จงตื่นตัวเสมอเหมือนยิระมะยาห์
จงตื่นตัวเสมอเหมือนยิระมะยาห์
“เรา [พระยะโฮวา] ตื่นตัวเสมอที่จะทำให้คำของเราเป็นจริง.”—ยิระ. 1:12, ล.ม.
1, 2. เหตุใดการที่พระยะโฮวา “ตื่นตัวเสมอ” จึงถูกนำมาเชื่อมโยงกับต้นอัลมอนด์?
บนภูเขาในประเทศเลบานอนและอิสราเอล ต้นไม้ชนิดแรก ๆ ที่ออกดอกคือต้นอัลมอนด์. ดอกสีชมพูหรือสีขาวน่ารักของต้นนี้เห็นได้ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์. ชื่อภาษาฮีบรูของต้นไม้นี้มีความหมายตามตัวอักษรว่า “ผู้ที่ตื่น.”
2 เมื่อพระยะโฮวาทรงแต่งตั้งยิระมะยาห์เป็นผู้พยากรณ์ พระองค์ทรงใช้ลักษณะเฉพาะของต้นอัลมอนด์เพื่อแสดงถึงความจริงที่สำคัญอย่างหนึ่งได้อย่างเหมาะเจาะ. เมื่อผู้พยากรณ์เริ่มต้นทำงานรับใช้ พระยะโฮวาทรงแสดงให้ท่านเห็นกิ่งหนึ่งของต้นไม้นี้ในนิมิต. กิ่งต้นอัลมอนด์หมายถึงอะไร? พระยะโฮวาทรงอธิบายว่า “เราตื่นตัวเสมอที่จะทำให้คำของเราเป็นจริง.” (ยิระ. 1:11, 12, ล.ม.) เช่นเดียวกับต้นอัลมอนด์ที่ “ตื่น” ตั้งแต่ต้นปี พระยะโฮวาก็ทรงราวกับ “ตื่นขึ้นแต่เช้ามืด” เพื่อส่งผู้พยากรณ์ให้เตือนผู้คนเกี่ยวกับผลของการไม่เชื่อฟัง. (ยิระ. 7:25) และพระองค์จะไม่หยุดพัก—พระองค์จะ “ตื่นตัวเสมอ”—จนกว่าคำพยากรณ์ของพระองค์สำเร็จเป็นจริง. ในปี 607 ก่อนสากลศักราช ตรงตามที่ทรงกำหนดไว้ พระยะโฮวาทรงพิพากษาสำเร็จโทษชาติยูดาห์ที่ออกหาก.
3. เราแน่ใจอะไรได้เกี่ยวกับพระยะโฮวา?
3 เช่นเดียวกัน ในทุกวันนี้พระยะโฮวาก็ทรงตื่นตัวและคอยดูแลให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ. เป็นไปไม่ได้เลยที่พระองค์จะไม่ทำให้คำตรัสของพระองค์สำเร็จ. การที่พระยะโฮวาทรงคอยดูแลเช่นนั้นส่งผลต่อคุณอย่างไร? คุณเชื่อไหมว่าในปี 2011 นี้พระยะโฮวายังทรง “ตื่นตัว” อยู่? คุณเชื่อมั่นไหมว่าพระองค์จะทรงทำให้คำสัญญาของโรม 13:11) ในฐานะผู้พยากรณ์ของพระยะโฮวา ยิระมะยาห์ตื่นตัวเสมอ. การพิจารณาวิธีและเหตุผลที่ยิระมะยาห์ตื่นตัวเสมอในการทำงานมอบหมายของพระเจ้าจะช่วยให้เราเห็นวิธีที่เราสามารถบากบั่นในงานที่พระยะโฮวาทรงมอบหมายแก่เรา.
พระองค์สำเร็จเป็นจริง? ถ้าเรามีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับคำสัญญาที่แน่นอนของพระยะโฮวา บัดนี้เป็นเวลาที่เราจะตื่นจากความง่วงซึมฝ่ายวิญญาณ. (ข่าวสารที่เร่งด่วน
4. ยิระมะยาห์พบข้อท้าทายอะไรในการประกาศข่าวสาร และอะไรทำให้งานนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน?
4 ยิระมะยาห์คงจะอายุเกือบ 25 ปีเมื่อท่านได้รับงานมอบหมายจากพระยะโฮวาให้เป็นคนยาม. (ยิระ. 1:1, 2) แต่ท่านรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่เด็ก จึงไม่มีคุณสมบัติเลยที่จะพูดกับผู้เฒ่าผู้แก่ในชาติซึ่งเป็นคนที่อายุมากและอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ที่มีอำนาจ. (ยิระ. 1:6) ท่านมีคำตำหนิที่ทิ่มแทงใจและคำพิพากษาอันน่ากลัวที่ต้องประกาศ โดยเฉพาะต่อพวกปุโรหิต, ผู้พยากรณ์เท็จ, และผู้ปกครอง รวมทั้งคนที่ทำ “ตามแนวทางที่คนส่วนใหญ่ทำกัน” และ ‘ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวาไม่หยุดหย่อน.’ (ยิระ. 6:13; 8:5, 6, ล.ม.) พระวิหารอันสง่างามของกษัตริย์โซโลมอนซึ่งเป็นศูนย์กลางการนมัสการแท้มาเกือบสี่ศตวรรษจะถูกทำลาย. กรุงเยรูซาเลมและอาณาจักรยูดาห์จะร้างเปล่า และประชากรจะถูกจับเป็นเชลย. เห็นได้ชัด ข่าวสารที่ยิระมะยาห์ได้รับมอบหมายให้ประกาศเป็นเรื่องเร่งด่วน!
5, 6. (ก) พระยะโฮวากำลังใช้ชนชั้นยิระมะยาห์อย่างไรในสมัยนี้? (ข) การศึกษาของเราจะเน้นเรื่องอะไร?
5 ในสมัยปัจจุบัน พระยะโฮวาทรงจัดเตรียมด้วยความรักเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติโดยทรงให้มีกลุ่มคริสเตียนผู้ถูกเจิมทำหน้าที่เป็นคนยามโดยนัยเพื่อเตือนเกี่ยวกับการพิพากษาโลก. ชนชั้นยิระมะยาห์นี้ได้กระตุ้นผู้คนมาหลายสิบปีแล้วให้สนใจเรื่องวันเวลาที่เรามีชีวิตอยู่นี้. (ยิระ. 6:17) คัมภีร์ไบเบิลเน้นว่าพระยะโฮวาผู้รักษาเวลาองค์ใหญ่ยิ่งไม่ทรงชักช้า. วันของพระองค์จะมาตรงตามเวลา ในยามที่มนุษย์ไม่คาดคิด.—ซฟัน. 3:8; มโก. 13:33; 2 เป. 3:9, 10
6 ขอให้ระลึกเสมอว่าพระยะโฮวาทรงตื่นตัวและจะทรงเปลี่ยนโลกนี้ให้เป็นโลกใหม่อันชอบธรรมตรงตามเวลา. นั่นน่าจะกระตุ้นชนชั้นยิระมะยาห์และช่วยสหายที่อุทิศตัวของพวกเขาให้ตื่นตัวอยู่เสมอในเรื่องความเร่งด่วนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของข่าวสารที่พวกเขาประกาศ. เรื่องนี้มีผลต่อคุณอย่างไร? พระเยซูทรงชี้ว่าทุกคนจำเป็นต้องยืนหยัดอยู่ฝ่ายราชอาณาจักรของพระเจ้า. ขอให้เราพิจารณาคุณลักษณะสามประการที่ช่วยยิระมะยาห์ให้ตื่นตัวอยู่เสมอในการทำงานมอบหมาย และนั่นจะช่วยเราให้ทำอย่างเดียวกัน.
ความรักต่อผู้คน
7. จงอธิบายว่าความรักกระตุ้นยิระมะยาห์อย่างไรให้ประกาศแม้ว่าสภาพการณ์ยุ่งยากลำบาก.
7 อะไรกระตุ้นยิระมะยาห์ให้ประกาศแม้ว่าสภาพการณ์ยุ่งยากลำบาก? ความรักที่ท่านมีต่อผู้คนนั่นเอง. ยิระมะยาห์รู้ว่าผู้บำรุงเลี้ยงจอมปลอมก่อความยุ่งยากลำบากใจแก่ประชาชนไม่ใช่น้อย. (ยิระ. 23:1, 2) การที่ท่านรู้เช่นนั้นช่วยท่านให้ทำงานด้วยความรักและความสงสาร. ท่านต้องการให้เพื่อนร่วมชาติได้ยินคำตรัสของพระเจ้าและมีชีวิตอยู่. ท่านรู้สึกห่วงใยมากถึงขนาดที่ท่านร้องไห้เพราะความหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขา. (อ่านยิระมะยา 8:21; 9:1) หนังสือบทเพลงร้องทุกข์แสดงอย่างชัดเจนถึงความรักและความห่วงใยอย่างลึกซึ้งที่ยิระมะยาห์มีต่อพระนามพระยะโฮวาและผู้คน. (ทุกข์. 4:6, 9) เมื่อคุณเห็นผู้คนในทุกวันนี้ “ถูกขูดรีดและถูกทิ้งขว้างเหมือนแกะไม่มีผู้เลี้ยง” คุณอยากบอกข่าวสารเรื่องราชอาณาจักรที่ให้กำลังใจพวกเขามิใช่หรือ?—มัด. 9:36
8. อะไรแสดงว่าความทุกข์ยากไม่ทำให้ยิระมะยาห์รู้สึกขมขื่น?
8 ยิระมะยาห์ทนทุกข์เพราะน้ำมือของผู้คนที่ท่านปรารถนาจะช่วย ถึงกระนั้นท่านก็ไม่ได้ตอบโต้หรือรู้สึกขมขื่น. ท่านอดกลั้นไว้นานและกรุณา แม้แต่ต่อกษัตริย์ซิดคียาผู้ชั่วช้า! หลังจากซิดคียามอบตัวท่านไว้ในเงื้อมมือคนที่จะฆ่าท่าน ยิระมะยาห์ก็ยังคงวิงวอนเขาให้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยะโฮวา. (ยิระ. 38:4, 5, 19, 20) เรามีความรักอย่างแรงกล้าต่อผู้คนเหมือนยิระมะยาห์ไหม?
ความกล้าหาญที่พระเจ้าประทาน
9. เรารู้ได้อย่างไรว่าความกล้าหาญของยิระมะยาห์มาจากพระเจ้า?
9 เมื่อพระยะโฮวาตรัสกับยิระมะยาห์เป็นครั้งแรก ท่านพยายามขอตัว. เราเห็นจากตรงนี้ว่าความกล้าหาญและความหนักแน่นที่ท่านแสดงให้เห็นในช่วงที่ท่านทำงานมอบหมายไม่ได้เป็นคุณลักษณะประจำตัวท่านตั้งแต่แรก. ความเข้มแข็งเป็นพิเศษที่ยิระมะยาห์แสดงออกในช่วงที่ท่านทำหน้าที่ผู้พยากรณ์ แท้ที่จริงแล้ว เกิดมาจากการที่ท่านไว้วางใจพระเจ้าอย่างเต็มที่. จริงทีเดียว พระยะโฮวาทรงอยู่กับท่านผู้พยากรณ์ “เหมือนอย่างผู้มีฤทธิ์อันพิลึกพึงกลัว” ในแง่ที่พระองค์ทรงค้ำชูยิระมะยาห์และทำให้ท่านเข้มแข็งเพื่อจะทำงานมอบหมายได้. (ยิระ. 20:11) ยิระมะยาห์มีชื่อเสียงในเรื่องความกล้าหาญถึงขนาดที่ในช่วงที่พระเยซูทรงรับใช้บนแผ่นดินโลกมีบางคนคิดว่าพระเยซูทรงเป็นยิระมะยาห์ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง!—มัด. 16:13, 14
10. เหตุใดจึงกล่าวได้ว่าชนที่เหลือผู้ถูกเจิมอยู่ “เหนือประเทศทั้งปวงแลเหนือแผ่นดินกษัตริย์ทั้งปวง”?
10 ในฐานะ “องค์กษัตริย์แห่งประชาชาติ” พระยะโฮวาทรงมอบหมายให้ยิระมะยาห์ประกาศข่าวสารการพิพากษาแก่ชาติและอาณาจักรทั้งหลาย. (ยิระ. 10:6, 7, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย ) แต่ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมอยู่ “เหนือประเทศทั้งปวงแลเหนือแผ่นดินกษัตริย์ทั้งปวง” ในความหมายเช่นไร? (ยิระ. 1:10) เช่นเดียวกับผู้พยากรณ์ในสมัยโบราณ ชนชั้นยิระมะยาห์ได้รับงานมอบหมายจากองค์ใหญ่ยิ่งแห่งเอกภพ. ด้วยเหตุนั้น ผู้รับใช้ที่ได้รับการเจิมของพระเจ้าจึงมีสิทธิ์ที่จะประกาศคำพิพากษาต่อชาติและอาณาจักรทั้งหลายทั่วโลก. โดยได้รับมอบอำนาจจากพระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่งสูงสุดและโดยใช้ภาษาที่ชัดเจนอธิบายพระคำซึ่งได้รับการดลใจจากพระเจ้า ชนชั้นยิระมะยาห์ประกาศว่าชาติและอาณาจักรทั้งหลายในทุกวันนี้จะถูกทำลายแบบถอนรากถอนโคนเมื่อถึงเวลากำหนดของพระเจ้าและตามวิธีที่พระองค์ทรงเลือก. (ยิระ. 18:7-10; วิ. 11:18) ชนชั้นยิระมะยาห์ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่รามือในการทำงานมอบหมายจากพระเจ้าที่ให้ประกาศข่าวสารการพิพากษาของพระยะโฮวาไปทั่วโลก.
11. อะไรจะช่วยเราให้ประกาศต่อ ๆ ไปอย่างไม่ละลดเมื่อเราเผชิญสภาพการณ์ที่ยุ่งยากลำบาก?
11 ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่เราอาจรู้สึกท้อแท้ในบางครั้งเมื่อเผชิญการต่อต้าน, ความไม่แยแส, หรือสภาพการณ์ที่ยุ่งยากลำบาก. (2 โค. 1:8) แต่เช่นเดียวกับยิระมะยาห์ ให้เราเดินหน้าต่อ ๆ ไป. อย่าท้อแท้. ขอให้เราแต่ละคนวิงวอนพระเจ้า, พึ่งพระองค์, และ “รวบรวมความกล้า” ต่อ ๆ ไปขณะที่เราหมายพึ่งพระองค์. (1 เทส. 2:2) ในฐานะผู้นมัสการแท้ เราต้องตื่นตัวเสมอในการทำหน้าที่รับผิดชอบที่พระเจ้าประทาน. เราต้องตั้งใจแน่วแน่ที่จะประกาศต่อ ๆ ไปอย่างไม่ละลดเกี่ยวกับการทำลายล้างคริสต์ศาสนจักรซึ่งกรุงเยรูซาเลมที่ไม่ซื่อสัตย์เป็นภาพเล็งถึง. ชนชั้นยิระมะยาห์จะประกาศไม่เพียงแค่ “วันเดือนปีที่พระเจ้าทรงโปรดปราน” แต่จะประกาศ “วันแห่งความแก้แค้นของพระยะโฮวา” ด้วย.—ยซา. 61:1, 2; 2 โค. 6:2
ความยินดีจากใจจริง
12. เหตุใดเราจึงอาจบอกได้ว่ายิระมะยาห์รักษาความยินดีของท่านไว้ และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ท่านทำอย่างนั้นได้คืออะไร?
12 ยิระมะยาห์มีความยินดีในงานที่ท่านทำ. ท่านพูดกับพระยะโฮวาว่า “คำโอวาทของพระองค์ข้าพเจ้าได้พบแล้ว, แลข้าพเจ้าได้กินคำนั้น, แลคำโอวาทของพระองค์เป็นที่ให้เกิดความอภิรมย์ยินดีในใจข้าพเจ้า, เพราะข้าพเจ้าเรียกชื่อด้วยนามของพระองค์, โอ้พระยะโฮวา.” (ยิระ. 15:16) ยิระมะยาห์ถือว่าเป็นสิทธิพิเศษที่ได้เป็นตัวแทนพระเจ้าองค์เที่ยงแท้และประกาศพระดำรัสของพระองค์. น่าสังเกตว่าเมื่อยิระมะยาห์สนใจคำเยาะเย้ยของผู้คนมากเกินไป ท่านสูญเสียความยินดี. เมื่อท่านหันมาใส่ใจความล้ำเลิศและความสำคัญของข่าวสารนั้น ท่านก็กลับมามีความยินดีอีกครั้งหนึ่ง.—ยิระ. 20:8, 9
13. เหตุใดการเลี้ยงตัวเราเองด้วยความจริงฝ่ายวิญญาณที่ลึกซึ้งจึงเป็นเรื่องสำคัญในการรักษาความยินดีไว้?
13 ในทุกวันนี้ เพื่อจะรักษาความยินดีในงานประกาศ เราจำเป็นต้องเลี้ยงตัวเองด้วย “อาหารแข็ง” ซึ่งก็คือความจริงอันลึกซึ้งในพระคำของพระเจ้า. (ฮีบรู 5:14) การศึกษาอย่างเจาะลึกเสริมความเชื่อของเรา. (โกโล. 2:6, 7) เป็นเรื่องน่าประทับใจที่การกระทำของเราทำให้ พระทัยของพระยะโฮวายินดีจริง ๆ. ถ้าเราหาเวลาอ่านและศึกษาคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้ เราควรตรวจสอบตารางเวลาของเราใหม่. การใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีในแต่ละวันเพื่อศึกษาและใคร่ครวญจะทำให้เราเข้าใกล้พระยะโฮวามากขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิด “ความอภิรมย์ยินดีในใจ” ดังที่เป็นอย่างนั้นกับยิระมะยาห์.
14, 15. (ก) การที่ยิระมะยาห์ทำงานมอบหมายอย่างซื่อสัตย์ก่อผลเช่นไร? (ข) ประชาชนของพระเจ้าในทุกวันนี้ตระหนักเช่นไรในเรื่องงานประกาศ?
14 แม้ยิระมะยาห์ประกาศข่าวสารที่เป็นคำเตือนและการพิพากษาของพระยะโฮวาอย่างไม่ละลด แต่ท่านก็คิดถึงงานมอบหมายที่ “ให้สร้างและให้ปลูก” อยู่เสมอ. (ยิระ. 1:10, ฉบับ R73) งานสร้างและงานปลูกของท่านเกิดผล. ชาวยิวบางคนรวมทั้งคนที่ไม่ใช่ชาวยิวรอดชีวิตจากการทำลายกรุงเยรูซาเลมในปี 607 ก่อน ส.ศ. เรารู้เรื่องราวเกี่ยวกับชาวเรคาบ, เอเบ็ดเมเล็ก, และบารุค. (ยิระ. 35:19; 39:15-18; 43:5-7) คนเหล่านี้ที่เป็นสหายของยิระมะยาห์ซึ่งภักดีและเกรงกลัวพระเจ้าเป็นภาพเล็งถึงคนที่มีความหวังบนแผ่นดินโลกในทุกวันนี้ซึ่งเป็นสหายของชนชั้นยิระมะยาห์. ชนชั้นยิระมะยาห์รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อของ “ชนฝูงใหญ่.” (วิ. 7:9) คล้ายกัน สหายที่ภักดีเหล่านี้ของชนผู้ถูกเจิมก็มีความอิ่ม ใจยินดีอย่างใหญ่หลวงที่ได้ช่วยคนที่หัวใจสุจริตให้รับเอาความรู้เกี่ยวกับความจริง.
15 ประชาชนของพระเจ้าตระหนักว่าการประกาศข่าวดีไม่ได้เป็นเพียงการรับใช้สาธารณชนที่ฟังข่าวนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการนมัสการพระเจ้าของเราด้วย. ไม่ว่าเราจะพบคนที่พร้อมจะฟังหรือไม่ การทำงานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่พระยะโฮวาด้วยการประกาศทำให้เรามีความยินดีอย่างยิ่ง.—เพลง. 71:23; อ่านโรม 1:9
จง “ตื่นตัวเสมอ” ในการทำงานมอบหมายของคุณ!
16, 17. วิวรณ์ 17:10 และฮะบาฆูค 2:3 แสดงถึงความเร่งด่วนของยุคสมัยของเราอย่างไร?
16 มีการเน้นเรื่องความเร่งด่วนของเวลาที่เรามีชีวิตอยู่นี้เมื่อเราพิจารณาคำพยากรณ์ที่มีขึ้นโดยการดลใจที่วิวรณ์ 17:10. กษัตริย์องค์ที่เจ็ด คือมหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกัน ได้ปรากฏตัวขึ้นมา. เราอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “เมื่อ [มหาอำนาจโลกที่เจ็ด] มาแล้วจะต้องอยู่ชั่วขณะหนึ่ง.” ถึงตอนนี้ “ชั่วขณะหนึ่ง” ดังกล่าวคงต้องใกล้จะจบลงแล้ว. ผู้พยากรณ์ฮะบาฆูคให้คำรับรองแก่เราเกี่ยวกับอวสานของระบบชั่วนี้ว่า “ด้วยว่ายังมีเวลากำหนดไว้สำหรับนิมิตนั้น . . . จงคอยท่า, ด้วยว่าไม่เนิ่นช้าคงจะมีมาเป็นแน่.”—ฮบา. 2:3
17 จงถามตัวเองว่า ‘ฉันดำเนินชีวิตอย่างที่แสดงให้เห็นว่าสำนึกถึงความเร่งด่วนของยุคสมัยของเราอย่างแท้จริงไหม? วิถีชีวิตของฉันแสดงว่าฉันคาดหมายว่าอวสานจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ไหม? หรือการตัดสินใจและสิ่งที่ฉันถือว่าสำคัญกว่าบ่งชี้ว่าฉันไม่ได้คาดหมายว่าอวสานจะมาถึงในอีกไม่ช้า หรือแม้แต่บ่งชี้ว่าฉันไม่แน่ใจว่าอวสานจะมาจริง ๆ หรือไม่?’
18, 19. เหตุใดบัดนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเฉื่อยช้าลง?
18 งานของชนชั้นคนยามยังไม่จบ. (อ่านยิระมะยา 1:17-19) เป็นเรื่องที่ทำให้ยินดีสักเพียงไรที่ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมยืนหยัดไม่หวั่นไหว เหมือน “เสาเหล็ก” และ “เมืองที่มีค่ายพร้อม”! พวกเขา “เอาความจริงคาดเอวไว้” โดยที่พวกเขายอมให้พระคำของพระเจ้าเสริมพวกเขาให้เข้มแข็งจนกระทั่งงานที่พวกเขาได้รับมอบหมายสำเร็จเสร็จสิ้น. (เอเฟ. 6:14) ด้วยความตั้งใจแน่วแน่คล้าย ๆ กัน ชนฝูงใหญ่สนับสนุนชนชั้นยิระมะยาห์อย่างขันแข็งในการทำงานมอบหมายของพระเจ้าให้สำเร็จ.
19 บัดนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเฉื่อยช้าลงในงานราชอาณาจักร หากแต่เป็นเวลาที่ควรพิจารณาความสำคัญของยิระมะยา 12:5. (อ่าน) เราทุกคนเผชิญการทดสอบที่ต้องอดทน. การทดสอบความเชื่อเหล่านี้อาจเทียบได้กับ “คนเดินเท้า” ที่เราต้องวิ่งแข่งด้วย. อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ “ความทุกข์ลำบากใหญ่” ใกล้เข้ามา เราคาดหมายได้ว่าความทุกข์ยากจะเพิ่มขึ้น. (มัด. 24:21) การปล้ำสู้กับปัญหาที่ท้าทายกว่าซึ่งจะมีมาในวันข้างหน้าอาจเปรียบได้กับการวิ่งแข่งกับ “ม้า.” เป็นเรื่องที่จะต้องใช้ความอดทนอย่างมากเมื่อคนเราต้องวิ่งให้ทันม้าที่กำลังควบวิ่ง. ดังนั้น การที่เราอดทนการทดสอบที่มีอยู่ในเวลานี้จึงเป็นประโยชน์ เพราะนั่นอาจช่วยเตรียมเราไว้ให้อดทนการทดสอบที่จะมีมาในวันข้างหน้า.
20. คุณตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำอะไร?
20 เราทุกคนสามารถเลียนแบบยิระมะยาห์และทำงานมอบหมายในการประกาศให้สำเร็จได้! คุณลักษณะต่าง ๆ เช่น ความรัก, ความกล้าหาญ, และความยินดีกระตุ้นยิระมะยาห์ให้ทำงานรับใช้อย่างซื่อสัตย์นานถึง 67 ปี. ดอกที่สวยงามของต้นอัลมอนด์ทำให้เราระลึกว่าพระยะโฮวาจะ “ตื่นตัวเสมอ” ในการทำให้คำตรัสของพระองค์สำเร็จ. ดังนั้น เรามีเหตุผลที่ดีที่จะทำอย่างเดียวกัน. ยิระมะยาห์ “ตื่นตัวเสมอ” และเราก็สามารถทำอย่างนั้นได้.
คุณจำได้ไหม?
• ความรักช่วยยิระมะยาห์ให้ “ตื่นตัวเสมอ” ในการทำงานมอบหมายของท่านอย่างไร?
• เหตุใดเราจำเป็นต้องมีความกล้าหาญที่มาจากพระเจ้า?
• อะไรช่วยยิระมะยาห์รักษาความยินดีไว้?
• เหตุใดคุณควร “ตื่นตัวเสมอ”?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 31]
คุณจะประกาศต่อ ๆ ไปไหมแม้ถูกต่อต้าน?