บท 7
อำนาจในการปกป้องของพระเจ้า ‘ผู้เป็นที่หลบภัยของเรา’
1, 2. ชาวอิสราเอลตกอยู่ในอันตรายยังไงตอนที่พวกเขาเข้าสู่เขตซีนายในปี 1513 ก่อน ค.ศ. และพระยะโฮวาทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นยังไง?
ชาวอิสราเอลตกอยู่ในอันตรายตอนที่พวกเขาเข้าสู่เขตซีนายในช่วงต้นปี 1513 ก่อน ค.ศ. พวกเขาต้องเดินทางผ่าน “ที่กันดารกว้างใหญ่และน่ากลัว มีงูพิษและแมงป่อง” (เฉลยธรรมบัญญัติ 8:15) พวกเขายังอาจถูกชาติที่เป็นศัตรูโจมตีอีกด้วย พระยะโฮวาทำให้ประชาชนของพระองค์ต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ แล้วพระองค์จะปกป้องพวกเขาได้ไหม?
2 พระยะโฮวาทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นโดยบอกว่า “พวกเจ้าได้เห็นสิ่งที่เราทำกับชาวอียิปต์แล้ว เราพาพวกเจ้ามาหาเราเหมือนนกอินทรีที่พยุงลูกไว้บนปีกของมัน” (อพยพ 19:4) พระยะโฮวาย้ำกับประชาชนของพระองค์ว่าพระองค์เคยช่วยพวกเขาจากการเป็นทาสในอียิปต์ พระองค์ใช้นกอินทรีเป็นภาพเปรียบเทียบในการพาพวกเขาออกมายังที่ปลอดภัย และยังมีเหตุผลอื่น ๆ อีกที่ ‘ปีกของนกอินทรี’ เป็นตัวอย่างเหมาะสมที่แสดงถึงการปกป้องจากพระเจ้า
3. ทำไมถึงใช้ ‘ปีกของนกอินทรี’ เปรียบเทียบกับการปกป้องของพระเจ้า?
3 นกอินทรีไม่เพียงแต่ใช้ปีกที่ใหญ่และแข็งแรงเพื่อบินทะยานขึ้นเท่านั้น ในช่วงที่ร้อนของวัน แม่นกอินทรีจะกางปีกออก ซึ่งปีกทั้ง 2 ข้างอาจมีความยาวรวมกันมากกว่า 2 เมตร เพื่อเป็นร่มกำบังลูกน้อยจากแสงแดด บางครั้งแม่นกก็เอาปีกโอบลูกของมันเพื่อปกป้องจากลมหนาว เหมือนกับที่นกอินทรีปกป้องลูกน้อยของมัน พระยะโฮวาก็ปกป้องชาวอิสราเอลที่ไม่มีประสบการณ์ด้วย ตอนอยู่ในที่กันดารพวกเขาก็จะหลบภัยอยู่ใต้ปีกที่มีพลังของพระองค์ได้ต่อไป ถ้าพวกเขายังซื่อสัตย์ต่อพระองค์เสมอ (เฉลย ธรรมบัญญัติ 32:9-11; สดุดี 36:7) แต่พระยะโฮวายังปกป้องประชาชนของพระองค์ในทุกวันนี้ไหม?
พระยะโฮวาสัญญาว่าจะปกป้องผู้รับใช้ของพระองค์
4, 5. ทำไมเรามั่นใจได้ว่าพระเจ้าจะปกป้องเรา?
4 พระยะโฮวาสามารถปกป้องผู้รับใช้ของพระองค์ได้อย่างแน่นอน พระองค์เป็น “พระเจ้าผู้มีพลังอำนาจสูงสุด” ซึ่งหมายความว่าพระองค์มีอำนาจมาก และไม่มีใครจะขัดขวางพระองค์ไม่ให้ทำตามที่พระองค์ตั้งใจไว้ได้ (ปฐมกาล 17:1) เหมือนกับคลื่นในทะเลที่ไม่มีใครหยุดได้ ถ้าพระยะโฮวาต้องการทำอะไรก็ไม่มีใครจะหยุดพระองค์ได้เหมือนกัน ในเมื่อพระยะโฮวาทำทุกอย่างได้อย่างที่พระองค์ต้องการ เราอาจสงสัยว่า ‘พระองค์จะใช้อำนาจปกป้องประชาชนของพระองค์ได้ไหม?’
5 คำตอบคือ ได้ พระยะโฮวารับรองกับเราว่าจะปกป้องคนของพระองค์ สดุดี 46:1 บอกว่า “พระเจ้าเป็นที่หลบภัยและเป็นกำลังของพวกเรา พระองค์ช่วยเหลือพวกเราเสมอในเวลาทุกข์ลำบาก” เนื่องจากพระเจ้า “โกหกไม่ได้” เราจึงมั่นใจได้ว่าพระองค์จะปกป้องเรา (ทิตัส 1:2) ให้เรามาดูว่าพระยะโฮวาจะปกป้องคนของพระองค์ยังไง
6, 7. (ก) คนเลี้ยงแกะในสมัยคัมภีร์ไบเบิลปกป้องแกะของเขายังไง? (ข) คัมภีร์ไบเบิลใช้ภาพเปรียบเทียบอะไรที่แสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาอยากจะปกป้องเราจริง ๆ?
6 พระยะโฮวาเป็นผู้เลี้ยงของเรา และ “พวกเราเป็นประชาชนของพระองค์และเป็นแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์” (สดุดี 23:1; 100:3) มีสัตว์ไม่กี่ชนิดที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เหมือนแกะ คนเลี้ยงแกะในสมัยคัมภีร์ไบเบิลต้องกล้าหาญเพื่อจะปกป้องแกะไว้จากสิงโต หมาป่า หมี และขโมย (1 ซามูเอล 17:34, 35; ยอห์น 10:12, 13) แต่บางครั้งคนเลี้ยงแกะก็ต้องอ่อนโยนกับแกะด้วย ถ้าแกะออกลูกและอยู่ไกลจากฝูง คนเลี้ยงแกะก็จะคอย ปกป้องแม่แกะตอนที่มันช่วยตัวเองไม่ได้ แล้วเขาก็จะอุ้มลูกแกะที่เกิดใหม่กลับไปที่คอก
7 โดยเปรียบเทียบพระองค์เองกับผู้เลี้ยงแกะ พระยะโฮวาทำให้เรามั่นใจว่าพระองค์อยากปกป้องเรา (เอเสเคียล 34:11-16) ในบท 2 ของหนังสือนี้มีการอธิบายเกี่ยวกับพระยะโฮวาโดยใช้อิสยาห์ 40:11 ที่บอกว่า “พระเจ้าจะใส่ใจดูแลแกะของพระองค์เหมือนผู้เลี้ยงแกะ พระองค์จะรวบรวมลูกแกะมาไว้ในอ้อมกอดของพระองค์ จะอุ้มพวกมันไว้แนบอก และจะค่อย ๆ ต้อนแกะแม่ลูกอ่อนให้เดินไป” ลูกแกะตัวเล็ก ๆ มาอยู่ที่ “อก” ของคนเลี้ยงแกะได้ยังไง? ลูกแกะอาจเดินมาอยู่ข้าง ๆ คนเลี้ยงแล้วเอาหัวชนขาเขาเบา ๆ คนเลี้ยงแกะก็จะก้มลงอุ้มมันขึ้นมา แล้วค่อย ๆ เอาเสื้อชั้นนอกห่อและกอดมันไว้ นี่เป็นภาพเปรียบเทียบที่น่าประทับใจที่แสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาผู้เลี้ยงแกะองค์ยิ่งใหญ่อยากจะปกป้องเราจริง ๆ
8. (ก) พระเจ้าสัญญาว่าจะปกป้องใคร และสุภาษิต 18:10 บอกเรื่องนี้ยังไง? (ข) การให้ชื่อของพระเจ้าเป็นป้อมสำหรับเราหมายความว่ายังไง?
8 แต่พระเจ้าสัญญาว่าจะปกป้องเฉพาะคนที่เข้าใกล้พระองค์เท่านั้น สุภาษิต 18:10 บอกว่า “ชื่อของพระยะโฮวาเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง เมื่อคนดีวิ่งเข้าไปก็ได้รับการคุ้มครอง” ในสมัยคัมภีร์ไบเบิล บางครั้งมีการสร้างป้อมไว้ในที่กันดารเพื่อให้เป็นสถานที่หลบภัย แต่คนที่ตกอยู่ในอันตรายต้องวิ่งเข้าไปหลบในป้อมนั้นเขาถึงจะปลอดภัย คล้ายกัน การให้ชื่อของพระยะโฮวาเป็นป้อมสำหรับเราก็ไม่ได้หมายถึงการพูดชื่อของพระองค์ซ้ำ ๆ เพราะชื่อของพระองค์ไม่ได้มีความขลังอะไร แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เราต้องรู้จักและไว้วางใจพระยะโฮวาและใช้ชีวิตตามมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระองค์ พระยะโฮวาเมตตาเราจริง ๆ ที่รับรองกับเราว่าถ้าเราแสดงความเชื่อ พระองค์ก็จะเป็นป้อมปกป้องเรา
“พระเจ้าที่พวกเรานับถือจะช่วยเรา”
9. พระยะโฮวาแค่สัญญาว่าจะปกป้องเราเท่านั้นไหม?
9 พระยะโฮวาทำมากกว่าแค่สัญญาว่าจะปกป้องเรา ในสมัยคัมภีร์ไบเบิล พระองค์ทำการอัศจรรย์เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระองค์ปกป้องคนของพระองค์ได้ ตัวอย่างเช่น หลายครั้งพระยะโฮวาใช้ “มือ” ที่มีอำนาจของพระองค์ช่วยชาวอิสราเอลให้เอาชนะศัตรูที่น่ากลัวของพวกเขา (อพยพ 7:4) นอกจากนั้น พระยะโฮวายังใช้อำนาจเพื่อปกป้องผู้รับใช้ของพระองค์แต่ละคนด้วย
10, 11. มีตัวอย่างของใครบ้างในคัมภีร์ไบเบิลที่พระยะโฮวาใช้อำนาจของพระองค์ปกป้องพวกเขา?
10 เมื่อหนุ่มชาวฮีบรูสามคน คือชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกไม่ยอมก้มกราบรูปเคารพทองคำของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์โกรธมากและขู่ว่าจะโยนพวกเขาลงในเตาไฟที่ร้อนจัด เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์ผู้มีอำนาจมากที่สุดในตอนนั้นได้เยาะเย้ยว่า “จะมีเทพเจ้าองค์ไหนช่วยพวกคุณให้พ้นจากเงื้อมมือเราได้?” (ดาเนียล 3:15) ชายหนุ่มสามคนมั่นใจเต็มที่ในอำนาจของพระเจ้าที่จะปกป้องพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดเอาว่าพระองค์จะทำอย่างนั้น พวกเขาเลยตอบกษัตริย์ว่า “ถ้าพวกเราถูกโยนเข้าเตาไฟ พระเจ้าที่พวกเรานับถือจะช่วยพวกเรา” (ดาเนียล 3:17) ถึงแม้เตาไฟนั้นจะร้อนมากกว่าปกติถึงเจ็ดเท่า แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพระเจ้าผู้มีอำนาจสูงสุดของพวกเขา พระองค์ปกป้องพวกเขา และกษัตริย์ก็ต้องยอมรับว่า “ไม่มีเทพเจ้าองค์ไหนที่ช่วยได้เหมือนพระเจ้าองค์นี้”—ดาเนียล 3:29
11 พระยะโฮวายังใช้อำนาจในการปกป้องของพระองค์อย่างน่าประทับใจด้วย ตอนที่ย้ายชีวิตลูกคนเดียวของพระองค์ให้มาอยู่ในท้องของสาวบริสุทธิ์ชาวยิวที่ชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์บอกเธอว่า “คุณจะตั้งท้องและคลอดลูกชาย” ทูตสวรรค์อธิบายว่า “คุณจะได้รับพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้า และฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าองค์สูงสุดจะปกคลุมคุณไว้” (ลูกา 1:31, 35) ตอนนั้นลูกของพระเจ้าต้องได้รับการปกป้องมากเป็นพิเศษ บาปและความไม่สมบูรณ์แบบของแม่จะมีผลกับลูกในท้องไหม? ซาตานจะทำร้ายหรือฆ่าลูกของพระเจ้าก่อนที่จะเกิดได้ไหม? ไม่มีทาง ที่จริง พระยะโฮวาปกป้อง มารีย์เพื่อจะไม่ให้ใครหรืออะไรมาทำร้ายทารกที่กำลังเติบโตในท้องของเธอได้ พระยะโฮวายังปกป้องพระเยซูในช่วงวัยเด็กด้วย (มัทธิว 2:1-15) จนกว่าจะถึงเวลาที่พระเจ้ากำหนดไว้ ไม่มีใครทำร้ายลูกที่รักของพระองค์ได้เลย
12. ทำไมพระยะโฮวาทำการอัศจรรย์เพื่อปกป้องบางคนในสมัยคัมภีร์ไบเบิล?
12 ทำไมบางครั้งพระยะโฮวาทำการอัศจรรย์เพื่อปกป้องบางคนที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์? หลายครั้งพระยะโฮวาปกป้องบางคนเพื่อทำให้ความประสงค์ของพระองค์เกิดขึ้นจริง ตัวอย่างเช่น เพื่อจะทำให้ความประสงค์ของพระเจ้าเป็นจริงและเพื่อจะให้มนุษย์มีชีวิตตลอดไปได้ สำคัญมากที่พระเยซูต้องได้รับการปกป้อง มีหลายเหตุการณ์ในคัมภีร์ไบเบิลที่แสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาใช้อำนาจเพื่อปกป้องคนของพระองค์ และเหตุการณ์เหล่านั้น “เขียนไว้เพื่อสอนเรา เราจะได้มีความหวัง เพราะพระคัมภีร์ช่วยให้เราอดทนและมีกำลังใจ” (โรม 15:4) ถูกแล้ว ตัวอย่างเหล่านี้ช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้นในพระเจ้าผู้มีพลังอำนาจสูงสุด แต่ในทุกวันนี้พระเจ้ายังคงปกป้องพวกเรายังไงบ้าง?
พระเจ้าไม่ได้ปกป้องเราจากสิ่งเลวร้ายทุกอย่าง
13. พระยะโฮวาต้องทำการอัศจรรย์เพื่อปกป้องพวกเราไหม? ขออธิบาย
13 คำสัญญาเรื่องการปกป้องของพระยะโฮวาไม่ได้หมายความว่าพระองค์ต้องทำการอัศจรรย์เพื่อประโยชน์ของเรา พระเจ้าไม่ได้รับประกันว่าในตอนนี้เราจะมีชีวิตที่ไม่มีปัญหาเลย ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวาหลายคนก็เจอกับปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความยากจน สงคราม ความเจ็บป่วย และความตาย พระเยซูบอกสาวกของท่านว่าพวกเขาบางคนอาจเสียชีวิตเพราะความเชื่อ ดังนั้น พระเยซูเลยเน้นว่าพวกเราต้องอดทนจนถึงที่สุด (มัทธิว 24:9, 13) ถ้าพระยะโฮวาใช้อำนาจของพระองค์ทำการอัศจรรย์เพื่อปกป้องเรา ซาตานก็จะเยาะเย้ยพระยะโฮวาและ กล่าวหาว่าพวกเราไม่ได้รับใช้พระองค์ด้วยความรัก แต่เพราะพระองค์ปกป้องเรา—โยบ 1:9, 10
14. มีตัวอย่างอะไรบ้างที่แสดงว่าพระยะโฮวาไม่ได้ปกป้องผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคนในแบบเดียวกัน?
14 แม้แต่ในสมัยคัมภีร์ไบเบิล พระยะโฮวาก็ไม่ได้ใช้อำนาจปกป้องผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคนไม่ให้ถูกฆ่า ตัวอย่างเช่น อัครสาวกยากอบถูกเฮโรดประหารชีวิตประมาณปี ค.ศ. 44 แต่ไม่นานหลังจากนั้นเปโตรได้รับการช่วย “ให้พ้นจากเงื้อมมือเฮโรด” (กิจการ 12:1-11) ส่วนยอห์นน้องชายของยากอบก็มีชีวิตอยู่นานกว่าเปโตรและยากอบ เห็นได้ชัดว่าเราไม่ควรคาดหมายว่าพระเจ้าจะปกป้องผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคนในแบบเดียวกัน คัมภีร์ไบเบิลยังบอกด้วยว่า ‘เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นกับพวกเราทุกคนในเวลาที่คาดไม่ถึง’ (ปัญญาจารย์ 9:11) ถ้าอย่างนั้น พระยะโฮวาปกป้องพวกเราในปัจจุบันนี้ยังไง?
พระยะโฮวาปกป้องเราทางด้านร่างกาย
15, 16. (ก) มีหลักฐานอะไรที่แสดงว่าพระยะโฮวาปกป้องผู้นมัสการพระองค์เป็นกลุ่มทางด้านร่างกาย? (ข) ทำไมเรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะปกป้องผู้รับใช้ของพระองค์ในทุกวันนี้และในช่วง “ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่”?
15 ขอให้มาดูด้วยกันว่าพระยะโฮวาปกป้องพวกเราทางด้านร่างกายยังไง พวกเราที่นมัสการพระยะโฮวาคาดหมายได้ว่าพระองค์จะปกป้องพวกเราเป็นกลุ่ม ลองคิดดูสิว่าซาตาน “ผู้ปกครองโลก” อยากจะทำลายทุกคนที่นมัสการพระยะโฮวา และถ้าพระองค์ไม่ปกป้อง พวกเราก็จะถูกซาตานทำลายได้ง่าย ๆ (ยอห์น 12:31; วิวรณ์ 12:17) บางรัฐบาลที่มีอำนาจในโลกได้สั่งห้ามงานประกาศของเราและพยายามกำจัดพวกเราให้หมดไป แต่คนของพระยะโฮวายังยืนหยัดและทำงานประกาศต่อไปไม่หยุด ทำไมชาติต่าง ๆ ถึงไม่สามารถหยุดงานประกาศของคริสเตียนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนจะป้องกันตัวเองไม่ได้? ก็เพราะพระยะโฮวาปกป้องเราไว้ด้วยปีกที่แข็งแกร่งของพระองค์—สดุดี 17:7, 8
16 พระยะโฮวาจะปกป้องเราทางด้านร่างกายยังไงในช่วง “ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่”? เราไม่ต้องกลัวเมื่อพระเจ้าพิพากษาคนชั่วเพราะคัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “พระยะโฮวารู้วิธีช่วยคนที่เลื่อมใสพระองค์ให้ผ่านการทดสอบ แต่เก็บคนชั่วไว้ทำลายในวันพิพากษา” (วิวรณ์ 7:14; 2 เปโตร 2:9) ในระหว่างนี้เรามั่นใจได้สองอย่าง คือ (1) พระยะโฮวาจะไม่มีวันยอมให้ซาตานกำจัดผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ให้หมดไปจากโลกนี้ และ (2) พระองค์จะให้คนที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ได้มีชีวิตตลอดไปในโลกใหม่ ถึงแม้พวกเขาจะตายไป พระองค์ก็จะปลุกพวกเขาให้ฟื้นขึ้นมาและมีชีวิตอีกครั้ง เพราะพระองค์ไม่ลืมพวกเขา—ยอห์น 5:28, 29
17. พระยะโฮวาปกป้องเราโดยทางถ้อยคำของพระองค์ยังไง?
17 แม้แต่ในตอนนี้ พระยะโฮวาปกป้องเราโดยทาง “ถ้อยคำ” ของพระองค์ ซึ่งช่วยเราให้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น (ฮีบรู 4:12) ถ้าเราทำตามหลักการในคัมภีร์ไบเบิล เราจะได้รับการปกป้องจากสิ่งที่มีผลเสียต่อร่างกายของเรา อิสยาห์ 48:17 บอกว่า “เรายะโฮวา . . . สอนเจ้าก็เพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง” การใช้ชีวิตตามคำสอนของพระเจ้าทำให้เรามีสุขภาพดีขึ้นและมีชีวิตที่ยืนยาว ตัวอย่างเช่น เพราะเราทำตามคำแนะนำจากคัมภีร์ไบเบิล เราเลยหลีกเลี่ยงการทำผิดศีลธรรมทางเพศ การใช้ยาเสพติด หรือการสูบบุหรี่ที่มีผลเสียหายต่อร่างกายและชีวิตของหลายคนที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า (กิจการ 15:29; 2 โครินธ์ 7:1) เรารู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่พระเจ้าปกป้องเราโดยทางถ้อยคำของพระองค์
พระยะโฮวาปกป้องเราทางด้านความเชื่อ
18. พระยะโฮวาปกป้องเราทางด้านความเชื่อยังไง?
18 สำคัญที่สุด พระยะโฮวาปกป้องเราทางด้านความเชื่อ พระองค์ทำอย่างนั้นโดยช่วยให้เราพร้อมจะอดทนการทดสอบต่าง ๆ และสนิทกับพระองค์ต่อ ไปได้ พระยะโฮวาให้การปกป้องชีวิตของเราไม่ใช่แค่ช่วงสั้น ๆ แต่ตลอดไป พระยะโฮวาช่วยเรายังไงบ้างเพื่อให้เราสนิทกับพระองค์?
19. พลังบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาจะช่วยให้เรารับมือกับการทดสอบที่เรากำลังเจอได้ยังไง?
19 พระยะโฮวาเป็น “ผู้ฟังคำอธิษฐาน” (สดุดี 65:2) ถ้าเราเจอปัญหาในชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ และรับมือไม่ไหว เมื่อเราระบายความรู้สึกของเรากับพระยะโฮวาเราก็จะรู้สึกดีขึ้น (ฟีลิปปี 4:6, 7) พระองค์ไม่ได้ทำการอัศจรรย์เพื่อให้ปัญหาของเราหมดไป แต่พระองค์จะตอบคำอธิษฐานของเราโดยให้สติปัญญาเพื่อรับมือกับปัญหานั้นได้ (ยากอบ 1:5, 6) นอกจากนั้น พระยะโฮวาจะให้พลังบริสุทธิ์กับทุกคนที่ขอ (ลูกา 11:13) พลังบริสุทธิ์จะช่วยเราให้รับมือกับการทดสอบหรือปัญหาต่าง ๆ ที่เรากำลังเจอได้ และจะทำให้เรามี “กำลังที่มากกว่าปกติ” เพื่ออดทนได้จนกว่าโลกใหม่จะมาถึงและพระยะโฮวาจะขจัดปัญหาทุกอย่างให้หมดไป—2 โครินธ์ 4:7
20. พระยะโฮวาใช้เพื่อนร่วมความเชื่อเพื่อปกป้องเรายังไง?
20 บางครั้งพระยะโฮวาใช้เพื่อนร่วมความเชื่อเพื่อปกป้องเรา พระยะโฮวาชักนำคนของพระองค์ทั่วโลกให้มาเป็น “พี่น้อง” กัน (1 เปโตร 2:17; ยอห์น 6:44) ความรักแบบพี่น้องที่พวกเขาแสดงออกมาทำให้เราเห็นชัดว่าพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้ากระตุ้นผู้คนให้ทำสิ่งที่ดี พลังบริสุทธิ์ช่วยให้เรา มีคุณลักษณะที่ดีหลายอย่าง เช่น ความรัก ความกรุณา และความดี (กาลาเทีย 5:22, 23) เมื่อเรารู้สึกท้อใจและเพื่อนร่วมความเชื่อให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์หรือพูดให้กำลังใจเรา เราขอบคุณพระยะโฮวาจริง ๆ ที่พระองค์ปกป้องและดูแลเราผ่านทางเพื่อนร่วมความเชื่อ
21. (ก) พระยะโฮวาให้ “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” เตรียมความรู้ตามเวลาที่เหมาะสมอะไรบ้างที่ทำให้ความเชื่อของเราเข้มแข็ง? (ข) คุณได้รับประโยชน์ยังไงบ้างจากสิ่งที่พระยะโฮวาเตรียมไว้เพื่อปกป้องเราทางด้านความเชื่อ?
21 พระยะโฮวายังปกป้องเราในวิธีอื่นด้วย คือความรู้ที่ทำให้ความเชื่อของเราเข้มแข็ง พระยะโฮวามอบหมาย “ทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุม” ให้แจกจ่ายความรู้เหล่านี้เพื่อให้เราได้รับกำลังจากถ้อยคำของพระองค์ ทาสที่ซื่อสัตย์ใช้หนังสือและสื่อต่าง ๆ เช่น วารสารหอสังเกตการณ์และตื่นเถิด! เว็บไซต์ jw.org รวมทั้งการประชุมประจำสัปดาห์ การประชุมหมวด และการประชุมภูมิภาคเพื่อ “แจกจ่ายอาหาร . . . ตามเวลาที่เหมาะสม” (มัทธิว 24:45) คุณเคยได้ยินอะไรบ้างในการประชุมคริสเตียน เช่น การออกความเห็น คำบรรยาย หรือคำอธิษฐานที่ทำให้คุณรู้สึกได้รับกำลังใจ? มีบทความเรื่องไหนไหมจากหนังสือและสื่อต่าง ๆ ของเราที่คุณได้รับประโยชน์เป็นพิเศษ? ขอให้จำไว้ว่าพระยะโฮวาเตรียมทุกอย่างนี้เพื่อปกป้องเราทางด้านความเชื่อ
22. พระยะโฮวาใช้อำนาจของพระองค์ยังไง และทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นประโยชน์กับเรา?
22 พระยะโฮวาเป็นโล่ “สำหรับทุกคนที่เข้ามาพึ่งพิง” พระองค์ (สดุดี 18:30) เราเข้าใจว่าพระองค์ไม่ได้ใช้อำนาจของพระองค์เพื่อปกป้องเราไว้จากปัญหาทุกอย่างที่มีในตอนนี้ ถึงอย่างนั้น พระองค์ใช้อำนาจเพื่อให้ความประสงค์ของพระองค์เกิดขึ้นจริงเสมอ และสิ่งที่พระองค์ทำนั้นจะช่วยให้คนของพระองค์มีชีวิตดีที่สุดเท่าที่จะมีได้ ถ้าเราเข้าไปใกล้ชิดพระยะโฮวาและเชื่อฟังพระองค์เสมอ พระองค์จะให้เรามีชีวิตที่มีความสุขตลอดไป นี่ช่วยให้เรามองว่าความทุกข์ที่เราเจอในตอนนี้ “จะมีอยู่ช่วงสั้น ๆ และไม่หนัก”—2 โครินธ์ 4:17