พิธีชำระของชาวยิวที่มาของการบัพติสมาหรือ?
พิธีชำระของชาวยิวที่มาของการบัพติสมาหรือ?
โยฮันผู้ให้บัพติสมาได้ประกาศถึง “บัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่.” พระเยซูก็ทรงสั่งผู้ติดตามพระองค์ไปทำให้คนเป็นสาวกและรับบัพติสมาเช่นกัน.—มาระโก 1:4, ฉบับแปล 2002; มัดธาย 28:19.
คัมภีร์ไบเบิลชี้ให้เห็นว่าบัพติสมาของคริสเตียนต้องมีการจุ่มตัวมิดในน้ำ. หนังสือพระเยซูและโลกของพระองค์ (ภาษาอังกฤษ) อ้างว่า “พิธีคล้าย ๆ กันนี้พบได้ในหลายศาสนา ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ในหลายประเทศและวัฒนธรรมต่าง ๆ มากมาย.” หนังสือเล่มนี้อ้างว่า “ที่มาของบัพติสมาของคริสเตียน . . . พบได้ในศาสนายิว.” คำอ้างนี้เชื่อถือได้มากแค่ไหน?
สระสำหรับพิธีชำระของชาวยิว
นักโบราณคดีซึ่งขุดค้นบริเวณใกล้กับเนินพระวิหารในกรุงเยรูซาเลมได้พบอ่างหรือสระสำหรับทำพิธีเกือบ 100 แห่ง ซึ่งมีอายุย้อนไปถึงสมัยศตวรรษแรกก่อนสากลศักราชและศตวรรษแรกสากลศักราช. ข้อความจารึกในธรรมศาลาแห่งหนึ่งในศตวรรษที่สองหรือสามสากลศักราชกล่าวถึงสระเหล่านั้นว่า มีไว้สำหรับ “ผู้มาเยือนทุกคนที่ต้องการใช้.” ส่วนสระอื่น ๆ พบในกรุงเยรูซาเลมบริเวณย่านที่พักของคนร่ำรวยและครอบครัวของปุโรหิต ซึ่งเกือบทุกบ้านมีสระสำหรับทำพิธีของตนเอง.
สระเหล่านี้เป็นบ่อรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งสกัดจากหินหรือขุดลงไปในดิน ปูด้วยอิฐหรือก้อนหินแล้วเอาปูนฉาบเพื่อกันน้ำรั่วซึม. สระส่วนใหญ่มีขนาดประมาณหกฟุตคูณเก้าฟุต. มีท่อส่งน้ำฝนให้ไหลลงไปในสระ. น้ำลึกอย่างน้อยสี่ฟุตเพื่อจะท่วมได้มิดทั้งตัวเมื่อค้อมตัวลง. บันไดที่ลงไปในสระบางครั้งถูกแบ่งเป็นสองด้านด้วยผนังเตี้ย ๆ. เข้าใจกันว่าบันไดด้านหนึ่งใช้เพื่อลงไปชำระตัวในสระเมื่อผู้ชำระตัวยังไม่สะอาด ส่วนอีกด้านหนึ่งใช้เพื่อขึ้นจากสระ เพื่อจะไม่แปดเปื้อนสิ่งสกปรกใด ๆ อีก.
สระเหล่านี้ถูกใช้ด้วยวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการชำระตามพิธีกรรมของชาวยิว. พิธีนี้เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง?
พระบัญญัติกับประเพณีที่เกี่ยวกับการชำระ
พระบัญญัติของโมเซเน้นถึงความจำเป็นที่ประชาชนของพระเจ้าจะต้องเป็นคนสะอาด ทั้งในด้านวิญญาณและเลวีติโก 11:28; 14:1-9; 15:1-31; พระบัญญัติ 23:10, 11.
ด้านร่างกาย. มีหลายสิ่งที่ทำให้ชาวอิสราเอลไม่สะอาดทางด้านพิธีกรรม ซึ่งเป็นเหตุให้พวกเขาต้องอาบน้ำชำระร่างกายและซักเสื้อผ้าของตน.—พระยะโฮวาพระเจ้าทรงเป็นผู้บริสุทธิ์สะอาดอย่างยิ่ง. ดังนั้นจึงมีข้อเรียกร้องให้ปุโรหิตและชาวเลวีล้างมือและเท้าก่อนจะเข้าไปใกล้แท่นบูชาของพระองค์ มิฉะนั้นจะมีโทษถึงตาย.—เอ็กโซโด 30:17-21.
ผู้คงแก่เรียนเชื่อว่าพอถึงศตวรรษแรกแห่งสากลศักราช ข้อเรียกร้องทางศาสนาของชาวยิวได้กำหนดให้คนที่ไม่ใช่ชาวเลวีชำระล้างร่างกายเช่นเดียวกับปุโรหิตด้วย. ทั้งพวกเอสซีนและฟาริซายต่างก็ทำพิธีชำระบ่อย ๆ. รายงานจากแหล่งหนึ่งกล่าวเกี่ยวกับสมัยของพระเยซูว่า “ความบริสุทธิ์ทางพิธีกรรมเป็นข้อเรียกร้องของชาวยิวก่อนที่จะเข้ามาในเนินพระวิหาร, ก่อนจะถวายเครื่องบูชา, ก่อนจะรับผลประโยชน์จากการถวายของถวายโดยปุโรหิตและเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่คล้าย ๆ กัน.” ข้อความในคัมภีร์ทัลมุดกล่าวว่าผู้ชำระตัวจะต้องจุ่มตัวให้มิดในน้ำ.
พระเยซูทรงตำหนิพวกฟาริซายเนื่องจากพวกเขายืนกรานในเรื่องการชำระตามพิธีกรรม. เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำ “พิธีชำระล้างต่าง ๆ” ซึ่งรวมไปถึงการชำระล้าง “ถ้วยชามเครื่องภาชนะทองแดงและทองเหลือง.” พระเยซูตรัสว่าพวกฟาริซายทำเกินเลยจากพระบัญญัติของพระเจ้าเพื่อจะทำตามธรรมเนียมที่ตนเองตั้งขึ้น. (เฮ็บราย 9:10; มาระโก 7:1-9; เลวีติโก 11:32, 33; ลูกา 11:38-42) ไม่มีส่วนใดในพระบัญญัติของโมเซที่เรียกร้องให้มีการจุ่มตัวมิดในน้ำ.
บัพติสมาของคริสเตียนมีต้นตอมาจากการชำระล้างตามพิธีกรรมที่พวกยิวปฏิบัติกันไหม? ไม่ใช่!
พิธีชำระและบัพติสมาของคริสเตียน
ชาวยิวทำพิธีชำระก็กับร่างกายของตนเอง. แต่บัพติสมาที่โยฮันให้นั้นไม่ใช่การชำระตามพิธีกรรมแบบที่ชาวยิวคุ้นเคย. การที่โยฮันเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บัพติสมาแสดงว่าการจุ่มตัวที่เขาทำนั้นต่างออกไป. ผู้นำศาสนาของชาวยิวถึงกับส่งตัวแทนไปถามโยฮันว่า “ท่านให้บัพติศมาทำไม?”—โยฮัน 1:25.
การชำระแบบที่กำหนดไว้ในพระบัญญัติของโมเซนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำซ้ำอีกเมื่อใดก็ตามที่ผู้นมัสการมีมลทิน. แต่ไม่เป็นเช่นนั้นกับบัพติสมาของโยฮันและกับบัพติสมาที่คริสเตียนทำกันในเวลาต่อมา. บัพติสมาของโยฮันแสดงถึงการกลับใจและการปฏิเสธแนวทางชีวิตในอดีต. บัพติสมาของคริสเตียนเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าคนนั้นได้อุทิศตัวของเขาแด่พระเจ้าแล้ว. คริสเตียนทำเช่นนั้นเพียงครั้งเดียว ไม่ใช่ซ้ำแล้วซ้ำอีก.
พิธีชำระที่ทำกันในบ้านของปุโรหิตชาวยิวและในสระน้ำสาธารณะใกล้กับเนินพระวิหารนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ดูเผิน ๆ แล้วคล้ายกับบัพติสมาของคริสเตียน. การจุ่มตัวสองแบบนี้มีความหมายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง. พจนานุกรมดิ แองเคอร์ ไบเบิลให้ข้อสังเกตว่า “มีความเห็นพ้องต้องกันในหมู่ผู้คงแก่เรียนว่า โยฮัน [ผู้ให้บัพติสมา] ไม่ได้รับเอาหรือปรับเปลี่ยนการบัพติสมาแบบใดแบบหนึ่งโดยเฉพาะจากที่พบได้รอบตัว” คือ จากศาสนายิว. อาจกล่าวได้อย่างเดียวกันในเรื่องบัพติสมาที่ทำกันในประชาคมคริสเตียน.
บัพติสมาของคริสเตียนหมายถึง “การทูลขอพระเจ้าเพื่อสติรู้สึกผิดชอบอันดี.” (1 เปโตร 3:21, ล.ม.) บัพติสมาของคริสเตียนเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าบุคคลหนึ่งได้อุทิศตัวของเขาแด่พระเจ้าอย่างหมดสิ้นแล้วเพื่อจะรับใช้พระองค์ในฐานะสาวกของพระบุตรของพระองค์. การจุ่มตัวมิดในน้ำเป็นสัญลักษณ์ที่เหมาะสมสำหรับการอุทิศตัวดังกล่าว. การลงไปใต้น้ำหมายความว่าคนนั้นได้ตายจากแนวทางชีวิตแบบเดิมของตน. การถูกยกขึ้นจากน้ำเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าเขาได้กลับมีชีวิตอีกเพื่อจะทำตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้า.
พระยะโฮวาพระเจ้าประทานสติรู้สึกผิดชอบที่ดีแก่คนที่ได้อุทิศตัวเช่นนั้นและรับบัพติสมา. ด้วยเหตุนั้น อัครสาวกเปโตรผู้ได้รับการดลใจจึงบอกกับเพื่อนร่วมความเชื่อของท่านได้ว่า “[บัพติสมา] ก็ทำให้ท่านทั้งหลายรอดในขณะนี้ด้วย.” นี่เป็นสิ่งที่พิธีชำระใด ๆ ของชาวยิวไม่มีทางจะทำได้เลย.