ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

วันแห่งความคาดหวังและความปลื้มปีติ

วันแห่งความคาดหวังและความปลื้มปีติ

วัน​สำเร็จ​การ​ศึกษา​ของ​นัก​เรียน​กิเลียด​รุ่น​ที่ 130

วัน​แห่ง​ความ​คาด​หวัง​และ​ความ​ปลื้ม​ปีติ

วัน​สำเร็จ​การ​ศึกษา​ของ​นัก​เรียน​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด​รุ่น​ที่ 130 เป็น​วัน​แห่ง​ความ​คาด​หวัง​และ​ความ​ปลื้ม​ปีติ​อย่าง​แท้​จริง. วัน​เสาร์​ที่ 12 มีนาคม 2011 ผู้​เข้า​ร่วม​ประชุม​มาก​กว่า 8,500 คน​มา​ชุมนุม​กัน​ใน​โอกาส​นี้ ซึ่ง​รวม​ทั้ง​นัก​เรียน​กับ​ครอบครัว​และ​เพื่อน ๆ ของ​พวก​เขา. ทุก​คน​ต่าง​รอ​คอย​ให้​ถึง​วัน​นี้ เพราะ​นอก​จาก​จะ​เป็น​วัน​สำเร็จ​การ​ศึกษา​แล้ว วัน​นี้​พวก​เขา​ยัง​จะ​ได้​รู้​ว่า​มิชชันนารี​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​อย่าง​ดี​เหล่า​นี้​จะ​ถูก​ส่ง​ไป​ยัง​ประเทศ​ใด​บ้าง​เพื่อ​สอน​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล.

“ความ​สุข​ย่อม​มี​แก่​ผู้​ที่​คอย​ท่า” พระ​ยะโฮวา

ถ้อย​คำ​ที่​ให้​กำลังใจ​นี้​มา​จาก​ยะซายา 30:18 และ​เป็น​หัวเรื่อง​คำ​บรรยาย​ของ​เจฟฟรีย์ แจ็กสัน สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​และ​ประธาน​การ​ประชุม. ใน​คำ​บรรยาย​ที่​อบอุ่น​และ​แฝง​อารมณ์​ขัน​นี้ บราเดอร์​แจ็กสัน​ได้​แสดง​ความ​ยินดี​และ​ชมเชย​นัก​เรียน​ที่​ผ่าน​การ​ฝึก​อบรม​อย่าง​หนัก​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด และ​ให้​ความ​มั่น​ใจ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ทำ​ได้​ดี​เช่น​กัน​ใน​วัน​สำเร็จ​การ​ศึกษา​นี้. มี​อะไร​บ้าง​ที่​นัก​เรียน​อาจ​คาด​หมาย​ได้​เมื่อ​ออก​ไป​รับใช้​ใน​เขต​งาน​จริง? เขา​ให้​ข้อ​คิด​ที่​เป็น​ประโยชน์​สาม​ประการ​จาก​ยะซายา 30:18-21.

ประการ​แรก บราเดอร์​แจ็กสัน​กล่าว​ว่า “คุณ​คาด​หมาย​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ของ​คุณ.” เขา​ชี้​ถึง​คำ​รับรอง​ใน​ข้อ 19 ที่​ว่า “พอ​ได้​ยิน​เสียง​เจ้า​ร้องไห้ [พระเจ้า] จะ​ทรง​เมตตา​แก่​เจ้า.” บราเดอร์​แจ็กสัน​ชวน​ให้​สังเกต​คำ​สรรพนาม “เจ้า” ใน​ประโยค​นี้. ใน​ภาษา​ฮีบรู​คำ​นี้​อยู่​ใน​รูป​เอกพจน์​ไม่​ใช่​พหูพจน์ ซึ่ง​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา​เป็น​ราย​บุคคล. “ใน​ฐานะ​พระ​บิดา พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ถาม​ว่า ‘ทำไม​เจ้า​ไม่​เข้มแข็ง​เหมือน​คน​อื่น ๆ บ้าง?’ แทน​ที่​จะ​ถาม​เช่น​นั้น พระองค์​จะ​ฟัง​เรา​แต่​ละ​คน​ด้วย​ความ​สน​พระทัย และ​จะ​ทรง​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา.”

ประการ​ที่​สอง ผู้​บรรยาย​ยอม​รับ​ว่า​เรา​คาด​หมาย​ได้​ว่า​จะ​ต้อง​เจอ​ปัญหา​หลาย​อย่าง. “พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​สัญญา​ว่า​ชีวิต​ของ​เรา​จะ​ราบรื่น แต่​พระองค์​สัญญา​ว่า​จะ​ช่วย​เรา.” ดัง​ที่​กล่าว​ใน​ข้อ 20 พระเจ้า​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​เมื่อ​ชาว​อิสราเอล​ถูก​ล้อม พวก​เขา​จะ​ต้อง​เจอ​กับ​ความ​ทุกข์​และ​การ​กดขี่​ข่มเหง​ทุก​วัน​จน​ชา​ชิน ราว​กับ​ว่า​ความ​ทุกข์​นั้น​เป็น​ขนมปัง​และ​น้ำ​ที่​พวก​เขา​กิน​อยู่​ทุก​วัน. แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​พร้อม​เสมอ​ที่​จะ​ช่วยเหลือ​ประชาชน​ของ​พระองค์. นัก​เรียน​กิเลียด​ก็​ต้อง​เจอ​กับ​ปัญหา​และ​ข้อ​ท้าทาย​ต่าง ๆ เช่น​กัน แม้​จะ​ไม่​ใช่​อย่าง​ที่​พวก​เขา​คาด​คิด! บราเดอร์​แจ็กสัน​กล่าว​อีก​ว่า “แต่​คุณ​สามารถ คาด​หมาย​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​คอย​ช่วยเหลือ​คุณ​เพื่อ​คุณ​จะ​รับมือ​กับ​ปัญหา​ทุก​อย่าง​ได้.”

ประการ​ที่​สาม บราเดอร์​แจ็กสัน​ให้​ข้อ​เตือน​ใจ​แก่​นัก​เรียน​จาก​ข้อ 20 และ 21 ว่า “คุณ​คาด​หมาย​ได้​เลย​ว่า​จะ​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ. ดัง​นั้น จง​มอง​หา​ว่า​การ​ชี้​นำ​จะ​มา​ทาง​ไหน!” เขา​กล่าว​ว่า​ทุก​วัน​นี้​คริสเตียน​ทุก​คน​ต้อง​ฟัง​อย่าง​ตั้งใจ​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ตรัส​ผ่าน​ทาง​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​หนังสือ​อื่น ๆ ที่​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก. ผู้​บรรยาย​สนับสนุน​นัก​เรียน​ทุก​คน​อย่าง​อบอุ่น​ให้​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ประจำ​ทุก​วัน เพราะ​นั่น​หมาย​ถึง​ชีวิต.

“จง​ให้​ความ​กลัว​เกรง​พระ​ยะโฮวา​สวม​ทับ​พวก​ท่าน​ไว้”

แอนโทนี มอร์ริส สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​อธิบาย​ความ​หมาย​ของ​สำนวน “ความ​กลัว​เกรง​พระ​ยะโฮวา” ใน​พระ​คัมภีร์. (2 โครนิกา 19:7) สำนวน​นี้​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​ความ​หวาด​กลัว​จน​ขน​ลุก​ขน​พอง แต่​หมาย​ถึง​ความ​ปรารถนา​อย่าง​แรง​กล้า​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ถูก​ต้อง เป็น​ความ​ยำเกรง​สุด​ซึ้ง​อย่าง​จริง​ใจ​จน​ถึง​กับ​ตัว​สั่น​ด้วย​ความ​ประหม่า. บราเดอร์​มอร์ริส​กระตุ้น​นัก​เรียน​ว่า “จง​มี​ความ​เกรง​กลัว​เช่น​นั้น​เสมอ​เมื่อ​คุณ​ไป​ยัง​เขต​งาน​มิชชันนารี​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย.” พวก​เขา​จะ​แสดง​ความ​ยำเกรง​พระ​ยะโฮวา​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? ผู้​บรรยาย​ชี้​ถึง​สอง​วิธี​ที่​จะ​ทำ​ได้.

วิธี​แรก บราเดอร์​มอร์ริส​สนับสนุน​ให้​นัก​เรียน​เอา​คำ​แนะ​นำ​ใน​ยาโกโบ 1:19 ไป​ใช้​ที่​ว่า “[จง] ไว​ใน​การ​ฟัง ช้า​ใน​การ​พูด.” เขา​กล่าว​ว่า​นัก​เรียน​ได้​เรียน​รู้​หลาย​สิ่ง​หลาย​อย่าง​ตลอด​ห้า​เดือน​ที่​ผ่าน​มา แต่​เมื่อ​ไป​ยัง​เขต​งาน​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​พวก​เขา​ต้อง​ระวัง​ที่​จะ​ไม่​โอ้อวด​ความ​รู้​ที่​ได้​ร่ำ​เรียน​มา. เขา​บอก​ว่า “คุณ​ต้อง​ฟัง​ก่อน. จง​ฟัง​พี่​น้อง​ใน​ประชาคม​และ​ฟัง​คน​ที่​นำ​หน้า​ใน​ประเทศ​ที่​คุณ​ถูก​ส่ง​ไป​รับใช้. จง​ฟัง​ว่า​พวก​เขา​พูด​ถึง​ประเทศ​และ​วัฒนธรรม​ของ​เขา​อย่าง​ไร. อย่า​อาย​ที่​จะ​พูด​ว่า ‘ผม​ไม่​รู้.’ ถ้า​คุณ​เข้าใจ​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​การ​อบรม​นี้​จริง ๆ คุณ​ก็​จะ​เห็น​ว่า​แม้​คุณ​ได้​เรียน​รู้​อะไร​มา​มาก​มาย​แล้ว แต่​ก็​ยัง​มี​อีก​มาก​ที่​คุณ​ต้อง​เรียน​รู้​ต่อ​ไป.”

วิธี​ที่​สอง บราเดอร์​มอร์ริส​อ่าน​สุภาษิต 27:21 (ฉบับ R73) ดัง​นี้: “เบ้า​มี​ไว้​สำหรับ​เงิน เตา​ถลุง​มี​ไว้​สำหรับ​ทองคำ คำ​สรรเสริญ​ของ​คน​จะ​พิสูจน์​คน.” เขา​อธิบาย​ว่า​เช่น​เดียว​กับ​ทองคำ​และ​เงิน​ที่​ต้อง​ผ่าน​การ​ถลุง​หรือ​ทำ​ให้​บริสุทธิ์ เรา​เอง​ก็​อาจ​ถูก​ทดสอบ​ด้วย​คำ​สรรเสริญ​เช่น​กัน. เป็น​เช่น​นั้น​อย่าง​ไร? คำ​สรรเสริญ​อาจ​เป็น​การ​ทดสอบ​ว่า​เรา​เป็น​คน​แบบ​ไหน. คำ​สรรเสริญ​อาจ​ทำ​ให้​ทะนง​ตัว​และ​สูญ​เสีย​ความ​โปรดปราน​จาก​พระเจ้า หรือ​อาจ​กระตุ้น​ให้​สำนึก​ว่า​เรา​เป็น​หนี้​พระ​ยะโฮวา​และ​ตั้งใจ​มาก​ขึ้น​ที่​จะ​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​ของ​พระองค์​อย่าง​เคร่งครัด. ดัง​นั้น บราเดอร์​มอร์ริส​จึง​สนับสนุน​นัก​เรียน​ให้​มี​ทัศนะ​ที่​ถูก​ต้อง​เมื่อ​ได้​รับ​คำ​สรรเสริญ​จาก​คน​อื่น คือ​มอง​ว่า​เป็น​โอกาส​ที่​จะ​แสดง “ความ​กลัว​เกรง​พระ​ยะโฮวา.”

“เห็น​คุณค่า​งาน​ที่​คุณ​ได้​รับ​มอบหมาย”

กาย เพียร์ซ​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​เป็น​ผู้​ให้​คำ​บรรยาย​หลัก​ของ​ระเบียบ​วาระ​นี้. ใน​คำ​บรรยาย​ที่​มี​หัวเรื่อง​ดัง​ข้าง​ต้น เขา​อธิบาย​ว่า “มิชชันนารี” หมาย​ถึง “ผู้​ที่​ถูก​ส่ง​ออก​ไป​ปฏิบัติ​ภารกิจ.” เขา​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า มี​มิชชันนารี​หลาย​ประเภท​ที่​ปฏิบัติ​ภารกิจ​อยู่​ทั่ว​โลก. มิชชันนารี​หลาย​กลุ่ม​เน้น​เรื่อง​การ​รักษา​โรค​และ​การ​แก้​ปัญหา​ต่าง ๆ ใน​โลก​โดย​นโยบาย​ทาง​การ​เมือง. แต่​เขา​กล่าว​ว่า “พวก​คุณ​ต่าง​จาก​มิชชันนารี​เหล่า​นั้น.” ใน​ทาง​ใด?

ระหว่าง​การ​ฝึก​อบรม พวก​นัก​เรียน​ได้​ศึกษา​เรื่อง​ราว​หลาย​ตอน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​กล่าว​ถึง​การ​รักษา​โรค. เมื่อ​พระ​เยซู​ปลุก​เด็ก​หญิง​คน​หนึ่ง​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย พ่อ​แม่​ของ​เธอ​ก็ “ตื่นเต้น​ดีใจ​ยิ่ง​นัก.” (มาระโก 5:42) อีก​ครั้ง​หนึ่ง ตอน​ที่​พระ​เยซู​รักษา​พวก​คน​ตา​บอด​ให้​หาย​โดย​การ​อัศจรรย์ พวก​เขา​ก็​พา​กัน​ยินดี​อย่าง​มาก. เหตุ​ผล​อย่าง​หนึ่ง​ที่​พระ​คริสต์​ทำ​การ​อัศจรรย์​เช่น​นั้น​ก็​เพื่อ​แสดง​ให้​พวก​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้​เห็น​ว่า​พระองค์​จะ​ทำ​อะไร​ให้​สำเร็จ​ใน​โลก​ใหม่​ที่​กำลัง​จะ​มา​ถึง. เมื่อ​ถึง​เวลา​นั้น “ชน​ฝูง​ใหญ่” หรือ​มนุษย์​ที่​ชอบธรรม​ซึ่ง​รอด​ชีวิต​ผ่าน​อวสาน​ของ​ระบบ​ชั่ว​นี้​จะ​ได้​รับ​การ​เยียว​ยา​รักษา​ให้​หาย​จาก​โรค​ภัย​ทุก​ชนิด. (วิวรณ์ 7:9, 14) คน​เหล่า​นี้​ซึ่ง​มี​สุขภาพ​สมบูรณ์​เต็ม​ที่​จะ​คอย​ต้อนรับ​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ของ​พวก​เขา​ซึ่ง​จะ​ถูก​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​พร้อม​กับ​ร่าง​กาย​ที่​แข็งแรง​สมบูรณ์​เช่น​กัน. ลอง​คิด​ดู​สิ​ว่า พวก​เขา​จะ​ชื่นชม​ยินดี​สัก​เพียง​ไร!

อย่าง​ไร​ก็​ตาม บราเดอร์​เพียร์ซ​อธิบาย​ว่า​การ​เยียว​ยา​รักษา​ด้าน​ร่าง​กาย​ไม่​ใช่​สิ่ง​สำคัญ​ที่​สุด. คน​ป่วย​ที่​พระ​เยซู​เคย​รักษา​ให้​หาย ใน​ที่​สุด​ก็​ป่วย​อีก. คน​ตาย​ที่​พระ​เยซู​เคย​ปลุก​ให้​ฟื้น ใน​ที่​สุด​ก็​ตาย​อีก. แม้​แต่​คน​ตา​บอด​ที่​พระองค์​รักษา​ให้​หาย ใน​ที่​สุด​ก็​มอง​ไม่​เห็น​อีก อย่าง​น้อย​ก็​ตอน​ที่​เขา​ตาย. แต่​พระ​เยซู​ทรง​ให้​การ​รักษา​ที่​สำคัญ​กว่า​นั้น​มาก​คือ​การ​ช่วย​ผู้​คน​ให้​กลับ​มา​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​พระเจ้า. มิชชันนารี​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด​ก็​มี​ภารกิจ​เช่น​เดียว​กับ​พระ​เยซู. มิชชันนารี​เหล่า​นั้น​ช่วย​ผู้​คน​ให้​กลับ​มา​คืน​ดี​กับ​พระ​บิดา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​มี​ชีวิต​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า. เฉพาะ​คน​ที่​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​ให้​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​พระเจ้า​เท่า​นั้น​จะ​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์. บราเดอร์​เพียร์ซ​กล่าว​ว่า “การ​ช่วย​ผู้​คน​ให้​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​พระองค์​ได้​รับ​คำ​สรรเสริญ. ถ้า​คุณ​ทำ​เช่น​นั้น คุณ​ก็​จะ​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ใน​ภารกิจ​ของ​คุณ.”

จุด​เด่น​อีก​สาม​จุด​จาก​ระเบียบ​วาระ​ใน​วัน​นั้น

“วัน​นี้​จะ​เป็น​วัน​ที่​ดี​ไหม?” โรเบิร์ต เรนส์ สมาชิก​คณะ​กรรมการ​สาขา​สหรัฐ ตั้ง​คำ​ถาม​ได้​เหมาะ​กับ​เวลา​จริง ๆ. เขา​สนับสนุน​ให้​นัก​เรียน​ทำ​แต่​ละ​วัน​ให้​เป็น​วัน​ที่​ดี​เมื่อ​ออก​ไป​รับใช้​ใน​เขต​งาน​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย โดย​ใช้​เวลา​ให้​เกิด​ประโยชน์​เต็ม​ที่ มอง​หา​คำ​แนะ​นำ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เมื่อ​มี​ความ​วิตก​กังวล และ​หมาย​พึ่ง​พระ​ยะโฮวา​โดย​การ​อธิษฐาน.

“คุณ​จะ​ทำ​ให้​บัญญัติ​เก่า​กลาย​เป็น​บัญญัติ​ใหม่​ได้​ไหม?” มาร์ก นูแมร์ ผู้​สอน​ของ​โรง​เรียน​กิเลียด​ตั้ง​คำ​ถาม​นี้​ใน​คำ​บรรยาย​ของ​เขา. เขา​ยก 1 โยฮัน 2:7, 8 ขึ้น​มา​พิจารณา. ใน​ข้อ​นั้น​อัครสาวก​โยฮัน​กล่าว​ถึง “บัญญัติ​เก่า” ซึ่ง​เป็น “บัญญัติ​ใหม่” ด้วย. บัญญัติ​ทั้ง​สอง​นี้​ก็​คือ​บัญญัติ​เดียว​กัน​ที่​บอก​ให้​สาวก​ของ​พระ​คริสต์​รัก​กัน​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​และ​มี​น้ำใจ​เสีย​สละ. (โยฮัน 13:34, 35) บัญญัติ​นี้​เป็น​บัญญัติ​เก่า​เพราะ​พระ​คริสต์​เอง​เคย​ให้​บัญญัติ​นี้​แก่​สาวก​ของ​พระองค์​เมื่อ​หลาย​สิบ​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น แต่​บัญญัติ​นี้​ก็​เป็น​บัญญัติ​ใหม่​ด้วย​เพราะ​คริสเตียน​ต้อง​เผชิญ​ปัญหา​และ​ข้อ​ท้าทาย​ใหม่ ๆ ซึ่ง​ทำ​ให้​พวก​เขา​ต้อง​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​กัน​ให้​มาก​ยิ่ง​ขึ้น​และ​ใน​วิธี​ใหม่ ๆ. มิชชันนารี​เอง​ก็​ต้อง​เผชิญ​กับ​สภาพการณ์​ใหม่​และ​จำเป็น​ต้อง​เรียน​รู้​ที่​จะ​แสดง​ความ​รัก​ใน​วิธี​ใหม่ ๆ. อะไร​จะ​ช่วย​ให้​พวก​เขา​ทำ​เช่น​นั้น​ได้?

บราเดอร์​นูแมร์​กระตุ้น​เตือน​ว่า “ถ้า​คุณ​เกลียด​อะไร​ก็​อย่า​เป็น​อย่าง​นั้น​เสีย​เอง.” เขา​เตือน​ว่า​ถ้า​เรา​เห็น​ใคร​ทำ​อะไร​ที่​เรา​ไม่​ชอบ แต่​เรา​ก็​ทำ​อย่าง​นั้น สุด​ท้าย​เรา​ก็​จะ​มี​นิสัย​แบบ​ที่​เรา​เกลียด​ซึ่ง​เป็น​ผล​เสีย​ต่อ​ตัว​เรา​เอง. ตรง​กัน​ข้าม ถ้า​เรา​ไม่​ตอบ​โต้​ด้วย​การ​กระทำ​ที่​ไม่​ดี​แต่​หา​วิธี​ใหม่ ๆ ที่​จะ​แสดง​ความ​รัก เรา​ก็​จะ​ส่อง “ความ​สว่าง​แท้” และ​ขับ​ไล่​สิ่ง​ไม่​ดี​ซึ่ง​เปรียบ​เหมือน​ความ​มืด​ออก​ไป​ได้.

“แบก​ของ​หนัก.” ไมเคิล เบอร์เนตต์ ผู้​สอน​อีก​คน​หนึ่ง​ของ​โรง​เรียน​กิเลียด​บรรยาย​หัวเรื่อง​ดัง​กล่าว. เขา​เล่า​ว่า​ผู้​คน​ใน​ทวีป​แอฟริกา​มัก​จะ​แบก​ของ​หนัก​โดย​เทิน​ของ​ไว้​บน​ศีรษะ. พวก​เขา​ใช้​กา​ตา ซึ่ง​เป็น​ผ้า​ที่​ขด​เป็น​วง​เล็ก ๆ วาง​ไว้​บน​ศีรษะ​เพื่อ​รอง​รับ​ของ​หนัก. ขด​ผ้า​นี้​ช่วย​ให้​พวก​เขา​ทรง​ตัว​ได้​ดี​และ​เดิน​อย่าง​สง่า​งาม. เมื่อ​ไป​ยัง​เขต​งาน​ต่าง​ประเทศ มิชชันนารี​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด​ก็​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ซึ่ง​เป็น​เหมือน​ของ​หนัก​ที่​เขา​ต้อง​แบก แต่​พวก​เขา​ได้​รับ​สิ่ง​ซึ่ง​เป็น​เหมือน​กา​ตา นั่น​คือ​การ​ฝึก​อบรม​ที่​ดี​เยี่ยม​ตาม​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล. ถ้า​พวก​เขา​นำ​สิ่ง​ที่​เรียน​รู้​ไป​ใช้ พวก​เขา​ก็​จะ​สามารถ​แบก​ภาระ​ต่าง ๆ ได้​อย่าง​สมดุล.

ประสบการณ์​และ​การ​สัมภาษณ์

การ​ฝึก​อบรม​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด​ยัง​รวม​ถึง​การ​ออก​ไป​ทำ​งาน​เผยแพร่​ร่วม​กับ​ประชาคม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ท้องถิ่น​ด้วย. วิลเลียม แซมมูเอล​สัน ผู้​ดู​แล​แผนก​โรง​เรียน​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​ได้​เล่า​ประสบการณ์​ของ​นัก​เรียน​บาง​คน​ใน​คำ​บรรยาย​ที่​ชื่อ​ว่า “อย่า​ให้​มือ​ของ​ท่าน​ว่าง​งาน.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 11:6, ฉบับ​อมตธรรม​ร่วม​สมัย ) นัก​เรียน​ได้​สาธิต​อย่าง​มี​ชีวิต​ชีวา​จาก​ประสบการณ์​จริง​ซึ่ง​แสดง​ว่า​พวก​เขา​ได้​ทำ​งาน​รับใช้​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง. พวก​เขา​หา​โอกาส​บอก​ข่าว​ดี ไม่​ว่า​บน​เครื่องบิน ใน​ร้าน​อาหาร หรือ​ที่​สถานี​บริการ​น้ำมัน. พวก​เขา​ใช้​วิธี​ต่าง ๆ ทั้ง​การ​ประกาศ​ตาม​บ้าน ให้​คำ​พยาน​เมื่อ​สบ​โอกาส และ​เขียน​จดหมาย. มือ​ของ​พวก​เขา​ไม่​เคย​ว่าง และ​ผล​ที่​ได้​รับ​ก็​ยอด​เยี่ยม​จริง ๆ.

จาก​นั้น เคนเนท สโตวอลล์ ตัว​แทน​ของ​โรง​เรียน​กิเลียด​ได้​สัมภาษณ์​พี่​น้อง​ชาย​สาม​คน​ซึ่ง​เป็น​อดีต​มิชชันนารี​ที่​มี​ประสบการณ์​มาก คือ​แบรี ฮิลล์ ซึ่ง​เคย​รับใช้​ใน​เอกวาดอร์​และ​สาธารณรัฐ​โดมินิกัน, เอดดี โมบลี รับใช้​ใน​โกตดิวัวร์, และ​แท็บ ฮอนส์เบอร์เกอร์ รับใช้​ใน​เซเนกัล เบนิน และ​เฮติ. ส่วน​สัมภาษณ์​นี้​มี​หัวเรื่อง​ว่า “จง​ลอง​ดู​พระ​ยะโฮวา​และ​ชื่นชม​กับ​พระ​พร​มาก​มาย” และ​ประสบการณ์​ของ​พี่​น้อง​ทั้ง​สาม​คน​สนับสนุน​หัวเรื่อง​นี้​ได้​อย่าง​เหมาะเจาะ. (มาลาคี 3:10) ตัว​อย่าง​เช่น บราเดอร์​ฮิลล์​เล่า​ว่า​เขา​กับ​ภรรยา​ต้อง​รับมือ​กับ​สภาพ​อากาศ​ใน​เอกวาดอร์ ซึ่ง​บาง​ครั้ง​ก็​ร้อน​และ​แห้ง​แล้ง​มาก​จน​มี​แต่​ฝุ่น แต่​บาง​ครั้ง​ก็​ร้อน​และ​มี​ฝน​ตก​ชุก​จน​พื้น​ดิน​เป็น​โคลน. เขา​เล่า​ว่า​ตลอด​สอง​ปี​ครึ่ง​ที่​อยู่​ที่​นั่น​พวก​เขา​ต้อง​ตัก​น้ำ​อาบ. แต่​พวก​เขา​ก็​ไม่​เคย​คิด​จะ​ย้าย​ออก​จาก​ที่​นั่น. พวก​เขา​ถือ​ว่า​งาน​มอบหมาย​ที่​ได้​รับ​เป็น​พระ​พร​จาก​พระ​ยะโฮวา. เขา​บอก​ว่า “งาน​นี้​เป็น​ชีวิต​ของ​เรา.”

ใน​ตอน​ท้าย​ของ​ระเบียบ​วาระ ตัว​แทน​นัก​เรียน​ได้​อ่าน​จดหมาย​ขอบคุณ​จาก​หัวใจ​ที่​เขียน​ได้​อย่าง​ซาบซึ้ง. จดหมาย​นั้น​กล่าว​ว่า “ความ​เชื่อ​ของ​เรา​เพิ่ม​พูน​ขึ้น​อย่าง​ไม่​เคย​เป็น​มา​ก่อน แต่​เรา​ก็​ยัง​ต้อง​พัฒนา​ตัว​เอง​ต่อ​ไป​เรื่อย ๆ.” นัก​เรียน​ทุก​คน​ได้​รับ​ใบ​ประกาศนียบัตร​และ​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ใน​ประเทศ​ต่าง ๆ แทบ​ทุก​ทวีป. บราเดอร์​แจ็กสัน​กล่าว​ปิด​การ​ประชุม​โดย​ให้​คำ​รับรอง​กับ​นัก​เรียน​ว่า พวก​เขา​คาด​หมาย​ได้​ว่า​จะ​เห็น​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา​ใน​วัน​ข้าง​หน้า โดย​เฉพาะ​เมื่อ​ต้อง​เผชิญ​กับ​ปัญหา​ต่าง ๆ. ผู้​เข้า​ร่วม​ทุก​คน​กลับ​ไป​พร้อม​กับ​ความ​ปลื้ม​ปีติ​และ​ความ​คาด​หวัง​ที่​เจิดจ้า​ยิ่ง​ขึ้น. ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า พระ​ยะโฮวา​จะ​ใช้​มิชชันนารี​ใหม่​เหล่า​นี้​เพื่อ​ทำ​สิ่ง​ดี ๆ อีก​มาก​มาย.

[ตาราง/​แผนที่​หน้า 31]

สถิติ​ชั้น​เรียน

นัก​เรียน​มา​จาก 9 ประเทศ

เฉลี่ย​อายุ 34.0 ปี

เฉลี่ย​จำนวน​ปี​ที่​รับ​บัพติสมา 18.6 ปี

เฉลี่ย​จำนวน​ปี​ที่​รับใช้​เต็ม​เวลา 13.1 ปี

[แผนที่]

(ดู​ราย​ละเอียด​จาก​วารสาร)

นัก​เรียน​ได้​รับ​มอบหมาย​ไป​ยัง​ประเทศ​ต่าง ๆ ดัง​แสดง​ไว้​ข้าง​ล่าง

เขต​มอบหมาย​ของ​มิชชันนารี

อาร์เจนตินา

อาร์เมเนีย

บูร์กินาฟาโซ

บุรุนดี

คองโก (กินชาซา)

สาธารณรัฐ​เช็ก

เฮติ

ฮ่องกง

อินโดนีเซีย

เคนยา

ลิทัวเนีย

มาเลเซีย

โมซัมบิก

เนปาล

ปาปัวนิวกินี

โรมาเนีย

เซเนกัล

แทนซาเนีย

ยูกันดา

ซิมบับเว

[ภาพ​หน้า 31]

ผู้​สำเร็จ​การ​ศึกษา​รุ่น​ที่ 130 ของ​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด

ราย​ชื่อ​ข้าง​ล่าง​นี้​นับ​จาก​แถว​หน้า​ไป​แถว​หลัง และ​เรียง​ลำดับ​จาก​ซ้าย​ไป​ขวา.

(1) Molina Z.; Bassolino S.; Alatsis C.; Arroyo A.; Niño L.; Merkling S.; Clark M.

(2) Little C.; Tibaudo S.; Jakobsson S.; Moreno J.; Rodriguez A.; Lee K.; Cárdenas H.; Aguilar L.

(3) Clairbush A.; Polley A.; Caldwell S.; Adame J.; Hildebrandt S.; Shoemaker I.; Grohman N.; Galvez G.

(4) Clark J.; Bassolino A.; Packham K.; Adame J.; Knaus M.; Niño M.; Moreno R.; Galvez J.

(5) Rodriguez D.; Geynes M.; Molina J.; Aguilar A.; Alatsis I.; Manno A.; Grohman R.; Packham J.

(6) Geynes S.; Cárdenas M.; Arroyo C.; Manno C.; Merkling J.; Lee H.; Clairbush X.; Jakobsson P.

(7) Little J.; Hildebrandt B.; Shoemaker M.; Knaus K.; Caldwell J.; Tibaudo F.; Polley C.