ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การเรียนรู้เหตุผลที่พระเจ้ายอมให้มีความทุกข์เปลี่ยนชีวิตผม

การเรียนรู้เหตุผลที่พระเจ้ายอมให้มีความทุกข์เปลี่ยนชีวิตผม

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

การ​เรียน​รู้​เหตุ​ผล​ที่​พระเจ้า​ยอม​ให้​มี​ความ​ทุกข์​เปลี่ยน​ชีวิต​ผม

เล่า​โดย​แฮร์รี เพโลยัน

เหตุ​ใด​พระเจ้า​ยอม​ให้​มี​ความ​ทุกข์? คำ​ถาม​นี้​เคย​รบกวน​จิตใจ​ผม​ตั้ง​แต่​เด็ก. คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​ของ​ผม​เป็น​คน​ขยัน​ทำ​งาน, ซื่อ​สัตย์, และ​สนใจ​สวัสดิภาพ​ของ​ครอบครัว. แต่​คุณ​พ่อ​ไม่​ใช่​คน​ที่​เคร่ง​ศาสนา ส่วน​คุณ​แม่​ก็​สนใจ​เรื่อง​ศาสนา​อยู่​บ้าง. ดัง​นั้น พวก​ท่าน​จึง​ไม่​สามารถ​ตอบ​คำ​ถาม​นั้น​ได้.

ผม​สงสัย​คำ​ถาม​นี้​มาก​ขึ้น​ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 และ​หลัง​จาก​นั้น ตอน​ที่​ผม​อยู่​ใน​กองทัพ​เรือ​สหรัฐ​สาม​ปี​กว่า. หลัง​สงคราม​สงบ ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ประจำการ​ใน​เรือ​ที่​ถูก​ส่ง​ไป​ประเทศ​จีน​เพื่อ​ส่ง​สิ่ง​ของ​บรรเทา​ทุกข์. ผม​อยู่​ที่​นั่น​เกือบ​หนึ่ง​ปี​และ​ได้​เห็น​ความ​ทุกข์​ของ​ผู้​คน​มาก​มาย.

ชาว​จีน​เป็น​คน​ขยัน​และ​ฉลาด. แต่​หลาย​คน​มี​สภาพ​ชีวิต​ที่​ยาก​ลำบาก​อย่าง​ยิ่ง​เพราะ​ความ​ยาก​จน​รวม​ทั้ง​ความ​รุนแรง​ซึ่ง​เป็น​ผล​มา​จาก​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2. ผม​รู้สึก​สะเทือน​ใจ​มาก​ที่​เห็น​เด็ก ๆ หน้า​ตา​น่า​เอ็นดู​หลาย​คน​ผอม​โซ​และ​เสื้อ​ผ้า​ขาด​รุ่งริ่ง เข้า​มา​ขอ​ทาน​จาก​พวก​เรา​ตอน​ที่​เรา​ขึ้น​บก.

ทำไม​ผู้​คน​จึง​ทน​ทุกข์?

ผม​เกิด​ปี 1925 และ​เติบโต​ใน​แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ​อเมริกา. ผม​ไม่​เคย​เห็น​อะไร​อย่าง​นี้​มา​ก่อน. ดัง​นั้น ผม​จึง​ถาม​ตัว​เอง​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​ว่า ‘ถ้า​พระ​ผู้​สร้าง​องค์​ทรง​ฤทธานุภาพ​ทุก​ประการ​มี​จริง ทำไม​พระองค์​ยอม​ให้​ผู้​คน​มาก​มาย โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​เด็ก ๆ ที่​ไร้เดียงสา​ต้อง​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​แบบ​นี้?’

ผม​ยัง​สงสัย​ด้วย​ว่า ถ้า​พระเจ้า​มี​จริง ทำไม​พระองค์​ยอม​ให้​มนุษยชาติ​ประสบ​กับ​ความ​หายนะ, การ​สังหาร​หมู่, ความ​ตาย, และ​ความ​ทุกข์​ยาก​ตลอด​หลาย​ศตวรรษ โดย​เฉพาะ​ใน​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 ซึ่ง​มี​ผู้​เสีย​ชีวิต​มาก​กว่า 50 ล้าน​คน. ยิ่ง​กว่า​นั้น ตลอด​ช่วง​ที่​มี​สงคราม​เหตุ​ใด​พวก​นัก​เทศน์​จึง​ยุยง​ให้​คน​ที่​อยู่​ใน​ศาสนา​เดียว​กัน​เข่น​ฆ่า​กัน​เอง​เพราะ​ความ​แตกต่าง​ทาง​เชื้อชาติ?

กล้อง​โทรทรรศน์

เมื่อ​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 เริ่ม​ขึ้น​ใน​ปี 1939 และ​ผู้​คน​จำนวน​นับ​ไม่​ถ้วน​ถูก​สังหาร ผม​รู้สึก​ว่า​พระเจ้า​ไม่​มี​จริง. ต่อ​มา​เมื่อ​เรียน​วิทยาศาสตร์​ใน​ชั้น​มัธยม​ปลาย นัก​เรียน​แต่​ละ​คน​ต้อง​ประดิษฐ์​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​เกี่ยว​กับ​วิทยาศาสตร์. เนื่อง​จาก​ผม​สนใจ​เรื่อง​ดาราศาสตร์ ผม​จึง​สร้าง​กล้อง​โทรทรรศน์​สะท้อน​แสง​โดย​ใช้​กระจก​ที่​มี​เส้น​ผ่า​ศูนย์กลาง​แปด​นิ้ว.

เพื่อ​จะ​สร้าง​กล้อง​โทรทรรศน์​ดัง​กล่าว ผม​ซื้อ​กระจก​หนา​หนึ่ง​นิ้ว​กว่า ๆ และ​กว้าง​แปด​นิ้ว​และ​ให้​ช่าง​ตัด​กระจก​ตัด​เป็น​วง​กลม. จาก​นั้น ผม​เริ่ม​ฝน​กระจก​ให้​เว้า​เข้า​ไป​ด้าน​หนึ่ง​ด้วย​ความ​ลำบาก​ยากเย็น. ผม​ใช้​เวลา​ว่าง​ทั้ง​หมด​ตลอด​เทอม​ทำ​งาน​นี้. เมื่อ​เสร็จ ผม​นำ​กระจก​นั้น​ไป​ติด​ใน​ท่อ​โลหะ​ยาว ๆ และ​นำ​เลนส์​ตา​ขนาด​ต่าง ๆ มา​ติด​กับ​กล้อง​นั้น.

ใน​คืน​ฟ้า​ใส​ไร้​แสง​จันทร์​คืน​หนึ่ง ผม​นำ​กล้อง​โทรทรรศน์​ที่​ทำ​เสร็จ​แล้ว​ไป​ใช้​งาน​เป็น​ครั้ง​แรก และ​มอง​ไป​ที่​ดวง​ดาว​ต่าง ๆ และ​ดาว​เคราะห์​ใน​ระบบ​สุริยะ​ของ​เรา. ผม​รู้สึก​อัศจรรย์​ใจ​อย่าง​ยิ่ง​ที่​เห็น​ดวง​ดาว​มาก​มาย​และ​เห็น​ความ​เป็น​ระเบียบ​เรียบร้อย. แล้ว​เมื่อ​ผม​ได้​เรียน​เกี่ยว​กับ​บาง​สิ่ง​ที่​ผม​เคย​คิด​ว่า​เป็น​ดาว ซึ่ง​ที่​จริง​ก็​คือ​กาแล็กซี​ที่​เหมือน​กับ​กาแล็กซี​ทาง​ช้าง​เผือก​ของ​เรา​ที่​ประกอบ​ด้วย​ดาว​นับ​พัน​ล้าน​ดวง ผม​ก็​ยิ่ง​อัศจรรย์​ใจ​มาก​ขึ้น.

ผม​คิด​ว่า ‘สิ่ง​ต่าง ๆ ทั้ง​หมด​นี้​คง​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​เอง​แน่ ๆ. สิ่ง​ที่​เป็น​ระเบียบ​เรียบร้อย​ไม่​อาจ​เกิด​ขึ้น​ได้​โดย​บังเอิญ. เอกภพ​มี​ความ​เป็น​ระเบียบ​เรียบร้อย​มาก​ราว​กับ​มี​ผู้​เปี่ยม​ด้วย​สติ​ปัญญา​สร้าง​ขึ้น​มา. จริง ๆ แล้ว​อาจ​เป็น​พระเจ้า​ไหม?’ สิ่ง​ที่​ผม​เห็น​ใน​กล้อง​โทรทรรศน์​ทำ​ให้​ผม​ต้อง​กลับ​ไป​ทบทวน​ความ​คิด​ของ​ผม​เสีย​ใหม่ เพราะ​ก่อน​หน้า​นี้​ผม​เชื่อ​แน่​ว่า​ไม่​มี​พระเจ้า.

ครั้น​แล้ว​ผม​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ถ้า​พระเจ้า​ผู้​ทรง​อำนาจ​มี​จริง​และ​ทรง​มี​สติ​ปัญญา​ใน​การ​สร้าง​เอกภพ​ที่​น่า​ทึ่ง​นี้ พระองค์​จะ​ไม่​สามารถ​แก้ไข​สภาพการณ์​ที่​น่า​สลด​ใจ​บน​แผ่นดิน​โลก​หรือ? เหตุ​ใด​พระองค์​ทรง​ยอม​ให้​ความ​ทุกข์​ทั้ง​หมด​นี้​เกิด​ขึ้น?’ เมื่อ​ผม​ถาม​คน​ที่​เคร่ง​ศาสนา​ด้วย​คำ​ถาม​เหล่า​นี้ พวก​เขา​ไม่​สามารถ​ให้​คำ​ตอบ​ที่​จุ​ใจ​ได้​เลย.

หลัง​จาก​จบ​ชั้น​มัธยม​ปลาย​และ​เรียน​ต่อ​ใน​มหาวิทยาลัย​อีก​หลาย​ปี ผม​ก็​เข้า​เป็น​ทหาร​ใน​กองทัพ​เรือ​สหรัฐ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม นัก​เทศน์​ประจำ​กองทัพ​ก็​ไม่​อาจ​ตอบ​คำ​ถาม​ของ​ผม​ได้​เช่น​กัน. คน​ที่​เคร่ง​ศาสนา​มัก​จะ​พูด​ทำนอง​นี้​ว่า “มนุษย์​ไม่​อาจ​หยั่ง​รู้​ความ​คิด​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้.”

ผม​แสวง​หา​ต่อ​ไป

หลัง​กลับ​จาก​ประเทศ​จีน คำ​ถาม​ที่​ว่า​เหตุ​ใด​พระเจ้า​ยอม​ให้​มี​ความ​ทุกข์​ยัง​คง​อยู่​ใน​ใจ​ของ​ผม. คำ​ถาม​นี้​รบกวน​จิตใจ​ผม​อยู่​เรื่อย ๆ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​ได้​เห็น​สุสาน​ทหาร​ตาม​เกาะ​ต่าง ๆ ที่​เรา​แวะ​จอด​เรือ​ใน​มหาสมุทร​แปซิฟิก​ระหว่าง​เดิน​ทาง​กลับ​บ้าน. ร่าง​ที่​ฝัง​อยู่​ใน​สุสาน​เกือบ​ทั้ง​หมด​คือ​เด็ก​หนุ่ม​ที่​เสีย​ชีวิต​ก่อน​วัย​อัน​ควร.

เมื่อ​ผม​กลับ​สหรัฐ​และ​ปลด​ประจำการ​จาก​กองทัพ​เรือ ผม​กลับ​ไป​เรียน​ต่อ​อีก​หนึ่ง​ปี​ที่​มหาวิทยาลัย​ฮาร์เวิร์ด เมือง​เคมบริดจ์ รัฐ​แมสซาชูเซตส์. ผม​เรียน​จบ​ใน​ปี​ถัด​มา​และ​ได้​รับ​ปริญญา แต่​ผม​ไม่​ได้​กลับ​บ้าน​ที่​แคลิฟอร์เนีย. ผม​ตัดสิน​ใจ​อยู่​ที่​ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​สหรัฐ​สัก​ระยะ​หนึ่ง​เพื่อ​ลอง​หา​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​ต่าง ๆ ของ​ผม. ผม​ตั้งใจ​ไป​นิวยอร์ก​ซึ่ง​มี​ศาสนา​ต่าง ๆ มาก​มาย​เพื่อ​จะ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ทาง​ศาสนา​บาง​อย่าง​เพื่อ​ดู​ว่า​พวก​เขา​สอน​อะไร​บ้าง.

ที่​นิวยอร์ก คุณ​ป้า​อีซาเบล แคพิเจียน เชิญ​ผม​ไป​พัก​ที่​บ้าน. คุณ​ป้า​และ​ลูก​สาว​สอง​คน​คือ โรส​และ​รูท เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เนื่อง​จาก​ผม​ไม่​คิด​จะ​สนใจ​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ​ป้า​และ​ลูก ผม​จึง​ไป​ร่วม​พิธีกรรม​กับ​ศาสนา​อื่น พูด​คุย​กับ​ผู้​คน​และ​อ่าน​หนังสือ​ของ​พวก​เขา. ผม​มัก​จะ​ถาม​สมาชิก​ของ​ศาสนา​เหล่า​นั้น​ว่า ทำไม​พระเจ้า​ยอม​ให้​มี​ความ​ทุกข์ แต่​พวก​เขา​ก็​ไม่​รู้​คำ​ตอบ​พอ ๆ กับ​ผม. ผม​จึง​ลง​ความ​เห็น​ว่า บาง​ที​อาจ​ไม่​มี​พระเจ้า​ก็​ได้.

พบ​คำ​ตอบ

แล้ว​ผม​ก็​ขอ​ยืม​หนังสือ​ของ​คุณ​ป้า​กับ​ลูก​สาว​มา​อ่าน​เพื่อ​จะ​รู้​แนว​คิด​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เมื่อ​ผม​อ่าน​หนังสือ​เหล่า​นั้น ผม​เห็น​ทันที​ว่า​พยาน​ฯ ต่าง​จาก​ศาสนา​อื่น​มาก. คำ​ตอบ​ต่าง ๆ มา​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​เป็น​คำ​ตอบ​ที่​น่า​พอ​ใจ​จริง ๆ. ไม่​นาน​คำ​ถาม​ของ​ผม​ที่​ว่า​เหตุ​ใด​พระเจ้า​ยอม​ให้​มี​ความ​ทุกข์​ก็​ได้​รับ​คำ​ตอบ.

ไม่​เพียง​แค่​นั้น ผม​ยัง​เห็น​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ดำเนิน​ชีวิต​สอดคล้อง​กับ​ความ​เชื่อ​ของ​ตน​ด้วย. ตัว​อย่าง​เช่น ผม​ถาม​คุณ​ป้า​ว่า เด็ก​หนุ่ม​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เยอรมนี​ทำ​อย่าง​ไร​ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2. พวก​เขา​เข้า​ร่วม​ใน​กองทัพ​และ​ต้อง​กล่าว​คำ​ว่า “ไฮล์ ฮิตเลอร์!” รวม​ทั้ง​เคารพ​ธง​สวัสติกะ​ไหม? คุณ​ป้า​ตอบ​ว่า​ไม่ พวก​เขา​ไม่​ทำ. และ​เนื่อง​จาก​การ​รักษา​ความ​เป็น​กลาง เด็ก​หนุ่ม​เหล่า​นั้น​จึง​ถูก​ส่ง​ไป​ค่าย​กัก​กัน​ซึ่ง​หลาย​คน​ถูก​สังหาร. คุณ​ป้า​อธิบาย​ว่า ใน​ช่วง​สงคราม​ฐานะ​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ว่า​ที่​ไหน ๆ ก็​เหมือน​กัน นั่น​คือ เป็น​กลาง. แม้​แต่​ใน​ประเทศ​ที่​ปกครอง​แบบ​ประชาธิปไตย เด็ก​หนุ่ม​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ก็​ถูก​จำ​คุก​เพราะ​รักษา​ความ​เป็น​กลาง.

แล้ว​คุณ​ป้า​ก็​ขอ​ให้​ผม​อ่าน​โยฮัน 13:35 ที่​กล่าว​ว่า “คน​ทั้ง​ปวง​จะ​รู้​ได้​ว่า​เจ้า​เป็น​เหล่า​สาวก​ของ​เรา​ก็​เพราะ​ว่า​เจ้า​ทั้ง​หลาย​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน.” ความ​รัก​คือ​สิ่ง​ที่​ใช้​ระบุ​ตัว​คริสเตียน​แท้​ไม่​ว่า​พวก​เขา​จะ​อยู่​ที่​ไหน​ใน​โลก​ก็​ตาม. พวก​เขา​จะ​ไม่​อยู่​คน​ละ​ฝ่าย​กัน​ใน​ยาม​สงคราม ทั้ง​ไม่​เข่น​ฆ่า​กัน​เอง​เนื่อง​จาก​มี​เชื้อชาติ​ต่าง​กัน! คุณ​ป้า​ถาม​ว่า “หลาน​นึก​ภาพ​ออก​ไหม​ที่​พระ​เยซู​กับ​เหล่า​สาวก​จะ​อยู่​คน​ละ​ฝ่าย​กัน​ใน​สงคราม​ของ​โรม​และ​เข่น​ฆ่า​กัน​และ​กัน?”

แล้ว​คุณ​ป้า​ก็​ขอ​ให้​ผม​อ่าน 1 โยฮัน 3:10-12 ด้วย. ข้อ​นั้น​กล่าว​ว่า “ใคร​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า, และ​ใคร​เป็น​ลูก​ของ​มาร​คือ​ว่า​คน​ใด​ที่​ไม่​ได้​ประพฤติ​ตาม​ความ​ชอบธรรม, และ​ไม่​ได้​รัก​พี่​น้อง​ของ​ตน​คน​นั้น​ก็​ไม่​ได้​บังเกิด​มา​จาก​พระเจ้า. . . . ให้​เรา​ทั้ง​หลาย​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน. อย่า​ให้​เหมือน​คายิน​ที่​มา​จาก​มาร​นั้น​และ​ได้​ฆ่า​น้อง​ของ​ตัว.”

คำ​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ชัดเจน นั่น​คือ คริสเตียน​แท้​จะ​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ไม่​ว่า​พวก​เขา​อยู่​ใน​ชาติ​ใด​ก็​ตาม. ด้วย​เหตุ​นั้น พวก​เขา​ไม่​มี​วัน​ฆ่า​พี่​น้อง​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​ตน​หรือ​ใคร ๆ. นั่น​เป็น​เหตุ​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​เกี่ยว​กับ​เหล่า​สาวก​ได้​ว่า “เขา​ไม่​อยู่​ฝ่าย​โลก​เหมือน​ข้าพเจ้า​ไม่​อยู่​ฝ่าย​โลก.”—โยฮัน 17:16.

เหตุ​ใด​จึง​ยอม​ให้​มี​ความ​ทุกข์

ไม่​ช้า​ผม​ได้​เรียน​รู้​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เหตุ​ผล​ที่​พระเจ้า​ยอม​ให้​มี​ความ​ทุกข์. พระ​คัมภีร์​อธิบาย​ว่า​เมื่อ​พระเจ้า​สร้าง​พ่อ​แม่​คู่​แรก พระองค์​สร้าง​พวก​เขา​ให้​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​และ​อาศัย​อยู่​ใน​อุทยาน. (เยเนซิศ 1:26; 2:15) พระองค์​ยัง​ทรง​ให้​ของ​ประทาน​ที่​น่า​ปรารถนา​อย่าง​ยิ่ง​ซึ่ง​ก็​คือ​เจตจำนง​เสรี. แต่​พวก​เขา​ต้อง​ใช้​ของ​ประทาน​นี้​ด้วย​ความ​รับผิดชอบ. ถ้า​พวก​เขา​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า​และ​กฎหมาย​ของ​พระองค์ พวก​เขา​จะ​มี​ชีวิต​สมบูรณ์​ตลอด​ไป​ใน​อุทยาน. พวก​เขา​จะ​ขยาย​สวน​อุทยาน​ออก​ไป​จน​กระทั่ง​เต็ม​แผ่นดิน​โลก. ลูก​หลาน​ของ​เขา​ก็​จะ​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​ด้วย และ​ใน​ที่​สุด​โลก​ก็​จะ​กลาย​เป็น​สวน​อุทยาน​ที่​สวย​งาม เป็น​ที่​อยู่​อาศัย​ของ​มนุษย์​สมบูรณ์​ที่​มี​ความ​สุข.—เยเนซิศ 1:28.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ถ้า​อาดาม​และ​ฮาวา​เลือก​ที่​จะ​เป็น​เอกเทศ​ไม่​ขึ้น​กับ​พระเจ้า พระเจ้า​จะ​ไม่​ช่วย​เขา​ให้​อยู่​ใน​สภาพ​สมบูรณ์​ต่อ​ไป. (เยเนซิศ 2:16, 17) น่า​เสียดาย พ่อ​แม่​คู่​แรก​ของ​เรา​ใช้​เจตจำนง​เสรี​ใน​ทาง​ที่​ผิด​และ​เลือก​ที่​จะ​เป็น​เอกเทศ​ไม่​ขึ้น​กับ​พระเจ้า. พวก​เขา​ถูก​ยุยง​โดย​กาย​วิญญาณ​ที่​ขืน​อำนาจ​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ว่า ซาตาน​พญา​มาร. มัน​ปรารถนา​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​เป็น​เอกเทศ​จาก​พระเจ้า​และ​อยาก​ได้​การ​นมัสการ​ที่​ควร​เป็น​ของ​พระเจ้า​เท่า​นั้น.—เยเนซิศ 3:1-19; วิวรณ์ 4:11.

ด้วย​เหตุ​นั้น ซาตาน​จึง​กลาย​เป็น “พระ​ของ​สมัย​นี้.” (2 โกรินโธ 4:4) คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “มนุษย์​โลก​ทั้ง​สิ้น​ทอด​ตัว​จม​อยู่​ใน​มาร​ร้าย.” (1 โยฮัน 5:19) พระ​เยซู​เรียก​ซาตาน​ว่า “ผู้​ครอง​โลก.” (โยฮัน 14:30) การ​ที่​ซาตาน​และ​พ่อ​แม่​คู่​แรก​ของ​เรา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​ได้​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​ไม่​สมบูรณ์, ความ​รุนแรง, ความ​ตาย, ความ​โศก​เศร้า, และ​ความ​ทุกข์​แก่​มนุษยชาติ​ทั้ง​มวล.—โรม 5:12.

“ไม่​ใช่​ที่​มนุษย์​ซึ่ง​ดำเนิน​นั้น​จะ​ได้​กำหนด​ก้าว​ของ​ตัว​ได้”

เพื่อ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​เพิกเฉย​กฎหมาย​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​มนุษยชาติ​อย่าง​ไร พระเจ้า​จึง​ปล่อย​ให้​ผล​ที่​เกิด​จาก​การ​ไม่​เชื่อ​ฟัง​มี​อยู่​เป็น​เวลา​หลาย​พัน​ปี. ใน​ช่วง​เวลา​นั้น มนุษยชาติ​ทั้ง​สิ้น​มี​โอกาส​มาก​พอ​ที่​จะ​เห็น​ว่า​สิ่ง​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ความ​จริง​ที่​ว่า “ทาง​ที่​มนุษย์​จะ​ไป​นั้น​ไม่​ได้​อยู่​ใน​ตัว​ของ​ตัว, ไม่​ใช่​ที่​มนุษย์​ซึ่ง​ดำเนิน​นั้น​จะ​ได้​กำหนด​ก้าว​ของ​ตัว​ได้. โอ้​พระ​ยะโฮวา​ได้​โปรด​แก้​ผิด​ของ​ข้าพเจ้า.”—ยิระมะยา 10:23, 24.

ตอน​นี้ หลัง​จาก​หลาย​ศตวรรษ​ผ่าน​ไป​เรา​ได้​เห็น​ว่า​การ​ปกครอง​ที่​เป็น​เอกเทศ​จาก​พระเจ้า​มี​แต่​ความ​เสียหาย. ด้วย​เหตุ​นี้ พระเจ้า​มี​พระ​ประสงค์​จะ​ยุติ​การ​ปกครอง​ที่​เป็น​เอกเทศ​จาก​พระองค์​และ​ไม่​ได้​อาศัย​กฎหมาย​ของ​พระองค์.

อนาคต​ที่​ยอด​เยี่ยม

คำ​พยากรณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แสดง​ให้​เห็น​ว่า ใน​ไม่​ช้า พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​ระบบ​ชั่ว​นี้​ถึง​กาล​อวสาน: “เพราะ​ว่า​ยัง​อีก​หน่อย​หนึ่ง, คน​ชั่ว​จะ​ไม่​มี . . . แต่​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​มี​ใจ​ถ่อม​ลง​จะ​ได้​แผ่นดิน​เป็น​มฤดก, และ​เขา​จะ​ชื่นชม​ยินดี​ด้วย​ความ​สงบ​สุข​อัน​บริบูรณ์.”—บทเพลง​สรรเสริญ 37:10, 11.

คำ​พยากรณ์​ที่​ดานิเอล 2:44 กล่าว​ว่า “ใน​สมัย​เมื่อ​กษัตริย์​เหล่า​นั้น​กำลัง​เสวย​ราชย์​อยู่ [การ​ปกครอง​ทุก​รูป​แบบ​ที่​มี​อยู่​ใน​ขณะ​นี้], พระเจ้า​แห่ง​สรวง​สวรรค์​จะ​ทรง​ตั้ง​อาณาจักร​อัน​หนึ่ง​ขึ้น, ซึ่ง​จะ​ไม่​มี​วัน​ทำลาย​เสีย​ได้, หรือ​ผู้​ใด​จะ​ชิง​เอา​อาณาจักร​นี้​ไป​ก็​หา​ได้​ไม่; แต่​อาณาจักร​นี้​จะ​ทำลาย​อาณาจักร​อื่น ๆ ลง​ให้​ย่อยยับ​และ​เผา​ผลาญ​เสีย​สิ้น, และ​อาณาจักร​นี้​จะ​ดำรง​อยู่​เป็น​นิจ.” การ​ปกครอง​ของ​มนุษย์​จะ​ไม่​มี​อีก​ต่อ​ไป. ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​จะ​ปกครอง​แผ่นดิน​โลก​ทั้ง​สิ้น. ภาย​ใต้​การ​บริหาร​งาน​ของ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า แผ่นดิน​โลก​ทั้ง​สิ้น​จะ​กลาย​เป็น​อุทยาน​และ​มนุษยชาติ​จะ​บรรลุ​ถึง​ความ​สมบูรณ์​และ​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​อย่าง​มี​ความ​สุข. คัมภีร์​ไบเบิล​สัญญา​ว่า “พระเจ้า​จะ​ทรง​เช็ด​น้ำตา​ทุก ๆ หยด​จาก​ตา​ของ​เขา ความ​ตาย​จะ​ไม่​มี​ต่อ​ไป การ​คร่ำ​ครวญ​และ​ร้องไห้​และ​การ​เจ็บ​ปวด​อย่าง​หนึ่ง​อย่าง​ใด​จะ​ไม่​มี​อีก​เลย.” (วิวรณ์ 21:4) อนาคต​ที่​พระเจ้า​ทรง​มี​พระ​ประสงค์​สำหรับ​เรา​ช่าง​ยอด​เยี่ยม​จริง ๆ!

ชีวิต​ที่​ต่าง​ออก​ไป

การ​พบ​คำ​ตอบ​ที่​น่า​พอ​ใจ​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​ผม​เปลี่ยน​ไป. นับ​แต่​นั้น​มา ผม​ต้องการ​รับใช้​พระเจ้า​และ​ช่วย​คน​อื่น ๆ ให้​พบ​คำ​ตอบ​เหล่า​นี้. ผม​ตระหนัก​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​ข้อ​คัมภีร์​ที่ 1 โยฮัน 2:17 ที่​ว่า “โลก​นี้ [ระบบ​นี้​ซึ่ง​ปกครอง​โดย​ซาตาน] กับ​ความ​ใคร่​ของ​โลก​กำลัง​ผ่าน​พ้น​ไป แต่​ผู้​ที่​ประพฤติ​ตาม​พระทัย​ของ​พระเจ้า​คง​จะ​ตั้ง​อยู่​เป็น​นิตย์.” ผม​อยาก​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า​เหลือ​เกิน. ผม​ตัดสิน​ใจ​อยู่​ที่​นิวยอร์ก​ต่อ​ไป​และ​เริ่ม​สมทบ​กับ​ประชาคม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​นั่น และ​มี​โอกาส​ช่วย​ผู้​คน​มาก​มาย​ให้​เรียน​รู้​สิ่ง​ที่​ผม​พบ.

ใน​ปี 1949 ผม​พบ​กับ​โรส แมรี ลูอิส. เธอ​กับ​เซ​ดี แม่​ของ​เธอ รวม​ทั้ง​พี่​สาว​น้อง​สาว​อีก​หก​คน​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. โรส​รับใช้​พระเจ้า​เต็ม​เวลา​ใน​งาน​ประกาศ. เธอ​มี​นิสัย​ที่​น่า​รัก​หลาย​อย่าง และ​ผม​ประทับใจ​เธอ​ทันที. เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​เดือน​มิถุนายน 1950 และ​อยู่​ที่​นิวยอร์ก​ต่อ​ไป. เรา​มี​ความ​สุข​ใน​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​และ​ชื่นชม​กับ​ความ​หวัง​ที่​จะ​อยู่​ตลอด​ไป​ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า.

ใน​ปี 1957 ผม​กับ​โรส แมรี​ถูก​เชิญ​ให้​มา​รับใช้​เต็ม​เวลา​ที่​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก. เมื่อ​ถึง​เดือน​มิถุนายน 2004 เรา​ใช้​ชีวิต​คู่​ด้วย​กัน​มา​แล้ว 54 ปี​และ​มี​ชีวิต​สมรส​ที่​มี​ความ​สุข โดย​รับใช้​ที่​สำนักงาน​ใหญ่​ใน​บรุกลิน​ด้วย​กัน 47 ปี. เรา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​มี​ความ​สุข​และ​ทำ​งาน​เคียง​บ่า​เคียง​ไหล่​กับ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​หลาย​พัน​คน.

ความ​ทุกข์​แสน​สาหัส

น่า​เศร้า ช่วง​ต้น​เดือน​ธันวาคม 2004 โรส แมรี​ได้​รับ​การ​วินิจฉัย​ว่า​มี​ก้อน​เนื้อ​งอก​มะเร็ง​ใน​ปอด​ข้าง​หนึ่ง. แพทย์​ลง​ความ​เห็น​ว่า​มะเร็ง​โต​เร็ว​มาก​และ​ต้อง​ทำ​การ​ผ่าตัด. ศัลยแพทย์​ทำ​การ​ผ่าตัด​ต่อ​มา​ใน​เดือน​เดียว​กัน และ​หนึ่ง​สัปดาห์​หลัง​จาก​นั้น ศัลยแพทย์​ก็​เข้า​มา​ใน​ห้อง​ของ​โรส​ขณะ​ที่​ผม​อยู่​ด้วย​และ​บอก​ว่า “คุณ​โรส แมรี​กลับ​บ้าน​ได้! คุณ​หาย​แล้ว!”

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​กี่​วัน​หลัง​จาก​กลับ​บ้าน โรส แมรี​ปวด​บริเวณ​ท้อง​และ​ที่​อื่น ๆ อย่าง​รุนแรง. อาการ​ปวด​ไม่​ทุเลา เธอ​จึง​กลับ​ไป​โรง​พยาบาล​อีก​เพื่อ​ตรวจ​เพิ่ม​เติม. ผล​การ​ตรวจ​พบ​ว่า ด้วย​สาเหตุ​บาง​ประการ​ได้​เกิด​ลิ่ม​เลือด​ตาม​อวัยวะ​สำคัญ ๆ ใน​ร่าง​กาย ทำ​ให้​อวัยวะ​เหล่า​นั้น​ไม่​ได้​รับ​ออกซิเจน​ที่​จำเป็น. แพทย์​พยายาม​ทำ​ทุก​วิถี​ทาง​เพื่อ​แก้ไข​แต่​ไม่​เป็น​ผล. เพียง​ไม่​กี่​สัปดาห์​ต่อ​มา ใน​วัน​ที่ 30 มกราคม 2005 มี​เหตุ​การณ์​ที่​ทำ​ให้​ผม​ปวด​ร้าว​ใจ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต. โรส แมรี​สุด​ที่​รัก​จาก​ผม​ไป​แล้ว.

ตอน​นั้น​ผม​อายุ​เกือบ 80 ปี​แล้ว​และ​ได้​เห็น​ความ​ทุกข์​ของ​ผู้​คน​มา​ตลอด​ชีวิต แต่​นี่​ไม่​เหมือน​กัน. ผม​กับ​โรส แมรี​เป็น​เหมือน​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ไว้​ว่า “เนื้อหนัง​อัน​เดียว​กัน.” (เยเนซิศ 2:24) ผม​ได้​เห็น​ความ​ทุกข์​ของ​คน​อื่น ๆ และ​รู้สึก​เสียใจ​เมื่อ​เพื่อน​และ​ญาติ​เสีย​ชีวิต. แต่​เมื่อ​ภรรยา​ของ​ผม​จาก​ไป ความ​ทุกข์​ที่​เกิด​ขึ้น​นั้น​มัน​รุนแรง​ยิ่ง​กว่า​และ​ติด​อยู่​ใน​ใจ​ไป​แสน​นาน. ตอน​นี้​ผม​เข้าใจ​แจ่ม​แจ้ง​แล้ว​ว่า ตลอด​หลาย​พัน​ปี​ที่​ผ่าน​มา​มนุษยชาติ​ต้อง​โศก​เศร้า​เสียใจ​มาก​แค่​ไหน​เมื่อ​คน​ที่​เขา​รัก​เสีย​ชีวิต.

กระนั้น การ​เข้าใจ​สาเหตุ​ของ​ความ​ทุกข์​และ​รู้​ว่า​มัน​จะ​จบ​สิ้น​ลง​อย่าง​ไร​ได้​ช่วย​ปลอบโยน​ผม. บทเพลง​สรรเสริญ 34:18 กล่าว​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ทรง​สถิต​อยู่​ใกล้​ผู้​ที่​มี​ใจ​ชอก​ช้ำ, และ​คน​ที่​มี​ใจ​สุภาพ​พระองค์​จะ​ทรง​ช่วย​ให้​รอด.” สิ่ง​สำคัญ​ที่​ช่วย​ให้​ผม​อด​ทน​กับ​ความ​ทุกข์​ครั้ง​นี้​ได้​คือ​การ​ได้​รู้​คำ​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ว่า​จะ​มี​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย ซึ่ง​คน​ที่​อยู่​ใน​หลุม​ศพ​จะ​กลับ​เป็น​ขึ้น​มา​และ​มี​โอกาส​จะ​อยู่​ตลอด​ไป​ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า. กิจการ 24:15 กล่าว​ว่า “คน​ทั้ง​ปวง​ทั้ง​คน​ชอบธรรม​และ​คน​ที่​ไม่​ชอบธรรม​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย.” โรส แมรี​รัก​พระเจ้า​สิ้น​สุด​หัวใจ. ผม​แน่​ใจ​ว่า​พระองค์​ทรง​รัก​เธอ​เช่น​กัน​และ​จะ​ทรง​ระลึก​ถึง​เธอ​และ​ปลุก​เธอ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​ใน​เวลา​กำหนด​ของ​พระองค์ ซึ่ง​ผม​หวัง​ว่า​คง​อีก​ไม่​นาน.—ลูกา 20:38; โยฮัน 11:25.

ขณะ​ที่​การ​สูญ​เสีย​ผู้​เป็น​ที่​รัก​นำ​มา​ซึ่ง​ความ​โศก​เศร้า​มาก​มาย การ​ต้อนรับ​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ซึ่ง​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​จะ​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​ยินดี​มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​อีก. (มาระโก 5:42) พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​สัญญา​ว่า “คน​ของ​พระองค์​ที่​ตาย​แล้ว, จะ​กลับ​เป็น. . . . แผ่นดิน​โลก​จะ​ปล่อย​คน​ตาย​ให้​คืน​ชีพ.” (ยะซายา 26:19) หลาย​คน​ใน​หมู่ “คน​ชอบธรรม” ที่​กล่าว​ถึง​ใน​กิจการ 24:15 คง​จะ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ก่อน. นั่น​คง​จะ​เป็น​สมัย​ที่​ยอด​เยี่ยม​จริง ๆ! และ​ท่ามกลาง​คน​ที่​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​จะ​มี​โรส แมรี​รวม​อยู่​ด้วย. เธอ​จะ​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​อย่าง​อบอุ่น​จาก​คน​ที่​เธอ​รัก​อย่าง​แน่นอน! เมื่อ​ถึง​ตอน​นั้น​จะ​น่า​ยินดี​สัก​เพียง​ไร​ที่​ได้​อยู่​ใน​โลก​ที่​ไม่​มี​ความ​ทุกข์​อีก​ต่อ​ไป!

[ภาพ​หน้า 9]

ผม​ได้​เห็น​ความ​ทุกข์​ของ​ผู้​คน​ขณะ​อยู่​ที่​ประเทศ​จีน

[ภาพ​หน้า 10]

นับ​ตั้ง​แต่​ปี 1957 ผม​ได้​มา​รับใช้​ที่​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บรุกลิน

[ภาพ​หน้า 12]

ผม​แต่งงาน​กับ​โรส แมรี​ใน​ปี 1950

[ภาพ​หน้า 13]

วัน​ครบ​รอบ​แต่งงาน​ปี​ที่ 50 ของ​เรา​ใน​ปี 2000