ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ชีวิตมั่งคั่งเนื่องด้วยการรับใช้พระยะโฮวา

ชีวิตมั่งคั่งเนื่องด้วยการรับใช้พระยะโฮวา

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ชีวิต​มั่งคั่ง​เนื่อง​ด้วย​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา

เล่า​โดย​รัสเซลล์ เคอร์เซน

ผม​เกิด​วัน​ที่ 22 กันยายน 1907 เจ็ด​ปี​ก่อน​ยุค​สมัย​ที่​เด่น​กว่า​ยุค​อื่น​มาก​ซึ่ง​เริ่ม​ขึ้น​ด้วย​การ​ปะทุ​ของ​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​หนึ่ง. ครอบครัว​ของ​เรา​มั่งคั่ง​ใน​แนว​ทาง​ที่​นับ​ว่า​สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง. หลัง​จาก​คุณ​ฟัง​ราย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​ประวัติ​พวก​เรา​สัก​เล็ก​น้อย ผม​คิด​ว่า​คุณ​คง​จะ​เห็น​พ้อง​ด้วย.

ขณะ​ที่​ยัง​เป็น​เด็ก​หญิง​ตัว​เล็ก ๆ คุณ​ย่า​เคอร์เซน​ได้​สืบ​ค้น​หา​ความ​จริง​เรื่อง​พระเจ้า​อยู่​แล้ว. ก่อน​ย่าง​เข้า​สู่​วัยรุ่น ย่า​ได้​แวะ​เยือน​โบสถ์​หลาย​แห่ง​ใน​เมือง​สปีตซ์ ประเทศ​สวิตเซอร์แลนด์ บ้าน​เกิด​ของ​ท่าน​ซึ่ง​ทัศนียภาพ​ที่​นั่น​งดงาม​มาก. หลัง​จาก​ย่า​แต่งงาน​ไม่​กี่​ปี ครอบครัว​เคอร์เซน​ได้​สมทบ​กับ​กลุ่ม​ผู้​อพยพ​ย้าย​ถิ่น​ฐาน​ซึ่ง​มา​ถึง​ชายฝั่ง​ประเทศ​สหรัฐ​ใน​ปี 1887.

หลัง​จาก​ครอบครัว​ได้​ตั้ง​หลัก​ปัก​ฐาน​ใน​รัฐ​โอไฮโอ ณ ที่​นี่ ประมาณ​ปี 1900 ย่า​ได้​พบ​สมบัติ​ซึ่ง​พยายาม​เสาะ​หา​มา​ตลอด. สมบัติ​ที่​ว่า​นี้​พบ​ได้​จาก​หน้า​หนังสือ​ที่​ชาลส์ เทซ รัสเซลล์​เขียน ชื่อ​ว่า​เวลา​ใกล้​จะ​ถึง​แล้ว ใน​ภาษา​เยอรมัน. ย่า​เข้าใจ​ได้​อย่าง​รวด​เร็ว​ว่า​เรื่อง​ที่​อ่าน​นั้น​เป็น​ความ​สว่าง​เกี่ยว​กับ​ความ​จริง​แห่ง​คัมภีร์​ไบเบิล. แม้​ย่า​แทบ​จะ​อ่าน​ภาษา​อังกฤษ​ไม่​ออก แต่​ท่าน​ได้​บอกรับ​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ภาษา​อังกฤษ. ด้วย​วิธี​นี้ ท่าน​เรียน​รู้​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​ขึ้น และ​เรียน​ภาษา​อังกฤษ​ไป​พร้อม ๆ กัน. ปู่​ไม่​เคย​สนใจ​เรื่อง​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​ที่​ภรรยา​ของ​ท่าน​สนใจ.

ใน​จำนวน​ลูก 11 คน​ของ​คุณ​ย่า​เคอร์เซน มี​เพียง​ลูก​ชาย​สอง​คน​คือ​จอห์น​ผู้​พี่​และ​อะดอล์ฟ​น้อง​ชาย​ที่​เห็น​คุณค่า​สมบัติ​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​ย่า​ได้​พบ. จอห์น​เป็น​คุณ​พ่อ​ของ​ผม​เอง และ​ท่าน​ได้​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี 1904 ที่​เมือง​เซนต์​หลุยส์ รัฐ​มิสซูรี ณ การ​ประชุม​ใหญ่​ของ​กลุ่ม​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​เรียก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สมัย​นั้น. เนื่อง​จาก​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ส่วน​ใหญ่​ไม่​ใช่​คน​ร่ำรวย จึง​มี​การ​กำหนด​เวลา​เดิน​ทาง​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ให้​ตรง​กัน​กับ​งาน​เวิลด์​แฟร์​ใน​เมือง​เซนต์​หลุยส์ เพื่อ​จะ​ได้​ส่วน​ลด​ค่า​โดยสาร​รถไฟ​เป็นพิเศษ. ต่อ​มา​ใน​ปี 1907 อะดอล์ฟ​ซึ่ง​เป็น​อา​ของ​ผม​ได้​รับ​บัพติสมา ณ การ​ประชุม​ใหญ่ ที่​เมือง​ไนแอการา​ฟอลส์ รัฐ​นิวยอร์ก. ด้วย​ความ​กระตือรือร้น ทั้ง​พ่อ​และ​อา​ของ​ผม​ได้​ประกาศ​เผยแพร่​ความ​รู้​ที่​ท่าน​เรียน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล และ​ใน​ที่​สุด​ทั้ง​สอง​คน​ได้​มา​เป็น​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา (เดี๋ยว​นี้​เรียก​ว่า​ไพโอเนียร์).

ดัง​นั้น ปี 1907 ตอน​ที่​ผม​เกิด ครอบครัว​ของ​เรา​มั่งคั่ง​อยู่​แล้ว​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. (สุภาษิต 10:22) ปี 1908 ผม​เป็น​แค่​เด็ก​ทารก เมื่อ​พ่อ​แม่​ผม​คือ​จอห์น​กับ​ไอดา​ได้​พา​ผม​ไป​ยัง​การ​ประชุม​ภาค “มุ่ง​สู่​ชัย​ชนะ” ที่​พุตอินเบย์ รัฐ​โอไฮโอ. เวลา​นั้น โจเซฟ เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ด​เป็น​ผู้​รับใช้​เดิน​ทาง และ​เป็น​ประธาน​การ​ประชุม. ไม่​กี่​สัปดาห์​ก่อน​หน้า​นั้น ท่าน​เดิน​ทาง​ไป​ถึง​เมือง​ดัลตัน รัฐ​โอไฮโอ ได้​แวะ​เยี่ยม​พวก​เรา​ที่​บ้าน​และ​ให้​คำ​บรรยาย​แก่​กลุ่ม​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ท้องถิ่น.

แน่​ละ ลำพัง​ผม​คง​จำ​เหตุ​การณ์​เหล่า​นั้น​ไม่​ได้​หรอก แต่​ผม​จำ​การ​ประชุม​ใหญ่ ปี 1911 ที่​เมือง​เมาน์เทน​เลก​ปาร์ก รัฐ​แมริแลนด์​ได้. ที่​นั่น ผม​กับ​เอสเทอร์​น้อง​สาว​ได้​พบ​บราเดอร์​ชาลส์ เทซ รัสเซลล์ ท่าน​ได้​ดู​แล​การ​เผยแพร่​ทั่ว​โลก​ที่​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ทำ​กัน​อยู่.

วัน​ที่ 28 มิถุนายน ปี 1914 โลก​กระโจน​สู่​สงคราม​ซึ่ง​มี​สาเหตุ​จาก​การ​ลอบ​ปลง​พระ​ชนม์​อาร์ชดุ๊ก​เฟอร์ดินันด์​กับ​พระ​ชายา​ที่​เมือง​ซาราเยโว ส่วน​ผม​กับ​คน​ใน​ครอบครัว​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​ที่​สงบ​สุข​ใน​เมือง​โคลัมบัส รัฐ​โอไฮโอ. ตั้ง​แต่​ช่วง​แรก ๆ ของ​ชีวิต ผม​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​อยู่ ณ การ​ประชุม​ใหญ่​แห่ง​ไพร่พล​ของ​พระ​ยะโฮวา​หลาย​ครั้ง. บาง​ครั้ง​มี​ผู้​เข้า​ร่วม​ประชุม​เพียง​ร้อย​กว่า​คน​หรือ​ประมาณ​นั้น. แต่​บาง​ครั้ง​ก็​เป็น​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​จัด​ขึ้น​ใน​สนาม​กีฬา​บาง​แห่ง​ซึ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​ของ​โลก​เลย​ที​เดียว.

บ้าน​ของ​เรา​เป็น​ศูนย์กลาง

จาก​ปี 1908 ถึง​ปี 1918 โดย​ประมาณ บ้าน​ของ​เรา​ใน​เมือง​ดัลตัน​อยู่​กึ่งกลาง​ระหว่าง​เมือง​พิตส์เบิร์ก รัฐ​เพนซิลเวเนีย กับ​เมือง​คลีฟแลนด์ รัฐ​โอไฮโอ เรา​ได้​จัด​บ้าน​ให้​เป็น​ที่​ประชุม​สำหรับ​ประชาคม​ขนาด​เล็ก​ของ​กลุ่ม​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. บ้าน​ของ​เรา​เป็น​ศูนย์​ต้อนรับ​หลาย​ต่อ​หลาย​คน​ที่​เดิน​ทาง​มา​ให้​คำ​บรรยาย. แขก​ของ​เรา​มัก​ผูก​ม้า​และ​รถ​เทียม​ม้า​ของ​เขา​ไว้​หลัง​คอก​ปศุสัตว์ และ​เล่า​ประสบการณ์​ที่​น่า​ตื่นเต้น อีก​ทั้ง​ความ​รู้​ฝ่าย​วิญญาณ​ซึ่ง​มี​คุณค่า​ให้​ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ฟัง. วาระ​ต่าง ๆ ดัง​กล่าว​ให้​การ​หนุน​กำลังใจ​อย่าง​แท้​จริง!

พ่อ​ผม​เป็น​ครู​สอน​หนังสือ​ใน​โรง​เรียน แต่​หัวใจ​ของ​ท่าน​ผูก​พัน​อยู่​กับ​งาน​สั่ง​สอน​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​ใน​บรรดา​การ​สอน​ทั้ง​มวล นั่น​คือ​การ​เป็น​คริสเตียน​ผู้​เผยแพร่. ท่าน​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​ได้​สอน​ครอบครัว​ของ​ท่าน​ให้​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา และ​ทุก​วัน​ตอน​เย็น​พวก​เรา​ได้​ร่วม​ใจ​อธิษฐาน​ด้วย​กัน​ฐานะ​เป็น​ครอบครัว. เมื่อ​ถึง​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ ปี 1919 พ่อ​ตัดสิน​ใจ​ขาย​ม้า​ทั้ง​รถ​เทียม​ม้า แล้ว​ซื้อ​รถ​ฟอร์ด​รุ่น 1914 ด้วย​ราคา 175 ดอลลาร์ ทั้ง​นี้​ก็​เพื่อ​ท่าน​จะ​ไป​ถึง​ผู้​คน​ได้​มาก​ขึ้น​ใน​งาน​เผยแพร่. ปี 1919 และ​ปี 1922 ครอบครัว​ของ​เรา​ได้​นั่ง​รถ​ฟอร์ด​คัน​นี้​แหละ​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​น่า​จด​จำ​ของ​กลุ่ม​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ใน​เมือง​ซีดาร์พอยต์ รัฐ​โอไฮโอ.

ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ของ​เรา​คือ​พ่อ, แม่, เอสเทอร์, จอห์น น้อง​ชาย, และ​ตัว​ผม​เอง​ได้​เข้า​ส่วน​ร่วม​กิจกรรม​งาน​เผยแพร่​แก่​สาธารณชน​ทั่ว​ไป. ผม​จำ​ครั้ง​แรก​ได้​แม่น​เมื่อ​เจ้าของ​บ้าน​ถาม​ผม​ข้อ​หนึ่ง​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล. ตอน​นั้น​อายุ​ผม​ราว ๆ เจ็ด​ขวบ. ชาย​คน​นั้น​ถาม​ผม “ไอ้​หนู อาร์มาเก็ดดอน​คือ​อะไร?” ด้วย​การ​ช่วย​นิด​หน่อย​จาก​พ่อ ผม​สามารถ​ให้​คำ​ตอบ​ได้​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล.

เริ่ม​เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา

ปี 1931 ครอบครัว​ของ​เรา​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​โคลัมบัส รัฐ​โอไฮโอ เรา​ตื่นเต้น​ดีใจ​มาก​ที่​ได้​ร่วม​รับ​เอา​ชื่อ​ใหม่​คือ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. จอห์น​ตื่นเต้น​มาก​ถึง​กับ​ตัดสิน​ใจ​ชวน​ผม​เข้า​สู่​งาน​ไพโอเนียร์​ด้วย​กัน. * เรา​ทำ​อย่าง​นั้น​จริง ๆ อีก​ทั้ง​คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​และ​เอสเทอร์​ก็​ตก​ลง​ใจ​ทำ​เช่น​เดียว​กัน. ช่าง​เป็น​ความ​มั่งคั่ง​เสีย​จริง ๆ เมื่อ​ครอบครัว​ร่วม​สามัคคี​ทำ​งาน​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ด้วย​ความ​ชื่นชม​ยินดี! ผม​ไม่​เคย​นึก​เบื่อ​หน่าย​ใน​การ​ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ประทาน​สิ่ง​ล้ำ​ค่า​นี้​แก่​เรา. แม้​พวก​เรา​มี​ความ​สุข​มาก​อยู่​แล้ว กระนั้น พวก​เรา​ยัง​มี​สิ่ง​ซึ่ง​ยัง​ความ​ชื่น​ใจ​ยินดี​มาก​กว่า​นี้​รอ​อยู่.

เดือน​กุมภาพันธ์ ปี 1934 ผม​เริ่ม​รับใช้​ที่​สำนักงาน​กลาง​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา (เรียก​ว่า​เบเธล) ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก. หลัง​จาก​นั้น​ราว ๆ สอง​สาม​สัปดาห์ จอห์น​ได้​ไป​สมทบ​กับ​ผม​ที่​นั่น. เรา​อยู่​ห้อง​เดียว​กัน​เรื่อย​มา​กระทั่ง​เขา​แต่งงาน​กับ​เจสซี​ภรรยา​สุด​ที่​รัก​ของ​เขา​ใน​ปี 1953.

หลัง​จาก​ผม​กับ​จอห์น​เข้า​อยู่​ใน​เบเธล พ่อ​กับ​แม่​ก็​ตอบรับ​งาน​มอบหมาย​ฐานะ​ไพโอเนียร์ เผยแพร่​ไป​ตาม​ภูมิภาค​ต่าง ๆ ภาย​ใน​ประเทศ และ​เอสเทอร์​กับ​จอร์จ รีด สามี​ของ​เธอ​ร่วม​สมทบ​ไป​ด้วย. พ่อ​แม่​ของ​เรา​เป็น​ไพโอเนียร์​อย่าง​ต่อ​เนื่อง กระทั่ง​ท่าน​ทั้ง​สอง​เสีย​ชีวิต​เสร็จ​สิ้น​ภารกิจ​บน​แผ่นดิน​โลก​ใน​ปี 1963. เอสเทอร์​กับ​สามี​ของ​เธอ​ดู​แล​ครอบครัว​เป็น​อย่าง​ดี. ผม​มี​หลาน​เหลน​ชาย​หญิง​หลาย​คน ซึ่ง​ผม​ก็​รัก​ทุก​คน.

การ​งาน​และ​การ​สมาคม​คบหา​ที่​เบเธล

จอห์น​ใช้​ทักษะ​ด้าน​งาน​ช่าง​ของ​เขา​ทำ​งาน​ที่​เบเธล​และ​ร่วม​มือ​กับ​สมาชิก​เบเธล​คน​อื่น ๆ ทำ​โครงการ​ต่าง ๆ อาทิ การ​ผลิต​หีบ​เสียง​ชนิด​หิ้ว​ได้. พยาน​พระ​ยะโฮวา​นับ​พัน ๆ คน​ใช้​หีบ​เสียง​ชนิด​นี้​ใน​งาน​เผยแพร่​ตาม​บ้าน. นอก​จาก​นั้น จอห์น​ยัง​ได้​ช่วย​ออก​แบบ​และ​ประดิษฐ์​เครื่อง​ห่อ​วารสาร​และ​เครื่อง​ติด​ชื่อ​บน​กระดาษ​ห่อ​ที่​จะ​ส่ง​ทาง​ไปรษณีย์​ถึง​ผู้​บอกรับ​แต่​ละ​คน.

ผม​เริ่ม​งาน​รับใช้​ที่​เบเธล​ใน​แผนก​ทำ​ปก​หนังสือ. ใน​โรง​งาน​สมัย​นั้น​มี​คน​หนุ่ม ๆ หลาย​คน​ทำ​งาน​ซึ่ง​เวลา​นี้​ยัง​คง​รับใช้​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​อยู่​ที่​เบเธล. คน​เหล่า​นี้​รวม​ถึง​แครีย์ บาร์เบอร์​และ​โรเบิร์ต ฮัตซ์เฟลด์. ใน​บรรดา​ผู้​ที่​ผม​ชื่น​ชอบ​ที่​ล่วง​ลับ​ไป​แล้ว​และ​ยัง​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​ผม​ก็​มี นาทาน นอรร์, คาร์ล ไคลน์, ไลแมน สวิงเกิล, เคลาส์ เจนเซน, แกรนต์ ซูตเตอร์, จอร์จ แกนกัส, ออริน ฮิบบาร์ด, จอห์น ซิออรัส, โรเบิร์ต เพย์น, ชาลส์ เฟเกล, เบนโน บุร์ชิก, และ​จอห์น เพอร์รี. คน​เหล่า​นี้​ทำ​งาน​ปี​แล้ว​ปี​เล่า​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์ ไม่​เคย​โอด​ครวญ​หรือ​คาด​หมาย “การ​เลื่อน​ตำแหน่ง.” กระนั้น สำหรับ​คริสเตียน​ที่​ซื่อ​สัตย์​เหล่า​นี้​ซึ่ง​รับ​การ​เจิม​ด้วย​พระ​วิญญาณ ยิ่ง​องค์การ​เจริญ​เติบโต ก็​ยิ่ง​มี​ความ​รับผิดชอบ​ด้าน​ต่าง ๆ ที่​สำคัญ​เพิ่ม​มาก​ขึ้น. บาง​ท่าน​รับใช้​ใน​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​ซ้ำ​ไป.

ผม​ได้​บทเรียน​สำคัญ​จาก​การ​ทำ​งาน​กับ​พี่​น้อง​ที่​มี​น้ำใจ​เสีย​สละ​เหล่า​นี้. คน​ทำ​งาน​อาชีพ​ได้​ค่า​แรงงาน​เป็น​เงิน​เดือน. นั่น​เป็น​บำเหน็จ​ของ​เขา. งาน​รับใช้​ที่​เบเธล​นำ​มา​ซึ่ง​พระ​พร​อุดม​ฝ่าย​วิญญาณ และ​เฉพาะ​ชาย​หญิง​ที่​เป็น​มนุษย์ฝ่าย​วิญญาณ​ถึง​จะ​หยั่ง​รู้​ค่า​และ​รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​ได้​บำเหน็จ​ดัง​กล่าว.—1 โกรินโธ 2:6-16.

นาทาน นอรร์​ได้​เข้า​มา​ใน​เบเธล​ปี 1923 ขณะ​ที่​ยัง​เป็น​วัยรุ่น มี​หน้า​ที่​ดู​แล​ฝ่าย​โรง​งาน​ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1930. ทุก ๆ วัน​ท่าน​มัก​เดิน​ทั่ว​โรง​งาน​และ​ทักทาย​คน​งาน​แต่​ละ​คน​อย่าง​ทั่ว​ถึง. พวก​เรา​ที่​เพิ่ง​เข้า​เบเธล​ใหม่ ๆ รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​ท่าน​ให้​ความ​สนใจ​เป็น​ส่วน​ตัว​เช่น​นั้น. ใน​ปี 1936 พวก​เรา​ได้​รับ​เครื่อง​พิมพ์​ใหม่​ถอด​ด้าม​จาก​ประเทศ​เยอรมนี และ​พี่​น้อง​หนุ่ม​บาง​คน​ประกอบ​ชิ้น​ส่วน​เข้า​ด้วย​กัน​อย่าง​ยาก​ลำบาก. ดัง​นั้น บราเดอร์​นอรร์​จึง​ใส่​ชุด​ทำ​งาน​และ​เข้า​มา​ช่วย​บราเดอร์​หนุ่ม ๆ เหล่า​นั้น​ทำ​งาน​นาน​กว่า​หนึ่ง​เดือน จน​กระทั่ง​พวก​เขา​สามารถ​เดิน​เครื่อง​ได้.

บราเดอร์​นอรร์​เป็น​คน​ขยัน​ขันแข็ง​ซึ่ง​พวก​เรา​ส่วน​ใหญ่​ไม่​อาจ​เทียบ​ได้​เลย. แต่​ท่าน​ก็​รู้​วิธี​ที่​จะ​เพลิดเพลิน​จาก​การ​พักผ่อน​หย่อนใจ​ด้วย. แม้​หลัง​จาก​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​ใน​เดือน​มกราคม 1942 ให้​ดู​แล​กิจการ​เผยแพร่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทั่ว​โลก แต่​ท่าน​ก็​ยัง​ลง​สนาม​เล่น​เบส​บอล​เป็น​ครั้ง​คราว​กับ​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล​และ​กับ​นัก​เรียน​โรง​เรียน​มิชชันนารี​กิเลียด ณ สนาม​ใกล้​เซาท์แลนซิง รัฐ​นิวยอร์ก.

เดือน​เมษายน ปี 1950 ครอบครัว​เบเธล​ได้​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​อาคาร​สูง​สิบ​ชั้น ซึ่ง​เพิ่ง​สร้าง​เสร็จ​ที่ 124 โคลัมเบีย​ไฮตส์ บรุกลิน นิวยอร์ก. ห้อง​รับประทาน​อาหาร​แห่ง​ใหม่​มี​ที่​นั่ง​มาก​พอ​สำหรับ​พวก​เรา​ทุก​คน​จะ​ร่วม​รับประทาน​อาหาร​ได้​พร้อม​กัน. ระหว่าง​ดำเนิน​งาน​ก่อ​สร้าง​อาคาร​ที่​อาศัย​แห่ง​นี้​ซึ่ง​กิน​เวลา​นาน​สาม​ปี​กว่า พวก​เรา​ไม่​อาจ​จัด​วาระ​การ​นมัสการ​ตอน​เช้า​ได้. น่า​ยินดี​เพียง​ใด​เมื่อ​เรา​สามารถ​ร่วม​การ​นมัสการ​ตาม​วาระ​ได้​อีก​ครั้ง​หนึ่ง! บราเดอร์​นอรร์​มอบหมาย​ให้​ผม​นั่ง​อยู่​กับ​ท่าน ณ โต๊ะ​ของ​ประธาน เพื่อ​ผม​จะ​ได้​ช่วย​ท่าน​จำ​ชื่อ​สมาชิก​ใหม่​ของ​ครอบครัว. ผม​นั่ง​ประจำ​อยู่​ที่​โต๊ะ​เดิม​นี้​นาน​ถึง 50 ปี​ที​เดียว เพื่อ​การ​นมัสการ​ตอน​เช้า​และ​อาหาร​มื้อ​เช้า​ด้วย. ครั้น​แล้ว ได้​เลิก​ใช้​ห้อง​อาหาร​นี้​เมื่อ​วัน​ที่ 4 สิงหาคม ปี 2000 และ​ผม​ถูก​มอบหมาย​ไป​อยู่​ห้อง​อาหาร​ห้อง​หนึ่ง​ที่​ได้​รับ​การ​ปรับ​ปรุง​เปลี่ยน​โฉม​หน้า​ใหม่ ใน​อาคาร​ซึ่ง​เดิม​เป็น​โรงแรม​เทาเวอรส์.

ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1950 ผม​ทำ​งาน​ระยะ​หนึ่ง​ใน​โรง​งาน​หล่อ​แม่​พิมพ์ (ไลโนไทป์) จัด​เตรียม​ตัว​พิมพ์​แต่​ละ​บรรทัด​แล้ว​ประกอบ​เป็น​หน้า​หนังสือ อัน​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ใน​วิธี​การ​ทำ​แม่​พิมพ์. ผม​ไม่​ชอบ​งาน​ที่​ว่า​นี้ ทว่า​วิลเลียม ปีเตอร์สัน​ซึ่ง​ดู​แล​แผนก​เครื่องจักร​นั้น​ดี​ต่อ​ผม​มาก ผม​จึง​รู้สึก​เพลิดเพลิน​กับ​การ​ทำ​งาน​ที่​นี่. ต่อ​มา​ใน​ปี 1960 มี​ความ​ต้องการ​อาสา​สมัคร​ทำ​งาน​ทาสี​อาคาร​ที่​พัก​อาศัย​ซึ่ง​เพิ่ง​สร้าง​เสร็จ​ใหม่ ณ เลข​ที่ 107 โคลัมเบีย​ไฮตส์. ผม​ยินดี​ที่​ได้​เสนอ​ตัว​รับใช้​ช่วย​ตระเตรียม​อาคาร​ใหม่​สำหรับ​ครอบครัว​เบเธล​ของ​เรา​ที่​กำลัง​ขยาย​ตัว​เติบโต.

หลัง​จาก​เสร็จ​งาน​ทาสี​อาคาร​เลข​ที่ 107 โคลัมเบีย​ไฮตส์​ได้​ไม่​นาน ผม​ประหลาด​ใจ​และ​รู้สึก​ยินดี​ที่​ถูก​มอบหมาย​งาน​ต้อนรับ​แขก​ที่​มา​เยือน​เบเธล. ตลอด 40 ปี​ที่​ผ่าน​มา​ที่​ผม​ทำ​หน้า​ที่​ต้อนรับ​แขก​ช่าง​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​ดี​วิเศษ​จริง ๆ เช่น​เดียว​กับ​ช่วง​เวลา​อื่น ๆ ที่​ผม​รับใช้​ใน​เบเธล. เมื่อ​ได้​เห็น​แขก​ผู้​มา​เยือน​ก็​ดี หรือ​สมาชิก​ใหม่​ของ​ครอบครัว​เบเธล​ก็​ดี​เดิน​ผ่าน​ประตู​เข้า​มา ช่าง​น่า​ตื่นเต้น​เมื่อ​คิด​ถึง​ผล​อัน​เนื่อง​มา​จาก​ความ​บากบั่น​ร่วม​กัน​ของ​เรา​ใน​การ​ทำ​งาน​เพื่อ​เพิ่ม​พูน​ผล​แห่ง​ราชอาณาจักร.

นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ผู้​มี​ความ​ปรารถนา​แรง​กล้า

ครอบครัว​เบเธล​ของ​เรา​มั่งคั่ง​บริบูรณ์​ฝ่าย​วิญญาณ​เนื่อง​จาก​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​นี้​รัก​คัมภีร์​ไบเบิล. เมื่อ​ผม​มา​ถึง​เบเธล​ที​แรก ผม​ถาม​เอมมา แฮมิลตัน ซึ่ง​ทำ​งาน​ด้าน​พิสูจน์​อักษร​ว่า​เธอ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​จบ​กี่​รอบ. เธอ​ตอบ​ว่า “สาม​สิบ​ห้า​รอบ​และ​หลัง​จาก​นั้น​ไม่​ได้​นับ​อีก​เลย.” แอนตัน เคอร์เบอร์ คริสเตียน​ที่​เข้มแข็ง​อีก​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​รับใช้​ที่​เบเธล​ประมาณ​เวลา​เดียว​กัน​เคย​พูด​ว่า “อย่า​ให้​คัมภีร์​ไบเบิล​อยู่​ห่าง​เกิน​มือ​จะ​เอื้อม​ไป​ถึง.”

ภาย​หลัง​การ​สิ้น​ชีวิต​ของ​บราเดอร์​รัสเซลล์​ใน​ปี 1916 บราเดอร์​โจเซฟ เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ด​ได้​รับ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ต่าง ๆ ใน​องค์การ​แทน​บราเดอร์​รัสเซลล์. บราเดอร์​รัทเทอร์ฟอร์ด เป็น​นัก​พูด​ใน​ที่​สาธารณะ​ที่​เปี่ยม​ด้วย​พลัง​และ​ประสบ​ผล​สำเร็จ ท่าน​เป็น​นัก​กฎหมาย​ที่​แก้​ต่าง​ให้​ฝ่าย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ศาล​สูง​แห่ง​สหรัฐ. หลัง​จาก​รัทเทอร์ฟอร์ด​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​ปี 1942 บราเดอร์​นอรร์​เข้า​รับ​หน้า​ที่​แทน​และ​บากบั่น​พยายาม​อย่าง​หนัก​เพื่อ​พัฒนา​ศักยภาพ​ของ​ท่าน​ใน​การ​บรรยาย​สาธารณะ. เนื่อง​จาก​ห้อง​ของ​ผม​อยู่​ใกล้​ห้อง​ท่าน ผม​มัก​ได้​ยิน​ท่าน​ฝึก​ซ้อม​คำ​บรรยาย​ซ้ำ​แล้วซ้ำ​อีก. ต่อ​มา ด้วย​ความ​มานะ​พยายาม​อย่าง​ขันแข็ง ท่าน​ได้​เป็น​ผู้​บรรยาย​สาธารณะ​ที่​ดี​เยี่ยม.

เดือน​กุมภาพันธ์ ปี 1942 บราเดอร์​นอรร์​ได้​ตั้ง​โครงการ​ฝึก​อบรม​อย่าง​หนึ่ง​ขึ้น​มา​เพื่อ​ช่วย​พวก​เรา​บราเดอร์​ใน​เบเธล​ให้​ปรับ​ปรุง​สมรรถนะ​การ​สอน​และ​การ​พูด. โรง​เรียน​นี้​เพ่งเล็ง​การ​ค้นคว้า​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​การ​บรรยาย​สาธารณะ. ตอน​เริ่ม​ต้น พวก​เรา​แต่​ละ​คน​ถูก​มอบหมาย​ให้​บรรยาย​สั้น ๆ เรื่อง​บุคคล​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. คำ​บรรยาย​แรก​ของ​ผม​เป็น​เรื่อง​โมเซ. ปี 1943 โรง​เรียน​คล้าย ๆ กัน​นี้​ได้​เริ่ม​ขึ้น​ใน​ประชาคม​ต่าง ๆ ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​ดำเนิน​เรื่อย​มา​จน​ถึง​ปัจจุบัน. ที่​เบเธล​ยัง​คง​เน้น​ถึง​การ​ได้​มา​ซึ่ง​ความ​รู้​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​การ​พัฒนา​วิธี​สอน​ที่​มี​ประสิทธิภาพ.

ชั้น​เรียน​แรก​ของ​โรง​เรียน​มิชชันนารี​กิเลียด​ได้​เริ่ม​ขึ้น​ใน​เดือน​กุมภาพันธ์ ปี 1943. ตอน​นี้ นัก​เรียน​รุ่น​ที่ 111 ของ​โรง​เรียน​เพิ่ง​จบ​หลัก​สูตร! ตลอด​ช่วง​ดำเนิน​การ​นาน​กว่า 58 ปี มี​มาก​กว่า 7,000 คน​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​ให้​รับใช้​ฐานะ​มิชชันนารี​อยู่​ทั่ว​โลก. น่า​ทึ่ง​จริง ๆ เมื่อ​โรง​เรียน​นี้​เริ่ม​ดำเนิน​งาน​ใน​ปี 1943 พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทั่ว​โลก​มี 100,000 กว่า​คน​เท่า​นั้น. ใน​ปัจจุบัน มาก​กว่า 6,000,000 คน​มี​ส่วน​ร่วม​งาน​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า!

การ​หยั่ง​รู้​ค่า​มรดก​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ผม

ไม่​นาน​ก่อน​การ​ก่อ​ตั้ง​โรง​เรียน​กิเลียด พวก​เรา​สาม​คน​จาก​เบเธล​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ ทั่ว​สหรัฐ. เรา​พัก​ที่​ประชาคม​เหล่า​นั้น​หนึ่ง​วัน​บ้าง สอง​สาม​วัน​บ้าง หรือ​กระทั่ง​หนึ่ง​สัปดาห์​เพื่อ​ชู​กำลัง​ประชาคม​เหล่า​นั้น​ให้​เข้มแข็ง​ฝ่าย​วิญญาณ. เรา​ถูก​เรียก​ว่า​คน​รับใช้​พวก​พี่​น้อง ชื่อ​นี้​ภาย​หลัง​เปลี่ยน​เป็น​ผู้​รับใช้​หมวด​หรือ​ผู้​ดู​แล​หมวด. แต่​ไม่​นาน​หลัง​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด​เปิด​ดำเนิน​การ ผม​ถูก​ขอ​ให้​กลับ​มา​สอน​บาง​วิชา. ผม​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ผู้​สอน​ประจำ​ตั้ง​แต่​รุ่น 2 ถึง​รุ่น 5 และ​ยัง​ได้​สอน​รุ่น​ที่ 14 แทน​ผู้​สอน​ประจำ​อีก​ท่าน​หนึ่ง​ด้วย. การ​ได้​ทบทวน​กับ​นัก​เรียน​ถึง​เหตุ​การณ์​สำคัญ ๆ ใน​ช่วง​ต้น ๆ ของ​ประวัติ​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​สมัย​ปัจจุบัน—หลาย​เรื่อง​ผม​สามารถ​เล่า​จาก​ประสบการณ์​ส่วนตัว—ทำ​ให้​ผม​หยั่ง​รู้​ค่า​มรดก​อัน​มั่งคั่ง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ผม​มาก​ยิ่ง​ขึ้น.

สิทธิ​พิเศษ​อีก​ประการ​หนึ่ง​ที่​ผม​ชื่นชม​เรื่อย​มา​ตลอด​หลาย​ปี​คือ​การ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​แห่ง​ไพร่พล​ของ​พระ​ยะโฮวา. ปี 1963 ผม​ได้​เดิน​ทาง​รอบ​โลก​พร้อม​กับ​คน​อื่น​อีก 500 คน​เพื่อ​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่ “ข่าว​ดี​นิรันดร์.” การ​ประชุม​ใหญ่​ซึ่ง​นับ​เป็น​ประวัติการณ์​ที่​ผม​ได้​ร่วม ได้​แก่ การ​ประชุม​ปี 1989 ใน​วอร์ซอ ประเทศ​โปแลนด์; ปี 1990 ที่​นคร​เบอร์ลิน ประเทศ​เยอรมนี; และ​ปี 1993 ที่​มอสโก ประเทศ​รัสเซีย. ณ การ​ประชุม​แต่​ละ​แห่ง ผม​มี​โอกาส​ได้​พบ​บราเดอร์​และ​ซิสเตอร์​บาง​คน​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ของ​เรา​ซึ่ง​เคย​อด​ทน​การ​กดขี่​ข่มเหง​นาน​นับ​สิบ ๆ ปี​ที​เดียว​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​ทั้ง​ระบอบ​นาซี​และ​ระบอบ​คอมมิวนิสต์. ประสบการณ์​เหล่า​นั้น​ช่าง​เสริม​ความ​เชื่อ​ให้​มั่นคง​จริง ๆ!

ชีวิต​ของ​ผม​เพื่อ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​นั้น​มั่งคั่ง​บริบูรณ์​โดย​แท้! พระ​พร​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​หลั่งไหล​มา​นั้น​จะ​ไม่​มี​วัน​จบ​สิ้น. และ​ไม่​เหมือน​ความ​มั่งคั่ง​ฝ่าย​วัตถุ ยิ่ง​เรา​ให้​ปัน​สิ่ง​มี​ค่า​เหล่า​นี้​มาก​เท่า​ไร ทรัพย์​อัน​มี​ค่า​ของ​เรา​ยิ่ง​เพิ่ม​พูน. บาง​ครั้ง​ผม​ได้​ยิน​บาง​คน​กล่าว​ว่า​เขา​ไม่​น่า​จะ​ได้​รับ​การ​อบรม​เลี้ยง​ดู​ให้​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เขา​พูด​ใน​ทำนอง​ว่า​เขา​จะ​หยั่ง​รู้​ค่า​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​กว่า​นี้​หาก​ได้​ประสบ​ชีวิต​ภาย​นอก​องค์การ​ของ​พระเจ้า​เสีย​ก่อน.

ผม​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ​ทุก​ครั้ง​ที่​ได้​ยิน​พวก​หนุ่ม​สาว​พูด​อย่าง​นั้น​เพราะ​จริง ๆ แล้ว​เขา​กำลัง​บอก​ว่า​ดี​กว่า​ที่​ไม่​ได้​รับ​การ​เลี้ยง​ดู​ให้​เติบโต​มา​ด้วย​ความ​รู้​ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา. แต่​คิด​ดู​สิ ผู้​คน​ซึ่ง​ได้​มา​เรียน​รู้​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ภาย​หลัง ก็​จำ​ต้อง​ละ​เลิก​นิสัย​ไม่​ดี​และ​แนว​คิด​มาก​มาย​ที่​เสื่อม​ทราม. ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​พ่อ​แม่​ของ​ผม​อย่าง​มาก​เสมอ​ที่​ได้​อบรม​เลี้ยง​ดู​ลูก​สาม​คน​ของ​ท่าน​ใน​แนว​ทาง​แห่ง​ความ​ชอบธรรม. จอห์น​ได้​รักษา​สถานภาพ​ฐานะ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระ​ยะโฮวา​จน​กระทั่ง​สิ้น​ชีวิต​ใน​เดือน​กรกฎาคม ปี 1980 ส่วน​เอสเทอร์​ยัง​คง​เป็น​พยาน​ฯ ที่​ซื่อ​สัตย์​ตราบ​ทุก​วัน​นี้.

ผม​มอง​ย้อน​หลัง​ด้วย​ความ​ปลื้ม​ปีติ​ที่​ผม​มี​มิตรภาพ​ที่​ดี​กับ​พี่​น้อง​คริสเตียน​ผู้​ซื่อ​สัตย์​มาก​มาย​ทั้ง​ชาย​และ​หญิง. ผม​เข้า​มา​อยู่​ใน​เบเธล​จน​บัด​นี้​มาก​กว่า 67 ปี​แล้ว​ซึ่ง​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​ยอด​เยี่ยม​จริง ๆ. แม้​ผม​ไม่​ได้​แต่งงาน แต่​ผม​มี​ลูก​ชาย​ลูก​สาว​ฝ่าย​วิญญาณ​หลาย​คน รวม​ถึง​หลาน​ฝ่าย​วิญญาณ​ด้วย. และ​ผม​ดีใจ​เมื่อ​นึก​ถึง​สมาชิก​ใหม่​ทั่ว​โลก​ซึ่ง​เป็น​ที่​รัก​ภาย​ใน​ครอบครัว​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา​ที่​ผม​ยัง​จะ​ได้​พบ​ปะ แต่​ละ​คน​มี​ค่า​ทั้ง​นั้น. ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​ช่าง​เป็น​จริง​เหลือ​เกิน​ที่​ว่า “พระ​พร​ของ​พระ​ยะโฮวา​กระทำ​ให้​เกิด​ความ​มั่งคั่ง; และ​พระองค์​จะ​ไม่​เพิ่ม​ความ​ทุกข์​ยาก​ให้​เลย”!—สุภาษิต 10:22.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 16 ผม​ได้​รับ​บัพติสมา​เมื่อ​วัน​ที่ 8 มีนาคม 1932. จริง ๆ แล้ว ผม​รับ​บัพติสมา​ภาย​หลัง​ที่​ได้​ตัดสิน​ใจ​ว่า​ผม​ควร​เป็น​ไพโอเนียร์.

[ภาพ​หน้า 20]

จาก​ซ้าย​ไป​ขวา: คุณ​พ่อ​พร้อม​กับ​จอห์น​น้อง​ชาย​ผม​นั่ง​ตัก​ท่าน, เอสเทอร์, ผม, และ​คุณ​แม่

[ภาพ​หน้า 23]

สอน​ใน​ชั้น​เรียน​กิเลียด ปี 1945

บน​ขวา: ผู้​สอน​ที่​โรง​เรียน​กิเลียด เอดวาร์โด เคลเลอร์, เฟรด แฟรนซ์, ผม, และ​อัลเบิร์ต ชโรเดอร์

[ภาพ​หน้า 24]

คิด​รำพึง​ถึง​ชีวิต​มั่งคั่ง​ของ​ผม​เนื่อง​ด้วย​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา