เขียนโดยยอห์น 3:1-36

3  มี​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​คน​หนึ่ง​เป็น​ฟาริสี​ชื่อ​นิโคเดมัส+ 2  เขา​มา​หา​พระ​เยซู​ตอน​กลางคืน+และ​พูด​ว่า “อาจารย์+ พวก​เรา​รู้​ว่า​ท่าน​เป็น​ครู​ที่​พระเจ้า​ส่ง​มา เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ทำ​การ​อัศจรรย์+แบบ​ท่าน​ได้​ถ้า​ไม่​ได้​รับ​อำนาจ​จาก​พระเจ้า”+ 3  พระ​เยซู​พูด​กับ​เขา​ว่า “ผม​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ถ้า​คน​เรา​ไม่​เกิด​ใหม่+ จะ​เห็น​รัฐบาล*ของ​พระเจ้า​ไม่​ได้”+ 4  นิโคเดมัส​ถาม​ท่าน​ว่า “คน​แก่​จะ​เกิด​ใหม่​ได้​ยัง​ไง? จะ​ให้​เข้า​ไป​ใน​ท้อง​แม่ แล้ว​คลอด​ออก​มา​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง​ได้​หรือ?” 5  พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “ผม​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า คน​ที่​ไม่​ได้​เกิด​โดย​รับ​บัพติศมา​ใน​น้ำ+และ​โดย​รับ​พลัง​ของ​พระเจ้า*+ จะ​เข้า​รัฐบาล​ของ​พระองค์​ไม่​ได้ 6  คน​ที่​เกิด​จาก​พ่อ​แม่​ที่​เป็น​มนุษย์​ก็​เป็น​ลูก​ของ​มนุษย์ แต่​คน​ที่​เกิด​จาก​พลัง​ของ​พระเจ้า​ก็​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า 7  ไม่​ต้อง​แปลก​ใจ​ที่​ผม​บอก​ว่า พวก​คุณ​จะ​ต้อง​เกิด​ใหม่+ 8  ลม​อยาก​จะ​พัด​ไป​ทาง​ไหน มัน​ก็​พัด​ไป​ทาง​นั้น คุณ​ได้​ยิน​เสียง​ลม​แต่​ไม่​รู้​ว่า​มัน​พัด​มา​จาก​ไหน​และ​จะ​ไป​ทาง​ไหน ทุก​คน​ที่​เกิด​จาก​พลัง​ของ​พระเจ้า​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น​ด้วย”+ 9  นิโคเดมัส​จึง​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “เรื่อง​นี้​จะ​เป็น​ไป​ได้​ยัง​ไง​ครับ?” 10  ท่าน​ตอบ​ว่า “คุณ​เป็น​อาจารย์​สอน​คน​อิสราเอล แต่​ทำไม​ไม่​เข้าใจ​เรื่อง​นี้? 11  ผม​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า พวก​เรา​บอก​เล่า​สิ่ง​ที่​รู้​เห็น​มา+ แต่​พวก​คุณ​ไม่​เชื่อ​คำ​บอก​เล่า​ของ​เรา+ 12  ผม​เล่า​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​โลก คุณ​ก็​ยัง​ไม่​เชื่อ แล้ว​ถ้า​ผม​เล่า​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​สวรรค์ คุณ​จะ​เชื่อ​หรือ?+ 13  ไม่​มี​ใคร​เคย​ขึ้น​สวรรค์+ นอก​จาก​ผู้​ที่​ลง​มา​จาก​สวรรค์+ ซึ่ง​ก็​คือ ‘ลูก​มนุษย์’ 14  โมเสส​ยก​งู​ขึ้น​แขวน​ไว้​ใน​ที่​กันดาร+ ‘ลูก​มนุษย์’ ก็​จะ​ถูก​ยก​ขึ้น​แขวน​ไว้​เหมือน​กัน+ 15  เพื่อ​ทุก​คน​ที่​เชื่อ​ท่าน​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป+ 16  “พระเจ้า​รัก​โลก​มาก จน​ถึง​กับ​ยอม​สละ​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระองค์+ เพื่อ​ทุก​คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ท่าน​จะ​ไม่​ถูก​ทำลาย แต่​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป+ 17  พระเจ้า​ไม่​ได้​ส่ง​ลูก​ของ​พระองค์​เข้า​มา​ใน​โลก​เพื่อ​ให้​ตัดสิน​ลง​โทษ​โลก แต่​ส่ง​มา​เพื่อ​ช่วย​โลก​ให้​รอด+ 18  คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ท่าน​ผู้​นั้น​จะ​ไม่​ถูก​ตัดสิน​ลง​โทษ+ ส่วน​คน​ที่​ไม่​แสดง​ความ​เชื่อ​ก็​ถูก​ตัดสิน​ลง​โทษ​อยู่​แล้ว เพราะ​เขา​ไม่​ได้​แสดง​ความ​เชื่อ​ศรัทธา​ใน​ชื่อ​ของ​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระเจ้า+ 19  หลัก​ใน​การ​ตัดสิน​ลง​โทษ​ก็​คือ ความ​สว่าง​เข้า​มา​ใน​โลก​แล้ว+ แต่​มนุษย์​กลับ​รัก​ความ​มืด​แทน​ที่​จะ​รัก​ความ​สว่าง​เพราะ​พวก​เขา​ทำ​ชั่ว+ 20  คน​ที่​ทำ​ชั่ว​ก็​เกลียด​ความ​สว่าง​และ​ไม่​มา​หา​ความ​สว่าง เพื่อ​ความ​ชั่ว​ของ​เขา​จะ​ไม่​ถูก​เปิดโปง 21  แต่​คน​ที่​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ก็​มา​หา​ความ​สว่าง+ เพื่อ​จะ​ได้​เห็น​ว่า​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​เป็น​ไป​ตาม​ความ​ต้องการ​ของ​พระเจ้า” 22  หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​เข้า​ไป​ใน​ชนบท​ของ​แคว้น​ยูเดีย​กับ​พวก​สาวก​และ​อยู่​กับ​พวก​เขา​ที่​นั่น​ช่วง​หนึ่ง ท่าน​ให้​บัพติศมา​ผู้​คน​ด้วย+ 23  ส่วน​ยอห์น​ก็​ให้​บัพติศมา​อยู่​ที่​อายโนน​ใกล้ ๆ สาลิม​เพราะ​ที่​นั่น​มี​น้ำ​มาก+ ผู้​คน​ก็​พา​กัน​ไป​รับ​บัพติศมา​ที่​นั่น+ 24  ตอน​นั้น​ยอห์น​ยัง​ไม่​ติด​คุก+ 25  วัน​หนึ่ง พวก​สาวก​ของ​ยอห์น​เถียง​กับ​คน​ยิว​คน​หนึ่ง​ว่า​ทำ​อย่าง​ไร​ถึง​จะ​สะอาด​ใน​สายตา​พระเจ้า 26  พวก​เขา​จึง​ไป​ฟ้อง​ยอห์น​ว่า “อาจารย์ คน​ที่​ท่าน​เคย​พูด​ถึง+และ​เคย​อยู่​กับ​ท่าน​ที่​แม่น้ำ​จอร์แดน​ฝั่ง​โน้น เขา​กำลัง​ให้​บัพติศมา​และ​ทุก​คน​ก็​ไป​หา​เขา” 27  ยอห์น​บอก​เขา​ว่า “คน​เรา​จะ​ทำ​อะไร​ได้​ก็​ต่อ​เมื่อ​พระเจ้า​ให้​เขา​ทำ 28  พวก​คุณ​ก็​เคย​ได้​ยิน​ผม​พูด​แล้ว​นี่​ว่า ‘ผม​ไม่​ใช่​พระ​คริสต์+ แต่​ผม​ถูก​ส่ง​มา​ล่วง​หน้า​ท่าน’+ 29  เจ้าสาว​เป็น​ของ​เจ้าบ่าว+ แต่​เพื่อน​เจ้าบ่าว​ที่​ยืน​รอ​อยู่​ก็​ดีใจ​มาก​ที่​ได้​ยิน​เสียง​เจ้าบ่าว นี่​แหละ​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​ผม​ดีใจ​จริง ๆ 30  ท่าน​ผู้​นั้น​จะ​มี​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ส่วน​ตัว​ผม​จะ​มี​น้อย​ลง”+ 31  คน​ที่​มา​จาก​เบื้อง​บน+ก็​อยู่​เหนือ​คน​อื่น​ทุก​คน ส่วน​คน​ที่​มา​จาก​โลก​ก็​เป็น​เหมือน​คน​ทั่ว​ไป​ใน​โลก​และ​พูด​แต่​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​โลก คน​ที่​มา​จาก​สวรรค์​ก็​อยู่​เหนือ​คน​อื่น​ทุก​คน*+ 32  ท่าน​พูด​ถึง​สิ่ง​ที่​ได้​เห็น​และ​ได้​ยิน+ แต่​ไม่​มี​ใคร​เชื่อ​คำ​พูด​ของ​ท่าน+ 33  ส่วน​คน​ที่​เชื่อ​คำ​พูด​ของ​ท่าน​ก็​ยืน​ยัน​ว่า​พระเจ้า​พูด​ความ​จริง​เสมอ+ 34  เพราะ​ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​คน​ที่​พระเจ้า​ใช้​มา​เพื่อ​ถ่ายทอด​คำ​พูด​ของ​พระองค์+ และ​พระเจ้า​ให้​พลัง​ของ​พระองค์​กับ​ท่าน​อย่าง​ไม่​อั้น 35  พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​รัก​ลูก​ของ​พระองค์+และ​มอบ​ทุก​อย่าง​ไว้​ใน​มือ​ลูก​คน​นี้+ 36  คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ลูก​ของ​พระเจ้า​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป+ ส่วน​คน​ที่​ไม่​เชื่อ​ฟัง​ลูก​ของ​พระองค์​จะ​ไม่​ได้​ชีวิต+ แต่​จะ​ถูก​พระเจ้า​ลง​โทษ​ตลอด​ไป+

เชิงอรรถ

หรือ “ราชอาณาจักร”
แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เกิด​จาก​น้ำ​และ​พลัง​ของ​พระเจ้า”
หรือ “เหนือ​ทุก​สิ่ง”

ข้อมูลสำหรับศึกษา

นิโคเดมัส: ฟาริสี​และ​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​ซึ่ง​เป็น​สมาชิก​ของ​ศาล​แซนเฮดริน (ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “แซนเฮดริน”) ชื่อ​นิโคเดมัส​มี​ความ​หมาย​ว่า “ผู้​พิชิต​ชาติ​ต่าง​ ๆ” ชื่อ​นี้​เป็น​ชื่อ​ที่​นิยม​ใน​หมู่​ชาว​กรีก และ​ชาว​ยิว​บาง​คน​ก็​เอา​ชื่อ​นี้​มา​ใช้​ด้วย มี​การ​พูด​ถึง​นิโคเดมัส​เฉพาะ​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​ยอห์น (ยน 3:4, 9; 7:50; 19:39) และ​ที่ ยน 3:10 พระ​เยซู​เรียก​เขา​ว่า “อาจารย์​สอน​คน​อิสราเอล”—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 19:39

เกิด​ใหม่: พระ​เยซู​บอก​นิโคเดมัส​ว่า​เพื่อ​จะ​เห็น​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า คน​เรา​ต้อง​เกิด​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง คำ​พูด​ของ​นิโคเดมัส​ในข้อ 4 แสดง​ให้​เห็น​ว่า เขา​คิด​ว่า​พระ​เยซู​หมาย​ถึง​การ​เกิด​จาก​ท้อง​แม่​จริง​ ๆ ​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง แต่​พระ​เยซู​บอก​ว่า​การ​เกิด​ครั้ง​ที่​สอง​นี้​เป็น​การ “เกิด​โดย . . . รับ​พลัง​ของ​พระเจ้า” (ยน 3:5) คน​ที่​จะ​เป็น “ลูก​ของ​พระเจ้า” ต้อง “ไม่​ได้​เกิด​จาก​พ่อ​แม่​ที่​เป็น​มนุษย์ หรือ​จาก​ความ​ต้องการ​ของ​มนุษย์ แต่​เกิด​จาก​พระเจ้า” (ยน 1:12, 13) และ​ที่ 1ปต 1:3, 23 เปโตร​ก็​ใช้​คำ​ว่า “เกิด​ใหม่” เหมือน​กัน โดย​บอก​ว่า​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ต้อง “เกิด​ใหม่” แม้​คัมภีร์​ไบเบิล​ส่วน​ใหญ่​ใช้​คำ​ว่า “เกิด​ใหม่” แต่​ก็​มี​บาง​ฉบับ​แปล​ที่​ใช้​คำ​ว่า “เกิด​จาก​เบื้อง​บน” ซึ่ง​เป็น​การ​แปล​ที่​ถูก​ต้อง​เหมือน​กัน​เพราะ​คำ​กรีก อาโนเธ็น ก็​แปล​ว่า “จาก​เบื้อง​บน” ได้​ด้วย (ยน 3:31; 19:11; ยก 1:17; 3:15, 17) การ​แปล​ทั้ง 2 อย่าง​นี้​สอดคล้อง​กับ​แนว​คิด​ที่​ว่า คน​ที่​จะ​เข้า​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​ได้​จะ​ต้อง​เกิด​ใหม่​หรือ​เกิด “จาก​พระเจ้า” ซึ่ง​ก็​คือ​จาก​เบื้อง​บน (1ยน 3:9) แต่​คำ​พูด​ของ​นิโคเดมัส​ใน​ข้อ​ถัด​ไป​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​การ​แปล​คำ​กรีก​นี้​แบบ​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่ ​เข้า​กับ​ท้อง​เรื่อง​มาก​กว่า

รัฐบาล​ของ​พระเจ้า: มี​การ​ใช้​คำ​นี้​แค่ 2 ครั้ง​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​ยอห์น—ยน 3:5; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:2; มก 1:15

เกิด​โดย​รับ​บัพติศมา​ใน​น้ำ​และ​โดย​รับ​พลัง​ของ​พระเจ้า: นิโคเดมัส​น่า​จะ​คุ้น​เคย​กับ​การ​บัพติศมา​ที่​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​ทำ​อยู่​แล้ว (มก 1:4-8; ลก 3:16; ยน 1:31-34) ดัง​นั้น ตอน​ที่​พระ​เยซู​พูด​ถึง​น้ำ จึง​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​เข้าใจ​ว่า​นิโคเดมัส​คิด​ถึง​น้ำ​ที่​ใช้​สำหรับ​การ​บัพติศมา นอก​จาก​นั้น นิโคเดมัส​น่า​จะ​คุ้น​เคย​กับ​คำ​ว่า “พลัง​ของ​พระเจ้า” ที่​ใช้​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู (ปฐก 41:38; อพย 31:3; กดว 11:17; วนฉ 3:10; 1ซม 10:6; อสย 63:11) ดัง​นั้น ตอน​ที่​พระ​เยซู​ใช้​คำ​ว่า “พลัง​ของ​พระเจ้า” นิโคเดมัส​ก็​น่า​จะ​รู้​ว่า​ท่าน​กำลัง​พูด​ถึง​พลัง​บริสุทธิ์ สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ตอน​ที่​พระ​เยซู​รับ​บัพติศมา​ทำ​ให้​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​มาก​ขึ้น เพราะ​ตอน​ที่​ท่าน​รับ​บัพติศมา​ใน​น้ำ มี​พลัง​บริสุทธิ์​ลง​มา​บน​ท่าน พระ​เยซู​จึง “เกิด​โดย​รับ​บัพติศมา​ใน​น้ำ​และ​โดย​รับ​พลัง​ของ​พระเจ้า” (มธ 3:16, 17; ลก 3:21, 22) ตอน​ที่​พระ​ยะโฮวา​ประกาศ​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ลูก เป็น​การ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​ทำ​ให้​พระ​เยซู​เกิด​โดย​ทาง​พลัง​บริสุทธิ์​และ​มี​ความ​หวัง​จะ​กลับ​ไป​สวรรค์ สาวก​ของ​พระ​เยซู​ที่ “เกิด​โดย​รับ​บัพติศมา​ใน​น้ำ” คือ​คน​ที่​ทิ้ง​แนว​ทาง​ชีวิต​เก่า กลับ​ใจ​จาก​บาป และ​รับ​บัพติศมา​ใน​น้ำ แต่​คน​ที่​เกิด “โดย​รับ​บัพติศมา​ใน​น้ำ​และ​โดย​รับ​พลัง​ของ​พระเจ้า” คือ​คน​ที่​พระเจ้า​รับ​เป็น​ลูก พวก​เขา​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​มี​ชีวิต​ใน​สวรรค์​และ​ปกครอง​ใน​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า—ลก 22:30; รม 8:14-17, 23; ทต 3:5; ฮบ 6:4, 5

พลัง​ของ​พระเจ้า: คำ​กรีก พะนือมา ที่​แปล​ใน​ข้อ​นี้​ว่า​พลัง​ของ​พระเจ้า หมาย​ถึง​พลัง​ที่​พระเจ้า​ใช้​เพื่อ​ทำ​สิ่ง​ต่าง​ ๆ—ดูส่วน​อธิบาย​ศัพท์

คน​ที่​เกิด​จาก​พ่อ​แม่​ที่​เป็น​มนุษย์​ก็​เป็น​ลูก​ของ​มนุษย์: คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า “มนุษย์” (ซารค์ส์) ใน​ข้อ​นี้​หมาย​ถึง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​มี​เนื้อหนัง​ซึ่ง​มี​ขีด​จำกัด​ของ​ความ​เป็น​มนุษย์—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 17:2

ลูก​ของ​พระเจ้า: หมาย​ถึง​ลูก​ของ​พระเจ้า​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม​ด้วย​พลัง​ของ​พระองค์

ลม . . . พลัง​ของ​พระเจ้า: ใน​ข้อ​นี้​มี​คำ​กรีก พะนือมา ที่​ปกติ​แล้ว​แปล​ว่า “พลัง​ของ​พระเจ้า” อยู่ 2 ครั้ง ครั้ง​แรก​แปล​ว่า “ลม” และ​เป็น​ที่​เดียว​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​แบบ​นี้ ขณะ​ที่​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​แปล​คำ​ว่า รูอาค ซึ่ง​มี​ความ​หมาย​เดียว​กับ​คำ​นี้​ว่า “ลม” ประมาณ 100 ครั้ง (ปฐก 8:1; อพย 10:13; 1พก 18:45; โยบ 21:18; ศคย 2:6; ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “พลัง”) โดย​ปกติ​แล้ว​ทั้ง 2 คำ​นี้​หมาย​ถึง​สิ่ง​ที่​มนุษย์​มอง​ไม่​เห็น แต่​มัก​จะ​แสดง​พลัง​ออก​มา​โดย​การ​เคลื่อน​ไหว พระ​เยซู​ใช้​คำ​นี้​เพื่อ​สอน​ความ​จริง​ที่​ลึกซึ้ง ใน​ตอน​ท้าย​ของ​ข้อ​นี้​มี​การ​ใช้​คำ​ว่า พะนือมา ใน​ประโยค​ที่​บอก​ว่า​ทุก​คน​ที่​เกิด​จาก​พลัง​ของ​พระเจ้า ซึ่ง​ก็​คือ​คน​ที่​เกิด​จาก​พลัง​บริสุทธิ์ (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยอห์น 3:5) ท่าน​บอก​นิโคเดมัส​ว่า​การ “เกิด​จาก​พลัง​ของ​พระเจ้า” เทียบ​ได้​กับ​การ​พัด​ของ​ลม นิโคเดมัส​สามารถ​ได้​ยิน รู้สึก และ​เห็น​ผล​ที่​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​ลม​พัด แต่​เขา​ไม่​รู้​ว่า​ลม​มา​จาก​ไหน​หรือ​จะ​พัด​ไป​ถึง​ไหน คล้าย​กัน คน​ที่​ไม่​มี​ความ​รู้​เรื่อง​พระ​คัมภีร์​ก็​จะ​ไม่​เข้าใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ผู้​คน​เกิด​ใหม่​โดย​ทาง​พลัง​บริสุทธิ์​อย่าง​ไร และ​มี​อนาคต​ที่​ยอด​เยี่ยม​อะไร​รอ​อยู่​สำหรับ​พวก​เขา

‘ลูก​มนุษย์’ ก็​จะ​ถูก​ยก​ขึ้น​แขวน​ไว้​เหมือน​กัน: ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​เปรียบ​การ​ที่​ตัว​ท่าน​เอง​ถูก​ประหาร​ชีวิต​โดย​แขวน​บน​เสา​กับ​งู​ทองแดง​ที่​ถูก​แขวน​ไว้​บน​เสา​ใน​ที่​กันดาร ชาว​อิสราเอล​ที่​ถูก​งู​พิษ​กัด​และ​อยาก​รอด​ตาย​ต้อง​มอง​ไป​ที่​งู​ทองแดง​ที่​โมเสส​ทำ​ขึ้น คล้าย​กัน มนุษย์​ที่​ผิด​บาป​ซึ่ง​อยาก​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​ก็​ต้อง​จ้อง​มอง​ที่​พระ​เยซู​โดย​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ตัว​ท่าน (กดว 21:4-9; ฮบ 12:2) ชาว​ยิว​หลาย​คน​รู้สึก​ว่า​การ​ที่​พระ​เยซู​ถูก​ประหาร​โดย​แขวน​ไว้​บน​เสา​ทำ​ให้​ท่าน​ดู​เป็น​คน​ชั่ว​และ​คน​บาป เพราะ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส คน​ที่​ถูก​แขวน​บน​เสา​คือ​คน​ที่​พระเจ้า​สาป​แช่ง (ฉธบ 21:22, 23) เปาโล​ยก​กฎหมาย​ของ​โมเสส​ข้อ​นี้​ขึ้น​มา และ​อธิบาย​ว่า​พระ​เยซู​ต้อง​ถูก​แขวน​ไว้​บน​เสา​เพื่อ​ปลด​ปล่อย​ชาว​ยิว​ให้ “พ้น​คำ​สาป​แช่ง​ใน​กฎหมาย​ของ​โมเสส​โดย​ที่​ท่าน​ยอม​ถูก​สาป​แช่ง​แทน [พวก​เขา]”—กท 3:13; 1ปต 2:24

รัก: นี่​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​ยอห์น​ที่​มี​การ​ใช้​คำ​กริยา​กรีก อากาพาโอ (“รัก”) เขา​ใช้​คำ​กริยา​นี้​และ​คำ​นาม อากาเพ (ความ​รัก) ถึง 44 ครั้ง ซึ่ง​มาก​กว่า​หนังสือ​ข่าว​ดี​อีก 3 เล่ม​รวม​กัน ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​คำ​ว่า อากาพาโอ และ อากาเพ มัก​หมาย​ถึง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​ซึ่ง​อาศัย​หลักการ ใน​ข้อ​นี้​ก็​ใช้​คำ​ว่า​ความ​รัก​ใน​ความ​หมาย​นี้​ด้วย เพราะ​ข้อ​นี้​บอก​ว่า​พระเจ้า​รัก​โลก​ซึ่ง​หมาย​ถึง​มนุษย์​ทุก​คน​ใน​โลก​ที่​ต้อง​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​รอด​จาก​บาป (ยน 1:29) ที่ 1ยน 4:8 ตอน​ที่​ยอห์น​บอก​ว่า “พระเจ้า​เป็น​ความ​รัก” เขา​ใช้​คำ​นี้​ใน​รูป​คำ​นาม ที่​จริง ความ​รัก (อากาเพ) เป็น​คุณลักษณะ​อย่าง​แรก​ของ “ผล​ที่​เกิด​จาก​พลัง​ของ​พระเจ้า” (กท 5:22) และ​ใน 1​คร 13:4-7 ก็​พูด​ถึง​ความ​รัก​ไว้​อย่าง​ละเอียด การ​ใช้​คำ​นี้​ใน​พระ​คัมภีร์​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​ความ​รัก​ไม่​ได้​เป็น​แค่​อารมณ์​ความ​รู้สึก​ที่​มี​ต่อ​คน​ที่​น่า​รัก​หรือ​ทำ​ดี​กับ​เรา แต่​ใน​หลาย​ท้อง​เรื่อง​มี​การ​ใช้​คำ​นี้​ใน​ความ​หมาย​ที่​กว้าง​กว่า คือ​เป็น​ความ​รัก​ที่​เกิด​จาก​ความ​คิด​และ​ความ​ตั้งใจ​ของ​เรา​เอง (มธ 5:44; อฟ 5:25) ดัง​นั้น คริสเตียน​จึง​ควร​แสดง​ความ​รัก​เพราะ​สำนึก​ว่า​เป็น​หน้า​ที่ เป็น​เรื่อง​ที่​เหมาะ​สม และ​เป็น​การ​ทำ​ตาม​หลักการ แต่​ความ​รัก​แบบ​นี้​ก็​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​รู้สึก​ที่​อบอุ่น​จาก​หัวใจ​ด้วย (1ปต 1:22) เรื่อง​นี้​เห็น​ได้​จาก​การ​ใช้​คำ​นี้​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​ยอห์น ใน ยน 3:35 ตอน​ที่​เขา​เขียน​ว่า “พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​รัก​ลูก​ของ​พระองค์” เขา​ใช้​คำ​ว่า อากาพาโอ แต่​เมื่อ​เขา​บันทึก​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​เดียว​กัน เขา​ใช้​คำ​กริยา​กรีก​อีก​คำ​หนึ่ง​คือ ฟิเละโอ (“รัก​อย่าง​อบอุ่น”)—ยน 5:20

โลก: คำ​กรีก คอสม็อส ที่​ใช้​ใน​วรรณกรรม​กรีก​ทั่ว​ไป​รวม​ทั้ง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มัก​เกี่ยว​ข้อง​กับ​มนุษย์ (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 1:10) ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้ คำ​ว่า คอสม็อส หมาย​ถึง​มนุษย์​ทุก​คน​ใน​โลก​ที่​สามารถ​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​ค่า​ไถ่ ใน ยน 1:29 บอก​ว่า​ลูก​ของ​พระเจ้า​จะ​รับ “บาป​ของ​โลก” ไป ซึ่ง​ก็​คือ​บาป​ที่​มนุษย์​ทุก​คน​ได้​รับ​จาก​อาดัม

ลูก​คน​เดียว: คำ​กรีก มอนอเกะเนส ที่​มัก​จะ​แปล​ว่า “ที่​ได้​รับ​กำเนิด​เพียง​คน​เดียว” มี​ความ​หมาย​ว่า “มี​เพียง​หนึ่ง​เดียว, ไม่​มี​ใคร​เหมือน” ใน​หนังสือ​ที่​อัครสาวก​ยอห์น​เขียน มี​การ​ใช้​คำ​นี้​กับ​พระ​เยซู​เท่า​นั้น (ยน 1:14; 3:18; 1​ยน 4:9; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 1:14) แม้​ทูตสวรรค์​อื่น​ ๆ ​ถูก​เรียก​ว่า​ลูก​ของ​พระเจ้า​ด้วย แต่​พระ​เยซู​เท่า​นั้น​ที่​ถูก​เรียก​ว่า “ลูก​คน​เดียว” (ปฐก 6:2, 4; โยบ 1:6; 2:1; 38:4-7) เพราะ​ท่าน​เป็น​ลูก​คน​แรก​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​เป็น​ผู้​เดียว​ที่​พระเจ้า​สร้าง​เอง​โดย​ตรง ท่าน​จึง​ไม่​เหมือน​ลูก​คน​อื่น​ ๆ ​ของ​พระเจ้า พระ​ยะโฮวา​สร้าง​พวก​ทูตสวรรค์​โดย​ทาง ​พระ​เยซู​ลูก​คน​แรก​ของ​พระองค์ เปาโล​ก็​ใช้​คำ​กรีก มอนอเกะเนส ใน​ความ​หมาย​คล้าย​กัน​ตอน​ที่​บอก​ว่า​อิสอัค​เป็น “ลูก​ชาย​คน​เดียว” ของ​อับราฮัม (ฮบ 11:17) ถึง​แม้​อับราฮัม​จะ​มี​ลูก​กับ​ฮาการ์​ที่​ชื่อ​อิชมาเอล และ​ยัง​มี​ลูก​อีก​หลาย​คน​กับ​เคทูราห์​ด้วย (ปฐก 16:15; 25:1, 2; 1พศ 1:28, 32) แต่​อิสอัค​เป็น “ลูก​ชาย​คน​เดียว” ใน​ความ​หมาย​พิเศษ นั่น​คือ​เป็น​ลูก​ชาย​คน​เดียว​ที่​พระเจ้า​สัญญา​กับ​อับราฮัม และ​เป็น​ลูก​ชาย​คน​เดียว​ที่​เกิด​จาก​ซาราห์—ปฐก 17:16-19

แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ท่าน: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เชื่อ​ใน​ท่าน” คำ​กริยา​กรีก พิสทือโอ (คำ​นาม​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กัน​คือ พิสทิส มัก​แปล​ว่า “ความ​เชื่อ”) มี​ความ​หมาย​หลัก​ว่า “เชื่อ” แต่​ก็​อาจ​มี​ความ​หมาย​ได้​หลาย​อย่าง​ขึ้น​อยู่​กับ​ท้อง​เรื่อง​และ​โครง​สร้าง​ทาง​ไวยากรณ์ ส่วน​ใหญ่​แล้ว​คำ​นี้​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​แค่​การ​เชื่อ​หรือ​การ​ยอม​รับ​ว่า​ใคร​คน​หนึ่ง​มี​อยู่​จริง (ยก 2:19) แต่​ยัง​หมาย​ถึง​การ​เชื่อ​และ​ไว้​ใจ​ซึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​การ​เชื่อ​ฟัง ที่ ยน 3:16 มี​การ​ใช้​คำ​กริยา​กรีก พิสทือโอ คู่​กับ​คำ​บุพบท เอ่ส ที่​แปล​ว่า “ใน” ซึ่ง​ผู้​เชี่ยวชาญ​คน​หนึ่ง​อธิบาย​ว่า​การ​ใช้ 2 คำ​นี้​ด้วย​กัน​ทำ​ให้​เข้าใจ​ว่า “ความ​เชื่อ​เป็น​กิจกรรม​อย่าง​หนึ่ง​ที่​มนุษย์​ทำ” (An Introductory Grammar of New Testament Greek, Paul L. Kaufman, 1982, p. 46) เห็น​ได้​ชัด​ว่า​ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​ไม่​ได้​พูด​ถึง​การ​แสดง​ความ​เชื่อ​แค่​ครั้ง​เดียว แต่​พูด​ถึง​การ​แสดง​ความ​เชื่อ​ตลอด​ชีวิต และ​ที่ ยน 3:36 ก็​เปรียบ​เทียบ​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง “คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​ลูก​ของ​พระเจ้า” กับ “คน​ที่​ไม่​เชื่อ​ฟัง ​ลูก​ของ​พระองค์” ดัง​นั้น คำ​ว่า “แสดง​ความ​เชื่อ” ใน​ข้อ​นั้น​จึง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​แสดง​ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง​ออก​มา​ด้วย​การ​เชื่อ​ฟัง

ตัดสิน​ลง​โทษ: หรือ “พิพากษา” พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ส่ง​ลูก​ของ​พระองค์​มา​พิพากษา​หรือ​ตัดสิน​ลง​โทษ​มนุษย์​บน​โลก แต่​เพราะ​พระองค์​รัก​มนุษย์ พระองค์​จึง​ส่ง​พระ​เยซู​ลง​มา​ช่วย​ผู้​คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ให้​รอด—ยน 3:16; 2ปต 3:9

ถูก​ตัดสิน​ลง​โทษ: หรือ “ถูก​พิพากษา”—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 3:17

ความ​สว่าง: คำ​ว่า “ความ​สว่าง” ครั้ง​แรก​ที่​อยู่​ใน​ข้อ​นี้​ทำ​ให้​รู้​ว่า​พระ​เยซู​ใช้​คำ​นี้​เพื่อ​หมาย​ถึง​ชีวิต​และ​คำ​สอน​ของ​ท่าน และ​ทำ​ให้​รู้​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ผู้​ที่​สะท้อน​ความ​เข้าใจ​และ​ความ​รู้​ที่​ท่าน​ได้​รับ​จาก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า ที่ ยน 1:7-9 ก็​ยัง​พูด​ถึง​พระ​เยซู​ว่า​เป็น “ความ​สว่าง” ด้วย—สำหรับ​คำ​ว่า​เข้า​มา​ใน​โลก ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 1:9

ท่าน​ให้​บัพติศมา: ดู​เหมือน​ว่า​คำ​พูด​นี้​หมาย​ถึง​พระ​เยซู​เป็น​คน​ดู​แล​การ​รับ​บัพติศมา เพราะ​ที่ ยน 4:2 บอก​ว่า “พระ​เยซู​ไม่​ได้​ให้​บัพติศมา​เอง แต่​สาวก​ของ​ท่าน​เป็น​คน​ให้”

รับ​บัพติศมา: หรือ “จุ่ม​พวก​คุณ” คำ​กรีก บาพทิโศ มี​ความ​หมาย​ว่า “จุ่ม, จุ่ม​ทั้ง​ตัว” คัมภีร์​ไบเบิล​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​บัพติศมา​คือ​การ​จุ่ม​ตัว​มิด​ใน​น้ำ บันทึก​นี้​บอก​ให้​รู้​ว่า​ยอห์น​ให้​บัพติศมา​ใน​บริเวณ​นี้ “เพราะ​ที่​นั่น​มี​น้ำ​มาก” (ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​คำ​ว่า​อายโนน​ใน​ข้อ​นี้) ตอน​ที่​ฟีลิป​ให้​บัพติศมา​ข้าราชการ​ชาว​เอธิโอเปีย พวก​เขา​ทั้ง​สอง​คน​ก็ “ลง​ไป​ใน​น้ำ” (กจ 8:38) ฉบับ​เซปตัวจินต์ ก็​ใช้​คำ​กรีก​เดียว​กัน​นี้​ที่ 2​พก 5:14 เมื่อ​พูด​ถึง​นาอามาน​ตอน​ที่​เขา “จุ่ม​ตัว​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน 7 ครั้ง”

อายโนน: เป็น​ที่​ที่​มี​น้ำ​มาก​อยู่​ใกล้​กับ​สาลิม​ที่​น่า​จะ​มี​คน​รู้​จัก​มาก​กว่า ไม่​มี​ใคร​รู้​ว่า​สถาน​ที่ 2 แห่ง​นี้​อยู่​ที่​ไหน​จริง​ ๆ แต่​ยูเซบิอุส​บอก​ว่า​น่า​จะ​อยู่​ที่​หุบเขา​จอร์แดน​ห่าง​จาก​เมือง​ซีโทโปลิส (เบธเชอาน) ไป​ทาง​ใต้​ประมาณ 8 ไมล์​โรมัน (12 กม.) ใน​บริเวณ​นี้​มี​ที่​แห่ง​หนึ่ง​เรียก​ว่า เทลริดคาห์ (เทล​ชา​เล​ม) ซึ่ง​อาจ​เป็น​ที่​เดียว​กับ​สาลิม ใกล้​ ๆ ​นั้น​มี​น้ำพุ​หลาย​แห่ง​ที่​อาจ​ตรง​กับ​คำ​อธิบาย​ของ​ยูเซบิอุส​เกี่ยว​กับ​อายโนน ข้อ​นี้​เป็น​ที่​เดียว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​พูด​ถึง​อายโนน​กับ​สาลิม

แม่น้ำ​จอร์แดน​ฝั่ง​โน้น: หรือ “อีก​ฝั่ง​หนึ่ง [ฝั่ง​ตะวัน​ออก] ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน” อายโนน​กับ​สาลิม​ซึ่ง​พูด​ถึง​ใน ยน 3:23 อยู่​ทาง​ฝั่ง​ตะวัน​ตก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน ส่วน​ยอห์น​ให้​บัพติศมา​พระ​เยซู​ที่ “เบธานี​ซึ่ง​อยู่​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน” นั่น​คือ​ฝั่ง​ตะวัน​ออก—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 1:28 และภาค​ผนวก ข​10

เพื่อน​เจ้าบ่าว: ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล เพื่อน​สนิท​คน​หนึ่ง​ของ​เจ้าบ่าว​จะ​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ตัว​แทน​ของ​เขา​ใน​การ​เจรจา​สู่​ขอ เอา​สินสอด​ไป​ให้​ฝ่าย​เจ้าสาว และ​จัด​งาน​แต่งงาน เขา​เป็น​คน​ที่​ช่วย​ให้​เจ้าบ่าว​เจ้าสาว​ได้​แต่งงาน​กัน ใน​วัน​แต่งงาน​ขบวน​เจ้าสาว​จะ​มา​ที่​บ้าน​เจ้าบ่าว​หรือ​บ้าน​พ่อ​เจ้าบ่าว​ซึ่ง​เป็น​ที่​จัด​งาน ระหว่าง​ที่​มี​งาน​เลี้ยง เพื่อน​เจ้าบ่าว​จะ​ดีใจ​มาก​เมื่อ​ได้​ยิน​เสียง​เจ้าบ่าว​พูด​กับ​เจ้าสาว เพราะ​เขา​รู้สึก​ว่า​ได้​ทำ​หน้า​ที่​ของ​ตัว​เอง​สำเร็จ​แล้ว ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​เปรียบ​ตัว​เอง​เป็น​เหมือน “เพื่อน​เจ้าบ่าว” พระ​เยซู​คือ​เจ้าบ่าว​และ​สาวก​ทั้ง​หมด​เป็น​เหมือน​เจ้าสาว เนื่อง​จาก​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​กำลัง​เตรียม​ทาง​ให้​เมสสิยาห์ เขา​จึง​เป็น​คน​แนะ​นำ​สาวก​กลุ่ม​แรก​ที่​จะ​เป็น “เจ้าสาว” ให้​รู้​จัก​กับ​พระ​เยซู​คริสต์ (ยน 1:29, 35; 2​คร 11:2; อฟ 5:22-27; วว 21:2, 9) เมื่อ “เพื่อน​เจ้าบ่าว” ทำ​หน้า​ที่​สำเร็จ​แล้ว​เขา​ก็​ไม่​มี​บทบาท​สำคัญ​อีก​ต่อ​ไป เหมือน​ที่​ยอห์น​เปรียบ​เทียบ​บทบาท​ของ​เขา​กับ​พระ​เยซู​ว่า “ท่าน​ผู้​นั้น​จะ​มี​มาก​ขึ้น​เรื่อย​ ๆ ส่วน​ตัว​ผม​จะ​มี​น้อย​ลง”—ยน 3:30

คน​ที่​มา​จาก​เบื้อง​บน: ข้อ​ความ​ใน ยน 3:31-36 ดู​เหมือน​เป็น​คำ​พูด​ของ​อัครสาวก​ยอห์น​ผู้​เขียน​หนังสือ​ข่าว​ดี​เล่ม​นี้ ไม่​ใช่​คำ​พูด​ของ​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​และ​ไม่​ใช่​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู จาก​ท้อง​เรื่อง​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ที่​พูด​กับ​นิโคเดมัส​จบ​ลง​ที่ ยน 3:21 หลัง​จาก​นั้น​อัครสาวก​ยอห์น​ก็​เล่า​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​จน​ถึง ยน 3:25 ส่วน​ที่ ยน 3:26-30 เป็น​บท​สนทนา​ที่​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​พูด​กับ​สาวก​ของ​เขา ถึง​แม้ ยน 3:31-36 ไม่​ได้​เป็น​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู แต่​ก็​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​นั่น​เป็น​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​สอน​อัครสาวก​ยอห์น

ยืน​ยัน: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ประทับ​ตรา” คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า “ประทับ​ตรา” ใน​ข้อ​นี้​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​การ​ประทับ​ตรา​จริง​ ๆ แต่​หมาย​ถึง​การ​ยืน​ยัน​ว่า​คำ​พูด​หนึ่ง​ถูก​ต้อง​หรือ​เป็น​ความ​จริง​เหมือน​กับ​การ​ประทับ​ตรา​รับรอง​เอกสาร คน​ที่​เชื่อ​คำ​พูด​ของ​เมสสิยาห์​ก็​ยืน​ยัน​ว่า​พระเจ้า​พูด​ความ​จริง​เสมอ ซึ่ง​ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​พยากรณ์​เรื่อง​เมสสิยาห์—เทียบ​กับ รม 3:4

แสดง​ความ​เชื่อ . . . ไม่​เชื่อ​ฟัง: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 3:16

วีดีโอและรูปภาพ

ตราประทับ
ตราประทับ

ใน​สมัย​ก่อน มี​การ​ใช้​ตรา​ประทับ​เพื่อ​จุด​ประสงค์​หลาย​อย่าง เช่น เพื่อ​ยืน​ยัน​ว่า​เป็น​ของ​จริง​หรือ​ทำ​ข้อ​ตก​ลง (ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “ตรา, ตรา​ประทับ, ดวง​ตรา”) ผู้​คน​ใน​สมัย​กรีก​และ​โรมัน​บันทึก​เอกสาร​ทาง​กฎหมาย​หรือ​ธุรกิจ​บน​แผ่น​ไม้​ที่​เคลือบ​ด้วย​ขี้ผึ้ง ข้อมูล​ใน​เอกสาร​สำคัญ​เหล่า​นั้น​ต้อง​มี​พยาน​ยืน​ยัน พยาน​แต่​ละ​คน​ต้อง​มี​ตรา​ประทับ​ส่วน​ตัว​ที่​แกะ​สลัก​มา​โดย​เฉพาะ​ซึ่ง​โดย​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​อยู่​ที่​แหวน​ของ​เขา เขา​จะ​กด​แหวน​นั้น​ไป​บน​ขี้ผึ้ง​ร้อน​ที่​อยู่​บน​เชือก​ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​เอกสาร​นั้น​ติด​เข้า​ด้วย​กัน พอ​ขี้ผึ้ง​เย็น​ลง เอกสาร​ก็​จะ​ถูก​ปิด​ผนึก​จน​กว่า​จะ​มี​การ​เปิด​ต่อ​หน้า​ผู้​คน การ​ทำ​อย่าง​นี้​ช่วย​ให้​พยาน​สามารถ​ยืน​ยัน​ว่า​ข้อ​ความ​ที่​อยู่​ใน​เอกสาร​นั้น​เป็น​ความ​จริง และ​เอกสาร​นั้น​ไม่​ได้​ถูก​เปลี่ยน​แปลง​เนื้อหา​มา​ก่อน นี่​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​คำ​ว่า “การ​ประทับ​ตรา” จึง​ถูก​ใช้​เพื่อ​ยืน​ยัน​หรือ​รับรอง​ว่า​บาง​สิ่ง​เป็น​ความ​จริง อัครสาวก​ยอห์น​เขียน​ไว้​ว่า ใคร​ก็​ตาม​ที่​เชื่อ​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู เขา​ก็​ยืน​ยัน​หรือ​ประทับ​ตรา​ว่า​คำ​พูด​ของ​พระเจ้า​เป็น​ความ​จริง—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 3:33