จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าไม่ใช่แก่มนุษย์
จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าไม่ใช่แก่มนุษย์
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บรรดาผู้รักความชอบธรรมในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เรียนรู้วิธีถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า เนื่องจากพวกเขาได้เข้าร่วมการประชุมภาค “จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า” ของพยานพระยะโฮวา. ให้เราทบทวนระเบียบวาระที่ให้ความรู้ซึ่งได้นำเสนอที่นั่น.
ระเบียบวาระซึ่งยึดคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลักมีติดต่อกันสามวันสำหรับการประชุมภาคเป็นส่วนใหญ่ และสี่วันสำหรับผู้ที่สามารถร่วมการประชุมนานาชาติเป็นพิเศษ. ทั้งหมด ผู้เข้าร่วมได้ฟังส่วนต่าง ๆ จากคัมภีร์ไบเบิลมากกว่า 30 เรื่อง, รวมทั้งคำบรรยายที่ให้ความเข้าใจและความหยั่งรู้ค่าฝ่ายวิญญาณอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น, ประสบการณ์หลายเรื่องที่เสริมความเชื่อของพวกเขาให้มั่นคง, การสาธิตที่มุ่งเน้นการใช้หลักการจากคัมภีร์ไบเบิลในเชิงปฏิบัติ, และละครฉากโบราณที่แสดงให้เห็นข้อท้าทายต่าง ๆ ซึ่งคริสเตียนศตวรรษแรกได้เผชิญ. ถ้าคุณเข้าร่วมการประชุมมาแห่งหนึ่ง ลองหยิบโน้ตที่คุณจดบันทึกขึ้นมาทบทวนขณะคุณอ่านบทความนี้. เราแน่ใจว่าเมื่อคุณอ่านควบคู่กันไปจะช่วยฟื้นความจำดี ๆ จากงานเลี้ยงใหญ่ฝ่ายวิญญาณอันอุดมด้วยคุณค่า ทั้งเป็นสิ่งที่ให้ความรู้อีกด้วย.
อรรถบทของวันที่หนึ่ง: “พระยะโฮวา . . . พระองค์คู่ควรจะได้รับสง่าราศี”
หลังเปิดประชุมด้วยเพลงและการอธิษฐาน ผู้บรรยายคนแรกกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนอย่างอบอุ่น ด้วยคำบรรยายมุ่งเน้นเหตุผลหลักของการประชุมคราวนี้ที่ว่า “มาประชุมเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า.” โดยยกข้อความจากพระธรรมวิวรณ์ 4:11 ผู้บรรยายได้เน้นสาระสำคัญโดยรวมของการประชุมภาค. เขาเข้าสู่เรื่องทันทีว่าการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าหมายถึงอะไร. โดยใช้พระธรรมบทเพลงสรรเสริญ เขาเน้นว่าการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเกี่ยวข้องกับการ “นมัสการ,” “สนองพระเดชพระคุณ,” และ “สรรเสริญ.”—บทเพลงสรรเสริญ 95:6; 100:4, 5; 111:1, 2.
ส่วนถัดไปมีชื่อเรื่องว่า “พระพรมีแก่ผู้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า.” ผู้บรรยายได้ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง. เนื่องจากมีพยานพระยะโฮวาอยู่ทั่วโลกกว่าหกล้านคนใน 234 ดินแดน จึงกล่าวได้ว่า คนเหล่านั้นถวายพระเกียรติแด่พระยะโฮวาวันยังค่ำคืนยังรุ่ง. (วิวรณ์ 7:15) การสัมภาษณ์พี่น้องคริสเตียนชายหญิงซึ่งทำงานรับใช้ประเภทเต็มเวลาแบบพิเศษก็เป็นลักษณะเด่นส่วนหนึ่งที่หมู่ผู้ฟังหยั่งรู้ค่าและรู้สึกอบอุ่นใจ.
คำบรรยายต่อไปคือ “สิ่งทรงสร้างประกาศสง่าราศีของพระเจ้า.” แม้ไม่มีเสียงพูด ท้องฟ้าก็ได้ประกาศความยิ่งใหญ่โอฬารของพระเจ้า และเสริมความรู้สึกหยั่งรู้ค่าของเราให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อความใฝ่พระทัยรักใคร่ของพระองค์. เรื่องนี้ได้รับการชี้แจงอย่างละเอียดถี่ถ้วน.—ยะซายา 40:26.
เพลงสรรเสริญบท 26 ทีละข้อ พร้อมด้วยการสัมภาษณ์พยานฯ วัยเรียนที่ยืนหยัดมั่นคงในด้านศีลธรรม และอีกคนหนึ่งซึ่งเคยเปลืองเวลาไปกับการบันเทิงที่อยู่ในข่ายน่าสงสัย แต่ก็ได้ใช้มาตรการบางอย่างเพื่อเอาชนะปัญหานั้น.
การข่มเหง, การต่อต้าน, อิทธิพลชักนำต่าง ๆ ของโลก, และความโน้มเอียงในทางผิดบาปล้วนท้าทายความซื่อสัตย์มั่นคงของคริสเตียนแท้. ดังนั้น คำบรรยายเรื่อง “จงดำเนินในทางแห่งความซื่อสัตย์มั่นคง” จึงสมควรที่ผู้ฟังฟังด้วยใจจดใจจ่อ. มีการพิจารณาคำปราศรัยสำคัญ: “นิมิตอันรุ่งโรจน์ที่มีความหมายเชิงพยากรณ์กระตุ้นเรา!” เป็นตอนจบของระเบียบวาระภาคเช้า. ผู้บรรยายได้พูดถึงตัวอย่างผู้พยากรณ์ดานิเอลและอัครสาวกโยฮันและเปโตรว่าเป็นผู้ซึ่งความเชื่อของเขาได้รับการเสริมให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นโดยนิมิตเชิงพยากรณ์อันรุ่งโรจน์เกี่ยวกับการสถาปนาและการดำเนินงานแห่งราชอาณาจักรมาซีฮาของพระเจ้า. เมื่อกล่าวถึงใคร ๆ ที่อาจลืมหลักฐานที่พิสูจน์ชัดว่าเรากำลังอยู่ในเวลาอวสาน ผู้บรรยายพูดว่า “เราหวังอย่างจริงใจว่าคนเช่นนั้นจะมุ่งความสนใจต่อความเป็นจริงอีกครั้งหนึ่งในเรื่องการประทับของพระคริสต์ด้วยสง่าราศีแห่งราชอาณาจักร และจะได้รับการช่วยเหลือให้ฟื้นความเข้มแข็งฝ่ายวิญญาณขึ้นอีก.”
ระเบียบวาระภาคบ่ายเริ่มด้วยคำบรรยายชื่อ “พระยะโฮวาทรงสำแดงสง่าราศีของพระองค์แก่ผู้ถ่อมใจ.” ผู้บรรยายได้ชี้ว่าพระยะโฮวาทรงวางแบบอย่างเช่นไรในเรื่องความถ่อม ทั้ง ๆ ที่พระองค์ทรงเป็นองค์ใหญ่ยิ่งสูงสุดในเอกภพ. (บทเพลงสรรเสริญ 18:35) พระยะโฮวาทรงชอบพระทัยบรรดาผู้ที่ถ่อมใจจริง ๆ แต่พระองค์ต่อต้านคนเหล่านั้นซึ่งทำทีถ่อมตนเมื่อติดต่อเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มเดียวกันหรือผู้มีอำนาจสูงกว่า แต่แล้วเกรี้ยวกราดคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา.—บทเพลงสรรเสริญ 138:6.
ส่วนถัดมา มีการเสนอคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลเป็นแบบคำบรรยายชุด ซึ่งเน้นแง่ต่าง ๆ ของหัวเรื่องหลักที่ว่า “คำพยากรณ์ของอาโมศ—ข่าวสารสำหรับสมัยของเรา.” โดยการชี้ไปที่ตัวอย่างของอาโมศ ผู้บรรยายคนแรกชักนำให้เราเอาใจใส่หน้าที่รับผิดชอบที่จะเตือนผู้คนถึงเรื่องการพิพากษาของพระยะโฮวาซึ่งใกล้เข้ามา. ชื่อเรื่องคำบรรยายของเขาคือ “กล่าวคำของพระเจ้าด้วยความกล้าหาญ.” ผู้บรรยายคนที่สองตั้งคำถามว่า “พระยะโฮวาจะกำจัดความชั่วและความทุกข์ทรมานให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินโลกไหม?” หัวเรื่องของเขาที่ว่า “การพิพากษาของพระเจ้าต่อคนชั่ว” บ่งชี้ว่า การพิพากษาของพระเจ้าชอบธรรมเสมอ, หลีกไม่พ้น, และมีการคัดแยก. ผู้บรรยายสุดท้ายในคำบรรยายชุดมุ่งความสนใจไปที่หัวเรื่อง “พระยะโฮวาทรงตรวจสอบหัวใจ.” คนเหล่านั้นที่ปรารถนาจะทำให้พระยะโฮวาพอพระทัยย่อมเชื่อฟังถ้อยคำที่อาโมศ 5:15 ที่ว่า “จงชังความชั่วแลรักความดี.”
เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ เช่นเหล้าองุ่นซึ่งทำให้หัวใจเบิกบาน แต่อาจนำไปใช้ในทางให้โทษ. ในบทบรรยายเรื่อง “จงหลีกเลี่ยงบ่วงแร้วแห่งการใช้แอลกอฮอล์อย่างผิด ๆ” ผู้บรรยายจัดเรียงลำดับอันตรายซึ่งให้โทษต่อร่างกายและฝ่ายวิญญาณหากใช้แอลกอฮอล์เกินควร แม้ไม่ถึงขั้นเมาก็ตาม. ผู้บรรยายให้หลักการชี้นำว่า เนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์มีผลกระทบคนที่ดื่มแตกต่างกันไป หากปริมาณแอลกอฮอล์ยังความเสียหายแก่ “สติปัญญาที่ใช้ได้จริงและความสามารถในการคิด” ของคุณ นั่นแสดงว่าคุณดื่มมากเกินควรเสียแล้ว.—สุภาษิต 3:21, 22, ล.ม.
เนื่องจากเรามีชีวิตอยู่ในสมัยวิกฤติ หัวข้อคำบรรยายต่อจากนั้นคือ “พระยะโฮวา ‘ป้อมของเราในยามยากลำบาก’” ให้การปลอบประโลม. การอธิษฐาน, พระวิญญาณบริสุทธิ์, และเพื่อนคริสเตียนสามารถช่วยเราให้รับมือได้.
คำบรรยายสุดท้ายของวันนั้นคือ “‘แผ่นดินอันดี’—ภาพล่วงหน้าเกี่ยวกับอุทยาน” จบลงด้วยความประหลาดใจระคนความยินดีสำหรับทุกคน นั่นก็คือสิ่งพิมพ์ใหม่ที่มีแผนที่ภูมิประเทศสมัยคัมภีร์ไบเบิลมากมาย! มีชื่อว่าไปดูแผ่นดินอันดี.
อรรถบทวันที่สอง: “จงประกาศพระเกียรติของพระองค์ในท่ามกลางชนประเทศทั้งปวง”
ภายหลังการพิจารณาข้อคัมภีร์ประจำวัน มีการเสนอคำบรรยายชุดที่สองของการประชุมด้วยสาระสำคัญคือ “จง ‘สะท้อนสง่าราศีของพระยะโฮวาเสมือนกระจก.’” ในส่วนแรกมีการพรรณนาอย่างละเอียดเรื่อง “การเผยแพร่ข่าวดีไปทั่วทุกแห่ง” และรวมทั้งการสาธิตจากประสบการณ์จริงในเขตงานเผยแพร่. คำบรรยายที่สองได้จัดเอาการสาธิตวิธีกลับเยี่ยมรวมไว้ในตอนที่ผู้บรรยายเสนอเรื่อง “การขจัดสิ่งที่ปิดตาผู้คนทั่วไป.” ส่วนสุดท้ายคือเรื่อง “ทำเช่นนั้นอย่างเต็มที่ยิ่งขึ้นในงานรับใช้ของเรา” ได้รับการเสริมน้ำหนัก
โดยการสัมภาษณ์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับประสบการณ์ต่าง ๆ ในเขตงาน.ส่วนถัดไปของระเบียบวาระมีชื่อเรื่องว่า “ถูกเกลียดชังโดยไม่มีสาเหตุ.” ส่วนนี้มีการสัมภาษณ์ผู้ที่ซื่อสัตย์ซึ่งให้การกระตุ้นหนุนใจ เนื่องด้วยพวกเขาพึ่งอาศัยพลังจากพระเจ้าจึงสามารถรักษาความซื่อสัตย์มั่นคงไว้ได้แม้นเผชิญการต่อต้าน.
ส่วนสำคัญซึ่งคาดหมายจะต้องมีในการประชุมใหญ่คือคำบรรยายเรื่องการรับบัพติสมา แล้วหลังจากนั้นผู้ที่มีคุณสมบัติตามข้อเรียกร้องก็จะรับบัพติสมาด้วยการจุ่มตัวมิดในน้ำ. การรับบัพติสมาเป็นสัญลักษณ์ว่าบุคคลนั้นได้อุทิศตัวแด่พระยะโฮวาอย่างเต็มที่. ด้วยเหตุนี้ ชื่อเรื่องจึงเหมาะอย่างยิ่งที่ว่า “การดำเนินชีวิตสมกับการอุทิศตัวของเราทำให้พระเจ้าได้รับเกียรติ.”
ระเบียบวาระภาคบ่ายเริ่มด้วยคำบรรยายที่สนับสนุนให้สำรวจตัวเอง คือ “จงปลูกฝังทัศนะเยี่ยงพระคริสต์เรื่อง
การเป็นใหญ่.” ผู้บรรยายได้นำจุดน่าสนใจนี้ขึ้นมากล่าวดังนี้: การเป็นใหญ่เกิดจากการเลียนแบบความถ่อมของพระคริสต์. ดังนั้น คริสเตียนไม่ควรแสวงหาตำแหน่งที่มีอำนาจเพื่อสนองความมักใหญ่ใฝ่สูงของตนเอง. เขาควรถามตัวเองว่า ‘ฉันเต็มใจทำงานที่เป็นประโยชน์ไหมซึ่งคนอื่นอาจไม่สังเกตเห็นในทันที?’คุณเคยเหน็ดเหนื่อยไหม? แน่นอน ทุกคนรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นครั้งคราว. บทบรรยายชื่อ “เหน็ดเหนื่อย แต่ไม่เลื่อยล้า” เป็นเรื่องที่ทุกคนชอบใจ. การสัมภาษณ์พยานฯ ที่รับใช้มานานแสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาสามารถทำให้เรา “มีกำลังเข้มแข็ง . . . โดยพระวิญญาณของพระองค์.”—เอเฟโซ 3:16, ล.ม.
การเป็นคนใจกว้างไม่ใช่ลักษณะที่มีมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นคุณสมบัติที่ต้องเรียนรู้. จุดสำคัญนี้ได้รับการเน้นในบทบรรยายเรื่อง “จง ‘เป็นคนใจกว้าง พร้อมจะแบ่งปัน.’” และคำถามที่กระตุ้นให้คิดถูกยกขึ้นมาที่ว่า “เราพร้อมจะให้เวลาบ้างไหมแก่พี่น้องชายหญิงที่สูงอายุ, เจ็บป่วย, ซึมเศร้า, หรือว้าเหว่?”
“จงระวัง ‘เสียงของผู้อื่น’” จับความสนใจในหมู่ผู้ฟัง. คำบรรยายนี้เปรียบสาวกของพระเยซูเสมือนแกะที่ฟังเฉพาะเสียงของพระองค์ฐานะ “ผู้เลี้ยงแกะที่ดี” เท่านั้น และไม่ฟัง “เสียงของผู้อื่น” ซึ่งเปล่งผ่านตัวแทนจากแหล่งต่าง ๆ ภายใต้อิทธิพลของพญามาร.—โยฮัน 10:5, 14, 27, ล.ม.
คณะนักร้องประสานเสียงต้องร้องพร้อมเพรียงกันถึงจะฟังรู้เรื่อง. เพื่อจะถวายพระเกียรติพระเจ้า เหล่าผู้นมัสการแท้ทั่วโลกต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน. ด้วยเหตุนี้ คำบรรยายเรื่อง “จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ‘เป็นเสียงเดียวกัน’” จึงให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในแง่ที่ว่า พวกเราทุกคนจะพูด “ภาษาบริสุทธิ์” ภาษาเดียว และรับใช้พระยะโฮวา “เคียงบ่าเคียงไหล่กัน” ได้อย่างไร.—ซะฟันยา 3:9, ล.ม.
บิดามารดาทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้ที่มีบุตรวัยเยาว์ ต่างก็ปีติยินดีทั่วหน้าเมื่อได้ฟังคำบรรยายสุดท้ายในวันนั้นเรื่อง “บุตรของเรา—มรดกอันล้ำค่า.” มีการออกหนังสือใหม่ขนาด 256 หน้า ซึ่งก่อความประหลาดใจและพึงพอใจแก่หมู่ผู้ฟัง. จงเรียนจากครูผู้ยิ่งใหญ่ เป็นหนังสือที่ช่วยบิดามารดาให้ใช้เวลาเกี่ยวกับสิ่งฝ่ายวิญญาณที่ยังผลตอบแทนกับบุตรของตน ผู้ซึ่งเป็นของประทานจากพระเจ้าสำหรับเขา.
อรรถบทการประชุมวันที่สาม: “จงทำทุกสิ่งให้เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า”
วันสุดท้ายของการประชุมใหญ่เริ่มต้นด้วยแนวคิดฝ่ายวิญญาณจากข้อคัมภีร์ประจำวันที่ให้การเตือนใจ. ส่วนแรกของระเบียบวาระวันนี้มุ่งความสนใจเป็นพิเศษไปสู่การจัดเตรียมสำหรับครอบครัว. คำบรรยายแรก “บิดามารดาทั้งหลาย จงเสริมสร้างวงครอบครัว” ช่วยหมู่ผู้ฟังเตรียมใจให้พร้อม. หลังการทบทวนหน้าที่รับผิดชอบต่าง ๆ ของบิดามารดาในการจัดหาสิ่งจำเป็นฝ่ายวัตถุสำหรับครอบครัวแล้ว ผู้บรรยายได้พิสูจน์ว่า หน้าที่รับผิดชอบสำคัญประการ
แรกของบิดามารดาคือจัดเตรียมให้สิ่งจำเป็นฝ่ายวิญญาณแก่บุตรของเขา.ผู้บรรยายถัดมาได้กล่าวปราศรัยต่อเยาวชนและพิจารณาเรื่อง “วิธีที่เยาวชนกำลังสรรเสริญพระยะโฮวา.” เขาบอกว่า เยาวชนเป็นเหมือน “หยดน้ำค้าง” เพราะเยาวชนมีจำนวนมากมายและความกระตือรือร้นของคนวัยหนุ่มสาวนั้นเป็นที่ให้ความสดชื่น. ผู้ใหญ่ยินดีทำงานร่วมกับพวกเขาในการรับใช้พระยะโฮวา. (บทเพลงสรรเสริญ 110:3, ล.ม.) คำบรรยายส่วนนี้รวมเอาการสัมภาษณ์ที่ยังความยินดีเกี่ยวกับหนุ่มสาวผู้ซึ่งเป็นแบบอย่างอันดี.
การแสดงละครฉากโบราณซึ่งอาศัยเรื่องราวจากพระคัมภีร์เป็นส่วนหนึ่งที่น่าตื่นเต้นของการประชุมภาคทุกครั้ง และการประชุมครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น. ละครเรื่อง “การให้คำพยานอย่างกล้าหาญแม้ถูกต่อต้าน” ได้พรรณนาสาวกของพระเยซูสมัยศตวรรษแรก. ละครเรื่องนี้ไม่เพียงแต่ให้ความเพลิดเพลิน แต่สำคัญกว่านั้นคือเป็นการสอน. คำบรรยายถัดจากละครคือ “จงประกาศข่าวดี ‘เรื่อยไปมิได้ขาด’ ” เป็นการตอกย้ำจุดสำคัญต่าง ๆ ในละคร.
ทุกคนที่เข้าร่วมประชุมตั้งใจคอยฟังเรื่องสำคัญที่จัดไว้ในระเบียบวาระวันอาทิตย์ นั่นคือคำบรรยายสาธารณะ “ใครกำลังถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าในสมัยนี้?” ผู้บรรยายให้พยานหลักฐานว่า โดยทั่วไปแล้ว แวดวงวิทยาศาสตร์และศาสนาไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า. เฉพาะประชาชนที่ถือพระนามของพระองค์เท่านั้น ที่ทำการเผยแพร่และสอนความจริงเกี่ยวกับพระยะโฮวา ได้ถวายพระเกียรติแด่พระนามของพระองค์อย่างแท้จริงในเวลานี้.
หลังจากคำบรรยายสาธารณะก็มีการสรุปบทเรียนในวารสารหอสังเกตการณ์ สำหรับสัปดาห์นั้น. ต่อจากนั้นก็เป็นคำบรรยายสุดท้าย “จง ‘เกิดผลมากอยู่เสมอ’ เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระยะโฮวา.” ผู้บรรยายเสนอมติสิบข้อต่อบรรดาผู้ฟังทั้งหมดให้รับรอง. มติดังกล่าวมุ่งเน้นวิธีต่าง ๆ ที่จะถวายพระเกียรติแด่พระยะโฮวาพระผู้สร้าง. เสียงตอบรับพร้อมกันเป็นเอกฉันท์ว่า “เห็นด้วย” ดังกระหึ่มทั่วโลก จากการประชุมใหญ่ที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง.
โดยวิธีนี้ การประชุมภาคก็ได้ปิดฉากลงโดยมีอรรถบท “จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า” ก้องกังวานอยู่ในหูทุกคนที่ร่วมประชุม. และด้วยการสนับสนุนจากพระวิญญาณของพระยะโฮวา และจากองค์การของพระองค์ในส่วนที่เห็นได้ ขอให้เราพยายามอยู่เสมอที่จะถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ไม่ใช่แก่มนุษย์.
[กรอบ/ภาพหน้า 23]
การประชุมนานาชาติ
มีการประชุมนานาชาติสี่วันในแอฟริกา, เอเชีย, ออสเตรเลีย, ยุโรป, อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้. พยานพระยะโฮวาจากที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้รับการเชิญให้เป็นตัวแทนเข้าร่วม ณ การประชุมเหล่านี้. โดยวิธีนี้จึงเป็น “การให้กำลังใจกันและกัน” ระหว่างแขกผู้ไปเยือนกับเจ้าภาพ. (โรม 1:12, ล.ม.) คนที่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนก็ได้พบปะกันอีก และคนใหม่ ๆ ก็ทำความรู้จักกัน. ลักษณะพิเศษของการประชุมนานาชาติเป็นส่วนของระเบียบวาระชื่อ “รายงานจากประเทศอื่น.”
[กรอบ/ภาพหน้า 25]
หนังสือที่ออกใหม่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
มีหนังสือสองเล่มที่ออกใหม่ ณ การประชุมภาค “จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า.” หนังสือแผนที่คัมภีร์ไบเบิลไปดูแผ่นดินอันดี มีปกทนทานไม่ขาดง่าย มีแผนที่และรูปภาพสถานที่ซึ่งกล่าวไว้ในคัมภีร์ไบเบิลรวม 36 หน้า. ทุกหน้าเป็นภาพสี่สีและแผนที่แสดงอาณาเขตจักรวรรดิอัสซีเรีย, บาบิโลน, มิโด-เปอร์เซีย, กรีซ, และโรม. มีแผนที่ซึ่งแยกต่างหาก ครอบคลุมงานรับใช้ของพระเยซูและการแพร่ขยายหลักคำสอนคริสเตียน.
หนังสือจงเรียนจากครูผู้ยิ่งใหญ่ ขนาด 256 หน้ามีรูปภาพประมาณ 230 ภาพ. มีหลายโอกาสที่น่าชื่นชมซึ่งอาจใช้เวลาอยู่กับลูก ๆ เพียงดูรูปภาพและตอบคำถามต่าง ๆ ที่กระตุ้นความคิดซึ่งมีอยู่ในหนังสือนี้. หนังสือออกใหม่เล่มนี้ถูกออกแบบเพื่อต้านทานการมุ่งโจมตีจากซาตานต่อบุตรวัยเยาว์ของเรา โดยมีเป้าหมายจะทำให้พวกเขาเสื่อมเสียทางศีลธรรม.
[ภาพหน้า 23]
มิชชันนารีเล่าประสบการณ์ที่เสริมความเชื่อให้มั่นคง
[ภาพหน้า 24]
การรับบัพติสมาเป็นส่วนสำคัญของการประชุมภาค “จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า”
[ภาพหน้า 24]
ทั้งเยาวชนและผู้สูงอายุต่างก็ชื่นชอบละครเกี่ยวกับเหตุการณ์ในพระคัมภีร์