ฉันจะต้านทานการล่อใจได้อย่างไร?
บท 9
ฉันจะต้านทานการล่อใจได้อย่างไร?
คาเรนอยู่ที่งานปาร์ตีไม่ถึงสิบนาที เธอก็เห็นเด็กหนุ่มสองคนหอบของถุงใหญ่ ๆ เข้ามา. คาเรนรู้ว่าในถุงเหล่านั้นมีอะไร เพราะก่อนจะไปที่งาน เธอได้ยินหนุ่มสองคนนั้นพูดว่า งานนี้ “เหล้าเบียร์เพียบ.”
แล้วจู่ ๆ คาเรนก็ได้ยินเสียงคุ้น ๆ จากข้างหลัง. “ยืนเฉย ๆ อยู่ทำไมล่ะ ยาย?” คาเรนหันมาเจอเจสสิกาเพื่อนของเธอถือเบียร์ที่เปิดแล้วสองขวด. เจสสิกายื่นขวดหนึ่งมาให้คาเรนและพูดว่า “อย่าบอกนะว่า เธอเด็กเกินไปที่จะร่วมสนุกด้วย.”
คาเรนอยากปฏิเสธ แต่แรงกดดันมีพลังมากกว่าที่เธอคิด. เจสสิกาเป็นเพื่อนเธอและเธอเองก็ไม่อยากเป็น “ยาย” อย่างที่เจสสิกาเรียก. แล้วเจสสิกายังเป็นเด็กดีด้วย. ถ้าเจสสิกาดื่มได้ เธอก็น่าจะดื่มได้. คาเรนบอกตัวเองว่า ‘มันก็แค่เบียร์ ไม่ใช่ยาเสพติดหรือการมีเซ็กซ์.’
เมื่ออยู่ในช่วงวัยรุ่น การล่อใจมีหลายแบบและมักจะเป็นเรื่องเพศตรงข้าม. รามอน อายุ 17 บอกว่า “เด็กผู้หญิงที่โรงเรียนก๋ากั่นมาก. พวกเธออยากแตะเนื้อต้องตัวคุณและดูว่าคุณจะยอมถึงแค่ไหน. ถึงห้ามพวกเธอก็ไม่หยุด.” ดีนนา อายุ 17 ก็พูดคล้ายกันว่า “หนุ่มคนหนึ่งเดินมาแล้วก็เอาแขนมาโอบฉัน. ฉันชกเขาที่แขนและบอกว่า ‘นี่นายทำอะไร? ฉันไม่รู้จักนายเลย.’”
คุณเองก็อาจเจอการล่อใจ และดูเหมือนจะมีมาอยู่เรื่อย ๆ เหมือนมีคนเคาะประตูไม่หยุดทั้ง ๆ ที่คุณแขวนป้ายว่า “อย่ารบกวน.” คุณล่ะได้ยินเสียงเคาะนั้นบ่อยไหม? ในสิ่งต่อไปนี้ มีสิ่งไหนไหมที่ล่อใจคุณ?
□ การสูบบุหรี่
□ การดูสื่อลามก
□ การดื่มแอลกอฮอล์
□ การมีเซ็กซ์
□ การใช้ยาเสพติด
□ อื่น ๆ ․․․․․
ถ้าคุณขีด ✔ หน้าข้อใดข้อหนึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่เหมาะจะเป็นคริสเตียน. คุณเรียนรู้ที่จะควบคุมความปรารถนาที่ผิดและต้านทานการล่อใจได้. จะทำอย่างไรล่ะ? ต้องรู้ก่อนว่าทำไมคนเราจึงมักทำผิด. ให้มาดูปัจจัยสามอย่าง.
1. ความไม่สมบูรณ์. มนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ทุกคนต่างมีแนวโน้มจะทำผิด. แม้แต่อัครสาวกเปาโลซึ่งเป็นคริสเตียนอาวุโสยังยอมรับว่า “เมื่อข้าพเจ้าอยากทำสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งชั่วก็อยู่ในตัวข้าพเจ้า.” (โรม 7:21) ดังนั้น แม้แต่คนดีที่น่านับถือก็ยังมี ‘ความปรารถนาทางกายและความปรารถนาทางตา’ เป็นครั้งคราว. (1 โยฮัน 2:16) แต่ถ้าเอาแต่หมกมุ่นกับเรื่องนั้นก็จะยิ่งแย่ เพราะคัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “เมื่อความปรารถนานั้นมากพอจะเกิดผลก็จะทำให้เกิดบาป.”—ยาโกโบ 1:15
2. อิทธิพลภายนอก. การล่อใจมีอยู่ทุกหนแห่ง. ทรูดีบอกว่า “ผู้คนพูดเรื่องเพศตลอดเวลาทั้งที่โรงเรียนและที่ทำงาน. เรื่องเพศเป็นเรื่องที่ดูมีเสน่ห์และน่าตื่นเต้นจริง ๆ ทั้งในโทรทัศน์และภาพยนตร์. ผู้คนแทบจะไม่เห็นผลเสียเลย.” จากประสบการณ์ ทรูดีรู้ว่าอิทธิพลจากเพื่อน ๆ และสื่อต่าง ๆ มีพลังมากแค่ไหน. เธอเล่าว่า “ตอนอายุ 16 ฉันคิดว่าตัวเองกำลังมีความรัก. แม่มาคุยกับฉันว่า ถ้าฉันยังทำตัวแบบนี้ สักวันฉันจะต้องท้อง. ฉันตกใจมากที่แม่พูดอย่างนั้น. แต่สองเดือนต่อมา ฉันก็ท้อง.”
3. “ความปรารถนาซึ่งมักเกิดขึ้นในวัยหนุ่มสาว.” (2 ติโมเธียว 2:22) วลีนี้หมายรวมถึงความปรารถนาตามปกติทุกอย่างในวัยหนุ่มสาว เช่น อยากเป็นที่ยอมรับหรืออยากเป็นตัวของตัวเอง. ความปรารถนาเหล่านี้จริง ๆ แล้วไม่ผิด แต่หากไม่ควบคุม คุณจะต้านทานการล่อใจได้ยาก. เช่น การที่คุณอยากเป็นตัวของตัวเองอาจทำให้คุณไม่ยอมฟังสิ่งดี ๆ ที่พ่อแม่สอน. นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสตีฟตอนอายุ 17. เขาบอกว่า “ผมแข็งข้อกับพ่อแม่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อแม่บอกว่าอย่า ผมจะจงใจทำ. นี่เกิดขึ้นหลังจากผมรับบัพติสมาไม่นาน.”
วิธีต้านทาน
ปัจจัยที่เอ่ยถึงข้างต้นมีพลังมาก. แต่คุณต้านทานได้. โดยวิธีใด?
● ให้คิดก่อนว่าสิ่งไหนที่คุณต้านทานได้ยากที่สุด. (คุณอาจทำไปแล้วในหน้า 65)
● จากนั้น ถามตัวเองว่า ‘การล่อใจนี้มักเกิดขึ้นเมื่อไร?’ ให้เลือกข้อหนึ่งโดยขีด ✔.
□ เมื่ออยู่ที่โรงเรียน
□ เมื่ออยู่ตามลำพัง
□ เมื่ออยู่ที่ทำงาน
□ อื่น ๆ ․․․․․
ถ้าคุณรู้ว่าการล่อใจมักเกิดขึ้นเมื่อไร นั่นจะช่วยคุณให้ไม่ต้องเจอการล่อใจนั้นเลย. เช่น ให้ย้อนคิดถึงเหตุการณ์ในตอนต้นของบทนี้. อะไรทำให้คาเรนรู้ว่าจะมีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้นในงานปาร์ตี?
․․․․․
เธอจะไม่ต้องเจอการล่อใจเลย ถ้าเธอทำอะไร?
․․․․․
● เมื่อคุณรู้ว่าอะไรคือการล่อใจ และรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ทีนี้คุณคงพร้อมจะต้านทานแล้ว. สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ให้คิดว่าต้องทำอย่างไรเพื่อจะไม่เจอการล่อใจหรือเจอน้อยที่สุด. เขียนสิ่งที่คุณจะทำ.
․․․․․
(ตัวอย่าง: ถ้าหลังเลิกเรียนคุณมักต้องเจอเพื่อนนักเรียนที่ชอบยุให้สูบบุหรี่ คุณก็อาจกลับบ้านทางอื่นเพื่อจะไม่ต้องเจอพวกเขา. หรือถ้าคุณได้รับสื่อลามกทางอินเทอร์เน็ตบ่อย ๆ คุณอาจลงโปรแกรมที่สามารถบล็อกแหล่งที่ส่งหรือเว็บไซต์ที่คล้ายกัน. และคุณอาจต้องใช้คำที่เจาะจงมากขึ้นเมื่อจะค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต.)
แน่นอน คุณไม่อาจเลี่ยงการล่อใจได้ทั้งหมด. ในที่สุด คุณอาจต้องเจอการล่อใจที่ต้านทานยากในเวลาที่คุณคาดไม่ถึง. ถ้าเช่นนั้น คุณจะทำอย่างไร?
เตรียมพร้อม
เมื่อพระเยซู “ถูกซาตานล่อใจ” พระองค์ปฏิเสธทันที. (มาระโก 1:13) เพราะเหตุใด? เพราะพระองค์ตัดสิน ใจไว้แล้วว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น. พระเยซูตั้งใจแล้วว่าจะเชื่อฟังพระบิดาตลอดเวลา. (โยฮัน 8:28, 29) พระเยซูตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อพระองค์ตรัสว่า “เราลงมาจากสวรรค์ ไม่ใช่เพื่อทำตามใจเราเอง แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา.”—โยฮัน 6:38
ในหน้าถัดไป ให้เขียนมาสองเหตุผลว่าทำไมคุณควรต้านทานการล่อใจที่พบบ่อย ๆ และเขียนสองวิธีที่จะช่วยคุณต้านทานการล่อใจนั้น.
เหตุผลที่คุณควรต้านทานการล่อใจ
1 ․․․․․
2 ․․․․․
คุณจะทำอะไรเพื่อต้านทานการล่อใจ
1 ․․․․․
2 ․․․․․
จำไว้ว่า ถ้าคุณยอมแพ้การล่อใจ คุณก็กลายเป็นทาสความปรารถนาของคุณเอง. (ทิทุส 3:3) ทำไมถึงยอมให้มันควบคุมคุณล่ะ? ถ้าคุณควบคุมความปรารถนานั้นแทนที่จะยอมให้มันควบคุมคุณ คุณก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว. (โกโลซาย 3:5) และเพื่อจะทำเช่นนี้ได้ต่อ ๆ ไป จงอธิษฐานขอพระยะโฮวาให้ช่วยคุณ.—มัดธาย 6:13 *
เชิญอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ในเล่ม 2 บท 15
หากช่วงนี้คุณรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงล่ะ? ลองมาดูว่า คุณจะมีสุขภาพดีขึ้นและกลับมีเรี่ยวมีแรงอีกได้อย่างไร.
[เชิงอรรถ]
ข้อคัมภีร์หลัก
“พระเจ้าทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะไม่ทรงให้พวกท่านถูกล่อใจเกินกว่าจะทนได้ แต่เมื่อพวกท่านถูกล่อใจ พระองค์จะทรงให้มีทางออกด้วยเพื่อพวกท่านจะทนได้.”—1 โครินท์ 10:13
ข้อแนะ
ให้คิดล่วงหน้าว่าคุณจะทำอย่างไรเมื่อมีคนพยายามชักชวนคุณให้ทำผิด โดยใช้ “แผนรับมือกับความกดดันจากเพื่อน ๆ” ที่อยู่ในเล่ม 2 หน้า 132 และ 133.
คุณรู้ไหม . . . ?
พระเจ้าบอกล่วงหน้าว่า พระเยซูจะพิสูจน์ตัวซื่อสัตย์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพระเยซูเป็นเหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้เชื่อฟัง. พระเยซูเลือกแนวทางของตนได้. พระองค์ทรงเลือกที่จะซื่อสัตย์ ไม่ได้ทำตามที่ถูกกำหนดไว้. นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พระองค์อธิษฐานอย่างจริงจังเมื่อถูกล่อใจ.—ฮีบรู 5:7
แผนปฏิบัติการ
เพื่อเสริมความมุ่งมั่นที่จะต้านทานการล่อใจ ฉันจะ ․․․․․
ฉันต้องหลีกเลี่ยงผู้คน สถานที่ และสถานการณ์ต่อไปนี้ ․․․․․
สิ่งที่ฉันอยากถามพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ․․․․․
คุณคิดอย่างไร?
● บุคคลที่สมบูรณ์อย่างทูตสวรรค์จะถูกล่อใจให้ทำผิดได้ไหม?—เยเนซิศ 6:1-3; โยฮัน 8:44
● เมื่อคุณรักษาความซื่อสัตย์โดยต้านทานการล่อใจนั่นจะมีผลต่อคนอื่นอย่างไร?—สุภาษิต 27:11; 1 ติโมเธียว 4:12
[คำโปรยหน้า 68]
“สิ่งที่ช่วยผมคือ การรู้ว่าผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในเอกภพอยู่ข้าง ๆ ผมและผมจะขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา.”—คริสโตเฟอร์
[กรอบ/ภาพหน้า 67]
ลองทำดูสิ
เอาเข็มทิศมาและหมุนให้หน้าปัดที่แสดงทิศเหนือตรงกับปลายเข็ม. จากนั้น ให้วางแม่เหล็กไว้ข้าง ๆ เข็มทิศ. เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้ เข็มไม่ได้ชี้ไปยังทิศทางที่ถูกต้อง. เข็มนั้นกลับชี้ตามแม่เหล็ก.
สติรู้สึกผิดชอบเป็นเหมือนเข็มทิศ. ถ้าได้รับการฝึกฝนอย่างดี สติรู้สึกผิดชอบจะชี้ไปทาง “ทิศเหนือ” คือในทิศทางที่ถูกต้องและช่วยคุณให้ตัดสินใจอย่างฉลาด. แต่การคบหาที่ไม่ดีเป็นเหมือนแม่เหล็ก ซึ่งทำให้การตัดสินใจของคุณในเรื่องศีลธรรมผิดเพี้ยนไปได้. เรื่องนี้สอนอะไร? ให้พยายามหลีกเลี่ยงผู้คนและสถานการณ์ที่อาจทำให้คุณตัดสินใจเขวไปในเรื่องศีลธรรม.—สุภาษิต 13:20
[ภาพหน้า 69]
ถ้าคุณยอมแพ้การล่อใจ คุณก็กลายเป็นทาสความปรารถนาของคุณเอง