ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ความสว่างจากพระเจ้าขับไล่ความมืด!

ความสว่างจากพระเจ้าขับไล่ความมืด!

ความ​สว่าง​จาก​พระเจ้า​ขับ​ไล่​ความ​มืด!

“พระ​ยะโฮวา​จะ​ส่อง​ใน​ที่​มืด​ของ​ข้าพเจ้า​ให้​สว่าง.”—2 ซามูเอล 22:29.

1. ความ​สว่าง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ชีวิต​อย่าง​ไร?

“พระเจ้า​จึง​ตรัส​ให้​เกิด​มี​ความ​สว่าง: ความ​สว่าง​ก็​เกิด​ขึ้น.” (เยเนซิศ 1:3) ด้วย​คำ​ตรัส​ที่​สำคัญ​ดัง​กล่าว บันทึก​เรื่อง​การ​ทรง​สร้าง​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ระบุ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เป็น​แหล่ง​แห่ง​ความ​สว่าง ซึ่ง​หาก​ปราศจาก​ความ​สว่าง คง​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​เกิด​มี​ชีวิต​บน​แผ่นดิน​โลก. พระ​ยะโฮวา​ทรง​เป็น​แหล่ง​แห่ง​ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ​ด้วย ซึ่ง​มี​ความ​สำคัญ​ยิ่ง​เพื่อ​ชี้​นำ​เรา​ใน​การ​ดำเนิน​ชีวิต. (บทเพลง​สรรเสริญ 43:3) กษัตริย์​ดาวิด​ชี้​ว่า​ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ​เกี่ยว​ข้อง​อย่าง​ใกล้​ชิด​กับ​ชีวิต เมื่อ​ท่าน​เขียน​ว่า “บ่อ​เกิด​แห่ง​ชีวิต​อยู่​กับ​พระองค์; โดย​ความ​สว่าง​จาก​พระองค์​ข้าพเจ้า​ทั้ง​หลาย​จึง​เห็น​ความ​สว่าง.”—บทเพลง​สรรเสริญ 36:9, ล.ม.

2. ดัง​ที่​เปาโล​ชี้​ให้​เห็น ความ​สว่าง​เกี่ยว​ข้อง​อย่าง​ใกล้​ชิด​กับ​อะไร?

2 ประมาณ 1,000 ปี​หลัง​สมัย​ดาวิด อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ถึง​บันทึก​เรื่อง​การ​ทรง​สร้าง. ท่าน​เขียน​ถึง​ประชาคม​คริสเตียน​ใน​เมือง​โครินท์ (โกรินโธ) ดัง​นี้: “พระเจ้า​คือ​ผู้​ได้​ตรัส​ว่า ‘จง​ให้​ความ​สว่าง​ส่อง​ออก​จาก​ความ​มืด.’” จาก​นั้น เปาโล​ชี้​ว่า​ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ​เกี่ยว​ข้อง​อย่าง​ใกล้​ชิด​กับ​ความ​รู้​จาก​พระ​ยะโฮวา​เมื่อ​ท่าน​กล่าว​เสริม​อีก​ว่า “พระองค์​ทรง​ส่อง​สว่าง​ยัง​หัวใจ​ของ​เรา ให้​สว่าง​ด้วย​ความ​รู้​อัน​รุ่ง​โรจน์​ของ​พระเจ้า​โดย​พระ​พักตร์​พระ​คริสต์.” (2 โกรินโธ 4:6, ล.ม.) ความ​สว่าง​นี้​มา​ถึง​เรา​โดย​วิธี​ใด?

คัมภีร์​ไบเบิล—เครื่อง​มือ​นำ​ความ​สว่าง

3. พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​ให้​มี​ความ​สว่าง​อะไร​ทาง​คัมภีร์​ไบเบิล?

3 ส่วน​ใหญ่​แล้ว พระ​ยะโฮวา​ทรง​ส่ง​ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ​ให้​แก่​เรา​ทาง​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ซึ่ง​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​ของ​พระองค์. ดัง​นั้น เมื่อ​เรา​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​รับ​เอา​ความ​รู้​จาก​พระเจ้า เรา​กำลัง​ยอม​ให้​ความ​สว่าง​นั้น​ส่อง​มา​ยัง​เรา. โดย​ทาง​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​ความ​กระจ่าง​ใน​เรื่อง​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​และ​บอก​เรา​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​เรา​สามารถ​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์. ทั้ง​นี้​ทำ​ให้​ชีวิต​เรา​มี​จุด​มุ่ง​หมาย​และ​ช่วย​ตอบ​สนอง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 12:1; มัดธาย 5:3) พระ​เยซู​ทรง​เน้น​ว่า​เรา​ต้อง​เอา​ใจ​ใส่​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา เมื่อ​พระองค์​ตรัส​โดย​ยก​ข้อ​ความ​จาก​พระ​บัญญัติ​ของ​โมเซ​ดัง​นี้: “มี​คำ​เขียน​ไว้​ว่า, ‘มนุษย์​จะ​บำรุง​ชีวิต​ด้วย​อาหาร​สิ่ง​เดียว​หา​มิ​ได้, แต่​ด้วย​บรรดา​โอวาท​ซึ่ง​ออก​มา​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระเจ้า.’”—มัดธาย 4:4; พระ​บัญญัติ 8:3.

4. พระ​เยซู​ทรง​เป็น “ความ​สว่าง​ของ​โลก” ใน​ทาง​ใด?

4 พระ​เยซู​ทรง​เกี่ยว​ข้อง​อย่าง​ใกล้​ชิด​กับ​ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ. ที่​จริง พระองค์​ตรัส​ถึง​พระองค์​เอง​ว่า​เป็น “ความ​สว่าง​ของ​โลก” และ​ตรัส​ว่า “ผู้​ที่​ตาม​เรา​มา​จะ​มิ​ได้​เดิน​ใน​ความ​มืด, แต่​จะ​มี​ความ​สว่าง​แห่ง​ชีวิต.” (โยฮัน 8:12) คำ​ตรัส​นี้​ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​บทบาท​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​ของ​พระเยซู​ใน​การ​นำ​ความ​จริง​ของ​พระ​ยะโฮวา​มา​สู่​มนุษยชาติ. หาก​เรา​ต้องการ​หลีก​เลี่ยง​ความ​มืด​และ​ดำเนิน​ใน​ความ​สว่าง​ของ​พระเจ้า เรา​ต้อง​ฟัง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​และ​ปฏิบัติ​ตาม​แบบ​อย่าง​และ​คำ​สอน​ของ​พระองค์​อย่าง​ใกล้​ชิด​ดัง​บันทึก​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล.

5. สาวก​ของ​พระ​เยซู​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​อะไร​หลัง​จาก​ที่​พระองค์​สิ้น​พระ​ชนม์?

5 ไม่​กี่​วัน​ก่อน​จะ​สิ้น​พระ​ชนม์ พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​พระองค์​เอง​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ว่า​เป็น​ความ​สว่าง โดย​ทรง​บอก​เหล่า​สาวก​ว่า “ความ​สว่าง​จะ​อยู่​ท่ามกลาง​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ต่อ​ไป​อีก​หน่อย​หนึ่ง. จง​เดิน​ไป​ขณะ​ที่​เจ้า​ยัง​มี​ความ​สว่าง​อยู่ เพื่อ​ความ​มืด​จะ​ได้​ไม่​เอา​ชนะ​เจ้า; และ​ผู้​ที่​เดิน​อยู่​ใน​ความ​มืด​ไม่​รู้​ว่า​ตน​ไป​ทาง​ไหน. ขณะ​ที่​เจ้า​ทั้ง​หลาย​มี​ความ​สว่าง จง​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​ความ​สว่าง​นั้น เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​ลูก​แห่ง​ความ​สว่าง.” (โยฮัน 12:35, 36, ล.ม.) ผู้​ที่​ได้​เข้า​มา​เป็น​ลูก​แห่ง​ความ​สว่าง​เรียน “แบบ​แผน​แห่ง​ถ้อย​คำ​ที่​ก่อ​ประโยชน์” ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. (2 ติโมเธียว 1:13, 14, ล.ม.) เมื่อ​เรียน​รู้​แล้ว พวก​เขา​ใช้​ถ้อย​คำ​ที่​ก่อ​ประโยชน์​นั้น​เพื่อ​ชัก​นำ​ผู้​มี​หัวใจ​สุจริต​คน​อื่น ๆ ให้​ออก​จาก​ความ​มืด​เข้า​สู่​ความ​สว่าง​ของ​พระเจ้า.

6. เรา​พบ​ความ​จริง​พื้น​ฐาน​อะไร​เกี่ยว​กับ​ความ​สว่าง​และ​ความ​มืด​ที่ 1 โยฮัน 1:5?

6 อัครสาวก​โยฮัน​เขียน​ดัง​นี้: “พระเจ้า​เป็น​ความ​สว่าง, และ​ความ​มืด​ใน​พระองค์​ไม่​มี​เลย.” (1 โยฮัน 1:5) โปรด​สังเกต​ความ​แตกต่าง​ใน​ที่​นี้​ระหว่าง​ความ​สว่าง​กับ​ความ​มืด. ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ​เกิด​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา และ​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ​ไม่​อาจ​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พระองค์​ได้​เลย. ถ้า​อย่าง​นั้น ใคร​เป็น​แหล่ง​ที่​มา​ของ​ความ​มืด?

แหล่ง​ที่​มา​ของ​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ

7. ใคร​อยู่​เบื้อง​หลัง​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​โลก และ​ผู้​นี้​มี​อิทธิพล​เช่น​ไร?

7 อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ถึง “พระเจ้า​ของ​ระบบ​นี้.” ท่าน​ใช้​วลี​นี้​หมาย​ถึง​ซาตาน​พญา​มาร. ท่าน​กล่าว​ต่อ​ไป​อีก​ว่า​มัน​ผู้​นี้ “ได้​ทำ​ให้​จิตใจ​ของ​คน​ที่​ไม่​เชื่อ​มืด​ไป เพื่อ​แสง​สว่าง​แห่ง​ข่าว​ดี​อัน​รุ่ง​โรจน์​เรื่อง​พระ​คริสต์ ผู้​เป็น​พระ​ฉาย​ของ​พระเจ้า​จะ​ไม่​ส่อง​ทะลุ.” (2 โกรินโธ 4:4, ล.ม.) หลาย​คน​อ้าง​ว่า​เชื่อ​ใน​พระเจ้า; ทว่า มี​คน​จำนวน​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ใน​กลุ่ม​นี้​ที่​ไม่​เชื่อ​ว่า​มี​พญา​มาร. เพราะ​เหตุ​ใด? พวก​เขา​ไม่​เต็ม​ใจ​จะ​ยอม​รับ​ว่า​มี​อำนาจ​ชั่ว​ร้าย​บาง​อย่าง​ที่​มี​อำนาจ​เหนือ​มนุษย์​ดำรง​อยู่​และ​มี​อิทธิพล​ต่อ​วิธี​ที่​พวก​เขา​คิด. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ดัง​ที่​เปาโล​ชี้​ให้​เห็น พญา​มาร​ดำรง​อยู่​จริง​และ​มี​อิทธิพล​ต่อ​ผู้​คน​เพื่อ​ทำ​ให้​พวก​เขา​ไม่​สามารถ​เห็น​ความ​สว่าง​แห่ง​ความ​จริง. อำนาจ​ของ​ซาตาน​ซึ่ง​มี​อิทธิพล​ต่อ​ความ​คิด​ของ​มนุษย์​เห็น​ได้​จาก​คำ​พรรณนา​เชิง​พยากรณ์​เกี่ยว​กับ​มัน​ว่า​เป็น “ผู้​ลวง​มนุษย์​โลก​ทั้ง​ปวง.” (วิวรณ์ 12:9) โดย​เป็น​ผล​อย่าง​หนึ่ง​ที่​เกิด​จาก​ปฏิบัติการ​ของ​ซาตาน สภาพ​ซึ่ง​ผู้​พยากรณ์​ยะซายา​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า​เป็น​จริง​ใน​เวลา​นี้​กับ​มนุษยชาติ​ทั้ง​สิ้น ยก​เว้น​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา: “ดู​เถอะ, ความ​มืด​จะ​แผ่​ปิด​โลก​ไว้​มิด, และ​ความ​มืด​ทึบ​จะ​คลุม​ประชาชน​ไว้.”—ยะซายา 60:2.

8. ผู้​ที่​อยู่​ใน​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ว่า​พวก​เขา​งุนงง​สับสน?

8 ใน​ความ​มืด​มิด เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​เห็น​สิ่ง​ใด. คน​เรา​อาจ​หลง​ทาง​หรือ​งุนงง​สับสน​ได้​อย่าง​ง่าย​ดาย. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน คน​ที่​อยู่​ใน​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ​ขาด​การ​รับ​รู้​เข้าใจ และ​ไม่​ช้า​ก็​เริ่ม​งุนงง​สับสน​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. พวก​เขา​อาจ​สูญ​เสีย​ความ​สามารถ​ใน​การ​แยกแยะ​ว่า​อะไร​จริง​อะไร​เท็จ อะไร​ดี​อะไร​ชั่ว. ผู้​พยากรณ์​ยะซายา​กล่าว​ถึง​คน​ที่​อยู่​ใน​ความ​มืด​เช่น​นั้น​เมื่อ​ท่าน​เขียน​ว่า “วิบัติ​แก่​คน​ที่​เห็น​ชั่ว​เป็น​ดี, และ​เห็น​ดี​เป็น​ชั่ว; และ​ถือ​เอา​ว่า​มืด​เป็น​สว่าง, และ​สว่าง​เป็น​มืด; และ​ถือ​ว่า​ขม​เป็น​หวาน, และ​หวาน​เป็น​ขม!” (ยะซายา 5:20) ผู้​ที่​อยู่​ใน​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ​ตก​อยู่​ใต้​อิทธิพล​ของ​พระ​แห่ง​ความ​มืด คือ​ซาตาน​พญา​มาร และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​พวก​เขา​เหินห่าง​จาก​แหล่ง​แห่ง​ความ​สว่าง​และ​ชีวิต.—เอเฟโซ 4:17-19.

ข้อ​ท้าทาย​ใน​การ​ออก​จาก​ความ​มืด​สู่​ความ​สว่าง

9. จง​อธิบาย​ว่า​ผู้​ทำ​ผิด​มี​ความ​ผูก​พัน​อยู่​กับ​ความ​มืด​อย่าง​ไร​ทั้ง​ใน​ความ​หมาย​ตาม​ตัว​อักษร​และ​ใน​แง่​ฝ่าย​วิญญาณ.

โยบ​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ชี้​ถึง​ความ​ผูก​พัน​ที่​ผู้​ทำ​ผิด​มี​กับ​ความ​มืด​ตาม​ตัว​อักษร​เมื่อ​ท่าน​กล่าว​ว่า “ตา​ของ​คน​มักมาก​ใน​กาม​ก็​คอย​เวลา​พลบ​ค่ำ. นึก​ว่า, ‘ไม่​มี​ใคร​จะ​เห็น​ข้า​ฯ;’ แล้ว​ก็​เอา​ผ้า​คลุม​หัว​ไป.” (โยบ 24:15, 16) ผู้​ทำ​ผิด​ยัง​อยู่​ใน​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ​อีก​ด้วย และ​ความ​มืด​เช่น​นี้​อาจ​มี​อำนาจ​ครอบ​งำ​ได้​มาก. อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ว่า​การ​ประพฤติ​ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ, การ​ขโมย, ความ​โลภ, การ​เมา​เหล้า, การ​ด่า​ทอ, และ​การ​ขูดรีด​เป็น​สิ่ง​ที่​พบ​เห็น​เป็น​ธรรมดา​ใน​หมู่​คน​ที่​ติด​บ่วง​แร้ว​อยู่​ใน​ความ​มืด​นั้น. แต่​ใคร​ก็​ตาม​ที่​มา​สู่​ความสว่าง​แห่ง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​สามารถ​เปลี่ยน​วิถี​ชีวิต​ของ​ตน. เปาโล​แสดง​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ใน​จดหมาย​ของ​ท่าน​ถึง​ประชาคม​โกรินโธ​ว่า​การ​เปลี่ยน​แปลง​เช่น​นั้น​เป็น​ไป​ได้. คริสเตียน​ชาว​โกรินโธ​หลาย​คน​เคย​ประพฤติ​การ​ของ​ความ​มืด กระนั้น เปาโล​บอก​พวก​เขา​ว่า “แต่​ได้​ทรง​ชำระ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ให้​สะอาด แต่​ได้​ทรง​ทำ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​บริสุทธิ์ แต่​ได้​ประกาศ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​ผู้​ชอบธรรม​ใน​พระ​นาม​แห่ง​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา​และ​ด้วย​พระ​วิญญาณ​แห่ง​พระเจ้า​ของ​เรา.”—1 โกรินโธ 6:9-11, ล.ม.

10, 11. (ก) พระ​เยซู​ทรง​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​พระองค์​ทรง​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​ชาย​ที่​ทรง​รักษา​ให้​มอง​เห็น​ได้? (ข) เหตุ​ใด​หลาย​คน​จึง​ไม่​เลือก​ความ​สว่าง?

10 เมื่อ​คน​คน​หนึ่ง​ออก​มา​จาก​ความ​มืด​ทึบ​สู่​ความ​สว่าง ต้อง​ใช้​เวลา​เล็ก​น้อย​ก่อน​ที่​ตา​ของ​เขา​จะ​ปรับ​ได้. ที่​เมือง​เบธซายะดา พระ​เยซู​ทรง​รักษา​ชาย​ตา​บอด​คน​หนึ่ง แต่​พระองค์​ทรง​ทำ​อย่าง​นั้น​ด้วย​ความ​กรุณา​โดย​รักษา​เขา​เป็น​ขั้น ๆ. “พระองค์​ได้​จูง​มือ​คน​ตา​บอด​พา​ออก​ไป​นอก​หมู่​บ้าน เมื่อ​ได้​ทรง​บ้วน​น้ำลาย​ลง​ที่​ตา​คน​นั้น และ​วาง​พระ​หัตถ์​บน​เขา​แล้ว, พระองค์​จึง​ตรัส​ถาม​ว่า, ‘เจ้า​เห็น​สิ่ง​ใด​บ้าง​หรือ​ไม่?’ คน​นั้น​เงย​หน้า​ดู​แล้ว​ทูล​ว่า, ‘ข้าพเจ้า​แล​เห็น​คน​เหมือน​ต้น​ไม้​เดิน​ไป​เดิน​มา.’ พระองค์​จึง​วาง​พระ​หัตถ์​บน​ตา​เขา​อีก, แล้ว​เขา​ก็​เพ่ง​ดู. และ​ตา​ก็​หาย​เป็น​ปกติ​แล​เห็น​สิ่ง​ทั้ง​หลาย​ได้​ชัด.” (มาระโก 8:23-25) ดู​เหมือน​ว่า พระ​เยซู​ทรง​รักษา​ชาย​คน​นี้​ให้​ค่อย ๆ เห็น​ชัด​ขึ้น เพื่อ​เขา​จะ​ปรับ​สายตา​รับ​แสง​จ้า​ของ​ดวง​อาทิตย์​ได้. เรา​สามารถ​นึก​ภาพ​ได้​ถึง​ความ​ยินดี​ของ​ชาย​ผู้​นี้​เมื่อ​เขา​สามารถ​มอง​เห็น.

11 อย่าง​ไร​ก็​ตาม ความ​ยินดี​ที่​ชาย​คน​นี้​ได้​รับ​ยัง​ไม่​เท่า​กับ​ความ​ยินดี​ของ​คน​ที่​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​เป็น​ขั้น ๆ ให้​ออก​จาก​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ​สู่​ความ​สว่าง​แห่ง​ความ​จริง. เมื่อ​เรา​เห็น​ความ​ยินดี​ของ​พวก​เขา เรา​อาจ​นึก​สงสัย​ว่า​ทำไม​จึง​ไม่​ได้​มี​คน​มาก​กว่า​นี้​ที่​ถูก​ดึงดูด​ใจ​ให้​เข้า​สู่​ความ​สว่าง. พระ​เยซู​ทรง​ให้​เหตุ​ผล​ดัง​นี้: “หลัก​ของ​การ​พิพากษา​ก็​เป็น​อย่าง​นี้ คือ​ว่า​ความ​สว่าง​ได้​เข้า​มา​ใน​โลก​แล้ว​แต่​มนุษย์​ได้​รัก​ความ​มืด​มาก​กว่า​รัก​ความ​สว่าง เพราะ​การ​ของ​เขา​ชั่ว. เพราะ​ผู้​ที่​ทำ​สิ่ง​ชั่ว​ย่อม​ชัง​ความ​สว่าง​และ​ไม่​ได้​มา​ถึง​ความ​สว่าง เพื่อ​การ​ของ​ตน​จะ​ไม่​ถูก​ว่า​กล่าว.” (โยฮัน 3:19, 20, ล.ม.) ใช่​แล้ว หลาย​คน​รัก​การ​ทำ “สิ่ง​ชั่ว”—อย่าง​เช่น การ​ประพฤติ​ผิด​ศีลธรรม, การ​กดขี่, การ​โกหก, การ​ฉ้อ​โกง, และ​การ​ลัก​ขโมย—และ​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ซาตาน​เป็น​สภาพ​แวด​ล้อม​ซึ่ง​เหมาะ​มาก​ที่​พวก​เขา​จะ​ทำ​ตาม​ความ​ปรารถนา​ของ​ตน.

การ​ทำ​ความ​ก้าว​หน้า​ใน​ความ​สว่าง

12. เรา​ได้​รับ​ประโยชน์​ใน​ทาง​ใด​บ้าง​จาก​การ​เข้า​มา​สู่​ความ​สว่าง?

12 นับ​ตั้ง​แต่​เรา​ได้​มา​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​สว่าง เรา​ได้​เห็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​อะไร​บ้าง​ใน​ตัว​เรา​เอง? บาง​ครั้ง นับ​ว่า​ดี​ที่​จะ​มอง​ย้อน​กลับ​ไป​และ​วิเคราะห์​ดู​ว่า​เรา​ได้​ทำ​ความ​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​ไร​บ้าง. เรา​ได้​ทิ้ง​นิสัย​ที่​ไม่​ดี​อะไร​ไป​บ้าง? ปัญหา​อะไร​บ้าง​ใน​ชีวิต​ที่​เรา​สามารถ​แก้ไข? แผนการ​ของ​เรา​สำหรับ​อนาคต​ได้​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​ไร? ด้วย​กำลัง​ที่​ได้​จาก​พระ​ยะโฮวา​และ​ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์ เรา​สามารถ​ทำ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ต่อ​ไป​ใน​ด้าน​บุคลิกภาพ​และ​วิธี​คิด​ซึ่ง​แสดง​ว่า​เรา​กำลัง​ตอบรับ​ความ​สว่าง. (เอเฟโซ 4:23, 24) เปาโล​กล่าว​อย่าง​นี้: “เมื่อ​ก่อน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​ความ​มืด, แต่​บัด​นี้​ท่าน​เป็น​ความ​สว่าง​แล้ว​ใน​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า จง​ประพฤติ​อย่าง​ลูก​ของ​ความ​สว่าง. ด้วย​ว่า​ผล​ของ​ความ​สว่าง​นั้น​คือ​ความ​ดี​ทุก​อย่าง​และ​ความ​ชอบธรรม​และ​ความ​จริง.” (เอเฟโซ 5:8, 9) การ​ยอม​ให้​ความ​สว่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ชี้​นำ​เรา​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​หวัง​และ​จุด​มุ่ง​หมาย อีก​ทั้ง​เพิ่มความ​ยินดี​แก่​คน​ที่​อยู่​รอบ​ข้าง. และ​การ​ที่​เรา​เปลี่ยน​แปลง​เช่น​นั้น​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ยินดี​อย่าง​ยิ่ง!—สุภาษิต 27:11.

13. เรา​จะ​แสดง​ความ​ขอบคุณ​สำหรับ​ความ​สว่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​โดย​วิธี​ใด และ​จำเป็น​ต้อง​มี​อะไร​เพื่อ​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น?

13 เรา​แสดง​ความ​ขอบคุณ​สำหรับ​ชีวิต​ที่​มี​ความ​สุข​มาก​ขึ้น​โดย​การ​สะท้อน​ความ​สว่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา—โดย​แบ่ง​ปัน​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​เรียน​รู้​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​สมาชิก​คน​อื่น ๆ ใน​ครอบครัว, มิตร​สหาย, และ​เพื่อน​บ้าน. (มัดธาย 5:12-16; 24:14) สำหรับ​คน​ที่​ไม่​ยอม​ฟัง การ​ประกาศ​ของ​เรา​พร้อม​กับ​แนว​ทาง​ชีวิต​แบบ​คริสเตียน​อัน​เป็น​แบบ​อย่าง​ที่​ดี​เป็น​เหมือน​กับ​การ​ว่า​กล่าว. เปาโล​อธิบาย​ว่า “จง​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ต่อ ๆ ไป​ว่า อะไร​เป็น​สิ่ง​ที่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ยอม​รับ; และ​จง​เลิก​เข้า​ส่วน​กับ​พวก​เขา​ใน​การ​งาน​ที่​ไร้​ผล​ซึ่ง​เป็น​ของ​ความ​มืด แต่​แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น ให้​ว่า​กล่าว​พวก​เขา​เสีย​ด้วย.” (เอเฟโซ 5:10, 11, ล.ม.) การ​ที่​เรา​จะ​ช่วย​ผู้​อื่น​ให้​ทิ้ง​ความ​มืด​และ​เลือก​ความ​สว่าง​จำเป็น​ต้อง​อาศัย​ความ​กล้า. ที่​สำคัญ​กว่า​นั้น จำเป็น​ต้อง​มี​ความ​เมตตา​สงสาร​และ​ความ​ห่วงใย​ต่อ​ผู้​อื่น อีก​ทั้ง​มี​ความ​ปรารถนา​จาก​หัวใจ​ที่​จะ​แบ่ง​ปัน​ความ​สว่าง​แห่ง​ความ​จริง​แก่​คน​เหล่า​นี้​เพื่อ​ประโยชน์​ถาวร​ของ​พวก​เขา.—มัดธาย 28:19, 20.

จง​ระวัง​ความ​สว่าง​ที่​ลวง​ให้​ติด​กับ!

14. เรา​ควร​เอา​ใจ​ใส่​คำ​เตือน​อะไร​ใน​เรื่อง​ความ​สว่าง?

14 สำหรับ​คน​ที่​อยู่​ใน​ท้อง​ทะเล​ยาม​ค่ำ​คืน การ​ได้​เห็น​แสง​ใด​ก็​ตาม​นับ​เป็น​เรื่อง​น่า​ยินดี. ที่​ประเทศ​อังกฤษ ใน​สมัย​ก่อน​จะ​มี​การ​จุด​คบไฟ​ตาม​หน้าผา​ต่าง ๆ เพื่อ​บอก​ให้​ทราบ​ว่า​จะ​หา​ที่​หลบ​ภัย​จาก​พายุ​ได้​ที่​ไหน. ชาว​เรือ​รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​ได้​รับ​การ​นำ​ทาง​โดย​แสง​เหล่า​นี้​เพื่อ​เข้า​สู่​อ่าว​จอด​เรือ​ที่​ปลอด​ภัย. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คบไฟ​บาง​อัน​เป็น​คบไฟ​ที่​ลวง​ให้​ติด​กับ. แทน​ที่​จะ​พบ​อ่าว​จอด​เรือ เรือ​หลาย​ลำ​ถูก​ลวง​ให้​ไป​อับปาง​ที่​แนว​ชายฝั่ง​อัน​เต็ม​ไป​ด้วย​หิน และ​สินค้า​ของ​พวก​เขา​ก็​จะ​ถูก​ขโมย. ใน​โลก​ที่​หลอก​ลวง​นี้ เรา​ต้อง​ระวัง​ไม่​ให้​ถูก​ชัก​พา​ไป​หา​ความ​สว่าง​อัน​ลวง​หลอก​ซึ่ง​อาจ​ล่อ​เรา​ให้​อับปาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ได้. เรา​ได้​รับ​แจ้ง​ว่า “ซาตาน​เอง​ก็​ปลอม​ตัว​เป็น​ทูต​แห่ง​ความ​สว่าง​อยู่​เรื่อย ๆ.” คล้าย​กัน​นั้น ผู้​รับใช้​ของ​มัน​ซึ่ง​รวม​ถึง​พวก​ผู้​ออก​หาก​ด้วย​เป็น “คน​งาน​ชอบ​หลอก​ลวง” ซึ่ง “ปลอม​ตัว​เป็น​ผู้​รับใช้​แห่ง​ความ​ชอบธรรม​อยู่​เสมอ.” หาก​เรา​รับ​เอา​การ​คิด​หา​เหตุ​ผล​อย่าง​ผิด ๆ ของ​คน​พวก​นี้​มา​พิจารณา ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​พระ​คำ​แห่ง​ความ​จริง​ของ​พระ​ยะโฮวา​อาจ​อ่อน​ลง​ไป​และ​อาจ​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ตาย​ได้.—2 โกรินโธ 11:13-15, ล.ม.; 1 ติโมเธียว 1:19.

15. อะไร​จะ​ช่วย​เรา​ให้​รักษา​ตัว​อยู่​บน​ทาง​ซึ่ง​นำ​ไป​ถึง​ชีวิต?

15 ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​เขียน​ดัง​นี้: “พระ​วจนะ​ของ​พระองค์​เป็น​โคม​สำหรับ​เท้า​ของ​ข้าพเจ้า, และ​เป็น​แสง​สว่าง​ตาม​ทาง​ของ​ข้าพเจ้า.” (บทเพลง​สรรเสริญ 119:105) ถูก​แล้ว “ทาง​แคบ​ซึ่ง​นำ​ไป​ถึง​ชีวิต” ถูก​ทำ​ให้​สว่าง​อย่าง​ชัดแจ้ง​โดย​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ของ​เรา “ผู้​ซึ่ง​มี​พระทัย​ประสงค์​ให้​คน​ทุก​ชนิด​ได้​ความ​รอด​และ​บรรลุ​ความ​รู้​ถ่องแท้​เรื่อง​ความ​จริง.” (มัดธาย 7:14; 1 ติโมเธียว 2:4, ล.ม.) การ​ใช้​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​จะ​ช่วย​ป้องกัน​เรา​ไว้​จาก​การ​เดิน​หลง​จาก​ทาง​แคบ​ไป​สู่​วิถี​แห่ง​ความ​มืด. เปาโล​เขียน​ไว้​ว่า “พระ​คัมภีร์​ทุก​ตอน​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า​และ​เป็น​ประโยชน์​เพื่อ​การ​สั่ง​สอน, เพื่อ​การ​ว่า​กล่าว, เพื่อ​จัด​การ​เรื่อง​ราว​ให้​เรียบร้อย, เพื่อ​ตี​สอน​ด้วย​ความ​ชอบธรรม.” (2 ติโมเธียว 3:16, ล.ม.) ขณะ​ที่​เรา​เติบโต​ขึ้น​ฝ่าย​วิญญาณ เรา​ได้​รับ​การ​สอน​โดย​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. ด้วย​ความ​สว่าง​แห่ง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า เรา​สามารถ​ว่า​กล่าว​ตัว​เรา​เอง หรือ​หาก​จำเป็น ได้​รับ​การ​ว่า​กล่าว​โดย​ผู้​บำรุง​เลี้ยง​ผู้​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ใน​ประชาคม. เช่น​เดียว​กัน เรา​สามารถ​จัด​การ​เรื่อง​ราว​ให้​เรียบร้อย​และ​ยอม​รับ​การ​ตี​สอน​ใน​ความ​ชอบธรรม​ด้วย​ความ​ถ่อม​ใจ​เพื่อ​รักษา​ก้าว​เท้า​ของ​เรา​บน​เส้น​ทาง​สู่​ชีวิต.

เดิน​ใน​ความ​สว่าง​ด้วย​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า

16. เรา​จะ​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ต่อ​การ​จัด​เตรียม​ความ​สว่าง​อัน​มหัศจรรย์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​โดย​วิธี​ใด?

16 เรา​จะ​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​สำหรับ​ความ​สว่าง​ซึ่ง​เป็น​ของ​ประทาน​อัน​ยอด​เยี่ยม​จาก​พระ​ยะโฮวา​ได้​อย่าง​ไร? โยฮัน​บท 9 บอก​เรา​ว่า​เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​รักษา​ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ตา​บอด​แต่​กำเนิด ชาย​คน​นี้​ถูก​กระตุ้น​ใจ​ให้​แสดง​ความ​ขอบคุณ. โดย​วิธี​ใด? เขา​แสดง​ความ​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า​และ​ประกาศ​ไป​ทั่ว​ว่า​พระองค์​เป็น “ผู้​พยากรณ์.” นอก​จาก​นั้น เขา​กล่าว​ตอบ​โต้​อย่าง​กล้า​หาญ​ต่อ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​พยายาม​ดูถูก​การ​อัศจรรย์​ของ​พระ​เยซู. (โยฮัน 9:17, 30-34, ล.ม.) อัครสาวก​เปโตร​เรียก​สมาชิก​ผู้​ถูก​เจิม​แห่ง​ประชาคม​คริสเตียน​ว่า “ไพร่​พล​ที่​เป็น​สมบัติ​พิเศษ.” เพราะ​เหตุ​ใด? เพราะ​พวก​เขา​มี​เจตคติ​หยั่ง​รู้​ค่า​แบบ​เดียว​กับ​ชาย​ที่​ตา​บอด​แต่​กำเนิด​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​รักษา​ผู้​นี้. พวก​เขา​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ต่อ​พระ​ยะโฮวา ผู้​มี​พระคุณ​อย่าง​เหลือ​ล้น​ต่อ​พวก​เขา โดย ‘ประกาศ​เผยแพร่​คุณ​ความ​ดี​อัน​ล้ำ​เลิศ​ของ​พระองค์​ผู้​ได้​ทรง​เรียก​พวก​เขา​ออก​จาก​ความ​มืด​เข้า​สู่​ความ​สว่าง​อัน​มหัศจรรย์​ของ​พระองค์.’ (1 เปโตร 2:9, ล.ม.; โกโลซาย 1:13) คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​ความ​หวัง​ทาง​แผ่นดิน​โลก​นี้​มี​เจตคติ​หยั่ง​รู้​ค่า​แบบ​เดียว​กัน และ​พวก​เขา​สนับสนุน​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ใน​การ​ประกาศ “คุณ​ความ​ดี​อัน​ล้ำ​เลิศ” ของ​พระ​ยะโฮวา​แก่​คน​ทั่ว​ไป. นับ​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​อัน​สุด​จะ​ประมาณ​ที่​พระเจ้า​ประทาน​แก่​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์!

17, 18. (ก) หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ของ​แต่​ละ​คน​คือ​อะไร? (ข) ใน​การ​เลียน​แบบ​ติโมเธียว คริสเตียน​แต่​ละ​คน​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​ให้​หลีก​เลี่ยง​อะไร?

17 นับ​ว่า​สำคัญ​มาก​ที่​จะ​มี​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​จาก​หัวใจ​สำหรับ​ความ​สว่าง​แห่ง​ความ​จริง. พึง​จำ​ไว้​ว่า ไม่​มี​ใคร​ใน​พวก​เรา​ทราบ​ความ​จริง​ตั้ง​แต่​เกิด. บาง​คน​เรียน​ความ​จริง​ตอน​เป็น​ผู้​ใหญ่ และ​พวก​เขา​เห็น​อย่าง​รวด​เร็ว​ว่า​ความ​สว่าง​ดี​กว่า​ความ​มืด. คน​อื่น ๆ มี​โอกาส​ดี​เป็น​พิเศษ​โดย​ได้​รับ​การ​เลี้ยง​ดู​จาก​บิดา​มารดา​ที่​เกรง​กลัว​พระเจ้า. สำหรับ​คน​เหล่า​นี้ เป็น​เรื่อง​ง่าย​ที่​เขา​อาจ​มอง​ข้าม​ความ​สำคัญ​ของ​ความ​สว่าง. พยาน​ฯ คน​หนึ่ง ซึ่ง​บิดา​มารดา​เป็น​ผู้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ตั้ง​แต่​ก่อน​เธอ​เกิด ยอม​รับ​ว่า​เธอ​ต้อง​ใช้​เวลา​และ​ความ​พยายาม​มาก​ที​เดียว​จึง​จะ​เข้าใจ​อย่าง​เต็ม​ที่​เกี่ยว​กับ​ความ​หมาย​และ​ความ​สำคัญ​ของ​ความ​จริง​ที่​เธอ​ได้​รับ​การ​สอน​ตั้ง​แต่​เป็น​ทารก. (2 ติโมเธียว 3:15) ไม่​ว่า​เยาว์​วัย​หรือ​สูง​อายุ เรา​แต่​ละ​คน​จำเป็น​ต้อง​ปลูกฝัง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​อย่าง​ลึกซึ้ง​ต่อ​ความ​จริง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​เปิด​เผย.

18 ชาย​หนุ่ม​ติโมเธียว​ได้​รับ​การ​สอน “คำ​จารึก​อัน​ศักดิ์สิทธิ์” ตั้ง​แต่​เป็น​ทารก แต่​ท่าน​ได้​บรรลุ​การ​เป็น​คริสเตียน​ที่​อาวุโส​หลัง​จาก​ที่​ท่าน​ได้​ทุ่มเท​ตัว​เอง​ใน​งาน​รับใช้​แล้ว​เท่า​นั้น. (2 ติโมเธียว 3:15) ถึง​ตอน​นั้น ท่าน​จึง​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​จะ​ช่วย​อัครสาวก​เปาโล ซึ่ง​ได้​กระตุ้น​เตือน​ท่าน​ว่า “จง​ทำ​สุด​ความ​สามารถ​เพื่อ​สำแดง​ตน​ให้​เป็น​ที่​พอ​พระทัย​พระเจ้า เป็น​คน​งาน​ที่​ไม่​มี​อะไร​ต้อง​อาย ใช้​คำ​แห่ง​ความ​จริง​อย่าง​ถูกต้อง.” เช่น​เดียว​กับ​ติโมเธียว ขอ​ให้​เรา​ทุก​คน​หลีก​เลี่ยง​การ​ทำ​สิ่ง​ใด ๆ ที่​อาจ​ทำ​ให้​เรา​ละอาย—หรือ​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ละอาย​ใน​ตัว​เรา!—2 ติโมเธียว 2:15, ล.ม.

19. (ก) เช่น​เดียว​กับ​ดาวิด เรา​ทุก​คน​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​กล่าว​เช่น​ไร? (ข) จะ​มี​การ​พิจารณา​อะไร​ใน​บทความ​ถัด​ไป?

19 เรา​มี​เหตุ​ผล​ทุก​ประการ​ที่​จะ​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา ผู้​ประทาน​ความ​สว่าง​แห่ง​ความ​จริง​ของ​พระองค์​แก่​เรา. เช่น​เดียว​กับ​กษัตริย์​ดาวิด เรา​กล่าว​ดัง​นี้: “ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, พระองค์​เป็น​พระ​ประทีป​ของ​ข้าพเจ้า, พระ​ยะโฮวา​จะ​ส่อง​ใน​ที่​มืด​ของ​ข้าพเจ้า​ให้​สว่าง.” (2 ซามูเอล 22:29) ถึง​กระนั้น เรา​ไม่​ควร​นิ่ง​นอน​ใจ เพราะ​นั่น​อาจ​ทำ​ให้​เรา​ถอย​กลับ​ไป​สู่​ความ​มืด​ซึ่ง​เรา​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​ออก​มา​แล้ว. ด้วย​เหตุ​นั้น บทความ​ถัด​ไป​จะ​ช่วย​เรา​ให้​ประเมิน​ความ​สำคัญ​ที่​เรา​ให้​แก่​ความ​จริง​ซึ่ง​ได้​รับ​จาก​พระเจ้า​ใน​ชีวิต​ของ​เรา.

คุณ​ได้​เรียน​รู้​อะไร?

• พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​ให้​มี​ความ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​ไร?

• ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​อยู่​รอบ​ตัว​เรา​ทำ​ให้​เกิด​ข้อ​ท้าทาย​อะไร?

• เรา​ต้อง​หลีก​เลี่ยง​อันตราย​อะไร​บ้าง?

• เรา​จะ​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​สำหรับ​ความ​สว่าง​แห่ง​ความ​จริง​ได้​โดย​วิธี​ใด?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 8]

พระ​ยะโฮวา​ทรง​เป็น​แหล่ง​แห่ง​ความ​สว่าง​ทั้ง​ทาง​กายภาพ​และ​ฝ่าย​วิญญาณ

[ภาพ​หน้า 10]

เช่น​เดียว​กับ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​รักษา​ชาย​ตา​บอด​ให้​ค่อย ๆ เห็น​ชัด​ขึ้น พระองค์​ทรง​ช่วย​เรา​ใน​ลักษณะ​เดียว​กัน​ให้​ออก​จาก​ความ​มืด​ฝ่าย​วิญญาณ

[ภาพ​หน้า 11]

การ​ถูก​ลวง​โดย​ความ​สว่าง​ปลอม​ของ​ซาตาน​ทำ​ให้​อับปาง​ฝ่าย​วิญญาณ