​ได้​รับ​การ​ทรง​นำ​โดย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.” (2 เปโตร 1:19-21, ล.ม.) การ​จำแลง​พระ​กาย​เน้น​ถึง​ความ​น่า​เชื่อถือ​แห่ง​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า. เรา​ต้อง​เอา​ใจ​ใส่​ใน​พระ​คำ​นั้น ไม่​ใช่​ใน “นิยาย​ที่​เขา​แต่ง​ขึ้น​ด้วย​ความ​ฉลาด​แกม​โกง” ซึ่ง​ไม่​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​หรือ​เห็น​ชอบ​จาก​พระเจ้า. ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ใน​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​น่า​จะ​ได้​รับ​การ​เสริม​ให้​เข้มแข็ง​โดย​การ​จำแลง​พระ​กาย เนื่อง​จาก​ภาพ​นิมิต​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ล่วง​หน้า​ถึง​สง่า​ราศี​ของ​พระ​เยซู​และ​อำนาจ​แห่ง​ราชอาณาจักร​ได้​ปรากฏ​เป็น​จริง​แล้ว. ใช่​แล้ว เรา​มี​หลักฐาน​ที่​ไม่​อาจ​ปฏิเสธ​ได้​ว่า​เวลา​นี้​พระ​คริสต์​ทรง​ประทับ​ใน​ฐานะ​กษัตริย์​ฝ่าย​สวรรค์​ผู้​ทรง​ไว้​ซึ่ง​อำนาจ.

วิธี​ที่​ดาว​ประกายพรึก​ขึ้น​มา

10. “ดาว​ประกายพรึก” ที่​เปโตร​กล่าว​ถึง​คือ​ใคร​หรือ​อะไร และ​เหตุ​ใด​คุณ​จึง​ตอบ​อย่าง​นั้น?

10 เปโตร​เขียน​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​กำลัง​ทำ​ดี​ใน​การ​เอา​ใจ​ใส่ [คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์] เสมือน​ตะเกียง​ส่อง​สว่าง​ใน​ที่​มืด ใน​หัวใจ​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย จน​กระทั่ง​รุ่ง​อรุณ​และ​ดาว​ประกายพรึก​ขึ้น​มา.” “ดาว​ประกายพรึก” นี้​คือ​ใคร​หรือ​อะไร? คำ “ดาว​ประกายพรึก” ปรากฏ​เพียง​ครั้ง​เดียว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​มี​ความหมาย​เช่น​เดียว​กับ “ดาว​รุ่ง.” วิวรณ์ 22:16 (ล.ม.) เรียก​พระ​เยซู​คริสต์​ว่า “ดาว​รุ่ง​อัน​สุก​ใส.” ใน​บาง​ฤดู​ของ​แต่​ละ​ปี ดาว​ดัง​กล่าว​เป็น​ดาว​จำพวก​สุด​ท้าย​ที่​ขึ้น​ทาง​ขอบ​ฟ้า​ด้าน​ตะวัน​ออก. ดาว​เหล่า​นี้​ขึ้น​ก่อน​หน้า​ดวง​อาทิตย์​จะ​ปรากฏ​เล็ก​น้อย เป็น​สัญญาณ​บอก​ว่า​รุ่ง​อรุณ​ของ​วัน​ใหม่​กำลัง​จะ​มา​ถึง. เปโตร​ใช้​คำ “ดาว​ประกายพรึก” นี้​พรรณนา​ถึง​พระ​เยซู​หลัง​จาก​ที่​พระองค์​ทรง​รับ​อำนาจ​แห่ง​ราชอาณาจักร. ใน​ตอน​นั้น​เอง พระ​เยซู​ทรง​ขึ้น​มา​ใน​เอกภพ​ทั้ง​สิ้น รวม​ทั้ง​แผ่นดิน​โลก​ของ​เรา​ด้วย! ใน​ฐานะ​ดาว​ประกายพรึก​มาซีฮา พระองค์​ทรง​เป็น​สัญญาณ​ถึง​การ​เริ่ม​ต้น​แห่ง​วัน​ใหม่​หรือ​ศักราช​ใหม่​สำหรับ​มนุษยชาติ​ที่​เชื่อ​ฟัง.

11. (ก) ทำไม 2 เปโตร 1:19 ไม่​ได้​หมายความ​ว่า “ดาว​ประกายพรึก” ขึ้น​มา​ใน​หัวใจ​จริง ๆ ของ​มนุษย์? (ข) คุณ​จะ​อธิบาย 2 เปโตร 1:19 อย่าง​ไร?

11 ฉบับ​แปล​คัมภีร์​ไบเบิล​หลาย​ฉบับ​ส่ง​เสริม​แนว​คิด​ที่​ว่า​คำ​พูด​ของ​อัครสาวก​เปโตร​ดัง​บันทึก​ที่ 2 เปโตร 1:19 กล่าว​ถึง​หัวใจ​จริง ๆ ของ​มนุษย์. หัวใจ​ของ​ผู้​ใหญ่​หนัก​เพียง 250-300 กรัม. พระ​เยซู​คริสต์—ซึ่ง​บัด​นี้​ทรง​เป็น​กาย​วิญญาณ​อมตะ​ที่​ได้​รับ​สง่า​ราศี​อยู่​ใน​สวรรค์—จะ​ขึ้น​มา​ใน​อวัยวะ​เล็ก ๆ นี้​ของ​มนุษย์​ได้​อย่าง​ไร? (1 ติโมเธียว 6:16) แน่นอน หัวใจ​โดย​นัย​ของ​เรา​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรื่อง​นี้ เพราะ​เรา​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า​โดย​อาศัย​หัวใจ​โดย​นัย. แต่​ขอ​ให้​พิจารณา​ดี ๆ ที่ 2 เปโตร 1:19 และ​คุณ​จะ​เห็น​ว่า​ใน​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่ (ภาษา​ไทย) เรียง​ประโยค​ให้​ได้​ความ​ชัด​โดย​จัด​วลี “ใน​หัวใจ​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย” ให้​อยู่​ข้าง​หน้า​วลี “จน​กระทั่ง​รุ่ง​อรุณ​และ​ดาว​ประกายพรึก​ขึ้น​มา.” ข้อ​นี้​อาจ​กล่าว​ได้​อย่าง​นี้: ‘เรา​มี​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ที่​แน่นอน​ยิ่ง​ขึ้น; และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​กำลัง​ทำ​ดี​ใน​การ​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​นั้นเสมือน​ตะเกียง​ส่อง​สว่าง​ใน​ที่​มืด กล่าว​คือ​ใน​หัวใจ​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย จน​กระทั่ง​รุ่ง​อรุณ​และ​ดาว​ประกายพรึก​ขึ้น​มา.’

12. สภาพ​หัวใจ​ของ​มนุษย์​โดย​ทั่ว​ไป​เป็น​เช่น​ไร แต่​คริสเตียน​แท้​เป็น​เช่น​ไร?

12 สภาพ​หัวใจ​โดย​นัย​ของ​มนุษยชาติ​ที่​ผิด​บาป​โดย​ทั่ว​ไป​เป็น​เช่น​ไร? หัวใจ​ของ​พวก​เขา​อยู่​ใน​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ! อย่าง​ไร​ก็​ตาม หาก​เรา​เป็น​คริสเตียน​แท้ ก็​เหมือน​กับ​เรา​มี​ตะเกียง​ส่อง​สว่าง​ใน​หัวใจ​ของ​เรา ซึ่ง​มิ​ฉะนั้น​แล้ว​ก็​จะ​อยู่​ใน​ความ​มืด. ดัง​ที่​คำ​กล่าว​ของ​เปโตร​ชี้​ถึง โดย​การ​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​ให้​ความ​สว่าง คริสเตียน​แท้​จะ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​และ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​เกี่ยว​กับ​รุ่ง​อรุณ​ของ​วัน​ใหม่. พวก​เขา​จะ​สำนึก​ถึง​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​ดาว​ประกายพรึก​ได้​ขึ้น​มา​แล้ว ไม่​ใช่​ใน​หัวใจ​ฝ่าย​เนื้อหนัง​ของ​มนุษย์ หาก​แต่​ขึ้น​มา​ต่อ​หน้า​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ทั้ง​สิ้น.

13. (ก) ทำไม​เรา​จึง​แน่​ใจ​ได้​ว่า​ดาว​ประกายพรึก​ได้​ขึ้น​มา​แล้ว? (ข) ทำไม​คริสเตียน​จึง​สามารถ​อด​ทน​สภาพ​ลำบาก​ต่าง ๆ ที่​พระ​เยซู​ตรัส​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​จะ​เกิด​ขึ้น​ใน​สมัย​ของ​เรา?

13 ดาว​ประกายพรึก​ได้​ขึ้น​มา​แล้ว! เรา​แน่​ใจ​ได้​ใน​เรื่อง​นี้​โดย​เอา​ใจ​ใส่​คำ​พยากรณ์​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​การ​ประทับ​ของ​พระองค์. ปัจจุบัน เรา​กำลัง​เห็น​ความ​สำเร็จ​สม​จริง​ตาม​คำ​พยากรณ์​นั้น​ใน​เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ อย่าง​ไม่​เคย​เป็น​เช่น​นี้​มา​ก่อน ไม่​ว่า​จะ​สงคราม, การ​กันดาร​อาหาร, แผ่นดิน​ไหว, และ​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​ไป​ทั่ว​โลก. (มัดธาย 24:3-14) แม้​ว่า​สภาพ​ยาก​ลำบาก​ต่าง ๆ ที่​พระ​เยซู​ทรง​บอก​ล่วง​หน้า​ก่อ​ผล​กระทบ​ต่อ​พวก​เรา​ที่​เป็น​คริสเตียน​ด้วย แต่​เรา​อด​ทน​ได้​ด้วย​หัวใจ​ที่​สงบ​สุข​และ​ยินดี. เพราะ​เหตุ​ใด? เนื่อง​จาก​เรา​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า​และ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​สิ่ง​ที่​พระองค์​ทรง​สัญญา​สำหรับ​อนาคต. เรา​ทราบ​ว่า​เรา​กำลัง​ยืน​อยู่ ณ ธรณี​ประตู​ของ​สมัย​ที่​ดี​ที่​สุด​เนื่อง​จาก​เรา​ล่วง​เข้า​มา​ใน “เวลา​อวสาน” มาก​แล้ว! (ดานิเอล 12:4, ล.ม.) โลก​ตก​อยู่​ใน​ความ​ลำบาก​อย่าง​หนัก​ซึ่ง​บอก​ล่วง​หน้า​ไว้​ที่​ยะซายา 60:2 ว่า “ดู​เถอะ, ความ​มืด​จะ​แผ่​ปิด​โลก​ไว้​มิด, และ​ความ​มืด​ทึบ​จะ​คลุม​ประชาชน​ไว้.” คน​เรา​จะ​พบ​ทาง​ได้​อย่าง​ไร​ใน​ความ​มืด​เช่น​นี้? เขา​ต้อง​ถ่อม​ใจ​ลง​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า​เสีย​แต่​บัด​นี้ ก่อน​จะ​สาย​เกิน​ไป. ผู้​คน​ที่​มี​หัวใจ​สุจริต​จำ​ต้อง​หัน​มา​หา​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า แหล่ง​แห่ง​ชีวิต​และ​ความ​สว่าง. (บทเพลง​สรรเสริญ 36:9; กิจการ 17:28) ด้วย​การ​ทำ​อย่าง​นี้​เท่า​นั้น​คน​เรา​จึง​จะ​มี​ความ​สว่าง​แท้​และ​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​ชื่นชม​อนาคต​อัน​น่า​พิศวง​ซึ่ง​พระเจ้า​ทรง​ประสงค์​สำหรับ​มนุษยชาติ​ที่​เชื่อ​ฟัง.—วิวรณ์ 21:1-5.

“ความ​สว่าง​ได้​เข้า​มา​ใน​โลก​แล้ว”

14. เรา​ต้อง​ทำ​เช่น​ไร​เพื่อ​จะ​ประสบ​กับ​ความ​สำเร็จ​สม​จริง​ตาม​คำ​พยากรณ์​อัน​ยอด​เยี่ยม​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล?

14 พระ​คัมภีร์​กล่าว​ไว้​ชัดเจน​ว่า​บัด​นี้​พระ​เยซู​คริสต์​กำลัง​ปกครอง​ใน​ฐานะ​กษัตริย์. เนื่อง​ด้วย​การ​เสด็จ​ขึ้น​สู่​อำนาจ​ของ​พระองค์​ใน​ปี 1914 คำ​พยากรณ์​ที่​ยอด​เยี่ยม​ต่าง ๆ ยัง​จะ​ต้อง​ได้​สำเร็จ​เป็น​จริง. เพื่อ​จะ​ประสบ​กับ​ความ​สำเร็จ​สม​จริง​ของ​คำ​พยากรณ์​เหล่า​นั้น เรา​ต้อง​พิสูจน์​ตัว​เป็น​คน​อ่อนน้อม​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​คริสต์, กลับ​ใจ​จาก​การ​ทำ​บาป​และ​บาป​ที่​ทำ​ด้วย​ความ​ไม่​รู้. แน่นอน คน​ที่​รัก​ความ​มืด​จะ​ไม่​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “หลัก​ของ​การ​พิพากษา​ก็​เป็น​อย่าง​นี้ คือ​ว่า​ความ​สว่าง​ได้​เข้า​มา​ใน​โลก​แล้ว​แต่​มนุษย์​ได้​รัก​ความ​มืด​มาก​กว่า​รัก​ความ​สว่าง เพราะ​การ​ของ​เขา​ชั่ว. เพราะ​ผู้​ที่​ทำ​สิ่ง​ชั่ว​ย่อม​ชัง​ความ​สว่าง​และ​ไม่​ได้​มา​ถึง​ความ​สว่าง เพื่อ​การ​ของ​ตน​จะ​ไม่​ถูก​ว่า​กล่าว. แต่​ผู้​ที่​ทำ​สิ่ง​ซึ่ง​เป็น​ความ​จริง​ย่อม​มา​ถึง​ความ​สว่าง เพื่อ​การ​ของ​ตน​จะ​ปรากฏ​ว่า​ได้​ทำ​ไป​อย่าง​ที่​ประสาน​กัน​กับ​พระเจ้า.”—โยฮัน 3:19-21, ล.ม.

15. จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้า​เรา​ละเลย​ความ​รอด​ที่​พระเจ้า​ได้​ทรง​ทำ​ให้​เป็น​ไป​ได้​โดย​ทาง​พระ​บุตร​ของ​พระองค์?

15 ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ​ได้​เข้า​มา​ใน​โลก​โดย​ทาง​พระ​เยซู และ​การ​เชื่อ​ฟัง​พระองค์​เป็น​เรื่อง​สำคัญ. เปาโล​เขียน​ว่า “พระเจ้า ซึ่ง​ได้​ตรัส​เมื่อ​นาน​มา​แล้ว​ใน​หลาย​โอกาส​และ​หลาย​วิธี​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​โดย​ทาง​ผู้​พยากรณ์ ได้​ตรัส​แก่​เรา​ทั้ง​หลาย​ใน​คราว​ที่​สุด​แห่ง​สมัย​นี้​โดย​ทาง​พระ​บุตร​ผู้​ซึ่ง​พระองค์​ทรง​ตั้ง​ไว้​เป็น​ทายาท​แห่ง​สรรพสิ่ง.” (เฮ็บราย 1:1, 2, ล.ม.) จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​หาก​เรา​ดูถูก​ความ​รอด​ที่​พระเจ้า​ได้​ทรง​ทำ​ให้​เป็น​ไป​ได้​โดย​ทาง​พระ​บุตร​ของ​พระองค์? เปาโล​กล่าว​ต่อ​ไป​ว่า “ถ้า​ถ้อย​คำ​ที่​ตรัส​โดย​ทาง​ทูตสวรรค์​ปรากฏ​ว่า​เป็น​เรื่อง​แน่นอน และ​การ​ล่วง​ละเมิด​และ​ไม่​เชื่อ​ฟัง​ทุก​อย่าง​ได้​รับ​การ​สนอง​โทษ​ตาม​ความ​ยุติธรรม​แล้ว; เรา​จะ​หนี​ให้​พ้น​อย่าง​ไร​ถ้า​เรา​ไม่​ใส่​ใจความ​รอด​อัน​สำคัญ​ยิ่ง​เช่น​นั้น เพราะ​ว่า​ความ​รอด​นั้น​เริ่ม​มี​การ​กล่าว​ถึง​โดย​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา​และ​มี​การ​ยืน​ยัน​แก่​พวก​เรา​โดย​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ได้​ฟัง​พระองค์ ขณะ​ที่​พระเจ้า​ทรง​ร่วม​เป็น​พยาน​ด้วย​หมาย​สำคัญ​รวม​ทั้ง​การ​อัศจรรย์​และ​การ​อิทธิ​ฤทธิ์​ต่าง ๆ และ​ด้วย​การ​ประทาน​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์?” (เฮ็บราย 2:2-4, ล.ม.) ใช่​แล้ว พระ​เยซู​ทรง​เป็น​จุด​รวม​ของ​การ​ประกาศ​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์.—วิวรณ์ 19:10.

16. ทำไม​เรา​จึง​สามารถ​มี​ความ​เชื่อ​เต็ม​เปี่ยม​ใน​คำ​พยากรณ์​ทุก​ข้อ​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า?

16 ดัง​ที่​ได้​กล่าว​ไป​แล้ว เปโตร​บอก​ว่า “ไม่​มี​คำ​พยากรณ์​ใน​พระ​คัมภีร์​ที่​เกิด​จาก​การ​แปล​ความหมาย​ตาม​อำเภอใจ​แต่​อย่าง​ใด.” ลำพัง​มนุษย์​เอง​ไม่​อาจ​ทำ​ให้​เกิด​คำ​พยากรณ์​แท้​ได้ แต่​เรา​สามารถ​มี​ความ​เชื่อ​เต็ม​เปี่ยม​ใน​คำ​พยากรณ์​ทุก​ข้อ​ของ​พระเจ้า. คำ​พยากรณ์​เหล่า​นี้​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เอง. โดย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ พระองค์​ได้​ทรง​ทำ​ให้​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​สามารถ​เข้าใจ​วิธี​ที่​คำ​พยากรณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​กำลัง​สำเร็จ​สม​จริง. ที่​จริง เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​เรา​ได้​เห็น​ความ​สำเร็จ​สม​จริง​ของ​คำ​พยากรณ์​เหล่า​นั้น​หลาย​ข้อ​นับ​ตั้ง​แต่​ปี 1914. และ​เรา​เชื่อ​แน่​ว่า​คำ​พยากรณ์​ที่​เหลือ​ทั้ง​หมด​เกี่ยว​กับ​อวสาน​ของ​ระบบ​ชั่ว​นี้​จะ​สำเร็จ​เป็น​จริง. สำคัญ​ที่​เรา​จะ​เฝ้า​ระวัง​เอา​ใจ​ใส่​การ​บอก​ล่วง​หน้า​ของ​พระเจ้า​ใน​ขณะ​ที่​เรา​ให้​ความ​สว่าง​ของ​เรา​ส่อง​ออก​ไป. (มัดธาย 5:16) เรา​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​สัก​เพียง​ไร​ที่​พระองค์​กำลัง​ทำ​ให้ ‘แสง​สว่าง​ฉาย​ขึ้น​สำหรับ​เรา​ใน​ความ​มืด​อัน​หนา​ทึบ’ ที่​ห่อ​หุ้ม​แผ่นดิน​โลก​อยู่​ใน​เวลา​นี้!—ยะซายา 58:10.

17. เหตุ​ใด​เรา​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ​จาก​พระเจ้า?

17 แสง​สว่าง​ทำ​ให้​เรา​มอง​เห็น. แสง​สว่าง​ยัง​ทำ​ให้​พืช​เติบโต​และ​เป็น​อาหาร​มาก​มาย​หลาก​หลาย​สำหรับ​เรา. เรา​ไม่​อาจ​อยู่​ได้​โดย​ปราศจาก​แสง​สว่าง. จะ​ว่า​อย่าง​ไร​สำหรับ​ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ? ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ​ให้​การ​ชี้​นำ​และ​บอก​เรา​ถึง​อนาคต​ที่​มี​แจ้ง​ไว้​ล่วง​หน้า​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. (บทเพลง​สรรเสริญ 119:105) ด้วย​ความ​รัก พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า ‘ทรง​ส่ง​ความ​สว่าง​และ​ความ​จริง​ของ​พระองค์​ออก​ไป.’ (บทเพลง​สรรเสริญ 43:3) แน่นอน เรา​ควร​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ลึกซึ้ง​ต่อ​การ​จัด​เตรียม​เช่น​นั้น. ด้วย​เหตุ​นั้น ให้​เรา​ทำ​สุด​กำลัง​ของ​เรา​ใน​การ​ซึมซับ​แสง​สว่าง​แห่ง “ความ​รู้​อัน​รุ่ง​โรจน์​ของ​พระเจ้า” เพื่อ​ให้​ส่อง​สว่าง​แก่​หัวใจ​โดย​นัย​ของ​เรา.—2 โกรินโธ 4:6, ล.ม.; เอเฟโซ 1:18.

18. ดาว​ประกายพรึก​ของ​พระ​ยะโฮวา​พร้อม​จะ​ทำ​อะไร​ใน​เวลา​นี้?

18 เรา​ได้​รับ​พระ​พร​สัก​เพียง​ไร​ที่​ทราบ​ว่า​ใน​ปี 1914 พระ​เยซู​คริสต์ ดาว​ประกายพรึก ทรง​ขึ้น​มา​ใน​เอกภพ​ทั้ง​สิ้น​และ​เริ่ม​ทำ​ให้​สำเร็จ​ตาม​นิมิต​การ​จำแลง​พระ​กาย! บัด​นี้ ดาว​ประกายพรึก​ของ​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​ปรากฏ​อยู่ พร้อม​จะ​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​ใน​ความ​สำเร็จ​สม​จริง​ขั้น​ต่อ​ไป​ของ​การ​จำแลง​พระ​กาย—“สงคราม​แห่ง​วัน​ใหญ่​ของ​พระเจ้า​องค์​ทรง​ฤทธานุภาพ​ทุก​ประการ.” (วิวรณ์ 16:14, 16, ล.ม.) หลัง​จาก​ที่​ระบบ​เก่า​นี้​ได้​ถูก​กวาด​ล้าง​ไป​แล้ว พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​ทำ​ตาม​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์​เกี่ยว​กับ “ฟ้า​สวรรค์​ใหม่​และ​แผ่นดิน​โลก​ใหม่” ซึ่ง​เรา​จะ​สรรเสริญ​พระองค์​ได้​ตลอด​ไป​ใน​ฐานะ​ที่​ทรง​เป็น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​องค์​บรม​มหิศร​แห่ง​เอกภพ​และ​พระเจ้า​แห่ง​คำ​พยากรณ์​แท้. (2 เปโตร 3:13, ล.ม.) จน​กว่า​จะ​ถึง​วัน​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​นั้น ให้​เรา​ดำเนิน​ต่อ ๆ ไป​ใน​ความ​สว่าง​ของ​พระเจ้า​ด้วย​การ​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า.

คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

• คุณ​จะ​พรรณนา​อย่าง​ไร​ถึง​การ​จำแลง​พระ​กาย​ของ​พระ​เยซู?

• การ​จำแลง​พระ​กาย​เสริม​สร้าง​ความ​เชื่อ​อย่าง​ไร?

• ดาว​ประกายพรึก​ของ​พระ​ยะโฮวา​คือ​ใคร​หรือ​อะไร และ​ดาว​นี้​ขึ้น​มา​เมื่อ​ไร?

• เหตุ​ใด​เรา​ควร​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 13]

คุณ​อธิบาย​ได้​ไหม​ถึง​ความหมาย​ของ​การ​จำแลง​พระ​กาย?

[ภาพ​หน้า 15]

ดาว​ประกายพรึก​ได้​ขึ้น​มา​แล้ว. คุณ​ทราบ​ไหม​ว่า​โดย​วิธี​ใด​และ​เมื่อ​ไร?