พระยะโฮวาทรงเห็นคุณค่าผู้ที่ถ่อมใจ
จงใกล้ชิดพระเจ้า
พระยะโฮวาทรงเห็นคุณค่าผู้ที่ถ่อมใจ
ความหยิ่ง, ความอิจฉา, ความทะเยอทะยาน เป็นลักษณะนิสัยที่มักจะพบเห็นในผู้คนที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้. แต่ลักษณะดังกล่าวทำให้เราใกล้ชิดพระยะโฮวาพระเจ้าไหม? ไม่เลย. ตรงกันข้าม พระยะโฮวาทรงเห็นคุณค่าผู้นมัสการที่ถ่อมใจ. เรื่องนี้เห็นได้ชัดจากบันทึกเรื่องราวในอาฤธโมบท 12. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ถิ่นทุรกันดารไซนาย หลังจากพระเจ้าได้ช่วยชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์แล้ว.
มิระยามและอาโรน พี่ของโมเซได้ “พูดต่อต้าน” โมเซ น้องชายของตน. (ข้อ 1, ฉบับมาตรฐาน 2002) แทนที่จะพูดกับโมเซโดยตรง พวกเขาพูดต่อต้าน ท่าน อาจจะโดยการแพร่คำบ่นไปทั่วค่ายพัก. เนื่องจากมิระยามถูกเอ่ยชื่อก่อน จึงดูเหมือนว่าเธอจะเป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้. เหตุผลแรกที่พวกเขาบ่นว่าโมเซคือเรื่องที่โมเซไปแต่งงานกับหญิงชาวคูศ. เป็นไปได้ไหมว่ามิระยามอาจอิจฉาที่มีหญิงอื่นมาบดบังความสำคัญของเธอ แถมยังไม่ใช่ชาวอิสราเอลอีกด้วย?
มีเหตุผลอื่นอีกที่พวกเขาบ่นว่าโมเซ. มิระยามกับอาโรนพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า “พระยะโฮวาได้ตรัสจำเพาะโดยโมเซคนเดียวหรือ? พระองค์ไม่ได้ตรัสโดยเราด้วยหรือ?” (ข้อ 2) เป็นไปได้ไหมว่าแรงกระตุ้นที่แท้จริงที่ทำให้พวกเขาบ่นคือความปรารถนาจะได้อำนาจและการยอมรับนับถือมากขึ้น?
ตามบันทึกเรื่องนี้ โมเซไม่ได้พูดตอบคำบ่นนั้น. ดูเหมือนว่า ท่านปล่อยให้พวกเขาบ่นว่าโดยไม่พูดอะไร. การที่ท่านยอมทนโดยไม่ปริปากยืนยันว่าท่านเป็น “คนถ่อมจิตใจอ่อนยิ่งมากกว่าคนทั้งปวง” ที่อยู่บนโลก ดังที่คัมภีร์ไบเบิลพรรณนาไว้จริง ๆ. * (ข้อ 3) โมเซไม่จำเป็นต้องชี้แจงเรื่องนี้ด้วยตนเอง. พระยะโฮวาทรงฟังอยู่ และพระองค์ทรงปกป้องโมเซ.
พระยะโฮวาทรงถือว่าคำบ่นนั้นเป็นการบ่นต่อต้านพระองค์โดยตรง. พระองค์เป็นผู้แต่งตั้งโมเซ. พระเจ้าทรงตำหนิมิระยามกับอาโรน และเตือนพวกเขาว่าพระองค์ทรงมีสัมพันธภาพพิเศษกับโมเซ โดยตรัสว่า “เราพูดกับเขาโดยตรง.” แล้วพระยะโฮวาทรงถามมิระยามกับอาโรนว่า “ทำไมเจ้าจึงไม่กลัวที่จะพูดคัดค้านโมเซ?” (ข้อ 8, ล.ม.) โดยการพูดต่อต้านโมเซ แท้จริงแล้ว พวกเขาได้พูดต่อต้านพระเจ้า. การพูดโดยขาดความนับถืออย่างยิ่งเช่นนั้นยังผลให้พวกเขาต้องประสบพระพิโรธของพระองค์.
มิระยามซึ่งดูเหมือนเป็นตัวการในเรื่องนี้ได้กลายเป็นโรคเรื้อน. อาโรนขอร้องโมเซทันทีให้ช่วยทูลอ้อนวอนพระเจ้าเพื่อมิระยาม. คิดดูสิ ตอนนี้มิระยามต้องพึ่งความช่วยเหลือจากโมเซ ผู้ที่เธอเคยบ่นว่า! โมเซทำตามที่อาโรนขอด้วยความถ่อมใจ. ท่านได้ทูลอ้อนวอนอย่างจริงจังต่อพระยะโฮวาเพื่อพี่สาว ซึ่งเป็นการพูดครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกบ่นว่า. มิระยามหายจากโรคเรื้อน แต่เธอต้องทนรับความอับอายเพราะถูกกักตัวอยู่เจ็ดวัน.
เรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจชัดเจนว่าลักษณะนิสัยแบบใดที่พระยะโฮวาทรงถือว่ามีค่าและแบบใดที่พระองค์ทรงตำหนิ. ถ้าเราต้องการใกล้ชิดพระเจ้า เราก็ต้องพยายามขจัดลักษณะนิสัยใด ๆ ที่แสดงถึงความหยิ่ง, ความอิจฉา, และความทะเยอทะยานที่อาจมีในตัวเรา. พระยะโฮวาทรงรักคนที่ถ่อมใจ. พระองค์ทรงสัญญาว่า “คนทั้งหลายที่มีใจถ่อมลงจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และเขาจะชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:11; ยาโกโบ 4:6
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 4 ความถ่อมเป็นคุณลักษณะที่เข้มแข็งซึ่งช่วยให้คนเราสามารถทนต่อความอยุติธรรมด้วยความอดกลั้นและไม่คิดแก้แค้น.