ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ศิลปะของการฟังด้วยความรัก

ศิลปะของการฟังด้วยความรัก

ศิลปะ​ของ​การ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก

“ขอบคุณ​ที่​ฟัง​ฉัน.” มี​ใคร​พูด​แบบ​นี้​กับ​คุณ​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​ไหม? นี่​เป็น​คำ​กล่าว​ที่​แสดง​ถึง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​อย่าง​แท้​จริง! ผู้​ฟัง​ที่​ดี​เป็น​ที่​ชื่น​ชอบ​ของ​แทบ​ทุก​คน. โดย​การ​ตั้งใจ​ฟัง เรา​สามารถ​ทำ​ให้​คน​ที่​ทุกข์​ระทม​หรือ​มี​ปัญหา​หนัก​รู้สึก​สดชื่น​ได้. และ​การ​เป็น​ผู้​ฟัง​ที่​ดี​ช่วย​เรา​ให้​ชื่นชม​ผู้​คน​มิ​ใช่​หรือ? ใน​ประชาคม​คริสเตียน การ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก​เป็น​ส่วน​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ใน ‘การ​พิจารณา​ดู​กัน​และ​กัน, เพื่อ​เป็น​เหตุ​ให้​บังเกิด​ใจ​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​และ​กระทำ​การ​ดี.’—เฮ็บราย 10:24.

อย่าง​ไร​ก็​ดี หลาย​คน​ไม่​ได้​เป็น​ผู้​ฟัง​ที่​ดี. พวก​เขา​ชอบ​ให้​คำ​แนะ​นำ, เล่า​ประสบการณ์​ของ​ตน​เอง, หรือ​เสนอ​ความ​เห็น​ของ​ตน​แทน​ที่​จะ​ฟัง​สิ่ง​ที่​คน​อื่น​พูด. การ​ฟัง​เป็น​ศิลปะ​อย่าง​หนึ่ง​จริง ๆ. เรา​สามารถ​เรียน​รู้​ที่​จะ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก​ได้​โดย​วิธี​ใด?

ปัจจัย​สำคัญ

พระ​ยะโฮวา​ทรง​เป็น “พระ​บรม​ครู” ของ​เรา. (ยะซายา 30:20, ล.ม.) พระองค์​ทรง​สามารถ​สอน​เรา​มาก​มาย​ใน​เรื่อง​การ​ฟัง. ขอ​พิจารณา​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ช่วย​ผู้​พยากรณ์​เอลียา. เนื่อง​จาก​หวาด​กลัว​คำ​ขู่​ของ​ราชินี​อีซาเบ็ล เอลียา​ได้​หนี​เข้า​ไป​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​แล้ว​บอก​ว่า​อยาก​จะ​ตาย. ที่​นั่น​ทูต​สวรรค์​ของ​พระเจ้า​ได้​พูด​กับ​ท่าน. ขณะ​ที่​ผู้​พยากรณ์​ได้​อธิบาย​ความ​กลัว​ของ​ท่าน พระ​ยะโฮวา​ทรง​ฟัง​และ​ต่อ​จาก​นั้น​ได้​สำแดง​อำนาจ​อัน​ใหญ่​ยิ่ง​ของ​พระองค์. ผล​เป็น​เช่น​ไร? เอลียา​ไม่​กลัว​อีก​ต่อ​ไป ท่าน​กลับ​ไป​ทำ​งาน​มอบหมาย​ที่​ได้​รับ. (1 กษัตริย์ 19:2-15) ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ใช้​เวลา​สดับ​ฟัง​เรื่อง​ที่​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เป็น​ห่วง​กังวล? เพราะ​พระองค์​ทรง​ใฝ่​พระทัย​พวก​เขา. (1 เปโตร 5:7) นี่​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​ใน​การ​เป็น​ผู้​ฟัง​ที่​ดี นั่น​คือ การ​เอา​ใจ​ใส่​คน​อื่น, และ​แสดง​ความ​ห่วงใย​อย่าง​จริง​ใจ​ต่อ​เขา.

เมื่อ​ชาย​คน​หนึ่ง​ใน​โบลิเวีย​ได้​ทำ​บาป​อย่าง​ร้ายแรง เขา​รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​คน​หนึ่ง​ได้​แสดง​ความ​ห่วงใย​อย่าง​จริง​ใจ​ต่อ​เขา. ชาย​คน​นั้น​อธิบาย​ว่า “ตอน​นั้น​ผม​อยู่​ใน​ช่วง​ทุกข์​ที่​สุด​ใน​ชีวิต. ผม​อาจ​เลิก​ล้ม​ความ​พยายาม​ที่​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ได้​ง่าย ๆ หาก​ไม่​ใช่​เป็น​เพราะ​พี่​น้อง​คน​หนึ่ง​ได้​ใช้​เวลา​รับ​ฟัง​ผม. เขา​ไม่​ได้​พูด​อะไร​มาก แต่​การ​รู้​ว่า​เขา​ใส่​ใจ​มาก​พอ​ที่​จะ​รับ​ฟัง​นั้น​ชู​กำลัง​ผม​จริง ๆ. ผม​ไม่​ต้องการ​ให้​เขา​บอก​วิธี​แก้​ปัญหา​ของ​ผม; ผม​รู้​ว่า​ตัว​เอง​ต้อง​ทำ​อะไร. ผม​เพียง​แค่​ต้องการ​รู้​ว่า​มี​ใคร​สัก​คน​ใส่​ใจ​ว่า​ผม​รู้สึก​อย่าง​ไร. การ​ที่​เขา​รับ​ฟัง​ได้​ช่วย​ผม​ไม่​ให้​พ่าย​แพ้​ต่อ​ความ​สิ้น​หวัง.”

ผู้​เป็น​แบบ​อย่าง​ที่​ใหญ่​ยิ่ง​ที่​สุด​ใน​เรื่อง​ศิลปะ​ของ​การ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก​นั้น​คือ​พระ​เยซู​คริสต์. ไม่​นาน​ภาย​หลัง​พระ​เยซู​สิ้น​พระ​ชนม์ สาวก​สอง​คน​ของ​พระองค์​เดิน​ทาง​จาก​กรุง​เยรูซาเลม​ไป​ยัง​หมู่​บ้าน​หนึ่ง​ที่​อยู่​ห่าง​ประมาณ 11 กิโลเมตร. เขา​ทั้ง​สอง​รู้สึก​ท้อ​แท้​ใจ​อย่าง​แน่นอน. ดัง​นั้น พระ​เยซู​คริสต์​ที่​ได้​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว​ทรง​เดิน​ไป​กับ​เขา. พระองค์​ทรง​ใช้​คำ​ถาม​อย่าง​รอบคอบ​เพื่อ​จะ​ทราบ​เรื่อง​ที่​เขา​เป็น​ห่วง​กังวล และ​สาวก​ทั้ง​สอง​คน​นั้น​ก็​ได้​สนอง​ตอบ. พวก​เขา​ได้​พูด​ออก​มา​ถึง​ความ​คาด​หวัง​ของ​ตน​รวม​ทั้ง​ความ​ผิด​หวัง​และ​ความ​สับสน​ที่​เขา​มี​ใน​ตอน​นั้น. พระ​เยซู​ทรง​ห่วงใย​เขา และ​การ​ที่​พระองค์​ทรง​รับ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก​ได้​ทำ​ให้​สาวก​ทั้ง​สอง​พร้อม​ที่​จะ​ฟัง​ด้วย. ต่อ​จาก​นั้น พระ​เยซู​ทรง “อธิบาย​ให้​เขา​ฟัง​ใน​คัมภีร์​ทั้ง​หมด​ซึ่ง​เขียน​ไว้​เล็ง​ถึง​พระองค์.”—ลูกา 24:13-27.

การ​เป็น​ฝ่าย​ริเริ่ม​ที่​จะ​ฟัง​เป็น​วิธี​ที่​เหมาะ​สม​ใน​การ​ทำ​ให้​คน​อื่น​ฟัง​เรา. หญิง​ชาว​โบลิเวีย​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “พ่อ​แม่​ของ​ดิฉัน​และ​พ่อ​แม่​ของ​สามี​เริ่ม​คัดค้าน​วิธี​ที่​ดิฉัน​เลี้ยง​ดู​ลูก. ดิฉัน​ขุ่นเคือง​ใน​ความ​คิด​เห็น​ของ​พวก​เขา แต่​ดิฉัน​รู้สึก​ไม่​แน่​ใจ​ใน​ตัว​เอง​ฐานะ​เป็น​แม่. ประมาณ​ช่วง​นั้น พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​ได้​มา​เยี่ยม​ดิฉัน. เธอ​พูด​กับ​ดิฉัน​เรื่อง​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า. อย่าง​ไร​ก็​ดี วิธี​ที่​เธอ​ถาม​ความ​คิด​เห็น​ของ​ดิฉัน​นั่น​เอง​ได้​ช่วย​ให้​ดิฉัน​สำนึก​ว่า​เธอ​ผู้​นี้​เต็ม​ใจ​รับ​ฟัง. ดิฉัน​ได้​เชิญ​เธอ​เข้า​มา​ใน​บ้าน และ​ไม่​นาน​ดิฉัน​ก็​อธิบาย​ปัญหา​ของ​ดิฉัน​ให้​เธอ​ฟัง. เธอ​รับ​ฟัง​ด้วย​ความ​อด​ทน. เธอ​ถาม​ว่า​ดิฉัน​มี​ความ​ปรารถนา​เช่น​ไร​ต่อ​ลูก และ​สามี​ของ​ดิฉัน​รู้สึก​อย่าง​ไร​ใน​เรื่อง​นี้. ช่าง​เป็น​การ​ผ่อน​คลาย​จริง ๆ ที่​ได้​พูด​คุย​กับ​คน​ที่​เต็ม​ใจ​พยายาม​จะ​เข้าใจ​ดิฉัน. เมื่อ​เธอ​เริ่ม​ชี้​ให้​ดิฉัน​ดู​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ครอบครัว ดิฉัน​รู้​ว่า​กำลัง​พูด​คุย​กับ​คน​ที่​สนใจ​สภาพการณ์​ของ​ดิฉัน.”

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “ความ​รัก . . . ไม่​แสวง​หา​ผล​ประโยชน์​สำหรับ​ตน​เอง.” (1 โกรินโธ 13:4, 5, ล.ม.) ดัง​นั้น​แล้ว การ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก​จึง​หมาย​ความ​ว่า เรา​ให้​สิ่ง​ที่​เรา​เอง​สนใจ​นั้น​เป็น​เรื่อง​รอง. นี่​อาจ​ทำ​ให้​เรา​ต้อง​ปิด​โทรทัศน์, วาง​หนังสือ​พิมพ์​ลง, หรือ​ปิด​โทรศัพท์​มือ​ถือ​ตอน​ที่​คน​อื่น​พูด​เรื่อง​สำคัญ​กับ​เรา. การ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก​หมาย​ถึง​การ​สนใจ​อย่าง​จริงจัง​ใน​ความ​คิด​ของ​คน​อื่น. นี่​เรียก​ร้อง​ให้​เรา​ละ​เว้น​จาก​การ​เริ่ม​ต้น​พูด​เกี่ยว​กับ​ตัว​เอง​โดย​กล่าว​ใน​ทำนอง​นี้​ว่า “นั่น​ทำ​ให้​ฉัน​นึก​ถึง​เรื่อง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​ฉัน​นาน​มา​แล้ว.” แม้​ว่า​การ​พูด​ดัง​กล่าว​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ได้​ใน​การ​คุย​กัน​ฉัน​เพื่อน แต่​เรา​ต้อง​ละ​ความ​สนใจ​ของ​ตน​เอง​ไว้​ก่อน​เมื่อ​บาง​คน​กำลัง​พูด​คุย​ปัญหา​ที่​สำคัญ. ความ​สนใจ​อย่าง​จริง​ใจ​ใน​คน​อื่น​อาจ​สำแดง​ได้​ใน​อีก​วิธี​หนึ่ง.

ฟัง​เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น

เหล่า​สหาย​ของ​บุรุษ​ชื่อ​โยบ​ได้​ยิน​คำ​บรรยาย​ของ​ท่าน​อย่าง​น้อย​สิบ​เรื่อง. กระนั้น โยบ​ได้​อุทาน​ออก​มา​ว่า “โอ​ถ้า​ได้​มี​ท่าน​ผู้​หนึ่ง​ฟัง​เสียง​ของ​ข้า​ฯ ก็​จะ​ดี!” (โยบ 31:35) เพราะ​เหตุ​ใด? เพราะ​การ​ฟัง​ของ​พวก​เขา​ไม่​ได้​ให้​การ​ปลอบโยน​แต่​อย่าง​ใด. พวก​เขา​ไม่​ได้​ห่วงใย​โยบ​หรือ​ต้องการ​จะ​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​ท่าน. แน่นอน​ว่า​พวก​เขา​ไม่​ได้​มี​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​อย่าง​ที่​ผู้​ฟัง​ซึ่ง​ร่วม​ความ​รู้สึก​พึง​มี. แต่​อัครสาวก​เปโตร​แนะ​นำ​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​มี​ความ​คิด​จิตใจ​อย่าง​เดียว​กัน แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ มี​ความ​รักใคร่​ฉัน​พี่​น้อง ความ​เมตตา​สงสาร​อัน​อ่อน​ละมุน จิตใจ​ถ่อม.” (1 เปโตร 3:8, ล.ม.) เรา​จะ​แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​ได้​อย่าง​ไร? วิธี​หนึ่ง​คือ​โดย​แสดง​ความ​ห่วงใย​ต่อ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น​และ​พยายาม​จะ​เข้าใจ​เขา. คำ​พูด​ที่​แสดง​ถึง​การ​ร่วม​ความ​รู้สึก เช่น “นั่น​คง​ต้อง​ทำ​ให้​คุณ​ไม่​สบาย​ใจ” หรือ “คุณ​คง​ต้อง​รู้สึก​ว่า​มี​การ​เข้าใจ​ผิด​แน่ ๆ” เป็น​วิธี​หนึ่ง​ที่​จะ​แสดง​ว่า​เรา​เป็น​ห่วง. อีก​วิธี​หนึ่ง​คือ​พูด​เรื่อง​ที่​คน​อื่น​เล่า​โดย​ใช้​คำ​พูด​ของ​เรา​เอง โดย​วิธี​นี้​แสดง​ว่า​เรา​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​เขา​พูด. การ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก​หมาย​ถึง​การ​เอา​ใจ​ใส่​ไม่​เพียง​คำ​พูด แต่​อารมณ์​ความ​รู้สึก​ที่​แฝง​อยู่​ด้วย.

โรเบิร์ต *เป็น​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​ที่​มี​ประสบการณ์​คน​หนึ่ง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เขา​เล่า​ว่า “ผม​เคย​รู้สึก​ท้อ​ใจ​เกี่ยว​กับ​งาน​รับใช้​ของ​ผม​ใน​ช่วง​หนึ่ง​ของ​ชีวิต. ดัง​นั้น ผม​จึง​ขอ​พูด​กับ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง. เขา​ตั้งใจ​ฟัง​ผม​และ​พยายาม​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​ผม. ดู​เหมือน​ว่า​เขา​ถึง​กับ​เข้าใจ​ที่​ผม​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ตำหนิ​เจตคติ​ของ​ผม. พี่​น้อง​คน​นี้​รับรอง​กับ​ผม​ว่า​ความ​รู้สึก​ของ​ผม​เป็น​เรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้ เพราะ​เขา​เอง​ก็​เคย​มี​ความ​รู้สึก​คล้าย​กัน​นี้. นี่​ได้​ช่วย​ผม​จริง ๆ ให้​ทำ​งาน​รับใช้​ต่อ​ไป.”

เรา​สามารถ​รับ​ฟัง​โดย​ไม่​เห็น​พ้อง​กับ​เรื่อง​ที่​มี​การ​พูด​นั้น​ได้​ไหม? เรา​จะ​บอก​บาง​คน​ได้​ไหม​ว่า​เรา​ขอบคุณ​ที่​เขา​บอก​เรา​ว่า​รู้สึก​อย่าง​ไร? แน่นอน. จะ​ว่า​อย่าง​ไร​หาก​ลูก​ชาย​วัย​หนุ่ม​เข้า​ไป​มี​เรื่อง​ชก​ต่อย​กัน​ที่​โรง​เรียน หรือ​ลูก​สาว​วัยรุ่น​กลับ​มา​ถึง​บ้าน​แล้ว​บอก​ว่า​เธอ​กำลัง​ตก​หลุม​รัก? เป็น​การ​ดี​กว่า​มิ​ใช่​หรือ​ที่​บิดา​หรือ​มารดา​จะ​ฟัง​และ​พยายาม​เข้าใจ​ความ​คิด​ของ​ลูก ก่อน​ที่​จะ​อธิบาย​ว่า​อะไร​เป็น​ความ​ประพฤติ​ที่​เหมาะ​สม​และ​ไม่​เหมาะ​สม?

สุภาษิต 20:5 กล่าว​ว่า “ความ​มุ่ง​หมาย​ใน​ใจ​คน​ลึก​เหมือน​น้ำ​ลึก; แต่​คน​ที่​มี​ความ​เข้าใจ​จะ​ยก​ขึ้น​มา​ได้.” หาก​คน​ที่​ฉลาด​และ​มี​ประสบการณ์​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​ไม่​ให้​คำ​แนะ​นำ​ถ้า​ไม่​มี​ใคร​ขอ เรา​อาจ​ต้อง​ทำ​ให้​เขา​พูด​ออก​มา​เพื่อ​จะ​ได้​คำ​แนะ​นำ​จาก​เขา. สภาพการณ์​คล้าย​กัน​เมื่อ​เรา​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก. ต้อง​ใช้​ความ​สังเกต​เข้าใจ​เพื่อ​จะ​ทำ​ให้​คน​หนึ่ง​พูด​ออก​มา. การ​ใช้​คำ​ถาม​ต่าง ๆ ช่วย​ได้ แต่​เรา​ต้อง​ระวัง​เพื่อ​คำ​ถาม​ของ​เรา​ไม่​ใช่​เป็น​การ​สอดรู้สอดเห็น​ใน​เรื่อง​ส่วน​ตัว. อาจ​เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​ชี้​แนะ​ให้​คน​พูด​เริ่ม​ต้น​ด้วย​เรื่อง​ที่​เขา​รู้สึก​ว่า​ทำ​ให้​สบาย​ใจ​เมื่อ​พูด​ถึง. ตัว​อย่าง​เช่น ภรรยา​ที่​ต้องการ​พูด​ถึง​ปัญหา​ใน​ชีวิต​สมรส​อาจ​รู้สึก​ว่า​ง่าย​ขึ้น​ที่​จะ​เริ่ม​ต้น​โดย​พูด​เรื่อง​ที่​ว่า​เธอ​กับ​สามี​ได้​มา​พบ​กัน​และ​แต่งงาน​กัน​ได้​อย่าง​ไร. คน​ที่​เลิก​ทำ​งาน​เผยแพร่​ของ​คริสเตียน​อาจ​พบ​ว่า​ง่าย​ขึ้น​ที่​จะ​เริ่ม​ต้น​โดย​อธิบาย​ว่า​เขา​ได้​เรียน​รู้​ความ​จริง​โดย​วิธี​ใด.

การ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก—เป็น​เรื่อง​ยาก

การ​ฟัง​บาง​คน​ที่​อารมณ์​เสีย​เพราะ​เรา​อาจ​เป็น​เรื่อง​ยาก เพราะ​แนว​โน้ม​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​เรา​คือ​ที่​จะ​ปก​ป้อง​ตัว​เอง. เรา​จะ​จัด​การ​กับ​สภาพการณ์​ที่​ยุ่งยาก​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? สุภาษิต 15:1 กล่าว​ว่า “คำ​ตอบ​อ่อน​หวาน [“อ่อนโยน,” ล.ม.]กระทำ​ให้​ความ​โกรธ​ผ่าน​พ้น​ไป.” การ​เชิญ​ชวน​คน​นั้น​ด้วย​ความ​กรุณา​ให้​พูด​ออก​มา แล้ว​อด​ทน​ฟัง​ขณะ​ที่​เขา​แสดง​ความ​คับ​แค้น​ใจ​ของ​เขา​เป็น​วิธี​หนึ่ง​ที่​จะ​ตอบ​ด้วย​ความ​อ่อนโยน.

บ่อย​ครั้ง​การ​โต้​เถียง​อย่าง​ดุเดือด​เกิด​จาก​คน​สอง​คน​ที่​เพียง​แต่​พูด​ซ้ำ​สิ่ง​ที่​เขา​ทั้ง​สอง​ได้​พูด​ไป​แล้ว. ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ก็​รู้สึก​ว่า​อีก​คน​หนึ่ง​ไม่​ยอม​ฟัง. สภาพการณ์​คง​จะ​ดี​ขึ้น​มาก​สัก​เพียง​ไร​หาก​คน​หนึ่ง​จะ​หยุด​และ​ตั้งใจ​ฟัง​จริง ๆ! แน่นอน นับ​ว่า​สำคัญ​ที่​จะ​รู้​จัก​ควบคุม​ตน​เอง​และ​ออก​ความ​เห็น​ด้วย​ท่าที​สุขุม​และ​แสดง​ความ​รัก. คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ว่า “ผู้​ที่​ยับยั้ง​ริมฝีปาก​ของ​ตน​ย่อม​ประพฤติ​เป็น​คน​มี​ปัญญา.”—สุภาษิต 10:19.

ความ​สามารถ​ที่​จะ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​โดย​ธรรมชาติ. อย่าง​ไร​ก็​ดี ความ​สามารถ​ดัง​กล่าว​เป็น​ศิลปะ​ที่​สามารถ​เรียน​ได้​โดย​ความ​พยายาม​และ​การ​ใช้​วินัย. ความ​สามารถ​นี้​เป็น​ทักษะ​ที่​คู่​ควร​กับ​การ​ได้​มา​อย่าง​แน่นอน. การ​ตั้งใจ​ฟัง​อย่าง​แท้​จริง​เมื่อ​คน​อื่น​พูด​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​ของ​เรา. การ​ทำ​เช่น​นี้​ยัง​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​ด้วย. ดัง​นั้น เป็น​การ​ฉลาด​สัก​เพียง​ไร​ที่​จะ​ปลูกฝัง​ศิลปะ​ใน​การ​ฟัง​ด้วย​ความ​รัก!

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 12 นาม​สมมุติ.

[ภาพ​หน้า 11]

เมื่อ​ฟัง​เรา​ต้อง​ให้​สิ่ง​ที่​เรา​เอง​สนใจ​นั้น​เป็น​เรื่อง​รอง

[ภาพ​หน้า 12]

การ​ฟัง​เมื่อ​คน​อื่น​อารมณ์​เสีย​อาจ​เป็น​เรื่อง​ยาก