ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

จงคิดอย่างซื่อตรงปฏิบัติอย่างสุขุม

จงคิดอย่างซื่อตรงปฏิบัติอย่างสุขุม

จง​คิด​อย่าง​ซื่อ​ตรง​ปฏิบัติ​อย่าง​สุขุม

ขอ​ให้​นึก​ภาพ​เหตุ​การณ์​นี้: พระ​เยซู​คริสต์​กำลัง​ชี้​แจง​ว่า​พวก​ศัตรู​ทาง​ศาสนา​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​จะ​ทำ​ให้​พระองค์​เจ็บ​ปวด​แสน​สาหัส​และ​แล้ว​ก็​ประหาร​ชีวิต​พระองค์. อัครสาวก​เปโตร​สหาย​สนิท​ของ​พระองค์​คิด​ว่า​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​เกิด​เหตุ​การณ์​เช่น​นั้น. ที่​จริง ท่าน​พา​พระ​เยซู​เลี่ยง​ไป​อีก​ทาง​หนึ่ง​แล้ว​ทัก​ท้วง​พระองค์. ความ​จริง​ใจ​และ​ความ​ห่วงใย​อย่าง​แท้​จริง​ของ​เปโตร​ไม่​เป็น​ที่​สงสัย. แต่​พระ​เยซู​ทรง​ประเมิน​ความ​คิด​ของ​เปโตร​อย่าง​ไร? พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “จง​ไป​อยู่​ข้าง​หลัง​เรา ซาตาน! เจ้า​เป็น​หิน​สะดุด​แก่​เรา เพราะ​ที่​เจ้า​คิด​นั้น ไม่​ใช่​ความ​คิด​ของ​พระเจ้า แต่​เป็น​ความ​คิด​ของ​มนุษย์.”—มัดธาย 16:21-23, ล.ม.

เปโตร​คง​ต้อง​ตกตะลึง​สัก​เพียง​ไร! แทน​ที่​จะ​เป็น​ผู้​ช่วยเหลือ​เกื้อกูล ใน​กรณี​นี้​ท่าน​กลับ​เป็น “หิน​สะดุด” สำหรับ​นาย​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ของ​ท่าน. เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร? เปโตร​อาจ​ตก​เป็น​เหยื่อ​ของ​ข้อ​บกพร่อง​ที่​พบ​เห็น​ได้​ทั่ว​ไป​ใน​ความ​คิด​ของ​มนุษย์ นั่น​คือ​เชื่อ​เฉพาะ​สิ่ง​ที่​ตน​อยาก​เชื่อ.

อย่า​มั่น​ใจ​เกิน​ไป

ภัย​คุกคาม​อย่าง​หนึ่ง​ต่อ​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด​อย่าง​ถูก​ต้อง​ของ​เรา​คือ​แนว​โน้ม​ที่​จะ​มั่น​ใจ​เกิน​ไป. อัครสาวก​เปาโล​เตือน​เพื่อน​คริสเตียน​ใน​เมือง​โครินท์​โบราณ​ว่า “คน​ที่​คิด​ว่า​ตัว​มั่นคง​ดี​อยู่​แล้ว​จง​ระวัง​ให้​ดี, กลัว​ว่า​จะ​หลง​ผิด​ไป.” (1 โกรินโธ 10:12) ทำไม​เปาโล​กล่าว​เช่น​นี้? ดู​เหมือน​เป็น​เพราะ​ท่าน​รู้​ว่า​ง่าย​เพียง​ไร​ที่​ความ​คิด​ของ​มนุษย์​จะ​บิดเบือน​ไป แม้​แต่​จิตใจ​ของ​คริสเตียน​ก็ “ถูก​ล่อ​ลวง​ให้​หลง​ไป​จาก​ความ​สัตย์​ซื่อ​และ​ความ​บริสุทธิ์​ต่อ​พระ​คริสต์.”—2 โกรินโธ 11:3, ฉบับ​แปล​ใหม่.

เรื่อง​นี้​ได้​เกิด​ขึ้น​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เปาโล​ตลอด​ทุก​ชั่ว​อายุ. ใน​ตอน​นั้น พระ​ยะโฮวา​ตรัส​แก่​พวก​เขา​ว่า “ความ​คิด​ของ​เรา​ไม่​เหมือน​ความ​คิด​ของ​เจ้า, และ​ทาง​ของ​เรา​ก็​ไม่​เหมือน​ทาง​ของ​เจ้า!” (ยะซายา 55:8) พวก​เขา​กลับ “เห็น​ว่า​ตัว​ฉลาด​ใน​สายตา​ของ​ตัว​เอง” พร้อม​ด้วย​ผล​อัน​ทำ​ให้​เกิด​ความ​หายนะ. (ยะซายา 5:21) ดัง​นั้น​แล้ว นับ​ว่า​มี​เหตุ​ผล​อย่าง​แน่นอน​ที่​จะ​ตรวจ​สอบ​ดู​วิธี​ที่​เรา​จะ​รักษา​ความ​คิด​ของ​เรา​เอง​ให้​ซื่อ​ตรง​และ​ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​หลีก​เลี่ยง​ความ​หายนะ​คล้าย​กัน​นั้น.

จง​ระวัง​การ​คิด​ใน​ทาง​เนื้อหนัง

บาง​คน​ใน​เมือง​โครินท์​ได้​รับ​ผล​กระทบ​ที่​ไม่​ดี​จาก​การ​คิด​ใน​ทาง​เนื้อหนัง. (1 โกรินโธ 3:1-3) พวก​เขา​เน้น​เรื่อง​ปรัชญา​ของ​มนุษย์​มาก​กว่า​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า​นัก​คิด​ชาว​กรีก​สมัย​นั้น​เป็น​คน​ฉลาด​มาก. อย่าง​ไร​ก็​ดี ในสาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​เป็น​คน​โง่​เขลา. เปาโล​ได้​กล่าว​ว่า “มี​คำ​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​ว่า เรา​จะ​ทำลาย​สติ​ปัญญา​ของ​คน​มี​ปัญญา​และ​จะ​ทำ​ให้​ความ​ฉลาด​ของ​คน​ฉลาด​สูญ​สิ้น​ไป คน​มี​ปัญญา​แห่ง​ยุค​นี้​อยู่​ที่​ไหน บัณฑิต​แห่ง​ยุค​นี้​อยู่​ที่​ไหน นัก​โต้​ปัญหา​แห่ง​ยุค​นี้​อยู่​ที่​ไหน พระเจ้า​ได้​ทรง​กระทำ​ปัญญา​ของ​โลก​ให้​โฉด​เขลา​ไป​แล้ว.” (1 โกรินโธ 1:19, 20, ฉบับ​แปล​ใหม่) ปัญญาชน​ดัง​กล่าว​ถูก​ควบคุม​โดย “วิญญาณ​ของ​โลก” แทน​ที่​จะ​เป็น​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า. (1 โกรินโธ 2:12) ปรัชญา​และ​แนว​คิด​ต่าง ๆ ของ​พวก​เขา​ไม่​ประสาน​กับ​พระ​ดำริ​ของ​พระ​ยะโฮวา.

แหล่ง​ที่​มา​พื้น​ฐาน​ของ​การ​คิด​ใน​ทาง​เนื้อหนัง​เช่น​นั้น​คือ​ซาตาน​พญา​มาร ผู้​ซึ่ง​ใช้​งู​ล่อ​ลวง​ฮาวา. (เยเนซิศ 3:1-6; 2 โกรินโธ 11:3) มัน​ยัง​คง​เป็น​อันตราย​ต่อ​เรา​อยู่​ไหม? แน่นอน! ตาม​ที่​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​บอก​ไว้ ซาตาน “ได้​ทำ​ให้​จิตใจ​ของ​คน​ที่​ไม่​เชื่อ​มืด​ไป” ถึง​ขั้น​ที่​ตอน​นี้​มัน “ชัก​นำ​แผ่นดิน​โลก​ทั้ง​สิ้น​ที่​มี​คน​อาศัย​อยู่​ให้​หลง.” (2 โกรินโธ 4:4, ล.ม.; วิวรณ์ 12:9, ล.ม.) สำคัญ​สัก​เพียง​ไร​ที่​จะ​ตื่น​ตัว​ต่อ​อุบาย​ของ​มัน!—2 โกรินโธ 2:11.

จง​ระวัง “เล่ห์​กล​ของ​มนุษย์”

อัครสาวก​เปาโล​ยัง​เตือน​ให้​ระวัง “เล่ห์​กล​ของ​มนุษย์” ด้วย. (เอเฟโซ 4:14) ท่าน​ได้​เผชิญ​กับ ‘คน​งาน​ที่​ชอบ​หลอก​ลวง’ ซึ่ง​ทำที​ว่า​เสนอ​ความ​จริง​แต่​ที่​แท้​แล้ว​เป็น​ผู้​บิดเบือน​ความ​จริง. (2 โกรินโธ 11:12-15, ล.ม.) เพื่อ​บรรลุ​จุด​ประสงค์​ของ​ตน คน​เช่น​นั้น​อาจ​ใช้​หลักฐาน​ที่​สนับสนุน​เพียง​แต่​แนว​คิด​ของ​ตน, ใช้​คำ​พูด​ที่​โน้ม​น้าว​ความ​รู้สึก, คำ​พูด​ที่​จริง​บ้าง​ไม่​จริง​บ้าง​ซึ่ง​ทำ​ให้​หลง​เข้าใจ​ผิด, คำ​พูด​เสียดสี​แบบ​อ้อม ๆ, และ​กระทั่ง​คำ​โกหก​ล้วน ๆ.

นัก​โฆษณา​ชวน​เชื่อ​มัก​ใช้​คำ​อย่าง​เช่น “sect [ลัทธิ​อันตราย]” เพื่อ​ใส่​ความ​คน​อื่น. ใน​ข้อ​เสนอ​แนะ​ที่​ให้​กับ​การ​ประชุม​รัฐสภา​แห่ง​สภา​ยุโรป มี​ผู้​เสนอ​แนะ​ว่า​พวก​ผู้​มี​อำนาจ​ที่​ตรวจ​สอบ​กลุ่ม​ศาสนา​ใหม่ “คง​จะ​ฉลาด​ถ้า​หาก​เลิก​ใช้​คำ​นี้.” เพราะ​เหตุ​ใด? เพราะ​รู้สึก​ว่า​คำ​นั้น มี​ความหมาย​ใน​แง่​ลบ​เกิน​ไป. เขา​กล่าว​ต่อ​ไป​ว่า “ใน​ความ​คิด​ของ​คน​ส่วน​ใหญ่ คำ​นั้น​ฟัง​ดู​ชั่ว​ร้าย​หรือ​เป็น​อันตราย​อย่าง​ยิ่ง.” ใน​ทำนอง​เดียว​กัน ปัญญาชน​ชาว​กรีก​ได้​กล่าวหา​อย่าง​ผิด ๆ ว่า​อัครสาวก​เปาโล​เป็น “คน​ปาก​มาก” หรือ​ตาม​ตัว​อักษร​คือ “คน​เก็บ​เมล็ด​พืช.” นี่​ก็​เพื่อ​แสดง​นัย​ว่า​ท่าน​เป็น​เพียง​คน​พูด​จ้อ​แบบ​ไร้​สาระ เป็น​คน​ที่​เก็บ​หรือ​พูด​ซ้ำ​แค่​เศษ​ความ​รู้​เท่า​นั้น. ที่​จริง เปาโล “ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​พระ​เยซู​และ​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย.”—กิจการ 17:18, ล.ม.

วิธี​การ​ของ​นัก​โฆษณา​ชวน​เชื่อ​ใช้​ได้​ผล​ไหม? ได้​สิ. วิธี​การ​เหล่า​นั้น​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​ใน​การ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​เกลียด​ชัง​ด้าน​ชาติ​พันธุ์​และ​ด้าน​ศาสนา​โดย​บิดเบือน​แนว​ความ​คิด​ของ​ผู้​คน​ที่​มี​ต่อ​ชาติ​หรือ​ศาสนา​อื่น. หลาย​คน​ได้​ใช้​วิธี​การ​ดัง​กล่าว​เพื่อ​ทำ​ให้​ชน​กลุ่ม​น้อย​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ที่​นิยม​ชม​ชอบ​ด้อย​ค่า​ลง​ไป. อะดอล์ฟ ฮิตเลอร์​เคย​ใช้​วิธี​การ​เช่น​นั้น​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ​ตอน​ที่​เขา​พรรณนา​ถึง​พวก​ยิว​และ​กลุ่ม​อื่น ๆ ว่า​เป็น​คน “เสื่อม​ทราม,” “ชั่ว​ร้าย,” และ​เป็น “ภัย​คุกคาม” ต่อ​รัฐ. อย่า​ยอม​ให้​เล่ห์​กล​แบบ​นี้​ก่อ​ความ​เสียหาย​ต่อ​ความ​คิด​ของ​คุณ.—กิจการ 28:19-22.

อย่า​หลอก​ตัว​เอง

ยัง​เป็น​เรื่อง​ง่าย​ด้วย​ที่​จะ​หลอก​ตัว​เอง. ที่​จริง อาจ​ยาก​มาก​ที่​จะ​ขจัด​ความ​คิด​เห็น​ซึ่ง​เป็น​ที่​ชื่น​ชอบ​เหลือ​เกิน​หรือ​แม้​แต่​จะ​สงสัย​ความ​คิด​เห็น​นั้น. เพราะ​เหตุ​ใด? เพราะ​เรา​มี​ความ​รู้สึก​ผูก​พัน​กับ​ทัศนะ​ของ​ตัว​เอง. แล้ว​เรา​อาจ​หลอก​ตัว​เอง​โดย​การ​หา​เหตุ​ผล​ผิด ๆ โดย​คิด​หา​เหตุ​ผล​ต่าง ๆ นานา​เพื่อ​พิสูจน์​ความ​ถูก​ต้อง​ของ​การ​เชื่อ​ที่​ผิด​พลาด​และ​ที่​ทำ​ให้​หลง​ไป​จริง ๆ.

เรื่อง​นี้​ได้​เกิด​ขึ้น​กับ​คริสเตียน​บาง​คน​ใน​ศตวรรษ​แรก. พวก​เขา​รู้​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า แต่​พวก​เขา​ไม่​ยอม​ให้​พระ​คำ​นั้น​ควบคุม​ความ​คิด​ของ​ตน. ลง​ท้าย​พวก​เขา “หลอก​ตัว​เอง​ด้วย​การ​คิด​หา​เหตุ​ผล​ผิด ๆ.” (ยาโกโบ 1:22, 26, ล.ม.) ข้อ​บ่ง​ชี้​อย่าง​หนึ่ง​ที่​แสดง​ว่า​เรา​อาจ​ตก​เป็น​เหยื่อ​ของ​การ​หลอก​ลวง​ตัว​เอง​แบบ​นี้​คือ ถ้า​เรา​รู้สึก​โกรธ​เมื่อ​คน​สงสัย​ความ​เชื่อ​ของ​เรา. แทน​ที่​จะ​โกรธ นับ​ว่า​ฉลาด​ที่​จะ​เปิด​จิตใจ​อยู่​เสมอ​และ​ตั้งใจ​ฟัง​สิ่ง​ที่​คน​อื่น​พูด แม้​แต่​เมื่อ​เรา​รู้สึก​แน่​ใจ​ว่า​ความ​คิด​เห็น​ของ​เรา​ถูก​ต้อง.—สุภาษิต 18:17.

ขุด​ค้น​หา “ความ​รู้​ของ​พระเจ้า”

เรา​จะ​ทำ​ประการ​ใด​เพื่อ​ให้​ความ​คิด​ของ​เรา​ซื่อ​ตรง​อยู่​เสมอ? มี​เครื่อง​ช่วย​อยู่​มาก​มาย แต่​เรา​ต้อง​เต็ม​ใจ​ลง​มือ​ทำ​เพื่อ​จะ​ได้​ความ​ช่วยเหลือ​นั้น. กษัตริย์​ซะโลโม​ผู้​ชาญ​ฉลาด​ได้​กล่าว​ว่า “ศิษย์​ของ​เรา​เอ๋ย, ถ้า​เจ้า​จะ​รับ​คำ​ของ​เรา, และ​จะรักษา​บัญญัติ​ของ​เรา​ไว้​กับ​เจ้า; ยอม​ที่​จะ​ตะแคง​หู​ของ​เจ้า​ลง​ฟัง​พระ​ปัญญา, และ​น้อม​ใจ​ของ​เจ้า​ลง​เพื่อ​ความ​เข้าใจ; เออ, ถ้า​เจ้า​จะ​ร้อง​หา​ความ​รู้, และ​ส่ง​เสียง​ของ​เจ้า​วอน​หา​ความ​เข้าใจ; ถ้า​เจ้า​จะ​เสาะ​หา​พระ​ปัญญา​เหมือน​หา​เงิน, และ​ขุด​ค้น​หา​พระ​ปัญญา​เหมือน​หนึ่ง​ทรัพย์​ที่​ซ่อน​อยู่​นั้น; เมื่อ​นั้น​เจ้า​จะ​เข้าใจ​ความ​ยำเกรง​พระ​ยะโฮวา, และ​จะ​พบ​ความ​รู้​ของ​พระเจ้า.” (สุภาษิต 2:1-5) ใช่​แล้ว หาก​เรา​เอง​พยายาม​ที่​จะ​บรรจุ​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​เรา​ด้วย​ความ​จริง​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า เรา​ก็​จะ​ได้​รับ​สติ​ปัญญา, ความ​หยั่ง​เห็น, และ​ความ​สังเกต​เข้าใจ​แท้. ที่​จริง​แล้ว เรา​จะ​ขุด​ค้น​หา​สิ่ง​ที่​มี​ค่า​ล้ำ​เลิศ​ยิ่ง​กว่า​เงิน​หรือ​ทรัพย์​สมบัติ​ฝ่าย​วัตถุ​อื่น​ใด.—สุภาษิต 3:13-15.

สติ​ปัญญา​และ​ความ​รู้​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​อย่าง​แน่นอน​ใน​การ​คิด​อย่าง​ซื่อ​ตรง. พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​กล่าว​ว่า “พระ​ปัญญา​จะ​เข้า​มา​สู่​ดวง​หฤทัย​ของ​เจ้า, และ​ความ​รู้​ก็​จะ​เป็น​ความ​บันเทิง​แก่​ดวง​วิญญาณ​ของ​เจ้า, ความ​สุขุม​รอบคอบ [“ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด,” ล.ม.] จะ​พิทักษ์​เจ้า​ไว้; ความ​เข้าใจ [“ความ​สังเกต​เข้าใจ,” ล.ม.] จะ​รักษา​เจ้า; เพื่อ​จะ​ช่วย​เจ้า​ให้​พ้น​จาก​ทาง​ของ​คน​ชั่ว, เพื่อ​ให้​พ้น​จาก​คน​ที่​พูด​ดึง​ดัน​ไป​ใน​ทาง​หลง​ผิด; คน​ที่​ละ​ทิ้ง​ทาง​ของ​ความ​ตรง, เพื่อ​เดิน​ใน​ทาง​ของ​ความ​มืดมน.”—สุภาษิต 2:10-13.

นับ​ว่า​สำคัญ​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​ให้​ความ​คิด​ของ​พระเจ้า​ชี้​นำ​ความ​คิด​ของ​เรา​ใน​สมัย​ที่​มี​ความ​ตึงเครียด​หรือ​อันตราย. อารมณ์​ความ​รู้สึก​ที่​รุนแรง เช่น ความ​โกรธ​หรือ​ความ​กลัว อาจ​ทำ​ให้​ยาก​ที่​จะ​คิด​อย่าง​ถูก​ต้อง. ซะโลโม​กล่าว​ว่า “การ​กดขี่​ข่มเหง​กระทำ​ผู้​มี​สติ​ปัญญา​ให้​คลั่ง​ไป.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 7:7) ถึง​กับ​เป็น​ไป​ได้​ด้วย​ซ้ำ​ที่​จะ “บ่น​ต่อ​ว่า​พระ​ยะโฮวา.” (สุภาษิต 19:3) โดย​วิธี​ใด? โดย​ตำหนิ​พระเจ้า​เนื่อง​ด้วย​ปัญหา​ของ​เรา​และ​ใช้​ปัญหา​นั้น​เป็น​ข้อ​แก้​ตัว​ใน​การ​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​ประสาน​กับ​กฎหมาย​และ​หลักการ​ของ​พระองค์. แทน​ที่​จะ​คิด​ว่า​เรา​รู้​ดี​ที่​สุด​เสมอ ขอ​เรา​ถ่อม​ใจ​ฟัง​ผู้​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​ฉลาด​ซึ่ง​พยายาม​ช่วย​เรา​โดย​ใช้​พระ​คัมภีร์. และ​หาก​จำเป็น ขอ​เรา​พร้อม​จะ​ทิ้ง​กระทั่ง​ทัศนะ​ที่​เคย​ยึด​ถือ​มา​อย่าง​เหนียวแน่น​เมื่อ​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​ทัศนะ​นั้น​ผิด​พลาด.—สุภาษิต 1:1-5; 15:22.

“ทูล​ขอ​พระเจ้า​ต่อ ๆ ไป”

เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สมัย​ที่​วุ่นวาย​และ​อันตราย. การ​อธิษฐาน​เป็น​ประจำ​เพื่อ​ขอ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระ​ยะโฮวา​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ยิ่ง​หาก​เรา​จะ​สำแดง​การ​วินิจฉัย​ที่​ดี​และ​ปฏิบัติ​อย่าง​สุขุม. เปาโล​เขียน​ว่า “อย่า​กระวนกระวาย​ด้วย​สิ่ง​ใด แต่​ใน​ทุก​สิ่ง​จง​ทูล​ขอ​ต่อ​พระเจ้า​โดย​การ​อธิษฐาน​และ​การ​วิงวอน​พร้อม​ด้วย​การ​ขอบพระคุณ; แล้ว​สันติ​สุข​แห่ง​พระเจ้า​ที่​เหนือ​กว่า​ความ​คิด​ทุก​อย่าง​จะ​ป้องกัน​รักษา​หัวใจ​และ​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด​ของ​ท่าน​ไว้​โดย​พระ​คริสต์​เยซู.” (ฟิลิปปอย 4:6, 7, ล.ม.) หาก​เรา​ขาด​สติ​ปัญญา​ที่​จะ​รับมือ​กับ​ปัญหา​หรือ​การ​ทดลอง​ที่​ยุ่งยาก เรา​ต้อง “ทูล​ขอ​พระเจ้า​ต่อ ๆ ไป เพราะ​พระองค์​ทรง​ประทาน​แก่​ทุก​คน​ด้วย​พระทัย​เอื้อ​อารี​และ​โดย​มิ​ได้​ทรง​ติ​ว่า.”—ยาโกโบ 1:5-8, ล.ม.

เนื่อง​จาก​รู้​ว่า​เพื่อน​คริสเตียน​ต้อง​สำแดง​สติ​ปัญญา อัครสาวก​เปโตร​จึง​พยายาม​จะ ‘กระตุ้น​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด​อย่าง​แจ่ม​ชัด​ของ​พวก​เขา.’ ท่าน​ต้องการ​ให้​พวก​เขา “จด​จำ​คำ​กล่าว​ที่​พวก​ผู้​พยากรณ์​บริสุทธิ์​ได้​กล่าว​ไว้​แต่​ก่อน และ​พระ​บัญญัติ​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​ผู้​ช่วย​ให้​รอด” พระ​เยซู​คริสต์. (2 เปโตร 3:1, 2, ล.ม.) หาก​เรา​ทำ​เช่น​นี้​และ​คอย​ระวัง​ให้​ความ​คิด​ของ​เรา​ประสาน​กับ​พระ​คำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​แล้ว เรา​ก็​จะ​คิด​อย่าง​ซื่อ​ตรง​และ​ปฏิบัติ​อย่าง​สุขุม.

[ภาพ​หน้า 21]

คริสเตียน​ยุค​แรก​ให้​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​ปรับ​ความ​คิด​ของ​พวก​เขา ไม่​ใช่​การ​หา​เหตุ​ผล​แบบ​นัก​ปรัชญา

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Philosophers left to right: Epicurus: Photograph taken by courtesy of the British Museum; Cicero: Reproduced from The Lives of the Twelve Caesars; Plato: Roma, Musei Capitolini

[ภาพ​หน้า 23]

การ​อธิษฐาน​และ​การ​ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​นับ​ว่า​สำคัญ​ยิ่ง